พลิกคดีฆาตกรรม ภาค 2

จดหมายจากหลานคุณยาย IN MY HEART

ตอน: พลิกคดีฆาตกรรม ภาค 2

กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูงสุดค่ะ

ลูก ป้าสมบัติ แต่งชาติ เจ้าเก่า.. รุ่นเก๋า..มาแล้ว..เจ้าค่า.. มาพร้อมกับภาค 2 ของเรื่อง พลิกคดีฆาตกรรม จะพลิกได้อย่างไรนั้น โปรดติดตามตอนนี้เลยค่ะ...

ต่อจากเมื่อวานนี้ ที่ตาแป๊ะหายตัวไปอย่างลึกลับ พอไปกราบถามคุณยาย จึงทำให้งมศพเจอ แต่เรื่องไม่จบแค่นั้นค่ะ เพราะพบหลักฐาน 3 อย่าง ซึ่งไอ้เจ้าหลักฐาน 3 อย่างนี่แหละค่ะ ทำให้ทุกคนเข้าใจว่า เป็นการฆาตกรรมเอามรดก ซึ่งก็คือ ชะแลง กระป๋องสังกะสี และคราบของเหลวสีแดงบนพื้น ซึ่งได้ถูกรวบรวมส่งไปให้ทางกองพิสูจน์หลักฐานชันสูตรแล้ว แต่ต้องรอระยะเวลาเป็นเดือนๆ กว่าจะรู้ผล หลวงพ่อคะ..คดีนี้เป็นคดีที่ได้รับความสนใจมากเหลือเกินค่ะ จนตำรวจกองปราบได้เข้ามาช่วยสืบค้นเป็นพิเศษ มีการสืบสวนกัน จนกระทั่งกลายเป็นคดีดังที่มีเงื่อนงำ มีเบื้องหน้า เบื้องหลัง โดยสมาชิกในบ้านทุกคนตกเป็นผู้ต้องสงสัย แล้วถูกจับมาสอบปากคำ ทำให้โรงพักวุ่นวายขวักไขว่ไปด้วยผู้คนที่เกี่ยวข้องค่ะ จนกระทั่งสุดท้ายสรุปมาว่า.. ตาแป๊ะถูกฆาตกรรม โดยผู้ใกล้ชิดหวังจะเอามรดก ผู้ฆ่าได้ใช้ชะแลงฟาดหัวตาแป๊ะจนตายในบ้านขณะไม่มีคนอยู่ ซึ่งมีคราบเลือดที่อยู่บนพื้นเป็นหลักฐาน แล้วนำศีรษะไปโบกปูนถ่วงน้ำเพื่อไม่ให้ศพลอยขึ้นอืด จากนั้นก็โยนศพทิ้งน้ำ..!! คดีนี้..ยังคงยืดเยื้อและขยายใหญ่ต่อไปเรื่อยๆ เพราะมีผู้ต้องสงสัยเพิ่มขึ้นเต็มไปหมด คนในครอบครัวตาแป๊ะต่างระแวงกันเอง อีกทั้งความสงสัยถูกซัดทอดไปยังเพื่อนสนิทของตาแป๊ะ ที่เป็นผู้มีอิทธิพลอีกด้วย

