แกร่งอย่างหญิง

แกร่งอย่างหญิง

ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันสังคมมักจะมองว่าผู้หญิงเป็นเพศที่อ่อนแอ ทั้งที่ผู้หญิงเองก็มีความแข็งแกร่งในตัวสามารถดูแลตัวเองได้ ประสบความสำเร็จได้ รวมทั้งเป็นผู้นำที่ดีได้ไม่แพ้ผู้ชาย

เรื่อง : พระครูปลัดสุวัฒนโพธิคุณ (สมชาย ฐานวุฑฺโฒ)

จากรายการทันโลกทันธรรม ออกอากาศทางช่อง GBN

เทคนิคที่ทำให้ผู้หญิงสามารถเป็นผู้หญิงแกร่งแล้วมีชีวิตที่ดีมีความสุขมีอะไรบ้าง?

1.เริ่มต้นด้วยการสร้างคุณค่าให้กับตนเองก่อน ด้วยการสั่งสมประสบการณ์ ปรับปรุงประสิทธิภาพในการทำงานจนเป็นที่ยอมรับ ในประเทศไทยบางมหาวิทยาลัยก็เคยมีอธิการบดีเป็นผู้หญิง หลายกรมก็เคยมีอธิบดีเป็นผู้หญิงมาแล้ว

2.การเรียนรู้ตลอดเวลาและการปรับปรุงกระบวนการต่างๆเพื่อพัฒนาตนเองเพราะว่าในปัจจุบันเป็นโลกของการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ถ้าไม่ปรับตัวจะล้าหลังโดยอัตโนมัติ สมัยนี้มีเทคโนโลยีมาช่วยในการผลิต การปรับปรุงการทำงานอยู่มากมาย จึงต้องแสวงหาสิ่งเหล่านี้เพื่อนำมาปรับใช้และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน

3.คุณสมบัติที่สำคัญของหญิงแกร่ง คือมีความสามารถในการตัดสินใจในเรื่องต่างๆได้ด้วยตนเองโดยไม่ถูกครอบงำจากบุคคลอื่น คำว่าไม่ถูกครอบงำคือไม่ถูกสั่ง ไม่ถูกชักจูงโดยผู้อื่น แต่ขณะเดียวกัน ต้องรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น หลังจากรับฟังความคิดเห็นของบุคคลรอบข้าง คนที่เกี่ยวข้องแล้วก็ประมวลความคิด วิเคราะห์ว่าควรตัดสินใจออกไปในทิศทางใด

4. การจับจ่ายใช้สอย หญิงแกร่งต้องมีความสามารถในการวางแผนทางการเงินไม่ว่าจะเป็นการใช้จ่ายในชีวิตประจำวันหรือว่าการวางแผนเพื่ออนาคต เพราะถ้ามีอิสรภาพทางการเงินแล้วจะสามารถดำรงชีวิตได้อย่างมีอิสระ

การมีบุคลิกภาพที่ดี ดูแลตัวเองให้ดูดีตลอดเวลาสามารถเสริมความเป็นหญิงแกร่งได้ ต้องทำอย่างไรบ้าง?

1.เริ่มตั้งแต่การแต่งกาย ควรแต่งกายด้วยเสื้อผ้าที่ดูสะอาดดูเรียบร้อย เหมาะสมกับกาลเทศะไม่ควรจะแต่งตัวโป๊เกินไป เพราะทำให้เราไม่มีราคา

2.การดูแลในเรื่องของการวางอิริยาบถต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการยืน เดิน นั่ง ก็ควรให้เหมาะสมควรเดินหลังตรงให้ดูสง่าผ่าเผย

3.การใช้สายตาและแววตาที่เหมาะสมในการสนทนาติดต่องานกับผู้อื่น เพราะแววตาสื่อถึงสิ่งที่อยู่ข้างใน ถ้าส่อแววตาด้วยความมั่นใจออกมา คนอื่นก็จะรับรู้ได้ว่าเรามีความมั่นใจเป็นหญิงแกร่ง ถ้าดูมีแววตาที่เศร้าสร้อย จะถูกมองว่าไม่มีพลัง นอกจากนี้การแสดงอารมณ์สามารถใช้แววตาได้ เช่น พูดคำที่ไพเราะแต่แววตาเหยียดหยาม คนที่เขามองหน้าเขาก็รับรู้ได้ถึงการเหยียดหยามของเรา เพราะดวงตาแสดงถึงความในใจมากกว่า

