ลอยโคมวิสาขประทีป (มองโกเลีย)


[ 24 พ.ค. 2551 ] - [ 18276 ] LINE it!

รายงานข่าว
การจัดงานลอยโคมวิสาขประทีปเป็นพุทธบูชา”
ครั้งแรกของประเทศมองโกเลีย
 
    หลังจากที่กองทัพม้าอันเกรียงไกร เคยแผ่ขยายอาณาเขตกว้างไกลไปเกือบค่อนโลก และไม่ว่าพวกเขาจะไปถึงไหน ก็จะนำพาพระพุทธศาสนาไปถึง ณ ที่นั้นด้วย นี่คือสิ่งที่ยิ่งใหญ่และนำความภาคภูมิใจมาสู่ชาวมองโกลทุกคน ดั้งนั้น วันนี้ถึงเวลาแล้วที่ชาวมองโกลจะได้นำแสงแห่งศรัทธาที่มีต่อพระพุทธศาสนา มาเปิดเผยให้ชาวโลกได้ประจักษ์ โดยสำนักข่าวชื่อดัง DNN รายงานข่าวจากประเทศมองโกเลีย ในงานลอยโคมวิสาขประทีปเป็นพุทธบูชาค่ะ
 
 
    ปกติแล้วช่วงเตรียมงานตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าว DNN จะตื่นมาพร้อมอากาศที่สดชื่น แม้จะมีฝุ่นบ้าง แต่แดดก็ออก ฝนไม่ตก แต่พอถึงวันวิสาขบูชาเท่านั้น เริ่มตั้งแต่รุ่งสาง เมฆก็ครึ้ม มีพายุแต่เช้า อุณหภูมิจากเดิม 14-15องศาเซลเซียส (กำลังเย็นสบาย) วันนี้ลดลงฮวบฮาบ เหลือ 4องศาเซลเซียส (หนาวจัด) สายฝนเทลงมา แถมลมกรรโชกแรง จนป้ายผ้างานกระพือพลิ้ว ภาพนิทรรศการพุทธประวัติปลิวลมกระจัดกระจาย ทีมงานจึงต้องมาตั้งหลักรอลมสงบก่อน พร้อมกับกำลังใจเกินร้อยค่ะ
 
 
 
    ไม่เพียงแค่นั้น ยังเกิดเหตุไฟไหม้ที่มองโกเลียถึง 4จุด จนเจ้าหน้าที่ตำรวจเกือบจะไม่อนุญาตให้เราจุดโคม แต่เมื่อมี Super monk อย่าง ท่านลามะมุงจากัล ท่านก็บอกว่า “โอ้...Don’t worry” แล้วท่านก็รีบ Go now ไปช่วยเจรจา สุดท้ายก็ No Problem ได้รับอนุญาตจากตำรวจให้จุดโคมวิสาขประทีปได้ค่ะ
 
    ช่วงเวลาบ่าย ทีมงานต้องลุ้นระทึกอีกครั้ง เพราะได้รับการติดต่อจาก สำนักข่าว DNN ในประเทศไทยว่า เกิดฝนตกหนักที่วัดพระธรรมกาย ซึ่งที่มองโกเลีย อากาศก็หนาวลงอย่างน่าใจหาย และมีลมแรง ทีมงานทุกคนรีบทำใจหยุดนิ่งอย่างถูกส่วน ตรึกระลึกถึงคุณครูไม่ใหญ่ที่ศูนย์กลางกาย แม้ระยะทางจะห่างจากวัดสักเพียงใด และสุดท้ายก็หยุดฝนได้จริงๆค่ะ
 
    เพราะไม่กี่ชั่วโมงต่อมา หลังจากที่คุณครูไม่ใหญ่มาถึงที่มหาธรรมกายเจดีย์ ฟ้าเมืองไทยก็กลับเปลี่ยนสี ฟ้ามองโกลก็เปลี่ยนสีเช่นกันค่ะ แล้วแสงแห่งศรัทธาก็เกิดขึ้น ทุกอย่างสงบ เรืองรอง อย่างเห็นได้ชัด
 
 
 
