นับวันพัฒนาการทางการแพทย์เพื่อยื้อยุด
เยียวยารักษาชีวิตคนไข้ จะก้าวกระโดด ล้ำหน้าชนิดห้ามกะพริบตา
ขณะเดียวกันโรคร้ายต่างๆ ก็ไม่น้อยหน้า มีการกลายพันธุ์
ปรับตัวต่อกรกับตัวยาหรือกลวิธีการรักษาใหม่ๆ อย่างน่าตื่นตกใจตลอดเวลา
ฉะนั้นการป้องกันรักษาไม่ให้โรคร้ายรุมเร้าหรือรู้ตัวว่าป่วยเสียแต่เนิ่นๆจะได้ประโยชน์กว่ามาก | ||||
แต่ถืงกระนั้นผู้คน
จำนวนมากก็ไม่นิยมตรวจร่างกายด้วยกลัวเจ็บตัวและเกรงจะเสียเวลานาน กระทั่งเวลาล่วงเลยออกไป
หลายคนก็พ่ายแพ้และต้องทนทุกข์ทรมานจากภาวะหัวใจวายเฉียบพลัน มะเร็ง
หรือไตวาย การตรวจเช็คร่างกายก่อนโรคร้ายรุมเร้าที่สะดวกสบาย ปลอดภัย
แม่นยำ ไม่เจ็บตัว
และยิ่งเป็นนวัตกรรมนาโนเทคโนโลยีอินเทรนด์ในปัจจุบันด้วยแล้ว
ยิ่งน่าจะตอบโจทย์ความต้องการของคนจำนวนมากได้
“การตรวจร่างกายด้วยนวัตกรรมนาโนเทคโนโลยีจะเจาะลึกลงไปในอวัยวะภายในระดับเซลล์ของร่างกาย
เพื่อค้นหาสภาวะการเปลี่ยนแปลงด้านสุขภาพที่กำลังจะเกิดขึ้น
แล้วจึงหาทางป้องกันหรือทำการรักษาก่อนโรคจะลุกลามจนยากแก้ไข” วุฒิชัย วิบูลย์ลาภ
ผู้จัดการฝ่ายขายบริษัท บี.กริม เฮ็ลธแคร์ จำกัด ผู้นำเข้าเครื่องโอริออน
(ORION) จากประเทศรัสเซียเผย
พลางอธิบายการทำงานของนวัตกรรมนาโนด้านสุขภาพว่า
เนื่องด้วยอวัยวะร่างกายทุกส่วนจะมีค่าความถี่เฉพาะตัว
ดังนั้นเมื่อเครื่องโอริออนส่งคลื่นกระแสความถี่มาตรฐานไปยังอวัยวะภายในที่ต้องการตรวจ
อวัยวะเหล่านั้นก็จะสะท้อนคลื่นกลับมา
ก็จะทำให้ทราบแนวโน้มความเบี่ยงเบนจากค่ามาตรฐาน
เครื่องนี้จะใช้หลักการกระตุ้นเส้นใยประสาทที่สมองให้ปล่อยหน่วยความจำต่างๆ
ที่รับรู้จากอวัยวะทุกส่วนในร่างกายซึ่งแจ้งให้สมองทราบถึงสภาวะความเป็นอยู่และเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับอวัยวะนั้นๆ
แล้วเก็บเป็น data based ไว้ออกมา
ครั้นเครื่องมือได้รับสัญญาณที่ปล่อยออกมาจากสมองแล้วก็จะถ่ายทอดไปยังหน่วยแปลสัญญาณของเครื่องโอริออน
แล้วทำการประมวลผลด้วยคอมพิวเตอร์เพื่อดูแนวโน้มภูมิต้านทานของร่างกาย
จากนั้นจะแสดงรายงานผ่านทางหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นภาพมาตรฐาน
ไม่ใช่ภาพจริงของอวัยวะ พร้อมแสดงเครื่องหมายและแถบสีต่างๆ บนอวัยวะ
ทำให้ทราบถึงสภาวะหรือความแข็งแรงของเซลล์ เนื้อเยื่อ และอวัยวะต่างๆ
ของร่างกายว่าปกติหรือไม่ อย่างไร | ||||
“กระบวนการตรวจร่างกายด้วยเครื่องโอริออนจะใช้เวลาประมาณ
10-15 นาที ปลอดภัย ไม่มีรังสีอันตราย และสะดวกสบาย
คนไข้ไม่ต้องอดน้ำหรืออาหารก่อนตรวจ คนไข้เพียงใส่หูฟังเท่านั้น
เพราะจะใช้หูเป็นช่องทางเข้า-ออกของคลื่น
