บุคคลผู้ได้โอกาส

โครงการบรรพชาอุปสมบทพระธรรมทายาทนานาชาติ รุ่นที่6

(ประเทศไทย)

วันเสาร์ที่ 12 กรกฎาคม ที่ผ่านมา นาคธรรมทายาท นานาชาติ จากทั่วโลก ได้เข้าพิธีอุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดพระธรรมกาย เพื่อเป็นพระแท้ที่โลกต้องการ ซึ่งในปีนี้ ยอด Update ล่าสุด คือ มีธรรมทายาททั้งสิ้นจำนวน 53รูปจาก 16สัญชาติ ประกอบด้วย สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย เบลเยี่ยม สหราชอาณาจักร สาธารณรัฐเชค เยอรมัน ญี่ปุ่น มาเลเซีย เนปาล ศรีลังกา นิวซีแลนด์ ฮ่องกง สิงคโปร์ ไต้หวัน จีน และไทย ธรรมทายาททั้งหมดได้บรรพชาอุปสมบทในวันเดียวกับพิธีบวชอุทิศชีวิตของ ดร.นพ.ปวิทัย ชัยเจริญวรรณ และสามเณรโรงเรียนนานาชาติ รุ่นที่3

อีกทั้ง ในวันอาทิตย์ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ.2551 ได้มีพิธีตักบาตรฉลองพระใหม่จาก 4โครงการ คือ พระธรรมทายาทนานาชาติ รุ่นที่6 พระธรรมทายาทรุ่นเข้าพรรษา รุ่นที่21 สามเณรโรงเรียนนานาชาติ รุ่นที่3 และพระใหม่บวชอุทิศชีวิต รวมจำนวนกว่า 420รูป ณ สภาธรรมกายสากล ฝั่งช้าง ในเวลา 6.00น.

ผู้สื่อข่าว DNN จะพาทุกท่านไปทำความรู้จัก และสัมภาษณ์เจาะลึก ความในใจจากเหล่าตัวแทนธรรมทายาท นานาชาติ (ในขณะที่ยังเป็นนาคธรรมทายาท) ก่อนที่ท่านจะเข้าพิธีบรรพชาอุปสมบถ มาให้ทุกท่านได้รับทราบกัน

เริ่มจากตัวแทนภาคภาษาจีน 3ท่าน

ท่านแรก คือ นาคธรรมทายาท หวง จื่อ เฟิง ชาวไต้หวัน ปัจจุบันอายุ 42ปี เป็นเจ้าของโรงงานเครื่องกลึงสแตนเลส ที่จังหวัดชลบุรี กล่าวว่า “ผมเองรู้จักวัดพระธรรมกายมาได้ 2ปีแล้ว ได้นั่งสมาธิกับพระเดชพระคุณหลวงพ่อทุกอาทิตย์ รวมทั้งงานบุญใหญ่ และทำกิจกรรมกับที่วัดเสมอ หลังจากที่ผมมีโอกาสขึ้นไปปฏิบัติธรรมที่สวนพนาวัฒน์ และภูเรือ ผมก็ประทับใจมาก อยากให้พนักงานในบริษัทฯได้ขึ้นไปปฏิบัติธรรมบ้าง ดังนั้น ในทุกๆเดือน ผมจึงจัดโควตาให้หัวหน้า 1คนและลูกน้อง 2คนขึ้นไปพนาวัฒน์ พร้อมให้เงินติดตัวไปซื้อเสื้อผ้าชุดขาวด้วย หากเป็นช่วงสงกรานต์ พนักงานคนใดไม่ได้ไปเที่ยวที่ไหน ถ้าอยากจะไปภูเรือ ผมก็จะแถมปัจจัยให้ไปทำบุญครับ...

ไม่เพียงแค่นั้น ทุกๆเช้าจะมีการสวดมนต์และนั่งสมาธิกันทั้งโรงงาน ถ้าใครมาทำงานไม่ขาดเลยจะได้เงินเดือนเพิ่ม เดือนละ 400บาท และถ้ามาสวดมนต์และนั่งสมาธิไม่ขาด จะได้เงินเดือนเพิ่ม เดือนละ 1,200บาท และสาเหตุที่ผมได้มาบวชนั้น เนื่องมาจากปีที่ผ่านมา ผมได้มาร่วมงานบวชธรรมทายาทนานาชาติ รุ่นที่5 จึงเกิดความประทับใจ และแรงบันดาลใจ อยากจะบวชบ้าง ดังนั้น พอถึงปีนี้เมื่อภรรยาแจ้งข่าวงานบวชธรรมทายาทรุ่น นานาชาติ ผมก็ดีใจมากและตั้งใจจะบวชให้ได้ ตอนนี้ นอกจากจะได้ปฏิบัติธรรมอย่างเต็มที่แล้ว ยังได้พบเพื่อนใหม่ แล้วทุกคนก็กลายเป็นเพื่อนสนิท ซึ่งในกลุ่มของผมกำลังพูดคุยกันแล้วว่า ปีหน้าจะมาบวชด้วยกันอีกครับ”