    แล้วเวลาสำคัญก็มาถึง คือเวลาหนึ่งทุ่ม ตามเวลาท้องถิ่น ทีมงานต้องพบกับสิ่งที่น่าเหลือเชื่อแต่เป็นความจริง คือ ผู้คนไม่รู้แห่แหนมาจากไหนกันมากมาย เฮโลดุจกองทัพมองโกลในอดีต ยกพลขึ้นบกสู่สนามเบสบอล ใครมีบัตรเข้างาน ก็ยืดอกได้อย่างเต็มภาคภูมิ แต่ผู้ไม่มีบัตร ต่างก็แย่งกัน บอกว่า “ขอฉันเข้าไปด้วย...ขอฉันเข้าไปด้วย” เป็นภาษามองโกเลีย
 
 
 
 
 
    ผู้คนเริ่มล้นทะลักออกไปถึงนอกสนาม โชคดีที่มีน้องๆอาสาสมัครนักศึกษาชาวมองโกเลีย รวมทั้งตำรวจกว่าร้อยนายเข้ามาดูแล เพราะเกรงว่ารั้วสนามจะพังลงมาเสียก่อน เมื่อนับจำนวนคนทั้งในและนอกสนามแล้ว รวมกันได้เรือนหมื่นคนเลยค่ะ ซึ่งใครที่ไม่มีบัตรก็จะต้องนั่งบริเวณอัฒจันทร์ หรือชะเง้ออยู่ห่างๆตามเนินดินด้านนอก ดั่งวงบุญเขตนอกเลยทีเดียว
 
 
 
 
    พิธีเริ่มด้วยการแสดงดนตรีแบบพื้นเมือง และการแสดง Mask Dance หรือการเต้นรำหน้ากาก อันเป็นวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของชาวมองโกล ที่น่าตื่นตาตื่นใจทีเดียว เพื่อขับไล่สิ่งที่ไม่ดีให้ออกไป และพร้อมจะรับสิ่งใหม่อันเป็นมงคลเข้ามาในชีวิต
 
 
 
    สำหรับพิธีกรในงาน ได้รับเกียรติจาก น้องฮาน่า เด็กหญิงชาวมองโกล อายุเพียง 13ขวบ แต่ความสามารถเหลือเฟือ เพราะได้เคยมาปฏิบัติธรรมกับโครงการดีๆระดับโลกอย่าง The Middle way ที่ประเทศไทยเมื่อปลายปีที่แล้ว มาเป็นพิธีกรภาคภาษามองโกเลีย ร่วมกับพิธีกรชายระดับแนวหน้าอีก 2ท่าน ส่วนพิธีกรภาคภาษาอังกฤษได้ กัลยาณมิตรภิญญ์พลอย สัมภวคุปต์ พิธีกรสาวสวย เก่งและดี จาก smile world ค่ะ
 
 
 
    สำหรับเหตุการณ์ความตื่นเต้น ไม่ใช่เพียงแค่ชาวมองโกลเฮโลเข้างานจนรั้วแทบถล่มเมื่อสักครู่ แต่พอถึงช่วงที่ พระครูปลัดภูเบศ ฌานาภิญโญ นำกล่าว “นะโมตัสสะ...” ครบ 3จบ และกล่าวคำขอถึงพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง บทพุทธัง สะระณัง คัจฉามิฯ ชาวมองโกลก็กล่าวตามได้อย่างถูกต้อง ทั้งที่ๆพวกเขาไม่เคยรู้จักภาษาบาลีมาก่อน และท่านประธานสงฆ์ได้นำนั่งสมาธิเป็นภาษาอังกฤษ โดยมีท่านลามะมุงจากัลแปลเป็นภาษามองโกเลีย ทุกคนนั่งสมาธิกันนิ่งได้อย่างเงียบสงบ ศักดิ์สิทธิ์ แม้เป็นกลุ่มที่อยู่ด้านหลังหรือด้านนอกก็ตาม จนช่างภาพงงคากล้องไปเลย
 
 
    จากนั้นท่านลามะมุงจากัล นำอธิษฐานจิต และแผ่เมตตาเป็นภาษามองโกเลีย สาธุชนที่มาร่วมงานกว่าหมื่นคน ก็ตั้งใจกล่าวกันอย่างพร้อมเพรียง ขนาดผู้สื่อข่าว DNN พูดภาษามองโกเลียไม่ได้ ยังต้องขอกล่าวตามไปด้วย เพราะบรรยากาศพาไปค่ะ
 