โดยที่ตัวเฮดโฟนของเครื่องจะมีเซ็นเซอร์คอยรับสัญญาณคลื่นที่ส่งออกไปและสะท้อนกลับออกมา” วุฒิชัยเผยว่าการวัดการสั่นสะเทือนของพลังงานในระดับโมเลกุล
(Molecular Resonance Imaging Technology, MRIT)
นั้นนอกจากจะบ่งบอกแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของเซลล์ในอวัยวะต่างๆ
ของร่างกายได้ก่อนจะมีอาการภายในเวลารวดเร็วแล้ว
ยังตรวจสอบหาสภาวะความเสี่ยงและแนวโน้มของพยาธิสภาพที่อาจเกิดขึ้นได้ด้วย
โดยเฉพาะอวัยวะหลักๆ ของร่างกาย ทั้งสมอง หัวใจ ตับ ไต ปอด กระเพาะอาหาร ลำไส้เล็ก ลำไส้ใหญ่ หลอดลมและขั้วปอด
หรือกระทั่งความเสี่ยงของโรคร้ายอย่างมะเร็งเต้านม ปากมดลูก
หรือต่อมลูกหมาก
รวมทั้งยังทำให้ทราบถึงสภาพความแข็งแรงของกระดูกสันหลังได้ด้วย “เครื่องโอริออนสามารถดูแนวโน้มของโรคก่อนที่จะเกิดอาการได้ เช่น กรณีผู้อยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่จะเป็นโรคมะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งเต้านมหรือปากมดลูกในผู้หญิงนั้น จะตรวจได้ง่าย ไม่ต้องถอดเสื้อผ้า ก็สามารถรู้ได้ว่าตัวเองมีแนวโน้มจะป่วยเป็นมะเร็งก่อนที่จะก่อตัวเป็นเซลล์มะเร็งด้วยซ้ำ โดยดูจากความผิดปกติของสีจากภาพมาตรฐาน เพราะว่าเซลล์เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงจะมีสัญญาณบ่งบอก” วุฒิชัยเผยพลางเน้นว่าการตรวจมะเร็งเต้านมหรือปากมดลูกด้วยเครื่องโอริออนจะมีระดับความแม่นยำ 70-80% ส่วนการตรวจเกี่ยวกับหลอดเลือดจะให้ความแม่นยำ | ||||
ส่วนความจำเป็นในการตรวจซ้ำนั้น
ขึ้นอยู่กับช่วงอายุและความเสี่ยงของคนไข้เป็นสำคัญ เช่น
คนไข้กลุ่มเสี่ยงมะเร็งก็จะต้องตรวจบ่อยครั้งมากกว่าคนไข้กลุ่มปกติ
เฉกเช่นเดียวกับการตรวจสุขภาพด้วยเครื่องมืออื่นๆ
แต่ถ้ารู้อยู่แล้วว่าตัวเองป่วยก็ไม่จำเป็นต้องมาตรวจด้วยวิธีนี้
เพราะเครื่องมือนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ยังไม่รู้ว่าตัวเองป่วย
หรือสงสัยว่าตัวเองป่วย
ที่สำคัญไม่ต้องการเจ็บตัวหรือได้รับผลข้างเคียงจากการตรวจร่างกายดังวิธีอื่นๆ
ที่ต้องใส่สายสวนเข้าไปในร่างกายหรือได้รับรังสีอันตราย ทั้งนี้ การประเมินสภาวะร่างกายด้วยนวัตกรรมนาโนเทคโนโลยีนี้
วุฒิชัยเน้นว่าจะให้น้ำหนักด้านการป้องกันมากกว่าการรักษา
เปรียบเสมือนผู้ช่วยแพทย์ที่จะให้คำวินิจฉัยอาการเบื้องต้น
ก่อนส่งต่อแพทย์หากคนไข้มีแนวโน้มหรือป่วยเป็นโรคร้ายเพื่อทำการรักษาต่อไป อนึ่ง ผู้สนใจสามารถตรวจบริการด้วยเครื่องโอริออนได้บริเวณห้องโถง ชั้น 1 อาคารศูนย์บริจาคโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย |
ที่มา-