ผลพลอยได้ของการทำใจหยุดนิ่ง


[ 21 มี.ค. 2551 ] - [ 18264 ] LINE it!

ผลการปฏิบัติธรรม

กัลยาณมิตรแพทย์หญิง นิตยา เพ็งคล้าย (ประเทศไทย)
 
กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพรักสุดกลางใจ
 
 
    ลูกชื่อ แพทย์หญิง นิตยา เพ็งคล้าย อายุ 38ปี นายแพทย์ระดับ7 แผนกอายุรกรรม เป็นสาวเมืองทอง คือ สุพรรณบุรี ทำงานอยู่ที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ ตั้งแต่ปี พ.ศ.2543 จนถึงปัจจุบัน
 
    ฟังชื่อโรงพยาบาลแล้ว อย่าเพิ่งนึกสยอง วาดภาพดินแดนที่มีเหตุการณ์ไม่สงบนะคะ เพราะช่วงปีแรกๆที่ย้ายไปเหตุการณ์ยังปกติค่ะ ลูกและทีมแพทย์ออกพื้นที่เป็นประจำ ทำให้สื่อสารภาษาท้องถิ่นเข้าใจพอควร Sample นิดนะคะ…“ตรี มอ กา เซะ” แปลว่า “ขอบคุณค่ะ”...เราดูแลคนไข้โดยไม่เคยคิดแบ่งแยก เชื้อชาติ ศาสนา เพราะถือว่า ทุกคน คือ เพื่อนมนุษย์ร่วมโลก
 
 
    ภายหลังเมื่อเริ่มมีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้น ทำให้พวกเราทำงานแบบมีระดับขึ้น จะไปไหนก็เป็นวีไอพี มีทหารคุ้มกันเป็นขบวน เงินเดือนก็ได้เพิ่มขึ้นจากค่าความเสี่ยงของพื้นที่ที่ทำงาน บารมีก็ได้เลื่อนขั้นเป็นปรมัตถบารมี เพราะเอาชีวิตเป็นเดิมพัน จนเพื่อนแพทย์บางท่านที่ไม่ชอบทำงานแบบวีไอพี คือ ท่านชอบติดดิน ทำเรื่องขอย้ายไปจังหวัดอื่นแล้วค่ะ โปรดอย่าถามว่า นางเอกอย่างลูกกลัวตายไหม ขอยืดอกตอบเลยค่ะว่า “จะว่ากลัวก็ไม่ใช่ หรือไม่กลัวก็ไม่ใช่”
 
 
    แล้วนางเอกอย่างลูกเอากำลังใจอันมหาศาลมาจากไหน ในการทำหน้าที่ ทั้งงานประจำที่โรงพยาบาล ทั้งทำหน้าที่ผู้นำบุญช่วยเผยแผ่ธรรมะผ่านรายการวิทยุ ทั้งรับเชิญไปบรรยายตามสถานที่ต่างๆ อีกทั้งการสอบ World-PEC ครั้งที่2 ที่ผ่านมานี้ ทีมของลูกยังได้รับรางวัลชมเชยอันดับ10 อีกด้วย โดยที่พระเอกตัวจริงของลูก ท่านก็ขอลาออกจากเพศฆราวาส ไปบวชเป็นพระได้หลายปีแล้ว
 
    เนื่องจากท่านค้นพบสัจจะ ตามบาลีที่ลูกตั้งขึ้นเองว่า “อภรรยา ปรมาลาภา” การไม่มีภรรยาเป็นลาภอันประเสริฐ ซึ่งทำให้สองเราแยกย้ายกันไปทำพระนิพพานให้แจ้งได้สะดวกขึ้น แล้วกำลังใจของลูกจะมาจากไหนกันล่ะ อันนี้ยิ่งกว่า The secret อีกนะคะ คือ ลูกได้กำลังใจมาจากการทำงานที่ต้นทุนต่ำที่สุด คือ การนั่งหลับตาเฉยๆไม่คิดอะไรค่ะ
 
