นิสัยสำเร็จยุค Gen Y


[ 5 ก.ย. 2562 ] - [ 18261 ] LINE it!

นิสัยสำเร็จยุค Gen Y
จะทำอย่างไรคนหนุ่มสาวยุคเจนวายจึงประสบความสำเร็จตามที่ต้องการ
 
เรื่อง : พระครูปลัดสุวัฒนโพธิคุณ (สมชาย ฐานวุฑฺโฒ)
จากรายการทันโลกทันธรรม ออกอากาศทางช่อง GBN
 
 

คนยุคเจนวาย เป็นคนอายุเท่าไหร่ เกิดปีไหน มีความชอบอะไรในการทำงานบ้าง?
 
          คนยุคเจนวาย คือ คนที่ต่อมาจากยุคเจน X (เบบี้บูมเมอร์) เจน Y เป็นเด็กที่เกิดขึ้นในช่วง 2533 - 2543 ถ้าเทียบปีปัจจุบัน จะอายุประมาณ 18 - 28 ปี ปัจจุบันเริ่มกลายเป็นกำลังหลักต้นๆ ขององค์กรต่างๆ เพราะเริ่มทยอยจบการศึกษาแล้วเข้ามาอยู่ในองค์กร การจัดสรรคนในเจนต่างๆเป็นเรื่องของการใช้สอยคนให้ดีที่สุดสร้างศักยภาพที่สูงสุด
 
คนแต่ละยุค อุปนิสัยไม่เหมือนกันใช่หรือไม่?


          คนแต่ละยุคมีอุปนิสัยไม่เหมือนกัน อย่าไปมองว่าเจน Y ดีหรือด้อยกว่าให้มองว่ามีความแตกต่างแค่นั้น และควรจะส่งเสริมจุดไหนจะดีกว่า คนเจน Y จะอายุประมาณ 18-28 ปี มีการคำนวณแล้วว่าในปี 2568 คนกลุ่มนี้(กลุ่มเจน Y) หรือ Millennial เป็นกลุ่มที่จะเข้ามาอยู่ในภาคธุรกิจหลักถึง 44% ซึ่งสูงที่สุดในคนทุกเจนเนอเรชั่น เพราะฉะนั้นในคนกลุ่มนี้ ที่ขึ้นไปเป็นซีเนียร์จะมีมากขึ้นเรื่อยๆ มีการสำรวจของบริษัทที่ปรึกษากลยุทธ์ของอเมริกา ได้สำรวจคนในกลุ่มเจน Y พบว่างานที่คนกลุ่มนี้อยากทำ ได้แก่ 1.งานที่ใช้เวลาไม่มากเพื่อจะได้มีเวลาส่วนตัวมากขึ้น 2.งานที่สร้างแรงจูงใจและแรงผลักดันที่ให้ประสบความสำเร็จเป็นขั้นๆมีผลงานออกไป เรียกว่าเงินมีความสำคัญน้อยกว่าผลงาน คนกลุ่มนี้เป็นพวกใช้เทคโนโลยีได้ สามารถทำอะไรได้หลายๆ อย่างในเวลาเดียวกัน เพราะเติบโตมากับเทคโนโลยี
 
อุปนิสัยด้านใดบ้างที่คนเจน Y ควรพัฒนา?

 
          1.ต้องสร้างกิจวัตรประจำวันให้แข็งแรง หรือ สร้างลูทีนให้แข็งแรง ประกอบด้วย
 
1.1 การวางแผนเรื่องของก่อนเข้านอน จะต้องเลือกเวลานอนไม่นอนดึก ก่อนเข้านอนจะต้องวางทุกอย่างแม้กระทั่งโซเชียลมีเดียต่างๆ 1 ชั่วโมงก่อนนอนต้องหยุดปิดหมดทุกอย่าง เพื่อจิตจะได้สงบทำให้การพักผ่อนเต็มที่ 
 
1.2 สุขภาพดีต้องมาก่อน ซึ่งคนกลุ่มเจน Y จะเข้าฟิตเนส ออกกำลังกายที่ตนเองชื่นชอบ สามารถสร้างลูทีนนี้ได้

 
1.3 การเริ่มต้นที่ดี ซึ่ง Make A Good Start ที่ดีตื่นมาก็ต้องออกกำลังกาย อาจออกกำลังกายข้างเตียงได้ ห้องนั่งเล่นได้ หรือเปิด YouTube  คือการ Start วันที่ดีที่สุด นอกจากนั้นอาหารเช้าเป็นสิ่งสำคัญ และวางแผนงานวันนี้จะต้องทำอะไรบ้างก่อนไปเช็คอีเมล, LINE, Facebook ต่างๆ
 
1.4 สุดท้ายต้องมีเวลาพักผ่อนให้เพียงพอ มีการรีเฟรชตัวเอง ด้วยวิธีการใดก็แล้วแต่

 
          2. ทำสะพานเชื่อมช่องว่าง ของคนทุกกลุ่มวัย คือต้องมีปฏิสัมพันธ์ได้กับทุกคน อย่าให้ช่องว่างระหว่างวัยมาเป็นอุปสรรคให้เข้าใจว่า ไม่มีใครดีกว่ากัน แต่คือความแตกต่าง แล้วพยายามรู้จักผู้คนเข้าสังคมที่มีกลุ่มเดียวกัน แล้วสร้างเครือข่ายหากมีเครือข่ายมากเท่าไหร่ เครือข่ายจะช่วยให้ประสบความสำเร็จเร็ว แล้วแก้ปัญหาได้เร็ว

