ฌานโสธนชาดก ชาดกว่าด้วยสุขเกิดจากสมาบัติ


[ 13 เม.ย. 2566 ] - [ 18284 ] LINE it!

ชาดก 500 ชาติ

ฌานโสธนชาดก-ชาดกว่าด้วยสุขเกิดจากสมาบัติ

พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงประทับอยู่ ณ พระเชตวันมหาวิหาร

พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงประทับอยู่ ณ พระเชตวันมหาวิหาร
  
       ในสมัยพุทธกาลเมื่อครั้งที่พระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าประทับอยู่ ณ พระเชตวันมหาวิหารทรงปรารภการที่พระสารีบุตรสามารถพยากรณ์ปัญหา
ที่พระองค์ตรัสถามโดยย่อได้อย่างพิศดาร ณ ประตูสังกัสนครจึงตรัสพระธรรมเทศนานี้ ครั้งนั้นพระศาสดาเสด็จลงจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์สู่โลกมนุษย์
 
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเสด็จลงมาจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์
 
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเสด็จลงมาจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์
 
        ณ ประตูสังกัสนคร ในท่ามกลางหมู่มหาชนนั้นพระพุทธองค์ได้ตรัสถามปัญหาในวิสัยของปุถุชนเป็นต้น พวกปุถุชนแก้ปัญหาได้ในวิสัยของตนเท่านั้น
ไม่สามารถจะแก้ปัญหาในวิสัยของพระโสดาบันได้ พระโสดาบันไม่สามารถจะแก้ปัญหาในวิสัยของพระสกทาคามีได้
 
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้เสด็จมายังท่ามกลางหมู่มหาชน
 
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้เสด็จมายังท่ามกลางหมู่มหาชน
 
        พระมหาสาวกที่เหลือไม่สามารถจะแก้ปัญหาในวิสัยของพระมหาโมคคัลลานะ พระมหาโมคคัลลานะไม่สามารถแก้ปัญหาในวิสัยของพระสารีบุตรเถระ
แม้พระสารีบุตรเถระก็ไม่สามารถจะแก้ปัญหาในวิสัยของพระพุทธเจ้าได้ “ คำถามยากเช่นนี้พวกเราไม่สามารถตอบได้หรอกพระเจ้าค่ะ ”

พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสถามปัญหาในวิสัยของปุถุชน
 
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสถามปัญหาในวิสัยของปุถุชน
 
      “ คงต้องให้พระสารีบุตรพระอัครสาวกผู้มีปัญญามาตอบคำถามแล้ว ” พระสารีบุตรนั้นแม้ได้ชื่อว่าเป็นผู้มีปัญญามาก แต่ก็ไม่สามารถตอบคำถาม
ของพระศาสดาได้ พระศาสดาจึงทรงชี้แนะ ทำให้พระสารีบุตรสามารถตอบคำถามของพระองค์ได้โดยละเอียด

พระโสดาบันไม่สามารถแก้ปัญหาของพระสกิทาคามีได้
 
พระโสดาบันไม่สามารถแก้ปัญหาของพระสกิทาคามีได้
 
        เรื่องราวในครั้งนี้ทำให้ภิกษุทั้งหลายยกย่องสรรเสริญถึงปัญญาของพระสารีบุตร “ พวกท่านทั้งหลาย คำถามที่พระพุทธองค์ทรงถามพวกเรานั้น
มีเพียงพระสารีบุตรเท่านั้นที่สามารถแก้ปัญหาได้ ” “ สมแล้วที่เป็นพระอัครสาวกเบื้องขวาของพระบรมศาสดา ”
 
เหล่าสาวกทั้งหลายไม่สามารถแก้ปัญหาในวิสัยของพระโมคคัลลานะได้
 
เหล่าสาวกทั้งหลายไม่สามารถแก้ปัญหาในวิสัยของพระโมคคัลลานะได้
        
       ในขณะที่ภิกษุทั้งหลายสนทนากันอยู่นั้นพระศาสดาเสด็จผ่านมา เมื่อทรงทราบเรื่องที่ภิกษุทั้งหลายสนทนาแล้ว จึงตรัสกับภิกษุเหล่านั้น “ ดูก่อน
ภิกษุทั้งหลาย สารีบุตรีแก้ปัญหาที่มหาชนไม่สามารถจะแก้ได้ในเฉพาะบัดนี้เท่านั้นก็หามิได้ แม้ในกาลก่อนเธอก็สามารถแก้ปัญหามาได้แล้วเหมือนกัน ”