    ลูกเริ่มฝึกงานนั่งหลับตาตั้งแต่ปี พ.ศ.2541 ที่สวนพนาวัฒน์ เริ่มต้นด้วยประสบการณ์แบบวัวร้อง มอ มอ มอ (มืด เหมื่อย มึน) นั่งสมาธิก็มีแต่ภาพอาหารที่จะได้ทานแต่ละมื้อ ลอยตรงหน้าแทนดวงแก้ว เสียงบริกรรมก็พัฒนาว่า “เมื่อไหร่จะสัพเพฯ” สิ่งที่ได้จากการไปพนาวัฒน์ครั้งนั้น มีเพียงแค่ได้รู้เป้าหมายของชีวิต รู้จักหน้าที่ของผู้นำบุญ แค่นั้นก็เหลือเฟือแล้ว ลูกยังคงเทียวไปเทียวมาสวนพนาวัฒน์อีกหลายครั้ง จนได้รู้ว่า ยิ่งคาดหวัง การเข้าถึงธรรมกลับยิ่งห่างออกไป
 
    จนปี พ.ศ.2546 ลูกไปพนาวัฒน์แบบชิลด์ๆ (แบบง่ายๆ สบายๆ ไม่ซีเรียส) คิดแค่อยากไปพักผ่อน ไม่ตั้งเป้าว่าต้องเห็นธรรม อยากอยู่นิ่งๆ เฉยๆ โดยไม่มีเครื่องกังวลใจ, สามวันแรก เป็นการชาร์ตพลังงานแห่งความแจ่มใสเบิกบาน ใจว่างๆ โปร่งๆ ทำให้นั่งอย่างสงบมีความสุข จนใกล้เลิก รู้สึกเมื่อย จึงลุกไปเข้าห้องน้ำ ลูกกลับมานั่งต่อ ด้วยใจที่เบิกบานกว่าเดิม เพราะรู้ว่าเวลาอร่อยกำลังจะมาถึงแล้ว…
 
    ขณะพระอาจารย์นำแผ่เมตตา ลูกก็เห็นแสงสว่างสีทองเข้าทางช่องจมูกซ้าย ลงสู่กลางท้อง รู้สึกเบาสบาย ใจหลวมๆ พอลืมตาลูกเห็นองค์พระใสๆมีแต่ขอบไม่มีเนื้อใน ขนาดเท่าตัวลูก นั่งคลุมตัวลูก เห็นเกตุดอกบัวตูม มีเส้นพระเกศาขดเป็นก้นหอย เห็นได้รอบทิศทุกด้าน ทั้งใสทั้งสว่างจากตรงศูนย์กลางกาย
 
    จังหวะเดียวกันนั้น อุบาสกนำกราบพระอาจารย์ ลูกงงๆ ทำตัวไม่ถูก...พระจะกราบพระได้อย่างไร...ยังคิดไม่ทันเสร็จ ตัวลูกก็ก้มกราบลงไปพร้อมกับที่องค์พระขยายใหญ่ 2-3เท่า พอเงยตัวขึ้น ท่านก็ลดลงเท่าตัวลูก...เฮ้อ...โล่งอกไปที มือใหม่ก็อย่างนี้แหละค่ะ ลูกรู้สึกดีใจแบบเบาๆ เย็นๆ เบิกบานในใจ ไม่อยากพูดอะไร ตรงข้ามกับที่เคยคิดไว้ว่า ถ้าได้เห็นเมื่อไหร่จะเม้าท์ให้กระจาย เอาจริงเข้ากลับอยากนั่งสมาธิ อยู่นิ่งๆเฉยๆ
 
    เวลาเดินก็เนิบๆช้าๆ ไปถึงโรงอาหารก็ไม่รีบสวาปามอาหารแสนอร่อยเหมือนทุกที มันอิ่มอกอิ่มใจ เคี้ยวข้าวไปนั่งดูองค์พระในท้องไป พอจะกลืนอาหาร ท่านก็ขยายออกจนกลางท้องลูกตรงกับกลางท้องท่าน ยังทานไม่เสร็จท่านก็ขยายใหญ่อีกครั้งอย่างรวดเร็ว ลูกรีบลุกยืนจะออกไปนอกอาคาร กลัวท่านชนหลังคา แต่ยังไม่ทันไป ท่านก็ขยายจนใหญ่เลยนอกอาคารแล้ว ลูกมีท่านเป็นดาวส่องนำชีวิตติดที่กลางท้องตลอดเวลา
 
