ปริญญาใจ ที่ใฝ่หามานาน


[ 16 พ.ย. 2550 ] - [ 18269 ] LINE it!

ผลปฏิบัติธรรม

ดร.อักษรอนงค์ บุศยพงศ์ชัย (สหรัฐอเมริกา)
 
 
    ลูกชื่อ ดร.อักษรอนงค์ บุศยพงศ์ชัย (ดร.เจี๊ยบ) อายุ 46 ปี จาก วัดภาวนาจอร์เจีย สหรัฐอเมริกาค่ะ ตอนเด็กๆ ลูกคิดเสมอว่า เราเกิดมาทำไม ชีวิตนี้ช่างน่าเบื่อ วนเวียนอยู่กับเรื่องเดิมๆ ผู้คนอารมณ์แปรปรวน เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย ไม่มีอะไรยั่งยืน เมื่อไหร่จะจบสิ้น ทำอย่างไรถึงจะไม่ต้องมาเกิดอีก”
 
    คุณพ่อ-คุณแม่ ได้พาลูกเข้าวัดตั้งแต่อยู่ในท้อง คุณแม่เล่าว่า พอตั้งครรภ์ก็รู้สึกอยากไปวัดมาก คุณแม่ทำอาหารไปวัดทุกวัน มีอยู่วันหนึ่ง พระท่านก็ทักว่า “ตัวในมันพามา” (หมายถึงลูกที่อยู่ในท้อง) ลูกจึงได้เรียนรู้ การทำทาน รักษาศีล เจริญภาวนา ตั้งแต่เด็กๆ
 
    ลูกเคยคิดว่า ในเมื่อสามเณรองค์น้อยๆยังมีโอกาสอยู่ในวัดได้ ทำไมแม่ชีน้อยๆ จะทำบ้างไม่ได้ จึงขออนุญาตคุณแม่บวชชีเมื่อตอนอายุ 10ขวบ ในช่วงปิดภาคเรียนฤดูร้อน โดยโกนผมออกจากบ้านไปเลย เพราะเกรงว่าคุณแม่จะเปลี่ยนใจ โดยมี หลวงปู่ฝั้น อาจาโร เป็นผู้บวชให้ ที่วัดป่าอุดมสมพร อำเภอพรรณนานิคม จังหวัดสกลนครค่ะ
 
    อีกเรื่องที่จำได้ติดใจก็คือ ในวัยเด็กคุณพ่อซื้อหนังสือเรื่องพระเจ้า 10ชาติมาให้อ่าน ทำให้ลูกเกิดความฝันในใจว่า
 
1.อยากจะพบเห็นผู้คนมีศีลธรรม นุ่งขาวห่มขาวกันทั้งหมู่บ้าน
2.อยากทำบุญกับพระที่มีแถวบิณฑบาตแถวยาวสุดสายตา แม้นั่งฉันในบ้าน ก็เต็มห้องโถงไปหมด
3.อยากสร้างบารมีกับพระโพธิสัตว์
 
    แต่ความฝันทั้งสามประการของลูก ก็ยังคงเป็นแค่ความฝันอยู่เนิ่นนาน แม้จบปริญญาทั้ง ตรี โท เอก ในทางโลก แต่ปริญญาทางใจ กลับไปไม่ถึงฝัน แม้ข้อสอบสั้นๆของชีวิตว่า “เราเกิดมาทำไม” ก็ไม่สามารถจะหาคำตอบให้ตัวเองได้
 
 
    กระทั่งปี พ.ศ.2537 ลูกเริ่มรู้จักหนทางสู่ปริญญาใจเป็นครั้งแรก จากกัลยาณมิตร ซึ่งเป็นคนพิเศษในดวงใจ คือ กัลยาณมิตร เสนิส บุศยพงศ์ชัย หรือ คุณเท่ห์ สามีของลูก (กำลังจะจบ ดร.ปีหน้านี้แล้วค่ะ) เขาชวนให้ลูกรู้จักวัดพระธรรมกาย โดยให้ฟังมงคลชีวิต 38ประการของพระเดชพระคุณหลวงพ่อทัตตชีโว ยิ่งฟังยิ่งโดนใจ
 