พระโมคคัลลานะก็ไม่สามารถแก้ปัญหาในวิสัยของพระสารีบุตรได้
 
พระโมคคัลลานะก็ไม่สามารถแก้ปัญหาในวิสัยของพระสารีบุตรได้
 
       “ เรื่องราวนั้นเป็นเช่นไรพระเจ้าค่ะ ขอพระองค์ทรงเล่าให้พวกหม่อมฉันฟังด้วยเถิด ” ภิกษุทั้งหลายกราบทูลอาราธนาแล้ว พระศาสดาจึงทรง
นำเรื่องในอดีตมาสาทกดังต่อไปนี้ 
ในอดีตกาลเมื่อพระเจ้าพรหมทัตเสวยราชสมบัติอยู่ในกรุงพาราณสี มีพราหมณ์ผู้หนึ่งหลังจากศึกษาวิชชา
 
เหล่าภิกษุทั้งหลายต่างยกย่องสรรเสริญในการแก้ปัญหาของพระสารีบุตร
 
เหล่าภิกษุทั้งหลายต่างยกย่องสรรเสริญในการแก้ปัญหาของพระสารีบุตร
     
        จบมาจากสำนักตักศิลาแล้ว เกิดความเบื่อหน่ายในกาม จึงละกามออกไปบวชอยู่ในป่าหิมพานต์ “ ชีวิตฆารวาสช่างน่าเบื่อแท้ ออกบวชหาความสงบดีกว่า ”
เมื่อออกบวชแล้วดาบสนั้นก็บำเพ็ญเพียรจนสามารถทำฌานและอภิญญาให้บังเกิดขึ้นได้ บรรดาดาบสทั้งหลายที่อยู่ในป่านั้นต่างก็มาฝากตัวเป็นศิษย์
 
ภิกษุทั้งหลายได้กราบทูลอาราธนาให้พระพุทธองค์ทรงตรัสเล่าเรื่องราวในอดีต
 
ภิกษุทั้งหลายได้กราบทูลอาราธนาให้พระพุทธองค์ทรงตรัสเล่าเรื่องราวในอดีต
 
        “ ท่านอาจารย์โปรดรับข้าเป็นศิษย์ด้วยเถิด ” “ เรายินดีรับเจ้าเป็นศิษย์จากนี้ไปจงตั้งใจศึกษาเถิด ” ดาบสผู้เป็นอาจารย์ทำการสอนการฝึกกสิณ
และฌานสมาบัติให้แก่พวกศิษย์ทั้งหลาย ต่อมาลูกศิษย์เอกของดาบสได้พาลูกศิษย์อีกกลุ่มหนึ่งจาริกธุดงค์ไปในเขตเมือง
 
พระศาสดาทรงนำเรื่องราวในอดีต ฌานโสธนชาดกมาตรัสเล่าแก่เหล่าภิกษุสงฆ์
 
พระศาสดาทรงนำเรื่องราวในอดีต ฌานโสธนชาดกมาตรัสเล่าแก่เหล่าภิกษุสงฆ์
 
       “ พวกเจ้าจงดูแลอาจารย์ให้ดี ข้าและศิษย์อื่น ๆ จะไปธุดงค์ ” “ ไม่ต้องห่วง ข้าจะดูแลอาจารย์และสำนักของเราเป็นอย่างดี ” เมื่อศิษย์เอกออกจาริก
ธุดงค์แล้ว เวลาต่อมาดาบสผู้เป็นอาจารย์ก็ได้อาพาธหนักใกล้จะมรณะภาพ ศิษย์ทั้งหลายต่างมาชุมนุมกันเพื่อดูใจผู้เป็นอาจารย์

พระเจ้าพรหมทัตทรงเสวยราชสมบัติ ณ กรุงพาราณสี
 
พระเจ้าพรหมทัตทรงเสวยราชสมบัติ ณ กรุงพาราณสี
  
        “ ต่อไปเมื่อไม่มีท่านอาจารย์ แล้วพวกเราจะอยู่ยังไง ” “ สังขารทั้งหลายไม่เที่ยง เกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นเรื่องธรรมดา เจ้าเป็นนักบวชเรื่องแค่นี้
ยังไม่เข้าใจอีกหรือ ” ศิษย์ทั้งหลายสงสัยว่าอาจารย์ของตนนั้นได้บรรลุธรรมพิเศษอะไรบ้างหรือไม่ เมื่อรู้ว่าผู้เป็นอาจารย์กำลังจะจากไปแล้ว
       