    นับจากกลับจากพนาวัฒน์ในครั้งนั้น ความสำเร็จและอุปสรรค ก็เข้าแถวมาทดสอบกำลังใจ ชักชวนให้หลงในโลกธรรมแปด แต่ขอโทษ...ทำอะไรลูกไม่ได้ เพราะลูกมีครูดีใน DMC ส่งคำสอนตรงถึงบ้านได้ตลอด 24ชั่วโมง เวลาเจออุปสรรค ไม่ว่างานจะยากเพียงใด ลูกจะนั่งสมาธิก่อนลุย สิ่งที่ตามมา คือ บารมีที่เพิ่มขึ้น แม้จะเหนื่อยมาก แต่พอลูกนึกถึงพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ก็จะมีแฮงใจ๋
 
    นางเอกอย่างลูก จึงเชิดหน้า ทั้งนั่งสมาธิ ทั้งสร้างบารมีต่อไป แม้ว่าสมรภูมิที่ลูกเลือกอยู่ จะต้องใช้ทั้งความอดทน มุ่งมั่น มีใจเป็นกลาง ต้องเมตตาต่อเพื่อนร่วมโลก แต่ลูกถอดสมการแล้วไม่ถอดใจ ก็ดูแล้วกำไรเห็นๆ เพราะแถวนี้การสร้างบารมี ล้วนเอาชีวิตเข้าแลก ทุกความคิด คำพูด การกระทำ เป็นบารมีสุดๆ จะไปหาสมรภูมิประลองฝีมือแบบนี้คงหายาก
 
 
    ยิ่งสร้างบารมี ธรรมะก็ยิ่งก้าวหน้า เวลาที่ลูกปล่อยใจว่าง เบาสบาย องค์พระแก้วใสจะคลุมตัว กำลังใจจะโถมเข้ามาพร้อมไอเดียกระฉูดในการเผยแผ่ธรรมะ ความเมตตาสูบฉีดเข้ามา ทำให้ทำงานได้มีประสิทธิภาพสูงสุด รวดเร็ว แม่นยำ ราวกับมีความสามารถพิเศษเหนือกว่าที่เคยเป็น ไม่ว่าธรรมะภายในจะพัฒนาขึ้นเป็นระดับไหน ลูกไม่เคยลำพองใจ คิดว่า นี่คือผลพลอยได้ของการทำใจหยุดนิ่ง แต่เป้าหมายหลักของลูก คือ ตามติดพระเดชพระคุณหลวงพ่อสร้างบารมีไปถึงที่สุดแห่งธรรม
 
    ลูกขอกราบขอบพระคุณพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ที่เป็นดวงตะวันอันอบอุ่น ส่งความสว่างสู่ใจลูกๆที่อยู่แดนไกล ยามลูกล้า แค่มองดูตะวันกลางกาย ก็เหมือนมีพ่ออยู่ใกล้ๆ ลูกขอน้อมถวายบุญกุศลที่ได้ทำมา ถวายแด่พระเดชพระคุณหลวงพ่อ ขอให้พระเดชพระคุณหลวงพ่อ สุขภาพแข็งแรงอายุยืนยาวนะคะ
                                                     
กราบนมัสการด้วยความเคารพสุดกลางของกลาง
 
แพทย์หญิง นิตยา เพ็งคล้าย


Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
สูตรสำเร็จ สมการใจสูตรสำเร็จ สมการใจ

สุดยอดศิลปะ ณ ศูนย์กลางกายสุดยอดศิลปะ ณ ศูนย์กลางกาย

แด่.....ครูผู้หยัดสู้แด่.....ครูผู้หยัดสู้



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

ผลการปฏิบัติธรรมนานาชาติ