แม่ค้าพลอย

อานุภาพพระเดชพระคุณหลวงปู่ฯ

แม่ค้าพลอย

อานุภาพของพระเดชพระคุณหลวงปู่ฯนั้น เป็นที่โจษขานกันมานานแล้วว่า ศักดิ์สิทธิ์จริงๆ นับตั้งแต่สมัยที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ จนตอนนี้ท่านได้หวนกลับมามีชีวิตใหม่บนโลกนี้อีกครั้ง ด้วยรูปกายทองคำ อานุภาพของท่านก็ยิ่งไม่มีประมาณ เกินควรเกินคาด ขนาดคนที่ไม่เคยมาวัดยังบอกเลยว่า “หลวงปู่...ท่านศักดิ์สิทธิ์จริงๆ ไปตามมาถึงที่เลย” ซึ่งหนึ่งในลูกหลานของพระเดชพระคุณหลวงปู่ฯ ที่ถูกตามกลับมาสู่เส้นทางการสร้างบารมีนี้ก็คือ กัลยาณมิตรจันทรัสม์ ทัตพิชาอัมพร หรือ ป้าเอียด อายุ 56ปี แม่ค้าพลอยแห่งอำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี

ก่อนหน้าที่ป้าเอียดจะได้มาวัดพระธรรมกายนั้น ป้าเอียดเป็นคนชอบทำบุญอยู่แล้ว และที่สำคัญป้าเอียดมีความรู้สึกหวงแหน อยากจะทำนุบำรุงและเผยแผ่พระพุทธศาสนาอยู่ตลอดเวลา คิดอยู่เสมอว่า ทำอย่างไรจะให้คนมีธรรมะ จะทำอย่างไรถึงจะรักษาพระพุทธศาสนาไว้ได้ ป้าเอียดจึงไปหาหนังสือธรรมะเอามาไว้ที่ร้าน แล้วก็แจกให้กับลูกค้าที่มาซื้อพลอย

ป้าเอียดให้เหตุผลว่า “โดยปกติแล้วลูกค้าที่มาซื้อพลอย หรือรัตนชาติ เขามักจะมีความเชื่อเกี่ยวกับรัตนชาติว่า ส่งผลต่อชีวิตได้ ป้าเลยถือโอกาสเอาธรรมะเข้าแทรกเลย”

ป้าเอียดเป็นคนชอบสวดมนต์ ทุกๆครั้งเวลาที่กราบพระ ป้าเอียดจะนึกถึงพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ ตามลำดับ ซึ่งก็แล้วแต่ว่าพระสงฆ์ที่นึกถึงจะเป็นองค์ไหน แต่ป้าเอียดบอกว่า “สำหรับหลวงปู่...ป้าไม่ค่อยอยากนึกเท่าไหร่ เพราะว่าท่านหน้าดุ”

แต่อยู่ดีๆ ช่วงก่อนวันงานหล่อรูปเหมือนทองคำ พระเดชพระคุณหลวง

ปู่ฯ หนึ่งอาทิตย์ เวลากราบพระสงฆ์ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเหตุใด พระสงฆ์...องค์ที่ลอยขึ้นมาเป็นภาพชัดในใจก่อนองค์อื่นเลยก็ คือ พระเดชพระคุณหลวงปู่ฯ ป้าเอียดก็คิดว่า “ไม่ได้นึกเลย มาได้ยังไงกันนี่”

ก่อนหน้านั้น ป้าเอียดได้เคยเปิดทีวีผ่านช่อง DMC แวบไปก็แวบมาหลายต่อหลายครั้ง แต่ก็ทำเป็นไม่สนใจ เพราะเคยได้ยินข่าวคราวที่เขาพูดกัน ก็ฟังและเชื่อไปตามนั้น จนกระทั่งเห็นพระเดชพระคุณหลวงปู่ฯ อยู่อย่างนั้นไม่หายไปไหน แล้วก็เห็นแวบๆว่า DMC มีพระเดชพระคุณหลวงปู่ฯ ป้าเอียดก็เลยเกิดคำถามขึ้นมาว่า “ทำไมวัดนี้ถึงศรัทธาหลวงปู่นะ หลวงปู่...ท่านเป็นอะไรกับวัดพระธรรมกาย”

