อธิบดีกรมการแพทย์ชี้อันตรายควันพิษจากบุหรี่ สามารถกระตุ้นอาการคนที่มีโรคประจำตัว โดยเฉพาะโรคหอบหืด โรคภูมิแพ้ อาการกำเริบง่าย สั่งห้ามสูบบุหรี่เด็ดขาด ด้าน ผอ.ศูนย์นเรนทร แนะประชาชน หากป่วยฉุกเฉินเรียกใช้บริการหน่วยแพทย์ ทาง 1669 ตลอด 24 ชั่วโมง เผยที่ผ่านมาประชาชนยังไม่รู้จักเบอร์นี้ถึงร้อยละ 80
นพ.ชาตรี บานชื่น อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวถึงกรณีของนายนภา ศรีสวัสดิ์ หรือ ดี๋ ดอกมะดัน ศิลปินตลก เกิดอาการโรคหอบหืดซึ่งเป็นโรคประจำตัวกำเริบ ทำให้หายใจไม่ออก ต้องนำส่งโรงพยาบาล และเกิดอาการโคม่า หัวใจหยุดเต้นในระหว่างนำตัวส่งโรงพยาบาล เมื่อวานนี้ (14 ก.ย.) ถือว่าเป็นตัวอย่างของผู้ที่มีโรคประจำตัว โดยเฉพาะโรคหอบหืด ที่หันมาสูบบุหรี่ใหม่ แม้ว่าจะเลิกไปแล้ว อาการหอบสามารถเกิดขึ้นได้จากการสูบบุหรี่โดยตรง หรือสูดควันบุหรี่ที่ผู้อื่นสูบ ดังนั้น ต้องเลิกสูบอย่างเด็ดขาด และหลีกเลี่ยงพื้นที่ที่มีควันบุหรี่มาก เนื่องจากในควันบุหรี่มีสารพิษอันตรายมากมายกว่า 4,000 ชนิด โดยเฉพาะก๊าซไข่เน่า คาร์บอนมอนนอกไซด์ คาร์บอนไดซัลไฟด์ ไนโตรเจนไดออกไซด์ ไนโตรเจนออกไซด์ ที่อยู่ในควันบุหรี่ จะระคายเคืองระบบทางเดินหายใจ ทำให้หลอดลมหดตัวตีบ และมีเสมหะมาอุดตันตามท่อทางเดินหายใจ การหายใจจะติดขัด หายใจไม่ออก หัวใจเต้นผิดปกติ หากผู้ที่เป็นโรคหอบหืดมีอาการหอบกำเริบที่บ้าน ใช้ยาพ่นขยายหลอดลมแล้วอาการไม่ดีขึ้น ขอให้รีบไปโรงพยาบาลโดยเร็ว
นพ.ชาตรี กล่าวต่อว่า จากรายงานการศึกษาในต่างประเทศ พบว่า ผู้ที่เป็นความดันโลหิตสูงหรือไขมันในเลือดสูง หากสูบบุหรี่จะเพิ่มความเสี่ยงเป็นโรคหัวใจขาดเลือดสูงกว่าคนปกติ 2 เท่าตัว และหากคนที่สูบบุหรี่เป็นทั้งโรคความดันโลหิตสูงและไขมันในเลือดสูง ความเสี่ยงจะเพิ่มเป็น 8 เท่าตัว นอกจากนี้ในกลุ่มที่มีความเครียดก็ต้องระวังเช่นกัน ไม่ควรระบายความเครียดด้วยการสูบบุหรี่ เนื่องจากความเครียดจะไปกระตุ้นการหลั่งของฮอร์โมนคอร์ติโซน ทำให้เส้นเลือดตีบหัวใจทำงานหนักกว่าปกติ และเมื่อได้พิษจากควันบุหรี่เสริมเข้าไปอีก หัวใจจะยิ่งทำงานหนักมากขึ้นไปอีก ทำให้มีโอกาสเสี่ยงที่จะเป็นโรคหัวใจขาดเลือด และหัวใจวาย ควรผ่อนคลายความเครียดด้วยการออกกำลังกาย หรือการพักผ่อนหย่อนใจ ซึ่งจะช่วยให้สุขภาพแข็งแรง ไม่เจ็บป่วย
ด้าน นพ.สุรเชษฐ์ สถิตนิรามัย ผู้อำนวยการศูนย์นเรนทร กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขมีระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉินออกให้บริการ