 
          3.ต้องมีความมุ่งมั่นบากบั่นมานะอดทน ต้องเข้าใจว่า ความสำเร็จไม่มีทางลัด ทุกอย่างได้มาต้องมีมานะอดทนมุ่งมั่นบากบั่นเท่านั้นเอง เช่น อยากเก่งภาษาก็ต้องฝึกทุกวัน อยากจะพูดภาษาอังกฤษได้ อยากฟังภาษาอังกฤษได้ ก็ต้องฝึกพูดฝึกฟังฝึกเขียนทุกวัน จนเกิดความสำเร็จ
 
คนเจน Y อายุยังน้อยแต่มีความรู้เยอะ ควรหาอะไรที่เป็นสมองเพิ่มเติมหรือไม่?

 
          ต้องหาที่ปรึกษาที่ดี คือถ้าคบคนเก่ง ก็จะเก่งเร็วขึ้น เพราะฉะนั้นต้องไม่มองข้ามที่จะเจอคนเก่ง เข้าหาพูดคุยก็จะกลายเป็นที่ปรึกษาเองซึ่งอาจไม่ใช่ที่ปรึกษาอย่างเป็นทางการ แต่การที่น้อมตนเข้าไปพบประพูดคุยต่างๆเพื่อให้ได้ ไอเดียให้ได้ความรู้เพิ่มขึ้น
 
มีเรื่องอะไรที่จะเปลี่ยนนิสัยเพื่อไปสู่ความสำเร็จของคนเจน Y อีกหรือไม่?
 

          หากอยากจะประสบความสำเร็จคือ อย่าไปรอโชคชะตาวาสนา แต่สร้างขึ้นมาเลย โชคดีไม่เคยมาหาคนที่ไม่ไขว่คว้า และให้สร้างความแตกต่าง ในสมัยนี้ตัวเลือกมีเยอะการแข่งขันสูง เพราะเป็นยุคโซเชียลมีเดีย เพราะฉะนั้นหากผลิตภัณฑ์ และการบริการสามารถสร้างความแตกต่างได้อย่างไม่เห็นฝุ่นเท่านั้นก็จะประสบความสำเร็จได้อย่างรวดเร็ว
 
ทันธรรม...โดย  พระครูปลัดสุวัฒนโพธิคุณ 

 
        คนยุคเจน Y ใช้เทคโนโลยีคล่อง เพราะคุ้นเคยมาตั้งแต่เล็ก นี่คือจุดเด่น มีแหล่งข้อมูลมากมาย รุ่นเก่าอยากจะรู้อะไรต้องไปอ่านหนังสือห้องสมุด ยุคนี้เข้า YouTube เข้าไปใน Google อยากจะรู้อะไรมีหมด ข้อมูลมีมากมายมหาศาล จึงเห็นอะไรเยอะกว่าคนรุ่นเก่า จึงค่อนข้างเชื่อมั่นตนเอง แล้วก็ฟังผู้ใหญ่บ้าง แต่ไม่มากเท่าคนรุ่นเก่า เพราะรู้สึกว่าบางเรื่องหรือหลายๆเรื่อง รู้ดีกว่า รู้มากกว่า ใช้เทคโนโลยีคล่องกว่า ผู้ใหญ่ใช้ไม่ค่อยเป็น มีความเชื่อมั่นตัวเองมากกว่านี่คือลักษณะพิเศษของคนรุ่นเจน Y 

 
          คนรุ่นเจน Y หากเข้าใจตัวเองแล้วพัฒนาจะประสบความสำเร็จเป็นเศรษฐีตั้งแต่อายุยังน้อย โดยจะหาช่องทางลงทุนที่คุ้มกว่าการไปฝากเงินในธนาคาร เช่น ลงทุนตลาดหุ้น คริปโทเคอร์เรนซี หรือ บิทคอยน์ เป็นต้น หาช่องทางการลงทุน พยายามเป็นเจ้าของกิจการตั้งบริษัทสตาร์ทอัพ (บริษัทใหม่ที่มีไอทีเป็นฐาน) ใช้เทคโนโลยีไอทีเป็นฐาน ซึ่งมีโอกาสจะประสบความสำเร็จได้อย่างรวดเร็ว ตัวอย่างจากบริษัทสตาร์ทอัพ เช่น ซิลิคอนวัลเลย์ ในอเมริกา หรือเซินเจิ้นในจีน 

