พลังที่หายไป


[ 4 ธ.ค. 2551 ] - [ 18269 ] LINE it!

ผลการปฏิบัติธรรม

กัลยาณมิตรแองเจิล ชาน ซิว ฮา (ชาวฮ่องกง)
 
กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพเป็นอย่างสูง
 
    ลูกชื่อ แองเจิล ชาน ซิว ฮา อายุ 38ปี เป็นชาวฮ่องกง แต่ย้ายมาทำงานและใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองไทยหลายปีแล้วค่ะ ลูกได้มีโอกาสมานั่งสมาธิในโครงการ The Middle Way...รุ่นที่21 ที่สวนป่าหิมวันต์ จังหวัดเลย ระหว่างวันที่ 7-13 กันยายน พ.ศ.2551 ที่ผ่านมา
 
    ลูกติดใจทั้งสภาพแวดล้อม และผู้คนที่เมืองไทยค่ะ เพราะผู้คนที่นี่จิตใจดีเป็นกันเอง และที่ลูกได้มีโอกาสมาอยู่เมืองไทย มารู้จักกับพระเดชพระคุณหลวงพ่อ และรู้จักโครงการ The Middle Way ก็เพราะว่า ลูกมีเจ้านายที่แสนดีชื่อ คุณอีริค เพราะลูกทำงานที่แคลิฟอร์เนียฟิตเนส ซึ่งคุณอีริคเป็นเจ้าของ มานานถึง12ปีแล้วค่ะ แคลิฟอร์เนียฟิตเนสมีสาขาอยู่ในหลายประเทศค่ะ โดยช่วงแรกลูกประจำอยู่ที่ฮ่องกง ต่อมาก็ย้ายไปไต้หวัน จนกระทั่งล่าสุดได้ย้ายมาประจำที่เมืองไทย 5ปีแล้วค่ะ
 
    งานของลูก คือ เป็นผู้จัดการดูแลภาพรวม การออกกำลังกายแบบโยคะของแคลิฟอร์เนียฟิตเนส ทุกสาขาในเมืองไทย ซึ่งเป็นงานที่ลูกรักค่ะ เพราะลูกชอบการออกกำลังกาย ลูกออกกำลังกายและฝึกโยคะเป็นประจำทุกวัน ทำให้มีสุขภาพแข็งแรงและรูปร่างดี จนใครๆก็ชม ตอนอยู่ที่ฮ่องกง ลูกเคยถ่ายแบบด้วยนะคะ
 
    แม้ลูกจะฝึกโยคะเป็นประจำ แต่ก็ยังไม่เคยได้เรียนหรือฝึกสมาธิอย่างจริงจังที่ไหนมาก่อนเลย กระทั่งเมื่อประมาณ 5ปีที่แล้ว คุณอีริคบอกลูกว่า ลูกน่าจะลองฝึกนั่งสมาธิดู พร้อมแนะนำว่าสมาธิมีประโยชน์กับการใช้ชีวิตมาก แล้วเขาก็หาหนังสือมาให้อ่าน และหาซีดีฝึกสมาธิมาให้ลูกฝึกนั่งด้วยตัวเอง ลูกก็ลองทำตามดู ปรากฏว่า แม้ฝึกนั่งด้วยตัวเองครั้งแรกๆ ก็เหมือนตัวของลูกจะลอยได้ รู้สึกตัวเบาๆ มีความสุขมาก แต่น่าเสียดายที่ตอนนั้นลูกยังไม่ค่อยเห็นความสำคัญ จึงไม่ได้ฝึกต่อเนื่อง และก็มัวแต่ทำงานค่ะ
 
    จนกระทั่งช่วงหลังนี้ ลูกมีความรู้สึกบางอย่างเกิดขึ้นกับตัวเอง คือ รู้สึกเหมือนกับว่าพลังในตัวค่อยๆ หายไป..หายไป...หายไป โดยลูกไม่รู้ว่าเพราะอะไร ทั้งๆที่ลูกก็ออกกำลังกายทุกวัน มีร่างกายที่แข็งแรง แต่ทำไมยังรู้สึกว่าขาดพลัง สิ่งนี้อาจเป็นเพราะลูกไม่ค่อยได้ฝึกดูแลใจตัวเอง จนพลังในใจค่อยๆเหือดหายไปโดยไม่ทันรู้ตัวก็ได้ มารู้ตัวอีกทีก็รู้สึกไม่ไหวแล้ว เราปล่อยให้เป็นอย่างนี้ต่อไปไม่ได้แล้ว
 
    ลูกจึงนึกย้อนไปถึงประสบการณ์ดีๆ ที่เคยเกิดขึ้นกับตัวเองตอนที่ลองฝึกนั่งสมาธิ แล้วก็คิดว่าอาการหนักขนาดนี้คงมีแต่สมาธิเท่านั้นที่จะช่วยได้ จึงไปปรึกษาคุณอีริคว่า…
 
“อีริค ตอนนี้ฉันอยากนั่งสมาธิมากๆ มันไม่ไหวแล้ว คุณช่วยบอกฉันหน่อยว่าฉันควรไปที่ไหน”
คุณอีริคก็ตอบว่า “ไป The Middle Way สิ”
 