นพ.ชาตรี บานชื่น อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวถึงกรณีของนายนภา ศรีสวัสดิ์ หรือ ดี๋ ดอกมะดัน ศิลปินตลก เกิดอาการโรคหอบหืดซึ่งเป็นโรคประจำตัวกำเริบ ทำให้หายใจไม่ออก ต้องนำส่งโรงพยาบาล และเกิดอาการโคม่า หัวใจหยุดเต้นในระหว่างนำตัวส่งโรงพยาบาล เมื่อวานนี้ (14 ก.ย.) ถือว่าเป็นตัวอย่างของผู้ที่มีโรคประจำตัว โดยเฉพาะโรคหอบหืด ที่หันมาสูบบุหรี่ใหม่ แม้ว่าจะเลิกไปแล้ว อาการหอบสามารถเกิดขึ้นได้จากการสูบบุหรี่โดยตรง หรือสูดควันบุหรี่ที่ผู้อื่นสูบ ดังนั้น ต้องเลิกสูบอย่างเด็ดขาด และหลีกเลี่ยงพื้นที่ที่มีควันบุหรี่มาก เนื่องจากในควันบุหรี่มีสารพิษอันตรายมากมายกว่า 4,000 ชนิด โดยเฉพาะก๊าซไข่เน่า คาร์บอนมอนนอกไซด์ คาร์บอนไดซัลไฟด์ ไนโตรเจนไดออกไซด์ ไนโตรเจนออกไซด์ ที่อยู่ในควันบุหรี่ จะระคายเคืองระบบทางเดินหายใจ ทำให้หลอดลมหดตัวตีบ และมีเสมหะมาอุดตันตามท่อทางเดินหายใจ การหายใจจะติดขัด หายใจไม่ออก หัวใจเต้นผิดปกติ หากผู้ที่เป็นโรคหอบหืดมีอาการหอบกำเริบที่บ้าน ใช้ยาพ่นขยายหลอดลมแล้วอาการไม่ดีขึ้น ขอให้รีบไปโรงพยาบาลโดยเร็ว
นพ.ชาตรี กล่าวต่อว่า จากรายงานการศึกษาในต่างประเทศ พบว่า ผู้ที่เป็นความดันโลหิตสูงหรือไขมันในเลือดสูง หากสูบบุหรี่จะเพิ่มความเสี่ยงเป็นโรคหัวใจขาดเลือดสูงกว่าคนปกติ 2 เท่าตัว และหากคนที่สูบบุหรี่เป็นทั้งโรคความดันโลหิตสูงและไขมันในเลือดสูง ความเสี่ยงจะเพิ่มเป็น 8 เท่าตัว นอกจากนี้ในกลุ่มที่มีความเครียดก็ต้องระวังเช่นกัน ไม่ควรระบายความเครียดด้วยการสูบบุหรี่ เนื่องจากความเครียดจะไปกระตุ้นการหลั่งของฮอร์โมนคอร์ติโซน ทำให้เส้นเลือดตีบหัวใจทำงานหนักกว่าปกติ และเมื่อได้พิษจากควันบุหรี่เสริมเข้าไปอีก หัวใจจะยิ่งทำงานหนักมากขึ้นไปอีก ทำให้มีโอกาสเสี่ยงที่จะเป็นโรคหัวใจขาดเลือด และหัวใจวาย ควรผ่อนคลายความเครียดด้วยการออกกำลังกาย หรือการพักผ่อนหย่อนใจ ซึ่งจะช่วยให้สุขภาพแข็งแรง ไม่เจ็บป่วย
ด้าน นพ.สุรเชษฐ์ สถิตนิรามัย ผู้อำนวยการศูนย์นเรนทร กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขมีระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉินออกให้บริการ
ทั่วประเทศ ประชาชนสามารถแจ้งได้ที่หมายเลข 1669 ฟรีตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งระบบบ้านและโทรศัพท์มือถือ โดยการบริการจะมีรถพยาบาลฉุกเฉินระดับสูง พร้อมแพทย์ พยาบาล และเครื่องมือแพทย์ ออกไปให้บริการถึงที่เกิดเหตุ จากการประเมินผลการดำเนินงานปี 2549 นี้ ออกปฏิบัติการทั้งหมดกว่า 200,000 ครั้ง ในจำนวนนี้เป็นประชาชนแจ้งเหตุตรงเพียงร้อยละ 20 แสดงว่ายังมีประชาชนอีกร้อยละ 80 ที่ยังไม่รู้จัก 1669
ที่มา-
Desktop Version