ป้าเอียดจึงได้ลองดู DMC อย่างจริงจังเป็นครั้งแรก ซึ่งก็ได้พบกับใบหน้าอันอ่อนวัยของคุณครูไม่ใหญ่ และทันใดนั้นเอง ป้าเอียดเล่าว่า “พอเปิดปุ๊บ ก็มีแสงจากหัวใจของป้า ที่หน้าอกข้างซ้ายนี้เลย พุ่งตรงไปที่หลวงพ่อ ป้าขนลุกเลยนะ ความรู้สึกตอนนั้น มันโล่งอย่างบอกไม่ถูก รู้สึกว่าเข้าใจทุกอย่างเลย มันทะลุปรุโปร่ง ข้อข้องใจต่างๆมันหายไปซะเฉยๆ”

ป้าเอียดจึงกราบขอโทษคุณครูไม่ใหญ่ตรงนั้นเลย แล้วพูดออกมาว่า “ลูกรู้แล้ว ลูกเข้าใจแล้ว” และยิ่งดู DMC ป้าเอียดก็ยิ่งปลื้มคุณครูไม่ใหญ่ เพราะสิ่งที่คุณครูไม่ใหญ่คิดและทำ มันตรงกับใจของป้าเอียด คือ “ทำอย่างไรให้พระพุทธศาสนาคงอยู่ถาวรตลอดไป” และที่สำคัญที่สุด ป้าเอียดได้คำตอบว่า พระเดชพระคุณหลวงปู่ฯ คือ มหาปูชนียาจารย์และเป็นผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย นั่นเอง

จากสิ่งที่เกิดขึ้น ทำให้ป้าเอียดมั่นใจว่า พระเดชพระคุณหลวงปู่ฯมาดลใจ และมาตาม ป้าเอียดจึงอยากได้รูปของพระเดชพระคุณหลวงปู่ฯมาใส่กรอบไว้ที่ร้าน จึงได้อธิษฐานกับพระเดชพระคุณหลวงปู่ฯว่า “ลูกอยากได้รูปหลวงปู่แผ่นใหญ่ๆ เป็นสีทองๆก็ยิ่งดี ลูกจะได้เอามาติดไว้ที่ร้านแล้วบูชา”

อยู่มาวันหนึ่ง ลูกจ้างที่ร้านก็มาหาป้าเอียดพร้อมกับอะไรบางอย่าง แล้วบอกป้าเอียดว่า “รับรองป้าต้องถูกใจแน่ๆเลย” พอป้าเอียดได้เห็นก็ถึงกับพูดไม่ออก เพราะสิ่งที่ได้รับมาก็คือ รูปของพระเดชพระคุณหลวงปู่ฯนั่นเอง และตั้งแต่ได้รูปของพระเดชพระคุณหลวงปู่ฯมา ใครเดินผ่านไปผ่านมาก็มีแต่คนยกมือไหว้รูปของท่าน

เมื่อพระเดชพระคุณหลวงปู่ฯมาตาม และอธิษฐานสำเร็จอย่างนี้ ป้าเอียดก็เกิดแรงศรัทธา และอยากจะร่วมทำบุญหล่อรูปเหมือนทองคำ พระเดชพระคุณหลวงปู่ฯ แต่ช่วงที่ผ่านมาเศรษฐกิจตกต่ำ รายได้จึงไม่ค่อยจะดี ทั้งๆที่ร้านของป้าเอียดทำเลดีมาก อยู่ติดกับโรงแรมระดับห้าดาวทั้งนั้น แต่ก็ยังขายไม่ค่อยได้ ป้าเอียดจึงอธิษฐานขอพระเดชพระคุณหลวงปู่ฯว่า “ลูกอยากหล่อรูปเหมือนทองคำหลวงปู่ อยากทำบุญกับหลวงปู่ แต่รายได้ไม่ดีเลย ขออานุภาพหลวงปู่ให้ลูกมีเงินมาหล่อรูปเหมือนทองคำครั้งนี้ด้วยเถิด”

