ขันธปริตตชาดก ชาดกว่าด้วยพระปริตรป้องกันสัตว์ร้ายต่าง ๆ


[ 10 ก.ค. 2564 ] - [ 18273 ] LINE it!

ชาดก 500 ชาติ

ขันธปริตตชาดก-ชาดกว่าด้วยพระปริตรป้องกันสัตว์ร้ายต่าง ๆ

กลุ่มภิกษุกำลังช่วยกันผ่าฟืนริมประตูเรือนไฟ

กลุ่มภิกษุกำลังช่วยกันผ่าฟืนริมประตูเรือนไฟ
  
       ในสมัยพุทธกาลเมื่อครั้งที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าประทับอยู่ ณ พระเชตวันมหาวิหาร ทรงปรารภภิกษุรูปหนึ่งตรัสพระธรรมเทศนานี้ ครั้งนั้น
มีภิกษุกลุ่มหนึ่งกำลังช่วยกันผ่าฝืนกันอยู่ที่ประตูเรือนไฟ
 
งูออกมาจากร่องไม้ฟืนที่กลุ่มภิกษุกำลังผ่ากันอยู่
 
งูออกมาจากร่องไม้ฟืนที่กลุ่มภิกษุกำลังผ่ากันอยู่
 
        “ อ้าว เร่งมือกันหน่อย นี่ก็ใกล้เวลาทำวัตรเย็นแล้ว ” “ ก็เร่งอยู่นี่ไง เจ้าเองก็อย่าชักช้าล่ะ ” ในขณะที่ภิกษุเหล่านั้นกำลังเร่งหาฟืนอยู่นั้น
งูตัวหนึ่งที่กำลังหลับอยู่ในร่องไม่ผุได้ยินเสียงผ่าฟืนก็ตื่นขึ้น แล้วเลื้อยออกมาจากไม้นั้น

งูพิษได้กัดภิกษุรูปหนึ่งที่กำลังผ่าฟืน
 
งูพิษได้กัดภิกษุรูปหนึ่งที่กำลังผ่าฟืน
 
        แล้วตรงเข้ากัดที่เท้าของภิกษุรูปหนึ่งมรณภาพทันที “ หนอย งูกำลังหลับกำลังนอน น่ารำคาญจริง แบบนี้ต้องโดนดี นี่แน่ะ ๆ ” “ โอ้ย ช่วยข้าด้วย
ข้าถูกงูกัด ” “ ทำใจดี ๆ เอาไว้ เดี๋ยวข้าตามคนมาช่วย ลืมตาสิ เจ้าอย่างเพิ่งตาย ”
 
ภิกษุตื่นตกใจเมื่อรู้ว่ามีอะไรบางอย่างกัดที่เท้าของตน
 
ภิกษุตื่นตกใจเมื่อรู้ว่ามีอะไรบางอย่างกัดที่เท้าของตน
 
        เรื่องที่ภิกษุถูกงูกัดจนมรณภาพนี้ได้ปรากฏไปทั่ววัด ภิกษุทั้งหลายต่างพากันสนทนาในเรื่องนี้ที่โรงธรรม “ ภิกษุนั้น ถูกงูกัดที่หน้าประตูเรือนไฟ
นั้นแหละ ” “ เจ้างูนี่ร้ายจริง ๆ เห็นว่าพอกัดแล้ว ภิกษุนั้นก็มรณะภาพทันทีเลย ”

ภิกษุรูปหนึ่งมรณภาพทันทีหลังจากถูกงูกัด
 
ภิกษุรูปหนึ่งมรณภาพทันทีหลังจากถูกงูกัด
 
        “ โอโห้น่ากลัวจริง ๆ เลย เป็นแบบนี้ข้าก็ไม่กล้าไปผ่าฝืนแถวนั้นแล้วหล่ะ ” พระศาสดาเสด็จมาเห็นภิกษุเหล่านั้นกำลังจับกลุ่มสนทนากันอยู่
จึงทรงตรัสถาม “ ดูกร ภิกษุทั้งหลาย พวกเธอนั่งสนทนากันด้วยเรื่องอะไร ”
 
