พระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ยุคทองแห่งต้นกรุงรัตนโกสินทร์


[ 5 มิ.ย. 2558 ] - [ 18273 ] LINE it!

พระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว...
ยุคทองแห่งต้นกรุงรัตนโกสินทร์
เรื่อง : Tipitaka (DTP)
จากวารสารอยู่ในบุญฉบับเดือนมิถุนายน พ.ศ.๒๕๕๘
 
ภาพจิตรกรรมฝาผนังพระอุโบสถวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม วัดประจำรัชกาลที่ ๑ซึ่งพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงปฏิสังขรณ์ครั้งใหญ่จนได้รับยกย่องว่าเป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกของไทย
ภาพจิตรกรรมฝาผนังพระอุโบสถวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม วัดประจำรัชกาลที่ ๑
ซึ่งพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงปฏิสังขรณ์ครั้งใหญ่
จนได้รับยกย่องว่าเป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกของไทย

      แผ่นดินที่ ๓ ของกรุงรัตนโกสินทร์ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหากษัตริย์ไทยในราชวงศ์จักรีถือเป็นยุคทองแห่งต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ในรัชสมัยของพระองค์พระพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรืองเป็นอันมาก เนื่องด้วยทรงมีพระราชศรัทธาอย่างมั่นคงในพระพุทธศาสนาทรงรักษาศีล บำเพ็ญทาน บำรุงคณะสงฆ์ สร้างและปฏิสังขรณ์พระอารามไว้เป็นจำนวนมาก จนมีคำพังเพยกล่าวกันมาว่า “ในรัชกาลที่ ๑ นั้น ถ้าใครเข้มแข็งในการศึกสงคราม ก็เป็นคนโปรด ในรัชกาลที่ ๒ ถ้าใครเป็นจินตกวี ก็เป็นคนโปรด ในรัชกาลที่ ๓ ถ้าใครใจบุญสร้างวัดวาอาราม ก็เป็นคนโปรด”
 

    พระราชศรัทธาที่มีต่อพระพุทธศาสนาปรากฏเด่นชัดในพระราชจริยวัตร ดังเช่น ในปี พ.ศ. ๒๓๘๔ มีพระราชอุตสาหะเสด็จพระราชดำเนินไปทรงฟังการแปลพระไตรปิฎกติดต่อกันเป็นเวลา ๒๕ วัน เมื่อทรงเห็นว่ายังไม่มีพระภิกษุสามเณรรูปใดมีความรู้พระไตรปิฎกถึงขั้นเปรียญเอก โท ตรี และจัตวา จึงทรงอาราธนาพระราชาคณะทั้งปวงด้วยความห่วงใยเกรงพระพุทธศาสนาจะเศร้าหมองว่า
 

     “กระทำซึ่งพระพุทธศาสนาให้เหมือนสระโบกขรณี มีดอกปทุมชาติเกิดคอยกันเป็นชั้น ๆ ชั้นที่มีดอกอันบานแก่ แลชั้นมีดอกอันแก่พึงจะบาน พึงจะแย้มกลีบแลเกสร ที่มีดอกอ่อนพึงจะผุด พระพุทธศาสนาถ้ารุ่งเรืองไปด้วยพระภิกษุสามเณรที่รู้พระไตรปิฎกเป็นชั้น ๆ ดังนี้แล้ว อันว่ากลีบสุคันธรส คือ คุณธรรมก็จะฟุ้งขจรตลบไปในที่ทวนลม แลตามลม” ดังนี้แล้วทรงให้การสนับสนุนการเรียนพระปริยัติธรรมของพระภิกษุสามเณรเป็นพิเศษโปรดเกล้าฯ ให้ตั้งโรงเรียนสอนพระปริยัติธรรมในพระอาราม มีการสอบพระบาลีสนามหลวงอย่างเคร่งครัด พระราชทานพัดยศและถวายนิตยภัตเป็นประจำทุกเดือนแก่พระมหาเปรียญประโยคต่าง ๆ พระสงฆ์ที่สอบไล่ได้เป็นเปรียญและได้เลื่อนเป็นที่พระราชาคณะแล้ว ถ้าโยมบิดามารดาตกทุกข์หรือเป็นทาสผู้อื่น ก็จะพระราชทานพระราชทรัพย์ไถ่ตัวให้เป็นอิสระ ด้วยเหตุที่พระองค์ทรงให้การสนับสนุนพระภิกษุสามเณรผู้ทรงความรู้นี้เอง ทำให้พระสงฆ์สามเณรทั้งในกรุงและตามหัวเมืองตั้งใจเล่าเรียนพระไตรปิฎกมากยิ่งขึ้นกว่าแต่ก่อน