พราหมณ์หนุ่มได้เดินทางกลับมาบ้านเมืองตนหลังจากเรียนจบจากสำนักตักศิลา
 
พราหมณ์หนุ่มได้เดินทางกลับมาบ้านเมืองตนหลังจากเรียนจบจากสำนักตักศิลา
  
       ศิษย์เหล่านั้นจึงซักถามในสิ่งที่ตนสงสัย “ ท่านอาจารย์ ข้ามีเรื่องสงสัยมานานแล้ว ขออาจารย์ตอบข้อสงสัยข้าด้วยเถิด ” “ เจ้ามีอะไรอยากรู้ก็ถามมาเถิด ”
“ ท่านอาจารย์ท่านสำเร็จธรรมวิเศษขั้นใดรึ ” “ ข้าไม่มีธรรมะวิเศษอะไรตามที่เจ้าว่ามาหรอก ” หลังจากตอบคำถามศิษย์ทั้งหลายแล้ว

พราหมณ์หนุ่มได้ออกบวชและได้ไปอาศัยอยู่ในป่าหิมพานต์
 
พราหมณ์หนุ่มได้ออกบวชและได้ไปอาศัยอยู่ในป่าหิมพานต์
 
        ดาบสผู้เป็นอาจารย์ก็ละสังขารไปเกิดในพรหมโลกชั้นที่ที่ ๖ ชื่อว่าอภัสราพรหมอันเป็นที่อยู่ของผู้ที่ได้ฌาน ๒ อย่างละเอียด แท้จริงแล้วดาบสนั้น
สามารถไปเกิดในพรหมโลกที่สูงสุดได้ เพราะได้ฌานขั้นสูงสุดคือ เนวสัญญานาสัญญาญตน แต่ที่ไม่ยอมไปเกิดในพรหมโลกเพราะว่าอรูปพรหม

เหล่าดาบสทั้งหลายต่างพากันมาฝากตัวเป็นศิษย์กับพราหมณ์หนุ่ม
 
เหล่าดาบสทั้งหลายต่างพากันมาฝากตัวเป็นศิษย์กับพราหมณ์หนุ่ม
 
       มีอายุยาวนานเกินไป และไม่มีอวัยวะคือ ตา หู เป็นต้น ในการติดต่อกับโลกภายนอกได้ จึงทำให้อรูปพรหมนี้ไม่เหมาะที่จะไปอยู่อย่างยิ่ง พวกลูกศิษย์ได้ฟัง
คำตอบของอาจารย์แล้วก็เกิดความเข้าใจผิดคิดว่าอาจารย์ที่ตนเคารพไม่มีคุณธรรมอะไรเลย “ โธ่ ที่แท้อาจารย์ก็ไม่ได้มีคุณธรรมวิเศษอะไรเลย ”
 
ศิษย์เอกของพราหมณ์ได้ฝากให้ลูกศิษย์กลุ่มหนึ่งดูแลอาจารย์ในขณะที่ตนไม่อยู่
 
ศิษย์เอกของพราหมณ์ได้ฝากให้ลูกศิษย์กลุ่มหนึ่งดูแลอาจารย์ในขณะที่ตนไม่อยู่
 
        “ ข้าอุตส่าห์ฝากตัวเป็นศิษย์ตั้งใจศึกษาตั้งนาน ” “ ใช่ ๆ ๆ เสียเวลาจริง ๆ ” พวกลูกศิษย์ช่วยกันทำศพผู้เป็นอาจารย์ไปฌาปนกิจในป่าช้าโดยไม่ได้
จัดเครื่องสักการะที่สมเกียรติยศให้แก่ท่านแต่ประการใด “ ฮือ ๆๆ ” “ เจ้าจะเสียใจให้กับอาจารย์ที่ไม่มีคุณวิเศษอะไรเลยไปทำไม ”
 
