คาถากันยักษ์ ตอนที่ ๒


[ 18 มิ.ย. 2556 ] - [ 18308 ] LINE it!

คาถากันยักษ์ ตอนที่ ๒
 
 
 
     การดำรงภาวะความเป็นมนุษย์ให้บริสุทธิ์บริบูรณ์นั้น ยากยิ่งกว่าการที่จะได้บังเกิดเป็นมนุษย์ เพราะจะต้องดำรงตนให้รอดปลอดภัย จากภัยในชีวิตและในอบายภูมิ เมื่อเกิดมาเป็นมนุษย์แล้ว ต้องรู้จักประคับประคองตนให้ตั้งมั่นในสัมมาทิฏฐิ เพราะสิ่งนี้เป็นสิ่งที่สำคัญยิ่ง สัมมาทิฏฐิจะหนักแน่นมั่นคง ต้องเกิดจากใจที่บริสุทธิ์ผ่องใส ไม่มีกิเลสมลทินทั้งหลายมาเจือปนให้เกิดความเห็นผิด ซึ่งต้องเป็นใจที่หยุดนิ่งได้สมบูรณ์ที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗  หากเป็นเช่นนี้ ความเห็นของเราย่อมจะถูกต้องสมบูรณ์ไปด้วย
 
มีวาระแห่งภาษิตใน อาฏานาฏิยสูตร ความว่า
 
     “ข้าแต่พระผู้เป็นบุรุษอาชาไนย ข้าพระพุทธเจ้าขอนอบน้อมแด่พระองค์ ข้าแต่พระอุดมบุรุษ ข้าพระพุทธเจ้าขอนอบน้อมแด่พระองค์ ขอพระองค์ทรงตรวจดูมหาชนด้วยพระญาณอันรอบรู้ แม้พวกอมนุษย์ก็ถวายบังคมพระองค์ ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ขอถวายบังคมพระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐ ถึงพร้อมด้วยวิชชาและจรณะ”
 
     นี้เป็นคำกล่าวนอบน้อมของท้าวเวสสวัณมหาราช ที่มีต่อพระผู้มีพระภาคเจ้าด้วยความเคารพอย่างสูงสุด เมื่อครั้งก่อน หลวงพ่อเล่าถึงตอนที่ท้าวเวสสวัณกล่าวบทที่เรียกว่า อาฏานาฏิยรักษ์ ซึ่งมนต์บทนี้เป็นมนต์ที่เกี่ยวกับการกล่าวสรรเสริญคุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ดับขันธปรินิพพานไปแล้วในอดีตที่ผ่านมา ท้าวเวสสวัณกล่าวบทนี้ถวายแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า เพื่อเป็นบทที่เหล่าพุทธสาวกควรจำไว้เป็นเกราะป้องกันภัยจากเหล่ายักษ์ผู้เป็นบริวารของท่าน
 
     * เรื่องราวของท้าววิรุฬหก ซึ่งเป็นหนึ่งในมหาราชทั้งสี่นั้น ทรงปกครองพวกกุมภัณฑ์ทางด้านทิศทักษิณ พระองค์ทรงโปรดปรานการฟ้อนรำขับร้องมาก ท้าววิรุฬหกมีโอรสมากถึง ๙๑ พระองค์ และมีพระนามเดียวกันว่า อินทะ ทุกพระองค์ล้วนแต่มีพละกำลังมาก  เมื่อท้าววิรุฬหกและพระโอรสเห็นพระพุทธเจ้าแล้ว ก็พากันถวายบังคมพระพุทธองค์
 
     ทางด้านทิศปัจฉิมเช่นกัน มีท้าววิรูปักษ์ปกครองพวกนาค พระองค์เองทรงโปรดปรานการฟ้อนรำขับร้องมาก และทรงมีโอรสมากถึง ๙๑ พระองค์ ซึ่งมีพระนามเหมือนกันหมดว่า อินทะ  เมื่อท้าววิรูปักษ์และโอรสได้เห็นพระพุทธเจ้าผู้เบิกบานแล้ว ผู้เป็นเผ่าพันธุ์แห่งพระอาทิตย์ ต่างพากันถวายบังคมพระพุทธเจ้าแต่ไกล นี้เป็นเหตุให้ท้าวมหาราชทั้งหลายได้มหาสมบัติทิพย์ที่ละเอียดประณีต ไม่ว่าจะเป็นยานช้าง ยานม้า ยานทิพย์ ปราสาททิพย์เป็นต้น
 