    จากนั้น ลูกก็ได้ไปปฏิบัติธรรมบูชาข้าวพระ ที่บ้านของกัลยาณมิตร ดร.วิวรรณ ธรรมมงคล จนกระทั่งลูกและสามี ได้เป็นรุ่นบุกเบิกสร้าง วัดภาวนาจอร์เจีย ค่ะ นับตั้งแต่เข้าวัด ทำให้ลูกได้เริ่มนั่งสมาธิอีกครั้ง หลังจากเคยนั่งตอนเด็กๆ แบบกำหนดลมหายใจ โดยคุณพ่อเป็นคนสอน จนมีประสบการณ์ ตัวเบาสบาย และเห็นแสงสว่างโพลง หาขอบเขตไม่ได้ ลูกออกจากสมาธิด้วยความตกใจ และมีความสงสัยมานานกับคำว่า “ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเราตถาคต” หมายถึงอะไร แต่ก็ยังไม่ได้รับคำตอบ
 
    ลูกเริ่มนั่งสมาธิ โดยการทำใจสบายๆ เพียงเท่านี้เอง เริ่มแรก รู้สึกเหมือนยืนอยู่บนยอดเขา แล้วมองลงมายังหุบเขา มีดวงไฟเล็กๆ เต็มไปหมด เป็นแสนเป็นล้านดวง จึงมองดวงไฟเหล่านั้นไปเรื่อยๆ สักพักไม่มีอะไรเกิดขึ้น จึงเปลี่ยนมามองดวงเดียว เมื่อมองไปเรื่อยๆ จึงเห็นว่าสิ่งที่เห็นไม่ใช่ดวงไฟ แต่เป็นจอมกระหม่อมขององค์พระ เพราะเห็นเป็นชั้นๆ ยิ่งมองก็ยิ่งมั่นใจว่า เป็นจอมกระหม่อมขององค์พระ และสว่างเหมือนดวงไฟ แต่ไม่รู้สึกร้อน ตอนนั้นแปลกใจมากว่า ทำไมเห็นจากด้านบน จึงมีคำถามว่า “เป็นจอมกระหม่อมขององค์พระ จริงเหรอ”
 
    ถามอยู่สัก 2-3ครั้ง ดวงสว่างนั้นก็ลอยขึ้นมาจากหุบเขาอย่างรวดเร็ว เมื่อเข้ามาใกล้ จุดกลมสว่างนั้นก็พลิกกลายเป็นองค์พระธรรมกายแก้วใส องค์เล็กๆ ขนาดครึ่งองค์คุลีของนิ้วก้อย แม้จะเล็กแต่ก็ใสมากๆ และเห็นทุกสัดส่วน ถึงกับอุทานในใจว่า “โอ้ เราเห็นจริงๆ หรือนี่” เพราะตั้งแต่ปฏิบัติธรรมมา ยังไม่เคยเห็นองค์พระ อย่างนี้เลย ที่แปลกมากๆ คือ เวลาเราเห็นดวงไฟเราจะเห็นเพียงแค่แสงสว่าง แต่ไม่เห็นรายละเอียด แต่การเห็นความสว่างขององค์พระภายใน แม้องค์เล็กจิ๋วแต่รายละเอียดชัดเจนมากๆ ยิ่งมององค์พระ ท่านก็ยิ่งงามมากค่ะ  
 
    การเห็นองค์พระ ทำให้ลูกเข้าใจอย่างแจ่มแจ้งว่า “ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเราตถาคต” เมื่อก่อนนั่งสมาธิ ไม่มีใครบอกลูกเลยว่าในตัวเรามีองค์พระ แต่พอได้พบพระเดชพระคุณหลวงพ่อและนั่งสมาธิอย่างต่อเนื่อง ทำให้รู้แล้วว่า ทุกคนมีองค์พระอยู่ในตัว และสามารถเข้าถึงได้จริงๆ 
 
    ทุกวันนี้ลูกยังสวดมนต์ นั่งสมาธิและดู DMC เป็นประจำ สมาธิทำให้ลูกเกิดปัญญาในการทำงานอย่างมีขั้นตอน มีความคิดสร้างสรรค์มากขึ้น เวลามีปัญหาก็จะมีคำตอบและข้อเสนอแนะดีๆผุดขึ้นมาเอง โดยที่ไม่ได้คิดอะไร หากใช้ภาษาของพระเดชพระคุณหลวงพ่อทัตตชีโว คือ “แตกเป็นช่อง” เจ้าค่ะ
 
    หลังจากได้มาวัด ลูกได้รับคำตอบในทุกคำถามอย่างครบถ้วน เหมือนดั่งได้ปริญญาใจ ปริญญาที่ทำให้จิตใจของลูกสูงขึ้น ลูกรู้แล้วว่า ชีวิตเราเกิดมาทำไม จุดสิ้นสุดของชีวิตอยู่ที่ตรงไหน เมื่อทราบว่า “เราเกิดมาสร้างบารมี” จึงเร่งมือที่จะสั่งสมบุญให้ยิ่งๆขึ้นไป มองเพื่อนร่วมโลกเหมือนญาติพี่น้อง ไม่ใช่เพียงแค่เพื่อนร่วมทุกข์เกิดแก่เจ็บตายอีกต่อไป 
 