 
    พอได้เวลาจุดโคมเทียนเป็นพุทธบูชา คนที่อยู่ติดรั้วนอกสนาม ต่างก็หยิบมือถือขึ้นมาถ่ายรูปทะเลเทียนกันยกใหญ่  ส่วนในงาน ท่ามกลางเปลวเทียนกว่าหมื่นดวง จะเห็นผู้คนต่างก็ยืนรวมกัน บางเสาโคมมีถึง 4-5คน ต่อ 1โคมเทียนเลยทีเดียว ที่สำคัญเมื่อจุดแล้วจะไม่มีใครกล้าดับเทียน เพราะชาวมองโกลเชื่อว่า หากจุดไฟเป็นพุทธบูชาแล้ว ต้องปล่อยให้แสงดับด้วยตัวของมันเอง
 
 
 
    หลังจากนั้น ช่วงเวลาที่ทุกคนรอคอยก็มาถึง คือ พิธีลอยโคม ไม่น่าเชื่ออีกแล้วว่า ชาวมองโกลจะตั้งใจฟังพิธีกรแนะนำวิธีการจุดโคมลอย และรอสัญญาณให้ปล่อยอย่างพร้อมเพรียงกัน
 
 
    พอพวกเขาได้เห็นโคมขึ้นฟ้าเท่านั้น ทุกคนต่างโห่ร้อง ตบมือกันลั่นสนาม ด้วยความตื่นตาตื่นใจ คนเฒ่าคนแก่บางคนถึงกับยกแขนสองข้างขึ้นกางออก แหงนหน้าดูโคมลอยซึ่งค่อยๆกลายเป็นทะเลแห่งดวงดาว ดารดาษเต็มท้องฟ้า และค่อยๆเคลื่อนตามแรงลมไปในทิศทางที่มีพระจันทร์อย่างไม่น่าเชื่อ น้ำตาแห่งความปลื้มปีติและศรัทธาในองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไหลอาบแก้มโดยไม่รู้ตัว
 
 
 
    บางคนถึงแม้ว่าจะไม่ค่อยมีแรงเดินแล้ว แต่ก็พยายามเดินกะโผลกกะเผลกมาถวายผ้าแพรสีฟ้า คล้ายกับผ้าพันคอ ซึ่งชาวมองโกลถือว่าเป็นมงคล พร้อมขวดโยเกิร์ตเล็กๆ เพื่อจะมาถวายกับพระอาจารย์ฌานา (พระครูปลัดภูเบศ ฌานาภิญโญ) เล่นเอาผู้สื่อข่าว DNN แทบสั่งห้ามน้ำตาไว้ไม่อยู่ บรรยากาศงานวันนั้น ศักดิ์สิทธิ์ ยิ่งใหญ่ อลังการจริงๆ
 
 
 
   นอกจากนี้ ภาพที่เกิดขึ้น ยังสอดประสานรับกับเสียงเพลงลอยโคมวิสาขบูชาภาษามองโกเลียได้อย่างลงตัว รวมถึงเนื้อเพลงที่กล่าวถึงพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระธรรมกาย และวันวิสาขบูชา ซึ่งนักร้องชาวมองโกลชื่อ โฮลัน อายุ 24ปี ก็สามารถออกเสียงภาษาไทยได้อย่างชัดเจน ฟังแล้วปลุกพลังศรัทธาต่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้เป็นทวีคูณเลยค่ะ
 
 
    ผู้สื่อข่าว DNN ทราบมาว่า ท่อนที่ร้องเป็นภาษาไทย เธอร้องไม่ต่ำกว่า 20ครั้ง กว่าจะชัด เช่น คำว่า “วิสาขบูชา” หรือ “ธรรมกาย” ต้องใช้ความสามารถพิเศษมากๆ ต้องออกเสียงให้ชัด โดยเฉพาะคำว่า “บูชา” จะออกเสียงเพี้ยนเป็น “ปูชา” ก็ฝึกฝนอย่างไม่ย่อท้อ จนออกเสียงได้ชัดเจนทุกคำ และร้องให้เข้ากับทำนองด้วยค่ะ
 
 
 