     ส่วนท้าวเวสสวัณพระองค์นี้ปกครองเมืองวิสาณาอยู่ทางทิศอุดร  พระองค์มียักษ์ชั้นหัวหน้า ๑๐ ตนคอยช่วยสอดส่องดูแลบรรดายักษ์ทั้งหลาย ซึ่งแต่ละตนมีหน้าที่แตกต่างกัน มีสภาชื่อภคลวดีเป็นที่ประชุม เมืองนี้มีต้นไม้มากมายออกผลเป็นนิจ และดารดาษไปด้วยหมู่นกต่างๆ ทั้งนกยูงนกกะเรียนนกดุเหว่า ซึ่งต่างร้องประสานด้วยเสียงอันไพเราะ อีกทั้งยังมีสระชื่อนฬินีที่งดงามตลอดกาล
 
     ท้าวเวสสวัณ มีพระโอรสถึง ๙๑ พระองค์เช่นเดียวกัน และมีพระนามว่าอินทะเหมือนกันหมด นี่เป็นเรื่องแปลกและน่าอัศจรรย์ที่ท้าวมหาราชเหล่านี้ทรงมีโอรสเท่ากันและมีชื่อเหมือนกัน  เมื่อท้าวเวสสวัณพร้อมพระโอรสทอดพระเนตรเห็นพระพุทธเจ้าผู้เบิกบานแล้ว ผู้เป็นเผ่าพันธุ์แห่งพระอาทิตย์ ต่างพากันไปถวายบังคมพระพุทธเจ้า กล่าวคำนอบน้อมว่า “ข้าแต่พระบุรุษอาชาไนย ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลายขอนอบน้อมแด่พระองค์ ข้าแต่พระอุดมบุรุษ ข้าพระพุทธเจ้าขอนอบน้อมแด่พระองค์ ขอพระองค์ทรงตรวจดูมหาชนด้วยพระญาณอันรอบรู้ แม้พวกอมนุษย์ก็ถวายบังคมพระองค์”
 
     เมื่อถวายบังคมแล้ว ได้ย้อนความว่า “ข้าแต่พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้เจริญ ในบรรดาเหล่าอมนุษย์ทั้งหลาย ที่ข้าพระองค์ได้ทูลไปแล้วว่า อมนุษย์ที่มีศรัทธาก็มี ไม่มีศรัทธาก็มี ข้าแต่พระผู้นิรทุกข์ อาฏานาฏิยรักษ์นี้จะเป็นมนต์คุ้มครองรักษาไม่ให้อมนุษย์เบียดเบียน และเพื่อสุขสำราญของภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกาทั้งหลาย
 
     ข้าแต่พระผู้มีพระภาคเจ้า สาวกของพระองค์ที่เป็นภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา หากทรงจำตั้งใจจำอย่างดีในใจความของอาฏานาฏิยรักษ์ที่กล่าวถึงพระคุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในอดีตนี้ อมนุษย์ก็ไม่อาจเบียดเบียน อมนุษย์ที่ข้าพระองค์ได้กล่าวถึง ไม่ว่าจะเป็นยักษ์ ยักษิณี บุตรธิดายักษ์ เป็นมหาอำมาตย์ยักษ์ เป็นบริษัทยักษ์ เป็นยักษ์ผู้รับใช้ เป็นคนธรรพ์ เป็นนางคนธรรพ์ เป็นบุตรคนธรรพ์ เป็นธิดาคนธรรพ์ หรือจะเป็นมหาอำมาตย์ของคนธรรพ์ รวมไปถึงกุมภัณฑ์ เป็นนางกุมภัณฑ์ เป็นบุตรธิดากุมภัณฑ์ เป็นมหาอำมาตย์ของกุมภัณฑ์ เป็นกุมภัณฑ์บริษัท เป็นกุมภัณฑ์ผู้รับใช้ อีกทั้งนาค นางนาค บุตรธิดาของนาค หรือจะเป็นมหาอำมาตย์ของนาค เป็นนาคบริษัท นาคผู้รับใช้ อมนุษย์เหล่านี้เมื่อมีจิตประทุษร้าย ก็จะเดินตาม จะยืนใกล้หรือนอนใกล้ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา เพื่อทำความหวาดสะดุ้งให้บังเกิดขึ้นแก่ท่านเหล่านั้น
 
