อย่าเป็นผู้กำกับ ให้เป็นเพียงผู้สังเกตการณ์


[ 10 พ.ค. 2551 ] - [ 18267 ] LINE it!

ผลการปฏิบัติธรรม

กัลยาณมิตรโจนาธาน สต็อป (ประเทศอังกฤษ)
 
กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง
 
 
    ผมชื่อ โจนาธาน สต็อป อายุ 28ปี เป็นที่ปรึกษาด้านไอที อาศัยอยู่ทางใต้ของเมืองลอนดอน ประเทศอังกฤษครับ ตัวผมเองเกิดในครอบครัวชาวคริสต์ และไม่เคยคิดจะนั่งหลับตาเพื่อทำสมาธิมาก่อนเลย จนกระทั่งเมื่อเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว คุณเนตร (กัลยาณมิตรมณีเนตร รักษ์ดาธนะ) เพื่อนสาวของผม ได้ชักชวนผมให้ไปที่วัดพระธรรมกายลอนดอน
 
    ตอนนั้น ผมไม่ได้คาดหวังอะไร เพราะไม่รู้ว่ามันคืออะไร เพียงแค่ได้รับคำเชิญชวนจากเพื่อนสาว จึงไปวัดด้วยความอยากรู้เท่านั้น แต่พอไปถึง ผมพบ หลวงพี่นิโคลัส กำลังจัดปฏิบัติธรรมภาคภาษาอังกฤษอยู่ ท่านอธิบายถึงวัฒนธรรมของชาวไทยและชาวพุทธ ให้ฝรั่งอย่างพวกผมเข้าใจอย่างง่ายๆ ทำให้ผมประทับใจมาก และได้ลองทำสมาธิครับ
 
    หลังจากนั้น ผมก็มีโอกาสมารับบุญเป็นอาสาสมัคร ในงานทอดกฐินที่วัดพระธรรมกายลอนดอน โดยทำหน้าที่ถือธง งานวันนั้น มีฝนตก ผมตื่นเต้นมาก เพราะกลัวว่า จะถือธงไปโดนศีรษะคนอื่นเข้า เพราะมันทั้งใหญ่และหนักมาก แต่ผมก็สนุกและปีติในบุญ
 
    อันที่จริง ผมเองก็เคยมาพักผ่อนในเมืองไทยหลายครั้ง เพราะอยู่แต่ที่ลอนดอน มีอะไรหลายอย่างให้ผมต้องทำตลอด ผมจึงต้องหลบออกมาสัมผัสธรรมชาติที่เมืองไทยบ้าง แต่การมาครั้งนี้ พิเศษกว่าครั้งที่ผ่านมา เพราะผมได้มาร่วมฉลองวันเกิดของพระเดชพระคุณหลวงพ่อ เนื่องในวันคุ้มครองโลก และหลังจากนั้น ผมได้ไปฝึกสมาธิในโครงการ The Middle Way รุ่นที่17 ระหว่างวันที่ 23-29 เมษายน ที่เขาใหญ่ ฟ้าใสรีสอร์ต จังหวัดนครราชสีมา ผมคิดว่า การเดินทางมาเพื่อทำสมาธิที่เมืองไทย ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิด ต้นวิชชาธรรมกายนั้น เป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมมากครับ
 
    ณ เขาใหญ่ ก่อนผมจะนั่งสมาธิ ผมจะหายใจเข้า-ออกลึกๆ เพื่อหาตำแหน่ง Center of the body และผ่อนคลายกล้ามเนื้อทุกส่วนในร่างกาย เมื่อผมมีอารมณ์สบาย ก็นึกนิมิตเป็นดวงใสอยู่ที่ข้างหน้าจมูก, ขึ้นอยู่กับว่าผมรู้สึกอย่างไร ถ้าผมรู้สึกสบายดีก็จะเอาดวงใสไปไว้ที่ศูนย์กลางกายได้เลย หรือบางครั้งก็ไล่ไปตามฐานต่างๆ จนถึงฐานที่7 และผมก็ใช้คำภาวนาโดยไม่ได้มาจากปากหรือสมอง แต่จินตนาการว่า มีเสียงคำภาวนาดังมาจากศูนย์กลายกาย จากดวงใสๆ นี่คือวิธีการเบื้องต้นที่ผมพยายามรักษาใจไว้ที่ศูนย์กลายกายให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
 
    แต่ในระหว่างการทำสมาธิ มักจะมีภาพต่างๆเกิดขึ้น ซึ่งมาจากความคิดของผม ไม่ใช่จากศูนย์กลางกาย ทันทีที่ผมรู้ตัว ผมก็ปล่อยภาพและความคิดเหล่านั้นไป และนำใจกลับไปไว้ที่ศูนย์กลางกาย ทำให้ใจสงบต่อไปได้
 
 
    ผมทำตามที่พระอาจารย์แนะนำ โดยการผ่อนคลาย และนึกว่าเราอยู่ในที่ที่ว่างเปล่า มีแต่ดวงใสๆ ตอนแรกไม่มีแสงอะไร แต่แล้วดวงใสก็เปลี่ยนไป สว่างเหมือนหลอดไฟ หรือดวงดาว หรือดวงจันทร์ทอแสง แต่มันไม่เหมือนความสว่างจากดวงอาทิตย์ที่ทำให้ระคายตา ขนาดของมันไม่ใหญ่นัก อยู่แทนที่ดวงใสที่ผมนึกในตอนแรก และมันขยายใหญ่ขึ้นเล็กน้อย จากนั้นผมเริ่มเสียสมาธิ เพราะผมเริ่มสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น และนั่นก็สายเกินไปแล้ว เพราะว่าพระอาจารย์แนะนำว่าให้เราสังเกตดูเฉยๆ
 