เหล่าภิกษุต่างพากันพูดถึงเรื่องงูพิษที่กัดภิกษุตาย
 
เหล่าภิกษุต่างพากันพูดถึงเรื่องงูพิษที่กัดภิกษุตาย
        
       “ พวกเราสนทนากันเรื่องที่มีภิกษุถูกงูกัดมรณะพระเจ้าค่ะ ” “ พวกเรากลัวจะถูกงูกัด จนไม่มีใครกล้าไปแถวนั้นอีกพระเจ้าค่ะ ” “ ดูกรภิกษุทั้งหลาย
หากภิกษุรูปนั้นจักได้เจริญเมตตาแผ่ถึงตระกูลพญางูทั้ง ๔ แล้ว งูก็จะไม่กัดภิกษุนั้น แม้ดาบสทั้งหลายซึ่งเป็นบัณฑิตแต่ปางก่อน
 
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทอดพระเนตรเห็นกลุ่มภิกษุกำลังสนทนากันอย่างเคร่งเครียด
 
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทอดพระเนตรเห็นกลุ่มภิกษุกำลังสนทนากันอย่างเคร่งเครียด
 
       เมื่อพระพุทธเจ้ายังไม่ได้อุบัติก็ได้เจริญเมตตาในพญางูทั้ง ๔ ปลอดภัยอันจะเกิดเพราะอาศัยตระกูลพญางูเหล่านั้น ” พระศาสดาตรัสดังนั้นแล้ว
จึงทรงนำเรื่องราวในอดีตมาแสดงดังนี้ 
ในอดีตกาลครั้งพระเจ้าพรหมทัตทรงเสวยราชสมบัติอยู่ในกรุงพาราณสี
 
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสถามกลุ่มภิกษุที่กำลังสนทนากันอยู่
 
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสถามกลุ่มภิกษุที่กำลังสนทนากันอยู่
     
        พระโพธิสัตว์อุบัติในตระกูลพราหมณ์แคว้นกาสี ครั้นเจริญวัยพระโพธิสัตว์ก็สละกามสุขออกบวชเป็นฤาษี สร้างอาศรมบทที่คุ้งแม่น้ำแห่งหนึ่ง
ในหิมวันตประเทศ “ ความสุขทางโลก มิใช่ความสุขที่แท้จริง เราควรสละเสียดีกว่า ”
 
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสเล่า ขันธปริตตชาดก
 
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสเล่า ขันธปริตตชาดก
 
        เมื่อออกบวชเป็นฤาษีแล้ว พระโพธิสัตว์ก็ได้บำเพ็ญเพียรจนเกิดอภิญญาและสมาบัติ เป็นที่นับถือของฤาษีในป่านั้น และเป็นครูประจำคณะ
ของหมู่ฤาษีทั้งหลาย “ ฤาษีผู้นี้บำเพ็ญเพียรจนสำเร็จฌาน ช่างน่าเลื่อมใสนัก ”
 
พระโพธิสัตว์ได้บังเกิดในตระกูลพราหมณ์แห่งแคว้นกาสี
 
พระโพธิสัตว์ได้บังเกิดในตระกูลพราหมณ์แห่งแคว้นกาสี
 
       “ พวกเราขอฝากตัวเป็นศิษย์ท่าน ขอท่านจงรับเราเอาไว้ด้วยเถิด ” “ ถ้าเช่นนั้นพวกท่านทั้งหลายจงตั้งใจบำเพ็ญเพียรเพื่อให้เกิดอภิญญาและสมาบัติเถิด ”
ณ ที่ฝั่งแม่น้ำที่คณะฤาษีของพระโพธิสัตว์อาศัยอยู่นั้น มีงูพิษนานาชนิดอาศัยอยู่ งูได้กัดฤาษีเสียชีวิตไปหลายตน