    ในรัชสมัยของพระองค์มีการสร้างพระไตรปิฎกมากฉบับกว่าที่ผ่านมา และได้รับการยกย่องว่าอักขระมีความถูกต้องครบถ้วนยิ่งกว่าฉบับที่สร้างในรชักาลกอ่น ๆ เพราะเหตุที่ทรงให้การสนับสนุนทั้งการศึกษาภาษาบาลีและอักขระอื่น ๆ ได้แก่ อักษรสิงหล และอักษรมอญ ควบคู่กันไปเพื่อประโยชน์ในการปริวรรตถ่ายถอดภาษาบาลีที่จารลงในใบลานด้วยอักษรมอญและสิงหลให้เป็นอักษรขอมอย่างถูกต้องแม่นยำ และยังโปรดเกล้าฯ ให้แปลพระไตรปิฎกเป็นภาษาไทยอีกด้วย
 

     เหตุผลอีกประการหนึ่งคือ ขณะนั้นเจ้าฟ้ามงกุฎ (รัชกาลที่ ๔) ทรงผนวชอยู่ ทรงรับเป็นธุระตรวจสอบคัมภีร์พระไตรปิฎกที่มีในแผ่นดิน เมื่อทรงทราบว่าคัมภีร์ใดมีเนื้อความผิดแปลกหรือไม่ครบบริบูรณ์ ก็ทรงให้เสาะหาคัมภีร์จากต่างประเทศมาเทียบเคียงและเสริมส่วนที่ขาดหายให้สมบูรณ์

     โปรดเกล้าฯ ให้สมณทูตไปอัญเชิญคัมภีร์พระไตรปิฎกจากลังกามาสู่สยามถึง ๒ คราว ครั้งแรกไปกับเรือกำปั่นหลวงชื่อจินดาแก้ว ขอยืมคัมภีร์พระไตรปิฎกกลับมา ๔๐ คัมภีร์ใช้เวลาคัดลอก ๑ ปี จึงแล้วเสร็จ และครั้งที่ ๒ เป็นการเดินทางเพื่อนำคัมภีร์ชุดแรกไปส่งคืน พร้อมขอยืมคัมภีร์กลับมาจากลังกาอีก ๓๐ คัมภีร์ ขณะเดียวกันหากคัมภีร์ใดไม่มีในลังกา ก็ทรงให้พระภิกษุสงฆ์ชาวสิงหลแลกเปลี่ยนไปคัดลอกได้ เป็นการค้นคว้าแลกเปลี่ยนความรู้ทางพระพุทธศาสนาและเจริญสัมพันธไมตรีระหว่าง ๒ ประเทศให้แน่นแฟ้นขึ้น ทั้งยังโปรดเกล้าฯ ให้พระสงฆ์มอญช่วยเสาะหาและนำคัมภีร์พระไตรปิฎกฉบับรามัญเข้ามาร่วมตรวจสอบอีกทางหนึ่งด้วย จึงเป็นเหตุให้มีคัมภีร์พระไตรปิฎกจากต่างประเทศเข้ามาสู่แผ่นดินสยามมากขึ้น
 

     คัมภีร์ใบลานที่สร้างในสมัยรัชกาลที่ ๓ นี้ นอกจากถูกต้องสมบูรณ์แล้ว ยังถือว่ามีความประณีตงดงามอย่างยิ่ง
 