ท่านที่สอง นาคธรรมทายาท จาง จ้าน อายุ 55ปี ปัจจุบันเป็นอาสาสมัครประจำอยู่ที่วัดของท่านธรรมาจารย์ไห่เทา ท่านกล่าวว่า “ท่านไห่เทาได้เล่าถึงบรรยากาศ เมื่อครั้งที่ท่านมาร่วมงานบุญที่วัดพระธรรมกาย เพื่อถวายสังฆทาน 20,000วัดในวันคุ้มครองโลกที่ผ่านมา ผมจึงรู้สึกประทับใจ แล้วยังได้ยินว่า วัดพระธรรมกายเด่นทางด้านสมาธิด้วย ก็เลยอยากมาฝึกและเรียนรู้พระพุทธศาสนาที่นี่ หลังจากทราบข่าวว่ามีโครงการบวช นานาชาติ ที่วัดพระธรรมกายจากหนังสือพิมพ์เหรินเจียนฝู่เป้าของวัดฝอกงซาน จึงไม่ลังเลที่จะมาบวชในครั้งนี้”

นาคธรรมทายาท จาง จ้าน ยังกล่าวปิดท้ายด้วยการชื่นชมพระเดชพระคุณหลวงพ่อว่า “พระเดชพระคุณหลวงพ่อสร้างวัดได้ใหญ่ พระแต่ละรูปก็อายุยังหนุ่ม และพูดได้หลายภาษาด้วย”

ท่านที่สาม นาคธรรมทายาท หลัน เสียง หลิน เป็นชาวไต้หวัน อายุ 37ปี เป็นพนักงานอยู่ที่คณะภาษาต่างประเทศ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยี ซิ่งอู๋ แม้จะมีภาระหน้าที่การงาน แต่ท่านก็มาเก็บเกี่ยวบุญเป็นอาสาสมัครอยู่ที่วัดภาวนาไทเป เป็นประจำทุกอาทิตย์ ท่านกล่าวว่า “แต่เดิมผมไม่เคยนับถืออะไรเลยนะ แล้วก็เคยลองไปศึกษาศาสนาคริสต์ ทั้งคาทอลิกและโปรเตสแตนต์มาแล้ว แต่เห็นว่าทางพระพุทธศาสนาสอนแบบเน้นการปฏิบัติ จึงลองเข้ามาศึกษาดู จนได้มาพบวัดพระธรรมกายซึ่งเน้นการปฏิบัติ และความเสียสละอย่างแท้จริง เมื่อผมได้ทราบข่าวงานบวชครั้งนี้ ผมจึงตัดสินใจเดินทางมาวัดพระธรรมกายเป็นครั้งแรก...

ผมขออนุญาตพ่อแม่มาบวชได้ครับ แต่ไม่ได้บอกท่านเรื่องปลงผมและโกนคิ้ว ซึ่งเป็นความเชื่อมาจากบรรพบุรุษว่า การโกนคิ้ว หมายถึง การตัดความเป็นแม่เป็นลูกกัน ผมจึงเครียดมาก ดังนั้น ช่วงเวลาที่ธรรมทายาทไปพักกัน ผมก็ไปนั่งสมาธิที่ห้องปฏิบัติธรรมคนเดียว พอใจนิ่งก็คิดได้ว่า ชาติก่อนๆ เราคงทำอะไรไม่จริงจัง จึงทำอะไรไม่สำเร็จในชาตินี้ เมื่อเราตั้งใจมาศึกษาพระพุทธศาสนา วิธีที่จะเรียนให้ถึงที่สุดก็คือการบวช ผมจึงตัดสินใจแน่วแน่ว่าต้องบวช และยอมโกนคิ้วในครั้งนี้ครับ อีกอย่างหนึ่งที่ผมอยากจะบอกคือ ผมรู้สึกว่าพระเดชพระคุณหลวงพ่อเป็นเหมือนพระอริยะ ถ้าทุกสถานที่มีคนแบบพระเดชพระคุณหลวงพ่อ งานพระพุทธศาสนาคงจะเจริญรุ่งเรืองไปได้อีกมากทีเดียวครับ”

