ยีนเจ้าจ๋อทำให้เข้าใจวิวัฒนาการมนุษย์มากขึ้น


[ 20 เม.ย. 2550 ] - [ 18287 ] LINE it!

เอเยนซี - คนกับลิงเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีวิวัฒนาการใกล้เคียงกันมาตลอดในช่วงเวลาหลายล้านปีที่ผ่านมา
นับจากเริ่มมีการแยกสายวิวัฒนาการออกจากบรรพบุรุษที่คาดว่ามีต้นตระกูลเดียวกัน กระทั่งเดี๋ยวนี้ก็ยังพบว่าดีเอ็นเอของลิงกับคนมีส่วนเหมือนกันอยู่มากถึง 98% และเมื่อการศึกษาเรื่องนี้เข้มข้นมากขึ้น อาจทำให้เรารู้กันว่า อะไรเป็นตัวการแบ่งแยกให้เกิดความแตกต่างระหว่างคนกับลิง และอาจช่วยให้เราเอาชนะโรคร้ายที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้อีกด้วย
       
       นักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกกว่า 170 ชีวิต ร่วมกันจัดลำดับพันธุกรรม หรือทำแผนที่พันธุกรรม (Genetic map) ของลิงวอก (Rhesus macaque) ซึ่งเป็นลิงขนาดเล็กที่ใช้เป็นสัตว์ทดลองทางวิทยาศาสตร์การแพทย์ ทั้งนี้เพื่อใช้เป็นข้อมูลวิเคราะห์ความต่างของแต่ละสายพันธุ์ (Species) ที่จัดอยู่ในประเภทสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมจำพวกไพรเมท (Primates) ได้แก่ มนุษย์, วานร และลิง ซึ่งเผยแพร่ลงในวารสารไซน์ (Science)
       
       ดร.ริชาร์ด กิบบส์ (Dr. Richard Gibbs) วิทยาลัยแพทยศาสตร์เบย์เลอร์ สหรัฐอเมริกา (Baylor College of Medicine in Houston, Texas, USA) หัวหน้าโครงการวิจัยนี้กล่าวว่า การจัดลำดับพันธุกรรมแล้วนำมาเปรียบเทียบกันระหว่างของมนุษย์กับลิงชิมแปนซี ทำให้เราสามารถวิเคราะห์ได้ว่าสิ่งมีชีวิตสองชนิดนี้เมื่อครั้งอดีตกาล มีวิวัฒนาการที่แตกต่างกันอย่างไรบ้าง โดยจะมุ่งศึกษายีนสำคัญที่สามารถอธิบายความแตกต่างระหว่างสปีชีส์ได้
       
       มนุษย์และลิงชิมแปนซีเริ่มแยกสายวิวัฒนาการมาจากบรรพบุรุษเดียวกันเมื่อประมาณ 4 ถึง 7 ล้านปีก่อน ขณะที่ลิงขนาดเล็กแยกออกไปก่อนตั้งแต่เมื่อ 25 ล้านปีมาแล้ว ซึ่งมนุษย์กับลิงชิมแปนซีมีดีเอ็นเอร่วมกันถึง 98% และของมนุษย์ร่วมกับลิงขนาดเล็กอื่นๆ 93% ฉะนั้นเมื่อมีการทำแผนที่ยีนทั้งหมดของลิงเป็นการเพิ่มมิติใหม่ให้กับการตรวจวิเคราะห์ยีน
       
       ทางด้าน ดร.มาร์ค แบทเซอร์ (Dr. Mark Batzer) มหาวิทยาลัยแห่งรัฐหลุยเซียนา (Louisiana State University) และคณะเปิดเผยว่า ค้นพบสิ่งหนึ่งที่มีอยู่ในแต่ละสปีชีส์เหมือนๆกัน นั่นคือการเคลื่อนที่ของธาตุพันธุกรรม (Mobile elements) หรือที่เรียกว่า “การกระโดดของยีน” (jumping genes) บนโครโมโซม โดยดีเอ็นเอเหล่านี้สามารถเปลี่ยนไปอยู่ตำแหน่งต่างๆ บนโครโมโซมเดิมได้
       