หลวงพ่อคะ..เหตุการณ์มันช่างวุ่นวายใหญ่โตมโหฬารมากขึ้นเรื่อยๆ จนลูกรู้สึกสับสนกระวนกระวายใจ จึงรีบเข้ามากราบคุณยาย เพื่อให้ท่านช่วยฟันธงอีกทีค่ะ ท่านก็ฟันธงให้ด้วยประโยคเดิมที่ว่า “ตาแป๊ะตกน้ำตายเอง” คุณยายท่านไม่พูดมากค่ะ ท่านย้ำคำเดิมสั้นๆ แต่ลูกก็รบเร้าท่านอีกว่า “คุณยายคะ..แต่ตอนนี้ ตำรวจเขาพบหลักฐานหมดแล้วนะคะว่าตาแป๊ะไม่ได้ตกน้ำตายเอง เขาว่าเป็นคดีฆาตกรรมเอาสมบัติ” คุณยายท่านก็ตอบนิ่งๆ ตามเคยว่า “คุณสมบัติ.. ไปบอกคุณเชื่อมเถิดนะว่า ตาแป๊ะน่ะ ตกน้ำตายเอง ไม่มีใครฆ่าหรอก เพราะยายไปถามตาแป๊ะมาแล้ว เชื่อยายเถอะ” แต่ด้วยหลักฐานที่พบ ประกอบกับคำสันนิษฐานที่เป็นเหตุเป็นผล ทำให้ลูกหวั่นไหวมากๆ และลังเลสงสัยในคำพูดของคุณยายมากๆ แต่เมื่อคุณยายบอกให้ไปบอกสามี ลูกจึงทำตามไปก่อน พอถึงโรงพัก ลูกเจอร้อยเวรก่อนเข้าไปพบสามี จึงถามเขาว่า “เออ..ตอนนี้คดีตาแป๊ะเป็นอย่างไรบ้าง” ร้อยเวรตอบว่า “ตอนนี้เขาจับผู้ต้องสงสัยได้คนหนึ่งแล้วครับ คาดว่าเป็นคนฆ่าแน่ๆ เป็นคนในบ้านนั่นแหละครับ คาดว่าคงมีปัญหาเรื่องแย่งมรดกกันจริงๆ” พอลูกฟังดังนี้ ลูกยิ่งสับสนสุดขีดเลยค่ะ รู้สึกขัดแย้งในคำพูดของคุณยายมาก เพราะปกติแล้วคุณยายท่านทักอะไรไม่เคยผิดเลย ตั้งแต่ปรึกษาท่านมา ทุกเรื่องก็ไม่เคยพลาดสักเรื่อง อีกทั้งคำพูดของคุณยายยังเป็นคำพูดที่บอกถึงสถานการณ์ล่วงหน้าได้ถูกต้องแม่นยำอีกด้วย แต่ทำไมครั้งนี้ คุณยายถึงบอกว่า ตาแป๊ะตกน้ำตายเอง ทั้งๆ ที่หลักฐานและพยานพร้อมขนาดนี้ ด้วยเหตุนี้ลูกจึงได้แต่รอวันที่ทางกองพิสูจน์หลักฐานส่งผลรายงานมาถึงสามี..และวันนั้นก็มาถึงจริงๆ และแล้วก็พบว่า...คุณยายท่านพูดถูกที่ซู๊ด...เลยคะ เพราะ

1.ถังสังกะสีนั้น พิสูจน์ออกมาแล้วไม่มีคราบปูน ที่คาดว่าจะผสมในถังแล้วนำมาโบกทับศีรษะตาแป๊ะ เพื่อถ่วงน้ำ แต่ปรากฏว่าของแข็งที่หุ้มศีรษะตาแป๊ะ เป็นเพียงดินเหนียวที่อัดตัวแน่นคล้ายปูนเนื่องจากถูกดินถมทับเพราะทิ้งไว้หลายวัน

2.ส่วนสมองและร่างกายส่วนอื่นชันสูตรแล้ว ไม่พบว่าถูกกระทบกระเทือนใดๆ จากการตี ไม่มีรอยช้ำจากการทำร้ายร่างกายเลย

3.ชะแลงที่พบในบ้าน ไม่มีคราบเลือดของผู้ตาย แต่คราบสีแดงบนพื้นบ้าน คือน้ำหมากที่หกแล้วแห้งนั่นเอง

หลวงพ่อคะ..ลูกหลงเชื่อคนรอบข้างตั้งนาน ทั้งๆ ที่เรื่องราวนั้นมั่วกันจนเป็นตุเป็นตะ กลายเป็นเรื่องราวใหญ่โตอย่างไม่น่าเชื่อ คุณยายนี่ท่านเป็นคนสุดยอด..ยอดสุดเลยค่ะ..ความทรงอภิญญาของท่านเกินล้นพ้นคิดจริงๆ ญาณทัศนะของท่านแม่นสมกับที่หลวงปู่ท่านบอกว่าเป็น 1 ไม่มี 2 ท่านไม่หวั่นไหวต่อคำทักท้วงใดๆทั้งสิ้น หลวงพ่อคะ..เรื่องนี้แรงพอไหมคะ..หากแรง..ลูกกำลังจะบอกว่ามีเรื่องที่แรงกว่านี้อีกค่ะ ซึ่งจะนำเสนอในตอนต่อไป ชื่อว่า..เทวดามารึยัง

ส่วนวันนี้ลูกขอไปทำหน้าที่บอกบุญสร้างอาคาร 100 ปีคุณยายก่อนค่ะ เพราะเหลืออีกไม่กี่วันก็จะทอดกฐินแล้ว ลูกคิดว่าหลานยายตัวจริง เสียงจริง ต้องช่วยกันบอกบุญจริงๆ อย่างน้อยให้ได้คนละ 1 แผ่นทองนะคะ เพราะทำให้ยายได้ที่เราค่ะ

ลูกถ่ายรูปคู่กับสามี พันตำรวจโทเชื่อม แต่งชาติ หัวหน้าโรงพักธัญบุรี

ป้าสมบัติไปสำรวจพื้นที่จริงแถวโรงเจ ที่แจ้งว่าตาแป๊ะ
หายตัวไปอย่างลึกลับ

ตัวอย่าง การจารึกชื่อบนแผ่นทอง

ด้วยความเคารพอย่างสูงสุดค่ะ

ลูก ป้าสมบัติ แต่งชาติ