    แต่มันยากสำหรับผมที่จะดูเฉย ๆ เพราะมันเป็นสิ่งใหม่มาก ท่านสอนให้ดูเฉยๆ มิฉะนั้นมันจะหายไป และอย่าเป็นผู้กำกับให้เป็นเพียงผู้สังเกตการณ์ แต่ผมพยายามคิดว่าเกิดอะไรขึ้น, เวลาที่ดวงใสชัดขึ้น ซึ่งเกิดขึ้นกับผมหลายครั้งแต่ไม่ทุกครั้ง ผมรู้สึกสงบ ผ่อนคลาย มีความสุขและพอใจ รู้สึกตัวเบา
 
    มีอยู่ครั้งหนึ่ง ที่ดวงใสดูเหมือนจะเปลี่ยนไปเป็นดวงใสที่มีองค์พระสีทองอยู่ภายใน และหมุนรอบตัวอย่างช้าๆ หลังจากนั้นผมรู้สึกผ่อนคลายทีเดียว ในระหว่างที่เห็นองค์พระ ผมมีความรู้สึกพอใจมากๆ รู้สึกสงบและมีความสุข หลังจากออกจากสมาธิแล้ว ผมรู้สึกเต็มเปี่ยมด้วยพลังและพอใจมาก
 
    ผมว่า สมาธิเป็นสิ่งที่ทำได้ทุกคน ในโครงการ The Middle Way เอง ก็มีทั้งชาวคริสต์ ชาวฮินดูและศาสนาอื่นๆ พวกเขาสามารถปรับการทำสมาธิให้สอดคล้องกับศาสนาของเขาได้ มีชาวคริสต์ท่านหนึ่งได้เข้าร่วมปฏิบัติธรรมรุ่นเดียวกับผม นึกภาพนิมิตเป็นไม้กางเขนสีขาวในดวงกลมๆ ซึ่งเขาก็ทำสมาธิได้ดีทีเดียวครับ การทำสมาธิจึงไม่ขัดแย้งกับศาสนาหรือความเชื่อใดๆ มันคงจะเป็นประโยชน์มาก หากศาสนาต่างๆ มีความเชื่อบางอย่างที่คล้ายคลึงกัน เพื่อนำไปสู่สันติภาพ สันติภาพจะเกิดได้ ถ้าใจเราหยุดอยู่ที่เดียวกัน เป็นหนึ่งเดียวกัน
 
    เมื่อผมกลับไปบ้าน จะนั่งสมาธิทุกวันตอนเช้าเลยครับ ผมคิดว่าเป็นสิ่งที่ควรจะทำทุกเช้า เพราะสมาธิช่วยให้ผมใจเย็น คลายจากความเครียด และรับมือกับปัญหาต่างๆได้ดีขึ้น ถ้าทุกคนทำสมาธิและมีสติมากขึ้นกับทุกสิ่งที่แสดงออก การทะเลาะกันคงน้อยลง การรักษาใจไว้ที่ศูนย์กลางกาย ช่วยลดการเผชิญหน้ากันด้วยอารมณ์ ลดการโต้แย้ง ได้เป็นอย่างดี
 
 
    งานวันคุ้มครองโลกที่ผ่านมานั้น น่าประทับใจทีเดียว ผมเห็นคนจำนวนมากมาวัด และพระสงฆ์จำนวนมากสวดมนต์โดยพร้อมเพรียงกัน ดูมีพลังมาก มันค่อนข้างยากที่จะจัดงานอย่างนี้ได้ แต่เป็นเพราะทุกคนทำงานไปในทิศทางเดียวกัน ทุกคนเคารพพระเดชพระคุณหลวงพ่อมาก จึงทุ่มเทในสิ่งที่ตนกำลังทำอยู่ ผมไม่เคยเห็นคนจำนวนมากมารวมตัวกันเช่นนี้ แม้แต่ในสนามกีฬาใหญ่ๆ ก็ยังจุคนได้น้อยกว่านี้ 3-4เท่า และทุกอย่างก็ราบรื่นมาก แม้อากาศจะร้อน ก็ไม่เห็นมีใครอารมณ์เสียเลย  
 
    สุดท้ายนี้ ผมอยากบอกพระเดชพระคุณหลวงพ่อว่า พระเดชพระคุณหลวงพ่อยังดูหนุ่มและแข็งแรง อ่อนโยนและน่าเชื่อถือ น้ำเสียงก็เยือกเย็นนุ่มนวล ผมจะขอทำสมาธิให้มากขึ้น เพื่อเป็นของขวัญถวายให้พระเดชพระคุณหลวงพ่อครับ


Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
ประสบการณ์ภายในประสบการณ์ภายใน

สามเณรบวชอุทิศชีวิตสามเณรบวชอุทิศชีวิต

สามเณรบวชอุทิศชีวิต (2)สามเณรบวชอุทิศชีวิต (2)



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

ผลการปฏิบัติธรรมนานาชาติ