เปิดร่าง
กม.ให้ ขรก.หญิงลาปฏิบัติธรรม-บวชชี 3 เดือนโดยไม่ถือเป็นวันลา
ยกเหตุทุกหน่วยเร่งพัฒนาแข่งขัน แถมปรับลดจำนวน
กดดันจิตใจสตรีเครียด-ซึมเศร้า วธ.ชง ครม.เห็นชอบ อิงระเบียบชายลาบวช
เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม ที่โรงแรมรามาการ์เด้นส์ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) จัดประชุมวิพากษ์ ร่างแผนพัฒนาสตรี ในช่วงแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 10 (พ.ศ.2550-2554) มีตัวแทนคณะกรรมการพัฒนาสตรีจากทั่วประเทศเข้าร่วมประชุม ในที่ประชุมสนับสนุนร่างกฎหมายให้ข้าราชการสตรีลาไปถือศีลและปฏิบัติธรรมได้ โดยให้ถือเป็นวันปฏิบัติราชการเป็นเวลา 3 เดือน ตามที่กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ได้ขอความเห็น หลังจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ส่งร่างกลับมาให้รับฟังความเห็นทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
สำหรับร่าง พ.ร.บ.การพิจารณาให้ข้าราชการสตรีลา เพื่อถือศีลและปฏิบัติธรรมถือเป็นวันปฏิบัติราชการเป็นเวลา 3 เดือนนั้น จัดทำโดยกรมการศาสนา มีหลักการและเหตุผล ดังนี้ "สืบเนื่องจากข้าราชการ ลูกจ้างประจำ ส่วนราชการ องค์กรของรัฐบาลที่เป็นสตรีบางคน ประสบปัญหาต่างๆ ที่แวดล้อม อาทิ ปัญหาจากการทำงานที่ต้องรองรับการบริหารภาครัฐแนวใหม่ การปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์ วัฒนธรรมและค่านิยม ในการดำเนินงานใหม่ ที่มุ่งเพิ่มสมรรรถนะสู่การพัฒนาระบบราชการแนวใหม่ การปรับลดจำนวนข้าราชการ การพัฒนาระบบราชการ พ.ศ.2549 และการที่ต้องปรับสภาพการทำงานที่เต็มไปด้วยการแข่งขันและรีบเร่ง เหล่านี้เป็นต้นทำให้เกิดผลกระทบต่อสภาพจิตใจ ทำให้ข้าราชการเกิดความเครียดและซึมเศร้าเพิ่มขึ้น ประกอบกับข้าราชการ ลูกจ้างและพนักงานของรัฐ ขาดโอกาสและเวลาที่จะศึกษาเพื่อปฏิบัติตามพุทธธรรม ทำให้ไม่สามารถนำพุทธธรรมเข้าสู่กระบวนการนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ หากได้ผ่านกระบวนการถือศีลและปฏิบัติธรรมที่มีคุณภาพ เป็นขั้นตอน จะสามารถทำให้เกิดการพัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงานได้ดีขึ้น
กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมการศาสนาจึงประสงค์จะขอให้ข้าราชการสตรีลาเพื่อถือศีลและปฏิบัติธรรม
เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม ที่โรงแรมรามาการ์เด้นส์ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) จัดประชุมวิพากษ์ ร่างแผนพัฒนาสตรี ในช่วงแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 10 (พ.ศ.2550-2554) มีตัวแทนคณะกรรมการพัฒนาสตรีจากทั่วประเทศเข้าร่วมประชุม ในที่ประชุมสนับสนุนร่างกฎหมายให้ข้าราชการสตรีลาไปถือศีลและปฏิบัติธรรมได้ โดยให้ถือเป็นวันปฏิบัติราชการเป็นเวลา 3 เดือน ตามที่กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ได้ขอความเห็น หลังจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ส่งร่างกลับมาให้รับฟังความเห็นทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
สำหรับร่าง พ.ร.บ.การพิจารณาให้ข้าราชการสตรีลา เพื่อถือศีลและปฏิบัติธรรมถือเป็นวันปฏิบัติราชการเป็นเวลา 3 เดือนนั้น จัดทำโดยกรมการศาสนา มีหลักการและเหตุผล ดังนี้ "สืบเนื่องจากข้าราชการ ลูกจ้างประจำ ส่วนราชการ องค์กรของรัฐบาลที่เป็นสตรีบางคน ประสบปัญหาต่างๆ ที่แวดล้อม อาทิ ปัญหาจากการทำงานที่ต้องรองรับการบริหารภาครัฐแนวใหม่ การปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์ วัฒนธรรมและค่านิยม ในการดำเนินงานใหม่ ที่มุ่งเพิ่มสมรรรถนะสู่การพัฒนาระบบราชการแนวใหม่ การปรับลดจำนวนข้าราชการ การพัฒนาระบบราชการ พ.ศ.2549 และการที่ต้องปรับสภาพการทำงานที่เต็มไปด้วยการแข่งขันและรีบเร่ง เหล่านี้เป็นต้นทำให้เกิดผลกระทบต่อสภาพจิตใจ ทำให้ข้าราชการเกิดความเครียดและซึมเศร้าเพิ่มขึ้น ประกอบกับข้าราชการ ลูกจ้างและพนักงานของรัฐ ขาดโอกาสและเวลาที่จะศึกษาเพื่อปฏิบัติตามพุทธธรรม ทำให้ไม่สามารถนำพุทธธรรมเข้าสู่กระบวนการนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ หากได้ผ่านกระบวนการถือศีลและปฏิบัติธรรมที่มีคุณภาพ เป็นขั้นตอน จะสามารถทำให้เกิดการพัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงานได้ดีขึ้น
กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมการศาสนาจึงประสงค์จะขอให้ข้าราชการสตรีลาเพื่อถือศีลและปฏิบัติธรรม
ถือเป็นวันปฏิบัติราชการ
เป็นเวลา 3 เดือน จึงขอให้คณะรัฐมนตรีเห็นชอบ คือ
1.ให้ข้าราชการ/เจ้าหน้าที่ของรัฐที่เป็นสตรีลาเพื่อปฏิบัติธรรมถือเป็นวันปฏิบัติราชการเป็นเวลา
3 เดือน โดยเทียบเคียงระเบียบว่าด้วยการลาอุปสมบทของข้าราชการ พ.ศ.2539
แก้ไขปรับปรุงโดยระเบียบว่าด้วยการลาของราชการ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2539 ข้อ
30 และ 2.ให้ทุกกระทรวง ทบวง กรม ที่มีข้าราชการ
เจ้าหน้าที่ของรัฐที่เป็นสตรีประสงค์จะถือศีลปฏิบัติธรรม
ได้รับการยกเว้นการปฏิบัติตามระเบียบว่าด้วยการลาของข้าราชการ พ.ศ.2539
และฉบับแก้ไขเพิ่มเติมทุกฉบับ
โดยถือว่าเป็นการปฏิบัติราชการและไม่ถือเป็นวันลา"
ทั้งนี้ ระเบียบว่าด้วยการลาของข้าราชการ ข้อ 30 กำหนดให้ข้าราชการ ลูกจ้างประจำ ส่วนราชการ องค์กรของรัฐบาล ลาอุปสมบท โดยเสนอหรือจัดส่งใบลาต่อผู้บังคับบัญชาเพื่อพิจารณาหรืออนุญาตไม่น้อยกว่า 60 วัน ตามนัยแห่งระเบียบดังกล่าว เฉพาะข้าราชการชายเท่านั้น หาก วธ.จะให้ข้าราชการสตรีลาเพื่อถือศีลและปฏิบัติธรรม (บวชชี) โดยให้ถือเป็นวันปฏิบัติราชการ เป็นเวลา 3 เดือนเช่นเดียวกับการลาอุปสมบท ก็จะเป็นประวัติศาสตร์ของข้าราชการไทยในรัฐบาลชุดนี้
รายงานแจ้งว่า ร่างดังกล่าวอยู่ในขั้นตอนการส่งหนังสือขอความคิดเห็นจากหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ก่อนจะรวบรวมข้อมูลเพื่อประกอบการพิจารณาขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีต่อไป
นางจุรี วิจิตรวาทการ ประธานคณะอนุกรรมการจัดทำแผนพัฒนาสตรีในช่วงแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 10 กล่าวว่า เห็นด้วยกับร่างของ วธ.ดังกล่าว เพราะถือเป็นการส่งเสริมสิทธิความเท่าเทียมกันระหว่างหญิงชาย อย่างผู้ชายสามารถลาบวชได้ และการให้ข้าราชการหญิงเข้าไปปฏิบัติธรรมนั้น จะได้นำความรู้จากการปฏิบัติธรรมมาใช้ในการปฏิบัติงาน ช่วยให้ประสิทธิภาพในการทำงานดีขึ้น
ทั้งนี้ ระเบียบว่าด้วยการลาของข้าราชการ ข้อ 30 กำหนดให้ข้าราชการ ลูกจ้างประจำ ส่วนราชการ องค์กรของรัฐบาล ลาอุปสมบท โดยเสนอหรือจัดส่งใบลาต่อผู้บังคับบัญชาเพื่อพิจารณาหรืออนุญาตไม่น้อยกว่า 60 วัน ตามนัยแห่งระเบียบดังกล่าว เฉพาะข้าราชการชายเท่านั้น หาก วธ.จะให้ข้าราชการสตรีลาเพื่อถือศีลและปฏิบัติธรรม (บวชชี) โดยให้ถือเป็นวันปฏิบัติราชการ เป็นเวลา 3 เดือนเช่นเดียวกับการลาอุปสมบท ก็จะเป็นประวัติศาสตร์ของข้าราชการไทยในรัฐบาลชุดนี้
รายงานแจ้งว่า ร่างดังกล่าวอยู่ในขั้นตอนการส่งหนังสือขอความคิดเห็นจากหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ก่อนจะรวบรวมข้อมูลเพื่อประกอบการพิจารณาขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีต่อไป
นางจุรี วิจิตรวาทการ ประธานคณะอนุกรรมการจัดทำแผนพัฒนาสตรีในช่วงแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 10 กล่าวว่า เห็นด้วยกับร่างของ วธ.ดังกล่าว เพราะถือเป็นการส่งเสริมสิทธิความเท่าเทียมกันระหว่างหญิงชาย อย่างผู้ชายสามารถลาบวชได้ และการให้ข้าราชการหญิงเข้าไปปฏิบัติธรรมนั้น จะได้นำความรู้จากการปฏิบัติธรรมมาใช้ในการปฏิบัติงาน ช่วยให้ประสิทธิภาพในการทำงานดีขึ้น
ที่มา-