       “พบว่าองค์ประกอบที่เป็นยีนกระโดดนี้มีอยู่ในพันธุกรรมของพวกเราเป็นจำนวนมาก และถ้าให้ยีนเหล่านี้ทำการจำลองตัวเอง แน่นอนว่าจะทำให้เกิดความผิดปกติทางพันธุกรรมเป็นจำนวนมากด้วยเช่นกัน” ดร.แบทเซอร์ อธิบาย
       
       จากการศึกษา ทำให้ทราบว่าบริเวณที่เป็นจุดสิ้นสุดของยีนบนโครโมโซมมีผลต่อการทำหน้าที่ของมัน อีกทั้งการกระโดดของยีนยังเป็นสาเหตุของโรคทางพันธุกรรมต่างๆ ได้แก่ ภาวะคอเลสเตอรอลในเลือดสูง (Hypercholesterolemia) มะเร็งทรวงอก (Breast cancer) โรคเลือดไหลไม่หยุด (Hemophilia) และ โรคทีเอสดี (TSD or Tay-Sachs disease) ซึ่งเป็นโรคที่เกิดจากความผิดปกติของกระบวนการย่อยสลายไขมัน ทำให้เกิดการสะสมของไขมันบางชนิดในสมองมากจนเป็นอันตรายต่อระบบประสาท และทำให้ตาบอดได้ในที่สุด
       
       “ใครจะสนใจหากลิงป่วยเป็นโรคคอเลสเตอรอลในเลือดสูง แต่สิ่งที่เราสนใจคือ เรามียีนเหล่านี้อยู่ในโครโมโซม ซึ่งจะทำให้มีความผิดปกติต่างๆเกิดขึ้นมากมาย ทำอย่างไรเราจึงจะหยุดมันได้ ซึ่งเราก็กำลังศึกษาและทำความเข้าใจอยู่ว่า อะไรเป็นตัวกำหนดให้ธาตุพันธุกรรมเหล่านี้เคลื่อนย้ายตำแหน่งได้ และมันทำได้อย่างไร” ดร.แบทเซอร์ ตั้งข้อสังเกตและอธิบายเพิ่มเติม
       
       นอกจากนี้ ยังพบว่าลิงขนาดเล็กทั่วไปมีการแสดงออกของเชื้อไวรัสชนิดเรโทรไวรัส (Retrovirus) มากกว่ามนุษย์ ซึ่งเรโทรไวรัสนี้ เป็นไวรัสชนิดที่มีอาร์เอ็นเอสายเดี่ยวอยู่ 2 โมเลกุลต่อ 1 อนุภาคของไวรัส และรวมถึงไวรัสที่ทำให้เกิดภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือ ไวรัสเอดส์ ด้วย ดังนั้นจึงมักใช้ลิงเหล่านี้สำหรับการทดลองวัคซีนและยารักษาโรคเอดส์ในคน ซึ่งปกติแล้วสิ่งมีชีวิตจำพวกไพรเมทชนิดอื่นๆจะมีภูมิคุ้มกันต่อไวรัสเอดส์ (AIDS virus) แต่ลิงขนาดเล็กจำพวกลิงวอก สามารถติดเชื้อไวรัสอีกชนิดหนึ่งที่อยู่ในกลุ่มเดียวกันนี้ คือ ไวรัสเอสไอวี (Simian immunodeficiency virus)
       

       ทั้งนี้ นักวิชาการยังพบยีนที่ช่วยอธิบายได้ว่า เพราะเหตุใดลิงอินเดีย (Indian macaques) กับลิงจีน (Chinese macaques) จึงมีปฏิกิริยาตอบสนองต่อไวรัสต่างกัน โดยลิงจีนจะแสดงอาการช้ากว่าเมื่อติดเชื้อเอสไอวี (SIV)
 
 
 
 
 
ที่มา- 


Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
ละลายความเครียด ลดเมื่อย-นอนไม่หลับละลายความเครียด ลดเมื่อย-นอนไม่หลับ

วิจัยงดอาหารเช้าส่งผลเสียต่อสุขภาพวิจัยงดอาหารเช้าส่งผลเสียต่อสุขภาพ

หาทางลดอาการนอนกรนกันดีกว่าหาทางลดอาการนอนกรนกันดีกว่า



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

DMC NEWS