    หลังจากโคมลอยได้ลอยสูงขึ้นไปจนสุดสายตาแล้ว พลุก็ถูกจุดขึ้นอย่างสว่างไสว ประธานสงฆ์กล่าวนำสาธุชนบูชาพระรัตนตรัยอย่างพร้อมเพรียงกัน เป็นอันเสร็จพิธี
 
 
    เมื่อพิธีทุกอย่างเสร็จสิ้นลง หลายคนถึงกับร้องไห้ พูดไม่ออกบอกไม่ถูก แต่ทว่า เหตุการณ์ช็อตเด็ดกลับยังไม่จบสิ้น เพราะขณะที่พระสงฆ์กำลังแปรแถวลงจากเวที ฝูงชนชาวมองโกลเป็นร้อย ก็กรูขึ้นไปบนเวที พวกเขาขึ้นไปเพื่อพนมมือและนำศีรษะไปแตะที่ฐานองค์พระประธาน ซึ่งเป็นวิธีแสดงความเคารพอย่างสูงสุดของชาวมองโกล และจะได้มีโอกาสกราบนมัสการพระอาจารย์ฌานา ประธานสงฆ์อีกด้วย แต่เนื่องจากบนเวทีมีคนมากเกินไป ไม่อาจรองรับแรงศรัทธาอันมหาศาลได้ เวทีที่สูงเกือบ 2เมตร บางส่วนจึงถล่มลงมา ทั้งพระและสาธุชน ลดระดับลงมาอยู่บนพื้นดินพร้อมกันโดยไม่ทันนัดหมาย ทุกคนตกใจว่า องค์พระของเราจะเป็นอย่างไร แต่โชคดี องค์พระประธานไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วน และทุกคนปลอดภัยดี สมกับคำกล่าวที่ว่า มากันถล่มทลายจริงๆ
 
 
    งานนี้ ไม่เพียงสาธุชนที่ตื่นตาตื่นใจเท่านั้น แต่พระลามะทุกองค์ก็ตื่นเต้นกันยกใหญ่ สื่อมวลชนก็มากันเพียบหลายแขนง และถ่ายทอดสดผ่านช่อง “ทีวี9” ของมองโกเลียด้วย  วันต่อมาทั้งหนังสือพิมพ์ สื่อโทรทัศน์ และเว็บไซต์ ก็ประโคมข่าวกันอย่างครึกโครมทีเดียว
 
 
 
    ท่านลามะมุงจากัลเล่าให้ฟังผู้สื่อข่าว DNN ฟังภายหลังจากเสร็จพิธีแล้วว่า ลูกศิษย์ของท่านมาบอกว่า ตอนจัดงาน รอบนอกสนามเบสบอลห่างออกไป 2-3กิโลเมตร เกิดพายุลมแรงมาก แต่ในพื้นที่จัดงานกลับมีเพียงลมพัดมาเบาๆเท่านั้นเอง ไม่เพียงแต่ลมเท่านั้นที่ Alert นะคะ ต้นไม้ที่มองโกเลียก็ Alert ด้วยค่ะ คือ ต้นไม้จากแต่เดิมแห้งเหลือแต่กิ่งก้าน ก็ปรากฏใบไม้สีเขียวผลิออกมาเต็มต้นอย่างน่าอัศจรรย์ ในวันวิสาขบูชาด้วย ประหนึ่งเป็นสัญญาณว่า แสงแห่งธรรมได้มาเจิดจ้าในดินแดนแห่งนี้แล้ว
 
 
 
 
 
    งานวิสาขบูชาในครั้งนี้ แม้จะเป็นเพียงก้าวแรก แต่ก็เป็นก้าวแรกที่หนักแน่น และลึกซึ้งเกินกว่าใครหรือสงครามใดๆ จะมาลบล้างได้ เพื่อฟื้นฟูพระพุทธศาสนาแบบดั้งเดิมให้คงอยู่คู่ชาวมองโกลและคู่โลกสืบไป



Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
จดหมายจาก V-Monkจดหมายจาก V-Monk

รถไฟขบวนประวัติศาสตร์รถไฟขบวนประวัติศาสตร์

งานตักบาตรพระ สมุทรปราการงานตักบาตรพระ สมุทรปราการ



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

ช่วงเด่นฝันในฝัน