4.การใช้คำพูด และน้ำเสียงซึ่งคำพูดและน้ำเสียงอาจจะแยกออกจากกันเป็น 2 ส่วนเพราะคำพูดควรเลือกคำพูดที่เหมาะสม ที่ไพเราะ สุภาพ ไม่ดูถูกเหยียดหยาม เป็นการถนอมน้ำใจของผู้ฟัง และน้ำเสียงคือควรใช้น้ำเสียงที่เหมาะสม ซึ่งคำพูดเหมาะสมแต่น้ำเสียงไม่เหมาะสมก็ทำให้สื่อสารผิดพลาดได้ หากต้องการคำพูดที่ต้องการแสดงความสงสารความเห็นใจแต่ถ้าน้ำเสียงแข็งๆ เกินไปอาจจะไม่ได้สื่อถึงความเห็นใจของผู้ฟัง มีผลการทดลองว่า น้ำเสียงมีผลต่อการสื่อสารถึง 38% ในขณะที่คำพูดมีผลต่อการสื่อสารแค่ 7% ที่เหลือเป็นภาษากาย เช่น สายตา ท่าทางของเรานั่นเอง

5.การดูแลครอบครัวของตนเอง การที่จะประสบความสำเร็จในการทำงานเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง เป็นที่ยอมรับของสังคม แต่หากลืมกลับมาดูแลครอบครัวจะไม่เป็นหญิงแกร่งได้ บางคนอาจไม่ได้แต่งงานก็ต้องดูแลพ่อแม่ แต่ถ้าคนที่แต่งงานแล้วต้องดูแลสามีและดูแลลูกด้วย ก็ควรแบ่งเวลาให้ถูกต้องซึ่งเรียกว่า Work life balance แบ่งเวลาชีวิตการงานกับชีวิตส่วนตัวให้เหมาะสม

ความแข็งแรงต้องมาพร้อมกันความสุข หากเก่งในเรื่องงานอย่างเดียวเก่งนอกบ้านอย่างเดียว แต่กลับมาที่บ้านไม่มีความสุขครอบครัวแตกแยก แล้วจะเก่งไปเพื่ออะไร เพราะฉะนั้นต้องมีชีวิตที่สมดุล

ตัวอย่างที่เห็นได้คือ Sheryl Kara Sandburg ซีอีโอของ Facebook เธอถูกจัดให้เป็นหญิงที่ทรงอิทธิพลในปี 2005 โดยนิตยสารฟอร์จูน นอกจากที่เธอจะประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน ซึ่งมีความรับผิดชอบมากมาย เธอยังต้องดูแลครอบครัวของเธอให้มีความสุข Work life balance แบ่งเวลาให้ครอบครัวได้อย่างเหมาะสม เธอได้ขึ้นกล่าวในเวทีของ TED ว่าผู้หญิงทั่วไปมักมีความกลัวตั้งแต่เกิดหลายคนไม่กล้าที่จะแสดงออก ไม่กล้าที่จะทำอะไรเกินหน้าเกินตาผู้ชาย ทำให้เป็นแค่แม่บ้านแค่ทำงานดูแลลูก เธอได้กล่าวว่า ผู้หญิงที่อยากจะประสบความสำเร็จนั้นจงอย่าหยุดที่จะฝัน อย่าหยุดที่จะก้าวไปข้างหน้า ควรที่จะพกพาความมั่นใจมาอย่างเต็มที่ แล้วกล้าแสดงความคิดเห็น สิ่งสำคัญที่จะเป็นหญิงแกร่งได้คือจะต้องมีนิสัยที่ซื่อสัตย์และจริงใจ เพราะเป็นพื้นฐานสำคัญของความสำเร็จถ้าไม่ซื่อสัตย์ในการทำงานแล้วอาจจะได้โปรโมชั่นในหน้าที่การงาน แต่สักพักหนึ่งคนก็จะรู้ว่าไม่ใช่คนแกร่งที่แท้จริง นอกจากนั้นยังเน้นย้ำถึงการอ่อนน้อมถ่อมตนและมีความสุภาพ ในการเข้าสังคมอีกด้วย

ทันธรรม โดย พระครูปลัดสุวัฒนโพธิคุณ

ผู้หญิงมีโอกาสประสบความสำเร็จเป็นผู้นำองค์กรที่เข้มแข็ง หากเปรียบเทียบกับผู้ชายแล้ว สัดส่วนยังต่างกัน ซึ่งร้อยละ 90 เป็นผู้ชาย เนื่องจากข้อจำกัดของฝ่ายหญิงโดยสรุปมี 3 ข้อคือ