ฉบับรดน้ำเอกมีการตกแต่งหรือเขียนด้วยลวดลายรดนำบนพื้นรักดำ
ที่ใบลานปกหน้าและปกหลังด้วยความพิถีพิถัน เป็นคัมภีร์ที่งดงามประณีต
ยิ่งกว่าคัมภีร์ใด ๆ ตั้งแต่การเลือกใบลานที่เนื้อเนียนอ่อน ช่างจารที่มีฝีมือเป็นเลิศ
ตลอดจนผ้าห่อคัมภีร์ ล้วนเป็นของที่บรรจงทำด้วยฝีมืออันวิจิตรทั้งสิ้น

     นอกจากนี้ยังทรงสร้างพระไตรปิฎกสำหรับหอหลวง ๕ ฉบับ คือ ฉบับรดน้ำเอก ฉบับรดน้ำโทฉบับทองน้อย ฉบับชุบย่อ ฉบับอักษรรามัญ และทรงสร้างพระไตรปิฎกจบใหญ่สำหรับพระราชทานพระอารามหลวงอีก ๒ ฉบับ คือ ฉบับเทพชุมนุม พระราชทานไว้ ณ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามและฉบับลายกำมะลอ พระราชทานไว้ ณ วัดราชโอรส
 
คัมภีร์ใบลานหลวงฉบับเทพชุมนุมฉบับทองทึบ จารด้วยอักษรขอม ปกหน้าตกแต่ง
ลายรดนำบนพื้นรักดำ เขียนเป็นภาพเทวดามาประชุมกันในท่านั่งพนมหัตถ์ มีพัดรูป
พุ่มข้าวบิณฑ์คั่นสับหว่าง พื้นหลังเป็นลายดอกพุดตานใบเทศ กึ่งกลางปกมีอักษรขอม
บอกชื่อคัมภีร์ “พระปาฬีทิฆนิกาย สีลขนฺธวคฺคผูก ๑” อยู่ภายในกรอบ


    ในแผ่นดินรัชกาลที่ ๓ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ การค้าขายเจริญรุ่งเรือง บ้านเมืองปราศจากสงคราม ถือเป็นยุคทองที่จะทำนุบำรุงบ้านเมืองให้กลับมาสวยงามเหมือนเมื่อครั้งกรุงเก่า ศาสนสถานเป็นสถาปัตยกรรมหนึ่งที่แสดงให้เห็นถึงความเจริญนั้น ล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ ๓ ทรงบูรณปฏิสังขรณ์วัดวาอารามเมื่อครั้งต้นแผ่นดินรัชกาลแรก และทรงสร้างวัดขึ้นใหม่ที่วิจิตรงดงามเลอค่าสมกับเป็นศรีแห่งแผ่นดิน อีกทั้งไม่ละเลยคัมภีร์ในพระพุทธศาสนา พระไตรปิฎกหลากหลายอักษรถูกนำมาปริวรรตถ่ายทอดเพื่อให้เกิดความสมบูรณ์ และจัดรวบรวมไว้อย่างเป็นระเบียบสวยงามถือเป็นคุณูปการอย่างยิ่งต่อวงการการศึกษาพระบาลีและคณะสงฆ์ไทย สมกับที่ทรงเป็นอัครศาสนูปถัมภก เจริญตามรอยบาทของพระมหากษัตริย์ไทยแต่ครั้งโบราณกาล

กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม. กรมการศาสนา. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย, ๒๕๕๑.
ก่องแก้ว วีระประจักษ์ และวิรัตน์ อุนนาทรวรางกูร. คัมภีร์ใบลานฉบับหลวงในสมัยรัตนโกสินทร์. กรุงเทพฯ :กรมศิลปากร, ๒๕๔๖.
สำนักงานเสริมสร้างเอกลักษณ์ของชาติ. คู่มือบทโทรทัศน์ สารคดีเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว. กรุงเทพฯ.


 


Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
รางวัลสุนทรภู่กวีอาเซียน 2556รางวัลสุนทรภู่กวีอาเซียน 2556

หลักฐานธรรมกายในคัมภีร์พุทธโบราณ (ตอนที่ ๒)หลักฐานธรรมกายในคัมภีร์พุทธโบราณ (ตอนที่ ๒)

พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว...ก้าวสู่รัตนโกสินทร์ตอนกลางพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว...ก้าวสู่รัตนโกสินทร์ตอนกลาง



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

ความรู้รอบตัว