พระโพธิสัตว์ได้ออกบวชเป็นฤาษี
 
พระโพธิสัตว์ได้ออกบวชเป็นฤาษี
  
        “ งู งู ช่วยด้วย ข้าโดยงูกัด ช่วยข้าด้วย ” “ ทางนี้ก็มี ป่าแห่งนี้มีงูมากมายเหลือเกิน ” เรื่องที่ฤาษีถูกงูกัดตายไปหลายตนนั้น นับวันก็ยิ่งเพิ่มจำนวนมากขึ้น
สร้างความหวาดกลัวให้กับฤาษีทั้งหลายในคณะของพระโพธิสัตว์ยิ่งนัก “ ไม่ไหวแล้ว ข้ากลัวเหลือเกิน ”
 
บรรดาฤาษีทั้งหลายต่างพากันยกให้ฤาษีโพธิสัตว์เป็นอาจารย์ของพวกตน    

บรรดาฤาษีทั้งหลายต่างพากันยกให้ฤาษีโพธิสัตว์เป็นอาจารย์ของพวกตน
 
        “ วันนี้ก็มีฤาษีถูกงูกัดตายอีกแล้ว ” “ ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป พวกเราก็คงไม่รอดเหมือนกัน ” เมื่อพระโพธิสัตว์เห็นว่าฤาษีทั้งหลายต่างพากันหวาดกลัว
งูพิษนั้น จึงเรียกประชุมและให้โอวาทแก่ฤาษีทั้งหลาย “ หากพวกท่านเจริญเมตตาในตระกูลพญางูทั้ง ๔ งูทั้งหลายก็จะไม่กัดพวกท่าน
 
ริมฝั่งแม่น้ำใกล้ๆ ที่ฤาษีพักมีงูพิษอาศัยอยู่มากมาย
 
ริมฝั่งแม่น้ำใกล้ๆ ที่ฤาษีพักมีงูพิษอาศัยอยู่มากมาย
  
       เพราะฉะนั้นตั้งแต่นี้ไป พวกท่านจงเจริญเมตตาในพญางูทั้ง ๔ เถิด ” พระโพธิสัตว์บอกให้ฤาษีทั้งหลายเจริญเมตตาแก่พญางูทั้ง ๔ แล้วจึงกล่าวคาถา 
“ ขอไมตรีจิตของเราจงมีกับตระกูลพญางู วิรูปักขะ ขอไมตรีจิตของเราจงมีกับตระกูลพญางู เอราปถะ ขอไมตรีจิตของเราจงมีกับตระกูลพญางู ฉัพยาปุตตะ

ฤาษีหลายตนถูกงูพิษกัดตาย
 
ฤาษีหลายตนถูกงูพิษกัดตาย
 
        ขอไมตรีจิตของเราจงมีกับตระกูลพญางู กัณหาโคตมะ” พระโพธิสัตย์ครั้นแสดงตระกูลพญางูทั้ง ๔ แล้ว จึงกล่าวคาถาต่อ ขอไมตรีจิตของเราจงมีกับสัตว์
ที่ไม่มีเท้า 
ขอไมตรีจิตของเราจงมีกับสัตว์สองเท้า ขอไมตรีจิตของเราจงมีกับสัตว์สี่เท้า

บรรดาฤาษีทั้งหลายต่างพากันหวาดกลัวงูพิษที่มีจำนวนมาก
 
บรรดาฤาษีทั้งหลายต่างพากันหวาดกลัวงูพิษที่มีจำนวนมาก     
 
       ขอไมตรีจิตของเราจงมีกับสัตว์ที่มีเท้ามาก ขอสัตว์ที่ไม่มีเท้า สัตว์ที่มีสองเท้า สัตว์ที่มีสี่เท้า สัตว์ที่มีเท้ามากอย่าได้เบียดเบียนเราเลย ทั้งมวลจงพบ
กับความเจริญ ความชั่วช้าอย่าได้มาแผ้วพานสัตว์ตนใดตนหนึ่งเลย พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
 