ส่วนตัวแทนภาคภาษาอังกฤษมีอีก 3คน เริ่มด้วย

ท่านแรก นาคธรรมทายาท เจอโรม ดันน์ (Jarome Dunn) อายุ 40ปี จากนิวซีแลนด์ ได้ไปที่ศูนย์ปฏิบัติธรรมดันนีดิน และดูพระเดชพระคุณหลวงพ่อผ่านทาง DMC มาโดยตลอด ได้กล่าวว่า “ผมมาร่วมโครงการบวชเพราะอยากเป็นคนดี แล้วการได้มาบวชที่นี่ก็เปลี่ยนชีวิตผมจริงๆครับ แต่ก่อนผมสูบบุหรี่ ดื่มเบียร์ ไปเต้นรำ ร้องเพลง และก็ไม่เข้าใจเลยว่า ทำไมภรรยาชาวไทยที่น่ารักของผม ถึงอยากให้ผมบวช เพราะถ้าผมบวช ผมก็จะไม่ได้อยู่กับเธอเกือบหนึ่งเดือน แต่ตอนนี้ผมรู้แล้วครับว่า การบวชนั้นดีจริงๆ ที่สำคัญคือ ผมได้มีโอกาสอยู่ใกล้พระเดชพระคุณหลวงพ่อ ขณะที่ผมบวชอยู่นี้ ผมก็อยากเอาความรู้ ความสามารถ มาช่วยงานของพระเดชพระคุณหลวงพ่อให้มากที่สุด เช่น การแต่งเพลงครับ”

ท่านที่สอง นาคธรรมทายาท โยชิโนะ ชูจิ อายุ 54ปี จากประเทศญี่ปุ่น ปัจจุบันทำธุรกิจส่วนตัวด้านผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร อยู่ที่จังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวว่า “เมื่อ 2ปีที่แล้ว หลังจากได้มารู้จักวัดพระธรรมกาย และปฏิบัติธรรม ผมก็รู้สึกว่าสมาธิมีเสน่ห์ เพราะนั่งแล้ว ผมสัมผัสได้ถึงความสุขภายในและสันติภาพ พอปฏิบัติไปเรื่อยๆ ก็รู้สึกว่าใจโดนดูดไปข้างล่างและเห็นเป็นดวงสว่าง ทำให้ตอนนี้ ผมเลิกทะเลาะกับภรรยาไปเลย ความอยากในเรื่องทรัพย์ภายนอกก็หายไปด้วยครับ ปีนี้เมื่อภรรยาแจ้งข่าวเรื่องงานบวช ผมจึงตอบไปเลยว่า ผมจะบวช ซึ่งภรรยาและทุกๆคนก็ดีใจมาก และให้การสนับสนุนครับ”

ท่านที่สาม นาคธรรมทายาท ชามินดะ จายาสิงหะ (Chaminda Jayasinghe) อายุ 38ปี ชาวศรีลังกา ปัจจุบันทำงานด้านไอที อยู่ที่เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ท่านกล่าวว่า “อันที่จริงญาติๆของผม ก็รู้สึกเสียใจที่ผมมาสนใจ และแสวงหาความรู้ทางด้านศาสนา เพราะกลัวว่าผมจะทิ้งลูกของตัวเองไป แต่ผมอยากศึกษาความจริงของชีวิต และอยากให้ลูกของผมได้มาศึกษาศาสนาตั้งแต่เขายังเป็นเด็กอยู่ด้วย....

นี่เป็นครั้งแรก ที่ผมเดินทางมาถึงวัดพระธรรมกายครับ ผมคิดว่าการนั่งสมาธิด้วยวิธีนี้ จะทำให้ผมได้เข้าใกล้สมาธิที่พระพุทธเจ้าทรงค้นพบอย่างเร็ววัน เพราะนั่งแล้ว ผมรู้สึกได้ถึงความผ่อนคลาย, ในวันอาทิตย์ต้นเดือนที่ผ่านมา ผมแค่นั่งหลับตา ก็สามารถตรึกนึกถึงพระพุทธเจ้าอย่างสบาย และง่ายๆเลยครับ ผมขอขอบคุณผู้จัดโครงการที่ยิ่งใหญ่อย่างนี้เป็นอย่างสูง และขอให้วัดพระธรรมกายยิ่งใหญ่ยิ่งๆขึ้นไปนะครับ”

ทั้งหมดนี้ เป็นเพียงส่วนหนึ่งของความในใจ และความภูมิใจ ที่ทุกท่านได้เป็นผู้มีบุญ ผู้ได้โอกาส และได้เป็นส่วนหนึ่งของพระรัตนตรัยแล้ว ขอกราบอนุโทนาบุญกับธรรมทายาทนา นาชาติ ทุกท่าน