ไม่น่าเชื่อว่า ในช่วงสายของวันนั้น มีลูกค้าโทรศัพท์มาบอกว่า อยากได้กำไล ซึ่งมีมูลค่า 16,000บาท ป้าเอียดจึงได้เงินมาหล่อรูปเหมือนทองคำ พระเดชพระคุณหลวงปู่ฯ เป็นอัศจรรย์ นอกจากนั้นป้าเอียดยังบอกบุญคนอื่นด้วย โดยบอกว่า “จะไปหล่อรูปเหมือนทองคำหลวงปู่ ทำบุญกันไหม” ป้าเอียดบอกว่า “ปกติแจกซองไป ได้มาแต่แบงก์ยี่สิบ แถมยังทำหน้าบูดๆใส่ป้าอีก แต่คราวนี้มันแปลกจริงๆ เพราะแต่ละคนควักกันเป็นร้อยๆ แล้วก็ไม่มีเอ๊ะอ๊ะกันเลย บอกปุ๊บทำปั๊บ ขนาดลูกค้าที่แวะมาที่ร้านได้ยินแล้วยังอดใจไม่ไหวร่วมทำบุญด้วยเป็นพัน”

จนในวันหล่อรูปเหมือนทองคำ พระเดชพระคุณหลวงปู่ฯ ป้าเอียดกับเพื่อนๆก็ชวนกันมาร่วมงานที่วัด มากันเองแบบไม่ต้องมีใครนำทาง พอได้มาเห็นก็ประทับใจมากๆ ป้าเอียดบอกว่า “ป้าไม่เคยนั่งสมาธิได้ดีขนาดนี้มาก่อนเลย แล้วตอนนั่งป้าก็เห็นหลวงปู่ผุดซ้อนเป็นชั้นๆจากตรงกลางนี่ จากเล็กไปใหญ่ จีวรของท่านปลิวไสวเลย ป้าขนลุก น้ำตาซึม ปลื้มใจจริงๆ”

เมื่อป้าเอียดได้รับพระของขวัญรุ่นรวยโคตรโคตร กลับมาก็เอามาเลี่ยมกรอบล้อมรัตนชาติ ขนาดลูกสาวที่ไม่เคยห้อยพระ งานนี้ร้องขอเองเลย ยิ่งไปกว่านั้นหลังกลับมาจากงานหล่อรูปเหมือนทองคำ พระเดชพระคุณหลวงปู่ฯ รายได้ก็ดีขึ้นเห็นๆ ขายของได้ปุ๊บปั๊บ จนป้าเอียดก็ยังงง

เมื่อป้าเอียดได้ยินคุณครูไม่ใหญ่บอกว่า จะมีกฐินหลวงปู่ บูชาครูพระผู้ปราบมาร ถ้าใครร่วมบุญจะได้จารึกชื่อบนแผ่นทองประดิษฐานในแผ่นฌาน ก็เลยอยากจะทำบุญด้วย จึงนึกอธิษฐานกับพระเดชพระคุณหลวงปู่ฯว่า “ลูกอยากจะทำบุญกฐินหลวงปู่ ขอให้เดือนนี้เงินเข้าสัก 150,000 นะเจ้าคะ”

ปกติในช่วงที่ผ่านมา แต่ละเดือนได้ไม่ถึงแสน ทั้งๆที่เมื่อก่อนได้เดือนละ 3 ถึง 4แสน ป้าเอียดเล่าว่า “ไม่น่าเชื่อเลย หลวงปู่ศักดิ์สิทธิ์จริงๆ นี่ยังไม่ทันจะหมดเดือน ที่อธิษฐานไว้ ก็สำเร็จแล้ว”

ป้าเอียดบอกว่า “ตั้งแต่กลับมาจากงานหล่อรูปเหมือนหลวงปู่ ใครที่ไม่ชอบวัด พอคุยกับป้าเป็นอันต้องสงบ เพราะตอนนี้ป้าทำหน้าที่เหมือนเป็นทนายแก้ต่างให้กับวัดไปแล้ว” และป้าเอียดได้ทิ้งท้ายไว้ว่า “ได้มาเจอ มาเห็นอย่างนี้แล้ว ไม่ไปไหนแล้วจ้า จะขอตามติด ติดตามหลวงปู่ กับหลวงพ่อ สร้างบารมีตลอดไปจนถึงที่สุดแห่งธรรมเลย”

กฐินหลวงปู่ บูชาครูพระผู้ปราบมาร