     ข้าแต่พระองค์ผู้นิรทุกข์ ไม่ใช่ว่าท่านผู้ปกครองจะไม่ว่ากล่าวอมนุษย์ที่ดุร้าย ร้ายกาจ แต่อมนุษย์เหล่านี้ไม่เชื่อฟังท้าวมหาราชผู้ปกครอง ไม่เชื่อยักษ์เสนาบดีของท้าวมหาราช ไม่เชื่อถ้อยคำของยักษ์รองเสนาบดีของท้าวมหาราช อมนุษย์เหล่านี้เป็นข้าศึกศัตรูของท้าวมหาราช เช่นเดียวกับโจรในแว่นแคว้นของพระราชามคธ โจรเหล่านั้นไม่เชื่อพระราชามคธ ไม่เชื่อเสนาบดีของพระราชามคธ ไม่เชื่อถ้อยคำของเสนาบดีของพระราชามคธ ไม่เชื่อรองเสนาบดีของพระราชามคธ มหาโจรเหล่านั้นเป็นข้าศึกศัตรูของพระราชามคธ ฉันใด อมนุษย์ทั้งหลายที่ดุร้าย ร้ายกาจ ทำเกินกว่าเหตุ อมนุษย์เหล่านั้นก็เป็นข้าศึกศัตรูของท้าวมหาราช ฉันนั้น
 
     ส่วนอมนุษย์ผู้ใดผู้หนึ่ง ที่ข้าพระองค์กล่าวถึงนี้ ไม่ว่าจะเป็นพวกยักษ์ คนธรรพ์ กุมภัณฑ์ นาคที่เป็นมิจฉาทิฏฐิ จะคอยประทุษร้ายภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกาผู้ทำความเพียร คอยกลั่นแกล้งไม่ให้มีสมาธิในการบำเพ็ญเพียร การที่พระภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา เรียนรู้อาฏานาฏิยรักษ์มนต์แล้ว จะได้รับการคุ้มครองป้องกันภัย เพื่อความผาสุกในการบำเพ็ญสมณธรรม เป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งพระเจ้าข้า ควรให้พุทธบริษัททรงจำเอาไว้”
 
     สำหรับการคาดโทษอมนุษย์ที่ไปเบียดเบียนผู้ประพฤติธรรมนั้น ท้าวเวสสวัณได้กราบทูลว่ามีอยู่ ๗ ประการได้แก่ ประการที่ ๑ อมนุษย์ตนนั้นจะไม่ได้สักการะหรือความเคารพในบ้านหรือในนิคมของข้าพระพุทธเจ้า ประการที่ ๒ จะไม่ได้วัตถุหรือที่อยู่ในราชธานีที่ชื่อว่าอาฬกมันฑา ประการที่ ๓ จะไม่พึงได้เข้าสมาคมของพวกยักษ์ของข้าพระพุทธเจ้า ประการที่ ๔ อมนุษย์ทั้งหลายจะไม่ทำการอาวาหะและวิวาหะกับอมนุษย์นั้น ประการที่ ๕ จะได้รับการบริภาษและถูกดูหมิ่นจากอมนุษย์ด้วยกัน ประการที่ ๖ ห้ามใครคบค้าสมาคมด้วย หรือการคว่ำบาตรนั่นเอง และสุดท้าย ประการที่ ๗ อมนุษย์ทั้งหลายจะผ่าศีรษะอมนุษย์ตนนั้นออกเป็น ๗ เสี่ยง
 
     เรื่องราวจะเป็นอย่างไร หลวงพ่อจะนำมาเล่าในโอกาสต่อไป
 
     ให้พวกเราทุกคนหมั่นเจริญสมาธิภาวนา ตรึกระลึกนึกถึงพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไว้เสมอๆ เพราะพระองค์สามารถปกป้องคุ้มครองผองภัยให้เราได้ อานุภาพของพระรัตนตรัยนั้นยิ่งใหญ่ไม่มีประมาณ ช่วยขจัดทุกข์โศกโรคภัยได้จริง ยิ่งถ้าเรามีความเลื่อมใสมาก อานุภาพก็ยิ่งเกิดขึ้นมาก จะทำให้เราสมหวังดังใจทุกประการ

 
พระธรรมเทศนาโดย: พระเทพญาณมหามุนี
 
นามเดิม พระราชภาวนาวิสุทธิ์ (ไชยบูลย์ ธมฺมชโย) 
 
* มก. เล่ม ๑๖ หน้า ๑๒๓
 
 


Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
คาถากันยักษ์ ตอนที่ ๓คาถากันยักษ์ ตอนที่ ๓

ความเกียจคร้านมีแต่โทษความเกียจคร้านมีแต่โทษ

อาศัยมานะเพื่อละมานะอาศัยมานะเพื่อละมานะ



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

ธรรมะเพื่อประชาชน