พราหมณ์ดาบสได้เกิดอาพาธหนักในขณะที่ศิษย์เอกของตนไม่อยู่
 
พราหมณ์ดาบสได้เกิดอาพาธหนักในขณะที่ศิษย์เอกของตนไม่อยู่
 
       “ ใครว่าข้าเสียใจให้อาจารย์ ข้าเสียใจที่หลงผิดมาฝากตัวเป็นศิษย์สำนักนี้ต่างหากล่ะ ” “ จริงของเจ้า เสียเวลามาหลายปี ” ฝ่ายศิษย์เอกกลับจาริกธุดงค์
แล้วไม่เห็นอาจารย์จึงไปถามศิษย์อื่น ๆ จึงรู้ว่าอาจารย์มรณภาพไปแล้ว “ ท่านอาจารย์ข้าเสียใจจริง ๆ ที่ไม่ได้อยู่ดูใจท่าน ”
 
บรรดาลูกศิษย์ได้ถามถึงคุณธรรมคุณวิเศษของอาจารย์ก่อนที่จะมรณภาพ
 
บรรดาลูกศิษย์ได้ถามถึงคุณธรรมคุณวิเศษของอาจารย์ก่อนที่จะมรณภาพ
 
       ดาบสผู้เป็นศิษย์เอกนั้นก็มีความใคร่รู้ในคุณวิเศษของอาจารย์เช่นกัน เมื่อทำใจได้แล้วจึงถามเรื่องนี้กับศิษย์ร่วมสำนัก “ ก่อนอาจารย์จะสิ้นใจพวกเจ้า
ได้ถามถึงคุณวิเศษในตัวอาจารย์หรือเปล่า ” “ อาจารย์ไม่มีคุณธรรมอะไรในตัวแม้แต่นิดเดียว ” “ เจ้าพูดจริงรึ ” “ จริงสิ ข้าก็ได้ยินเต็มสองรูหู ”
 
พราหมณ์ดาบสนั้นได้สำเร็จฌาน ๘ สามารถไปเกิดเป็นอรูปพรหมได้
 
พราหมณ์ดาบสนั้นได้สำเร็จฌาน ๘ สามารถไปเกิดเป็นอรูปพรหมได้

        “ ใช่ พวกเราผิดหวังในตัวอาจารย์มาก ก็เลยไม่ได้จัดงานศพให้อาจารย์ ” ผู้เป็นศิษย์เอกได้ฟังดังนั้นก็ได้รู้ว่าอาจารย์ได้ฌานขั้นที่ ๘ คือ เนวสัญญานา-
สัญญาญตนแล้วจึงกล่าวตำหนิศิษย์ร่วมสำนักเหล่านั้น “ พวกเจ้าใช้ไม่ได้จริง ๆ ที่อาจารย์พูดแบบนั้นหมายความว่าท่านได้ฌานที่ ๘

เหล่าศิษย์ทั้งหลายพาร่างอาจารย์ไปฌาปนกิจในป่าช้า
 
เหล่าศิษย์ทั้งหลายพาร่างอาจารย์ไปฌาปนกิจในป่าช้า

       คือ เนวสัญญานาสัญญาญตน หาใช่ผู้ไม่มีธรรมวิเศษ ” “ จริงหรือ ท่านพูดปกป้องอาจารย์เกินไปหรือเปล่า ” “ นั่นสิ ใครๆ ก็รู้ว่าท่านเคารพอาจารย์มาก
ถึงได้พูดเข้าข้างอาจารย์แบบนี้ ” บรรดาศิษย์ไม่เชื่อคำของดาบสผู้เป็นศิษย์เอก ด้วยคิดว่าดาบสนั้นกล่าวเพื่อปกป้องอาจารย์เท่านั้นหาได้เป็นจริงไม่

บรรดาศิษย์ทั้งหลายต่างพากันเข้าใจผิดคิดว่าอาจารย์ของตนไม่มีคุณวิเศษแต่ประการใด

บรรดาศิษย์ทั้งหลายต่างพากันเข้าใจผิดคิดว่าอาจารย์ของตนไม่มีคุณวิเศษแต่ประการใด
 
      “ พวกข้าไม่เชื่อท่านหรอก ตอนที่อาจารย์ไม่สบายข้ายังเคยได้ยินอาจารย์ว่า บางครั้งเราก็จำได้ บางครั้งเราก็จำไม่ได้ ” “ อาจารย์ป่วยจนเลอะเลือนนะสิ ”
“ พวกเจ้านั้นแหละที่เลอะเลือน ที่พวกเจ้าไม่เข้าใจเพราะเข้าไม่ถึงฌานต่างหาก ” “ ท่านอย่าโม้ไปหน่อยเลย พูดแบบนี้หมายความว่าท่าน
 