    ซึ่งก็เป็นคำแนะนำที่ถูกต้องจริงๆค่ะ การตัดสินใจมานั่งสมาธิที่นี่ เหมือนเป็นจุดเปลี่ยนในชีวิตของลูกเลยทีเดียว เพราะตอนนี้ พลังของลูกกลับมาแล้ว และกลับมามากกว่าเดิม เป็นพลังในใจที่ส่งผลให้ลูกมีพลังที่จะดำเนินชีวิต และพลังนี้มีมากพอจะเผื่อแผ่ให้ผู้คนรอบตัว และโลกใบนี้ค่ะ
 
 
    การกลับมาอีกครั้งหนึ่งของพลังในใจลูก เกิดขึ้นหลังจากนั่งสมาธิในโครงการThe Middle Way ไปได้เพียง 2-3วัน ลูกใช้เวลาปรับตัวและปรับใจในช่วงแรกๆ เพราะก่อนที่จะมา ลูกมีเรื่องมากมายทำให้ต้องครุ่นคิดและหงุดหงิดใจ แต่พระอาจารย์ก็สอนว่า ให้ลูกปรับใจ ค่อยๆปล่อยวาง ทิ้งเรื่องราวที่ผ่านมาไว้ก่อน ลูกก็ทำตามแล้วค่อยๆรู้สึกดีขึ้น
 
    จนกระทั่งวันที่สาม ลูกเริ่มนั่งสมาธิโดยไม่คิดอะไร ไม่ได้กำหนดดวงแก้ว หรือใช้คำภาวนา เพียงทำความรู้สึกว่าเรากำลังมีความสุข มีความรัก และอยากจะมอบความรักให้กับคนอื่นๆ ไม่นานนักลูกก็เริ่มเห็นบางสิ่งปรากฏขึ้นที่กลางท้องของลูก อยู่ที่ตรงศูนย์กลางกาย สิ่งนั้นมีลักษณะเหมือนเพชรกลมๆ ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางราวๆ 2นิ้ว
 
    ลูกขอเรียกว่า เพชร เพราะสิ่งที่ลูกเห็นมีความสว่างมาก มีประกายเจิดจ้า ส่องสว่างออกมาเหมือนแสงของเพชรจริงๆ สวยงามมาก จากที่จุดกำเนิดของแสงจากเพชรที่อยู่ตรงกลางท้องนี้ ก็ค่อยๆส่องสว่างไปยังทั่วทั้งร่างกายของลูก และรอบๆตัวลูก ซึ่งลูกรู้สึกว่าเป็นความสว่างที่เจิดจ้ามากจริงๆ และไม่ได้มาจากแสงไฟหรือดวงอาทิตย์ เพราะตอนนั้นเป็นเวลากลางคืน ทำให้ลูกปีติและมีความสุขมาก นี่แหละ...คือจุดเปลี่ยนที่ทำให้พลังในใจของลูกเกิดขึ้นค่ะ
 
 
    หลังจากการนั่งครั้งนี้ ลูกรู้สึกว่าอะไรๆในชีวิตของลูกช่างดีไปหมด มีความสุขมากจริงๆค่ะ ลูกจึงอยากขอบคุณบุคคล 2ท่าน คือ คุณอีริค ที่เป็นทั้งเจ้านายและกัลยาณมิตร และกราบขอบพระคุณ พระเดชพระคุณหลวงพ่อ ที่เมตตาให้มีโครงการ The Middle Way ทำให้ลูกได้เรียนรู้วิธีฝึกและดูแลใจ จนทำให้พบกับความสุขภายในในวันนี้ และได้เรียนรู้วิธีดึงพลังจากภายในตัว ไปเผื่อแผ่ให้คนอื่นด้วยค่ะ
 
    ลูกคิดว่า ที่โลกของเราวุ่นวายกันอยู่ทุกวันนี้ ก็เพราะโลกกำลังขาดความรัก ผู้คนไม่มีความรัก ความปรารถนาดีให้กัน จึงแก่งแย่งและทำสงครามกัน และการที่ผู้คนไม่มีความรักจะมอบให้แก่กัน ก็เพราะว่าตัวเขาเองไม่รู้วิธีการที่จะทำให้ตัวเองมีความสุข และไม่รู้วิธีที่จะดึงเอาความรักออกมาจากตัวของเขาเองได้ วิธีการที่ว่าก็คือ การนั่งสมาธินั่นเอง ตอนนี้ลูกมีความสุข และมีความรักมากมายที่จะเผื่อแผ่ให้กับโลกใบนี้ค่ะ
 
กราบนมัสการด้วยเคารพอย่างสูง
     
แองเจิล ชาน ซิว ฮา


Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
จิตสงบ ลมหยุดไหวจิตสงบ ลมหยุดไหว

ทำใจสบายๆ ไม่รีบ ไม่เร่งทำใจสบายๆ ไม่รีบ ไม่เร่ง

แสงสว่างกลางดวงจันทร์แสงสว่างกลางดวงจันทร์



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

ผลการปฏิบัติธรรมนานาชาติ