1.ความกลัวผู้หญิงส่วนใหญ่จะมีลักษณะขี้กลัว เพราะด้านสรีระแข็งแรงสู้ผู้ชายไม่ได้ หากเกิดเรื่องราวชกต่อยตบตีกันผู้ชายแข็งแรงกว่า ผู้หญิงจะไปไหนกลางคืนเปลี่ยวๆ ต้องเริ่มระแวงระวังแล้ว จะโดนทำร้ายหรือไม่ถึงแม้ไปด้วยกันกับแฟนก็ตาม พอมีใครจะมาหาเรื่องจะเห็นผู้ชายของขึ้น อยากจะเอาเรื่อง ส่วนผู้หญิงจะคอยดึงเสื้อข้างหลังไม่อยากมีเรื่องเพราะกลัว นอกจากนั้นยังมีความผูกพันความรับผิดชอบในการดูแลลูกมากกว่าผู้ชาย เพราะถึงคราวท้องลูกก็ต้องอยู่ในท้อง ทิ้งลูกไปไหนไม่ได้ แม้คลอดก็ต้องให้นมลูกและเลี้ยงจนกระทั่งผูกพันรู้สึกว่าต้องดูแลลูกดูแลครอบครัวให้ดี ความรู้สึกมีภาระที่ต้องรับผิดชอบตรงนี้จึงเยอะกว่าผู้ชาย ผู้หญิงจึงค่อนข้างไม่อยากจะเสี่ยงในที่ต่างๆ ต้องการความเซฟและความปลอดภัย

2. ความโกรธคือผู้หญิงโกรธง่ายเป็นคนมักโกรธ อารมณ์หวือหวา ขึ้นลงเร็ว วูบวาบ ทำให้เวลาที่จะต้องรับผิดชอบอะไรใหญ่ๆ องค์กรใหญ่ๆ บริษัทใหญ่ๆ มีพนักงานจำนวนมากจะต้องมีเรื่องจุกจิกเยอะ ถ้าผู้หญิงไม่สามารถควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ หรือใครมาคุยไม่ถูกใจโกรธขึ้นมาวูบวาบขึ้นมา จึงทำให้เป็นผู้นำองค์กรได้ลำบาก ยิ่งเป็นผู้นำประเทศปัญหายิ่งรุมล้อมมากมาย อยู่ที่จะปรับอารมณ์ตัวเองให้มีเสถียรภาพได้หรือไม่ เพราะผู้หญิงเมื่อรอบเดือนมา มีฮอร์โมนทำให้ร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงอารมณ์จึงมีการวูบวาบไปตามสภาวะฮอร์โมนที่บีบบังคับอย่างนี้เป็นต้น หรือเมื่อเข้าสู่ภาวะวัยทองอารมณ์ก็มีการเปลี่ยนแปลงตามระดับฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงไปอีก เป็นต้นเพราะฉะนั้นผู้หญิงที่จะประสบความสำเร็จได้ต้องเอาชนะความโกรธได้ รักษาเสถียรภาพทางอารมณ์ได้ มีคนกล่าวว่า ผู้หญิงมีซิกเซ้นส์คือมักจะดูออกว่าใครคนไหนเป็นยังไง ในสิ่งที่ผู้ชายดูไม่ออก ซึ่งจะเป็นจุดอ่อนหรือจุดแข็งก็ได้ ซิกเซ้นส์มีที่มาที่ไป คือมาจากความกลัวและความโกรธ พอมีความกลัวจะทำอะไรต้องคิดแล้วคิดอีกมากกว่าผู้ชาย แล้วพอมีความโกรธผู้หญิงจะคอยคิดเล็กคิดน้อยมากกว่าผู้ชาย สังเกตรายละเอียดทั้งหมด เพราะฉันนั้นฝ่ายหญิงต้องก้าวข้ามตรงนี้ให้ได้

3.ค่านิยมของสังคม เป็นความเชื่อของสังคมว่าผู้ชายเป็นใหญ่ แม้ปัจจุบันถือว่าเสมอภาคแล้วก็ตาม แต่ถ้าเทียบแล้วก็ยังห่างกัน 100 ต่อ 1 แม้โดยกฎหมายถือว่าเสมอภาคแต่ในความเป็นจริงเชิงปฏิบัติมีแรงบีบคั้นจากสังคม ทำให้ผู้หญิงโอกาสก้าวหน้าน้อยกว่าผู้ชาย เมื่อมีตำแหน่งว่างก็เอาผู้ชายก่อนหากคุณสมบัติใกล้เคียงกันยกเว้นผู้หญิงที่โดดเด่นจริงๆจึงจะขึ้นมาได้ เพราะฉะนั้นสภาวการณ์มันไม่เอื้อสำหรับผู้หญิงมากนัก