 
    ทุกวันนี้ ลูกหาโอกาสที่จะได้บำรุงพระพุทธศาสนา โดยการถวายภัตตาหารพระทุกสัปดาห์ พร้อมทั้งได้ถวายความรู้ทางด้านภาษาอังกฤษ แด่พระภิกษุและบัณฑิตแก้ว เพื่อใช้ในการเผยแผ่วิชชาธรรมกาย และยังได้ช่วยแปลหนังสือ “ครอบครัวอบอุ่น” และ “ในที่สุด...คุณก็ชนะ” เป็นภาษาอังกฤษ ร่วมกับทีมงานด้วยค่ะ
 
    ในที่สุด ความฝันทั้งสามข้อของลูก ก็สมหวังดั่งใจ เมื่อได้มาวัดพระธรรมกาย ลูกรู้ทันทีว่า บรรยากาศของประชาชนที่มีศีลธรรม นุ่งขาวห่มขาวกันทั้งหมู่บ้าน ดังที่อ่านในหนังสือนั้นเป็นอย่างไร รวมถึงได้เห็นพระภิกษุมากมายมารวมกัน และทำบุญกับท่าน และที่สำคัญข้อสุดท้าย ความฝันที่จะได้สร้างบารมีกับพระโพธิสัตว์ บัดนี้ความปรารถนาของลูกสำเร็จแล้ว
 
    ลูกมีโอกาสเข้าพบพระเดชพระคุณหลวงพ่อ และพระเดชพระคุณหลวงพ่อได้เมตตาถามผลการปฏิบัติธรรมเมื่อ 3-4ปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ ยังได้ชมบารมีของคุณครูไม่ใหญ่ทุกวันผ่านทาง DMC ด้วยค่ะ ครั้งแรกที่พระเดชพระคุณเห็นหลวงพ่อ ลูกรู้สึกว่า พระเดชพระคุณหลวงพ่องดงามผ่องใสมาก นิ้วมือเรียวยาว สวยงาม วาจาไพเราะ แม้จะพูดคุยแบบกันเอง แต่ทุกคำแฝงด้วยคุณค่า ทำให้ DMC เป็นเหมือนเรือบรรทุกอนันตทรัพย์มาเทียบท่าถึงบ้าน
 
 
    วิสัยทัศน์ของพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ก็เป็นเยี่ยม โดยเฉพาะการสร้างสถานที่รองรับพุทธบุตรเรือนล้านทั่วโลก ปัจจุบันลูกคิดแต่เพียงว่า เมื่อพบพระเดชพระคุณหลวงพ่อแล้ว จะทำตามสิ่งที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อบอกอยู่เสมอคือ “ว่าอย่างไรก็ต้องว่าตามกัน” พระเดชพระคุณหลวงพ่อชวนไปที่สุดแห่งธรรม ก็ไปด้วยกัน พระเดชพระคุณหลวงพ่อชวนมาช่วยกันสร้างหลังคา ก็มาช่วยกัน
 
    ลูกขอกราบขอบพระคุณ พระเดชพระคุณหลวงพ่อ ที่เมตตาลงสอนธรรมะผ่านทาง DMC ทุกวัน และได้ส่งพระลูกชายที่งดงามด้วยศีลาจารวัตร ให้มาเป็นเนื้อนาบุญแก่ลูกๆในต่างแดน พร้อมทั้งยังส่งบัณฑิตแก้ว ที่มีความอดทนตั้งใจทำงานอย่างไม่ย่อท้อ มาเป็นกำลังสำคัญในการเผยแผ่พระพุทธศาสนา ให้แก่ชาวแอตแลนต้าอีกด้วย ลูกจะตั้งใจตามติด ติดตามสร้างบารมีไปจนถึงที่สุดแห่งธรรมค่ะ


Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
แค่ทำง่ายๆสบายๆ แค่นี้เองแค่ทำง่ายๆสบายๆ แค่นี้เอง

แค่มองดูเท่านั้น ไม่ต้องคิดอะไรแค่มองดูเท่านั้น ไม่ต้องคิดอะไร

ชีวิตใหม่ในเส้นทางสายกลางชีวิตใหม่ในเส้นทางสายกลาง



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

ผลการปฏิบัติธรรมนานาชาติ