 
          ไอดอลที่คนรุ่นใหม่ชอบคือ Mark Zuckerberg เป็นคนก่อนเจน Y ประมาณ 4-5 ปี อายุแค่ 33 แต่รวย เป็น 1,000,000 ล้านบาท คนรุ่นใหม่เห็นแล้วอยากมีชีวิตอย่างนั้น ดังนั้นจึงอยากจะรวยเร็วๆ หาช่องทางลงทุน แล้วพร้อมจะเปลี่ยนงานที่คิดว่ามีอนาคตดีกว่า ให้ผลตอบแทนดีกว่า การจะประสบความสำเร็จเป็นเจน Y ที่ชีวิตรุ่งโรจน์ได้นั้นมีไม่มากนัก ขอฝากไว้ 4 ข้อ ซึ่งคนใน เจนเนอเรชั่นอื่นสามารถไปประยุกต์ใช้ได้เช่นเดียวกัน คือ

 
          1.ต้องศึกษาให้รู้จริง อย่างน้อย 1 อย่าง ไม่ใช่แค่รู้ทั่วไป แต่ไม่ได้เก่งจริง ถ้าอยากจะรวยเร็วๆ ต้องเก่งจริง แตกฉาน เชี่ยวชาญ อย่างน้อย 1 อย่าง 

 
          2. ให้สร้างคอนเน็คชั่นส์ จะทำธุรกิจหากหัวเดียวกระเทียมลีบ เริ่มคนเดียวลำบาก ต้องมีคู่คิด มีหุ้นส่วน จะกี่คนก็แล้วแต่ แล้วช่วยกันทำ ดังนั้นคอนเน็คชั่นส์คนที่เก่ง เอาจริง แล้วต้องเป็นคนดี มีอะไรก็คุยกัน ใช้เวลาบ่มสร้างขึ้นมา คนจีนส่วนใหญ่ต้องการเป็นเถ้าแก่ แล้วขยายกิจการได้เร็ว เพราะให้ความสำคัญกับคอนเน็คชั่นส์มาก คำว่า กวานซี่ แปลว่า ความสัมพันธ์ คนจีนให้ความสำคัญมาก แขกไปใครมาดูแลอย่างดีเพื่อหวังจะสร้างคอนเน็คชั่นส์ข้ามชาติ 

 
          คอนเน็คชั่นส์เป็นต้นทุนที่สำคัญไม่แพ้เงิน ที่จะทำให้งานขยายและสำเร็จไปข้างหน้า คอนเน็คชั่นส์ที่ถือเป็นคู่ค้าก็มีความสำคัญ เช่นเดียวกันคนเจน Y หรือเจนอื่นก็ตามจะประสบความสำเร็จในชีวิตได้ ต้องเป็นคนที่เห็นความสำคัญของความสัมพันธ์ 

 
          3.ใช้เวลาอย่างคุ้มค่าไม่ติดโซเชียล เมื่อถึงคราวเรียนคราวทำงานปิดเครื่อง หรือวางเครื่องปิดเสียง มีช่วงพักแล้วค่อยหยิบมาเช็คว่ามีอะไรด่วนหรือไม่ ถ้าไม่ด่วนก็ทิ้งไว้ก่อนยังไม่ต้องรีบดู เวลาว่างตอนเลิกงานเลิกเรียนค่อยมาดู ถ้ามีวินัยในการใช้โซเชียลมีเดียใช้เวลาอย่างไม่ฟุ่มเฟือย อย่างคุ้มค่า จึงจะมีโอกาสประสบความสำเร็จ คนที่นั่งเช็คข้อความส่งไปส่งมาตลอดทั้งวัน บอกได้เลยว่ายากมากที่จะเป็นคนประสบความสำเร็จ ในการทำธุรกิจการงาน ยิ่งเป็นเจ้าของกิจการยิ่งแย่

 
          4.อย่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือย หากอยากจะรวย รอให้รวยก่อน แล้วมีเงินเหลือใช้แล้ว เหลือเฟือแล้ว จะใช้เพื่อหาความสุขส่วนตัวบ้างค่อยทำตอนนั้น แต่ตอนกำลังตั้งเนื้อตั้งตัวต้องรู้จักเก็บหอมรอมริบ ไม่อย่างนั้นจะเอาต้นทุนที่ไหนมาเริ่มกิจการ ต้องประหยัดเก็บหอมรอมริบ รู้คุณค่าของเงิน แล้วใช้จ่ายประหยัด จะมีความมั่นใจในตัวเองจะทำอะไรจะมั่นใจจะกล้าลงทุน ความกล้าหาญจะเกิดขึ้นมาเพราะ ความประหยัดของตัวเอง ทำอย่างนี้แล้วก็จะเป็นคนเจน Y ที่มีโอกาสประสบความสำเร็จในชีวิตสูง แม้คนเจนเนอเรชั่นอื่นก็เช่นเดียวกัน


รับชมคลิปวิดีโอนิสัยสำเร็จยุค Gen Y : ทันโลกทันธรรม
ชมวิดีโอนิสัยสำเร็จยุค Gen Y : ทันโลกทันธรรม   Download ธรรมะนิสัยสำเร็จยุค Gen Y : ทันโลกทันธรรม




Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
เอาชนะศัตรูทางอารมณ์เอาชนะศัตรูทางอารมณ์

หวานซ่อนร้ายหวานซ่อนร้าย

รักฉบับพ่อรักฉบับพ่อ



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

ทันโลกทันธรรม