บรรดาศิษย์ทั้งหลายต่างไม่เชื่อในคำพูดของศิษย์เอกที่บอกว่าอาจารย์ของตนมีคุณวิเศษ
 
บรรดาศิษย์ทั้งหลายต่างไม่เชื่อในคำพูดของศิษย์เอกที่บอกว่าอาจารย์ของตนมีคุณวิเศษ
 
       เข้าถึงฌานอย่างนั้นรึ ” “ ถึงท่านจะเป็นศิษย์เอกก็ไม่ได้หมายความว่าท่านจะมีดีกว่าพวกเราหรอกนะ ” “ ใช่ ว่าแต่พวกเรามีดีอะไรบ้างล่ะ ” ในขณะนั้น
ท่านอาจารย์ผู้ได้ไปเกิดในอภัสราพรหมได้ทราบเรื่องที่บรรดาศิษย์ทั้งหลายไม่เชื่อในคำของศิษย์เอกท่านจึงหายตัวจากพรหมโลกมายืนลอยเด่น
 
พราหมณ์อาจารย์ได้ลงมาจากชั้นอาภัสราพรหมเพื่อมาหาศิษย์ของตน
 
พราหมณ์อาจารย์ได้ลงมาจากชั้นอาภัสราพรหมเพื่อมาหาศิษย์ของตน
 
      เป็นสง่าอยู่กลางอากาศในเบื้องบนสำนัก แล้วจึงกล่าวแก่ศิษย์ทั้งหลาย “ พวกเจ้าทั้งหลายช่างโง่เขลานัก ศิษย์ผู้พี่บอกความจริงก็ยังไม่เชื่อ
เราจะบอกความจริงให้พวกเจ้ารู้ ” “ นั่น นั่น อาจารย์นี่น่า ” “ ใช่จริง ๆ อาจารย์เกิดในพรหมโลกแล้วมาหาพวกเรา ”
 
พราหมณ์อาจารย์ได้กล่าวยกย่องศิษย์เอกของตนว่าเป็นผู้ที่ได้ฌานขั้นสูงสุดเช่นเดียวกับตน
 
พราหมณ์อาจารย์ได้กล่าวยกย่องศิษย์เอกของตนว่าเป็นผู้ที่ได้ฌานขั้นสูงสุดเช่นเดียวกับตน
 
       ผู้เป็นอาจารย์ได้กล่าวเตือนเหล่าลูกศิษย์ทั้งหลายจากนั้นจึงยกย่องชมเชยศิษย์เอกว่าเป็นศิษย์ผู้ได้ฌานขั้นสูงสุดเช่นเดียวกับตน “ พวกเจ้าจงรู้ไว้เถิด
ที่ศิษย์พี่ของพวกเจ้าเข้าใจความหมายที่เราพูดเพราะศิษย์ผู้นี้ได้สำเร็จฌานขั้นสูงสุดเช่นเดียวกับเรา ”
 
 
พระศาสดาทรงประชุมชาดกหลังจากที่ได้ตรัสเล่าชาดกจบลง
 
พระศาสดาทรงประชุมชาดกหลังจากที่ได้ตรัสเล่าชาดกจบลง
 
      พระศาสดาครั้นทรงนำพระธรรมเทศนานี้มาแล้วทรงประชุมชาดกว่า อันเตวาสิกผู้ใหญ่ในครั้งนั้น ได้มาเป็นพระสารีบุตร ส่วนอาจารย์ผู้เป็นพรหม
ได้กลับชาติมาเกิดเป็นเราตถาคตนั้นเอง
 
 

 
 








Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
มหาสุวราชชาดก ชาดกว่าด้วยความพอเพียงมหาสุวราชชาดก ชาดกว่าด้วยความพอเพียง

ฆตาสนชาดก ชาดกว่าด้วยภัยที่เกิดจากที่พึ่งฆตาสนชาดก ชาดกว่าด้วยภัยที่เกิดจากที่พึ่ง

ชนสันธชาดก ชาดกว่าด้วยเหตุที่ทำจิตให้เดือดร้อนชนสันธชาดก ชาดกว่าด้วยเหตุที่ทำจิตให้เดือดร้อน



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

นิทานชาดก 500 ชาติ