ดังนั้นอยู่ที่จะเอาจริงหรือไม่ มีจุดอ่อนจุดแข็งของความเป็นผู้หญิง คือผู้หญิงมีความละเมียดละไม มากกว่าผู้ชาย สังเกตมากกว่า มีความอดทนมากกว่า ถ้ารักษาจุดแข็งไว้ได้ แล้วเสริมจุดอ่อนคือไม่กลัว กล้าที่จะตัดสินใจแล้วก็ตัดสินใจ แบบละเอียดถี่ถ้วนวางแผนอย่างรอบคอบไตร่ตรองอย่างลึกซึ้งเอาจุดแข็งที่ว่า she things so much มาใช้ให้เป็นประโยชน์ แล้วรักษาอารมณ์ตัวเองได้ เด็ดเดี่ยวเด็ดขาดไม่จุกจิก ผู้หญิงจะกลายเป็นหญิงแกร่ง เมื่อจะดูแลงานบ้านก็ดีด้วย ถึงบ้านสวมบทศรีภรรยา คุณแม่ที่ดีภรรยาที่ดี ออกไปทำงานสวมบทผู้นำประเทศ

มาร์กาเรต แทตเชอร์ เป็นหญิงเหล็กผู้นำประเทศอังกฤษเลย เมื่อหมู่เกาะฟอล์กแลนด์ของอังกฤษเป็นพื้นที่ของอังกฤษ อยู่มาวันหนึ่งอาร์เจนตินาส่งทหารไปยึด รัฐมนตรีของอังกฤษประชุมเพื่อหาทางออก เพราะห่างจากอังกฤษไปเกือบ 10,000 กิโลเมตร และเป็นเกาะที่แทบจะไม่มีคนอยู่ด้วยทรัพยากรธรรมชาติน้อย ยกกองทัพไปรบจะคุ้มหรือไม่ จะสู้ได้หรือเปล่าเพราะไกลจากอังกฤษ ถกไปถกมาไม่จบ แทตเชอร์เป็นนายกฟังทั้งหมดสุดท้ายบอกว่ารบ เพราะมันคือแผ่นดินของอังกฤษ เมื่อถูกประเทศอื่นเข้ามายึดครองอังกฤษปล่อยไปอย่างนั้นไม่ได้ สุดท้ายเคลื่อนทัพรบจนชนะในที่สุดเพราะมีผลไม่เฉพาะแผ่นดินนั้น แต่คือศักดิ์ศรีของประเทศ เมื่อจะปฏิรูประบบเศรษฐกิจของประเทศ สหภาพแรงงานที่แข็งแกร่งที่สุด มีสมาชิกมากกว่า 1,000,000 คนคือสหภาพแรงงานถ่านหินเหล็กกล้าประท้วงหยุดงาน มาร์กาเรต แทตเชอร์ บอกหยุดไปเลยเพราะโดยกฎหมายเขามีสิทธิ์ที่จะหยุดงานได้ ประท้วงเป็นปีจนกระทั่งเงิน ของสหภาพ ค่อยๆหมดไปจนกระทั่งต้องยอมในที่สุด นี้คือความเด็ดเดี่ยวของ มาร์กาเรต แทตเชอร์ คนงานประท้วงเป็น 1,000,000 คน เมื่อทิศทางถูกต้อง ยืนหยัดไม่ถอย เดินหน้า Privatization คือแปรรูปรัฐวิสาหกิจให้กลายเป็นธุรกิจเอกชนปรับปรุงคุณภาพยกระดับทั้งประเทศ เป็นผู้นำหญิงที่เด็ดเดี่ยวและเด็ดขาดยิ่งกว่าผู้ชาย เพราะฉะนั้นหญิงถ้าเอาจริงแล้วก็สามารถทำได้ อย่าปล่อยให้ความคิดค่านิยมสังคมจำกัดให้ตัวเองอยู่แค่นั้น ให้แกร่งจริงฝึกตัวเองจริงๆ หญิงทำได้ดีไม่แพ้ชาย

รับชมคลิปวิดีโอ แกร่งอย่างหญิง : ทันโลกทันธรรม