ฤาษีโพธิสัตว์ได้บอกให้ศิษย์ของตนแผ่เมตตาให้กับเหล่าสัตว์ทั้งหลาย
 
ฤาษีโพธิสัตว์ได้บอกให้ศิษย์ของตนแผ่เมตตาให้กับเหล่าสัตว์ทั้งหลาย
 
        มีพระคุณหาประมาณมิได้ บรรดาสัตว์เลื้อยคลาน คือ งู แมลงป่อง แมลงมุม ตุ๊กแกและหนูมีคุณหาประมาณไม่ได้ เราได้ทำการรักษา ทำการปกป้อง
ไว้แล้ว ขอสัตว์ทั้งหลายผู้มีชีวิตจงพากันหลีกไป ข้าพเจ้าขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า

พระโพธิสัตว์ได้แผ่เมตตาให้กับพญางูทั้ง ๔ ตระกูล
 
พระโพธิสัตว์ได้แผ่เมตตาให้กับพญางูทั้ง ๔ ตระกูล
 
       ขอนอบน้อมพระพุทธเจ้าทั้ง ๗ พระองค์ ” พระโพธิสัตว์ผูกพระปริตนี้ให้แก่คณะฤาษีแล้ว ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา คณะฤาษีก็ตั้งอยู่ในโอวาทของ
พระโพธิสัตว์ เจริญเมตตา ระลึกถึงพระพุทธคุณ เมื่อฤาษีรำลึกถึงพระพุทธคุณอยู่อย่างนี้
 
พระโพธิสัตว์ได้แผ่เมตตาให้กับสัตว์สี่เท้า
 
พระโพธิสัตว์ได้แผ่เมตตาให้กับสัตว์สี่เท้า
 
       บรรดางูทั้งหลายทั้งหมดต่างก็หนีไป แม้พระโพธิสัตว์ก็เจริญพรหมวิหาร มีพรหมโลกเป็นที่ไปในเบื้องหน้า เมื่อพระศาสดาแสดงพระธรรมเทศนา
จบแล้วจึงทรงอนุญาตให้ภิกษุทั้งหลายแผ่เมตตาไปยังตระกูลพญางูทั้ง ๔ 
 
พระศาสดาทรงให้ภิกษุทั้งหลายแผ่เมตตาจิตไปยังพญางูทั้ง ๔ ตระกูล
 
พระศาสดาทรงให้ภิกษุทั้งหลายแผ่เมตตาจิตไปยังพญางูทั้ง ๔ ตระกูล

        “ ภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้ภิกษุแผ่เมตตาจิตไปยังตระกูลพญางู ๔ จำพวกนี้ เพื่อคุ้มครองตน เพื่อรักษาตน เพื่อป้องกันตน ” พระศาสดาทรงนำพระเทศนา
นี้มาแล้วทรงประชุมชาดก

พระศาสดาทรงประชุมชาดกแก่เหล่าคณะสงฆ์
 
พระศาสดาทรงประชุมชาดกแก่เหล่าคณะสงฆ์

 คณะฤาษีในครั้งนั้น ได้เป็น เหล่าภิกษุในครั้งนี้
ครูประจำคณะ คือเราตถาคตนี้แล

 
 


Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
สุวรรณหังสชาดก ชาดกว่าด้วยความโลภสุวรรณหังสชาดก ชาดกว่าด้วยความโลภ

กัณหทีปายนชาดก ชาดกว่าด้วยความรักที่มีต่อบุตรกัณหทีปายนชาดก ชาดกว่าด้วยความรักที่มีต่อบุตร

สรภชาดก ชาดกว่าด้วยละมั่งทำคุณแก่พระราชาสรภชาดก ชาดกว่าด้วยละมั่งทำคุณแก่พระราชา



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

นิทานชาดก 500 ชาติ