10 ปี ศูนย์ปฏิบัติธรรมสิงคโปร์
กับเทคนิคพิชิตใจคนท้องถิ่น
">">
">
กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูงค่ะ
">
">กัลฯ ควินิน เทา
">
"> ลูกชื่อ กัลฯ
ควินิน เทา ครูสอนโยคะ วัย 61 ปี เป็นชาวสิงคโปร์ค่ะ จากประสบการณ์ที่ลูกเคยเป็นประธานศูนย์ฯมาถึง 6 ปี ณ วันนี้ ศูนย์ฯสิงคโปร์ก็อายุครบ 10 ปีแล้ว ทำให้รู้สึกว่าเวลาช่างรวดเร็วเหลือเกิน และหวนคิดถึงวันวานว่า
เราก้าวมาไกลได้เท่าไหร่แล้ว
">
">
แต่เดิม ลูกเป็นเพียงครูสอนโยคะธรรมดาๆคนหนึ่ง ที่อยากเรียนสมาธิ และตั้งใจจะไปปฏิบัติธรรมที่วัดสักแห่งเหมือนชาวสิงคโปร์ยุคใหม่อีกหลายคน
เพียงแต่ลูกต่างจากคนอื่นตรงที่ได้เห็นโปสเตอร์ของวัดพระธรรมกายเพราะมีนักเรียนนำมาให้ จึงมีโอกาสเดินทางมาพบสถานที่ที่น่าเคารพเลื่อมใสเช่นนี้ค่ะ
">
">
">
กัลฯ ควินิน เทา กับคุณยายอาจารย์ ในช่วงที่เธอเริ่มเข้าวัด
ชีวิตในยุคบุกเบิกนั้น หากใครไม่สัมผัสคงยากจะเข้าใจ ตัวลูกและเพื่อนกัลยาณมิตรที่เคยมาวัดพระธรรมกาย
ต้องนิมนต์พระอาจารย์ให้บินมาสิงคโปร์เป็นครั้งคราว
และในครั้งแรกที่จัด ก็คาดเดายากกว่าทายหัวก้อยเสียอีก เรารู้แต่เพียงว่าคนสิงคโปร์เครียดมากจากการทำงานแต่ก็แสวงหาสิ่งที่ทำให้จิตใจดีขึ้น
เมื่อลองนิมนต์พระอาจารย์มาก็ไม่รู้ว่าจะรุ่งหรือร่วง
แต่ในที่สุด ไม่น่าเชื่อว่าเพียงครั้งแรกที่พระอาจารย์มาลงให้ ก็ต้องใช้ห้องประชุมใหญ่ มีคนมามากถึง 500 คน
นั่นคือแสงสว่างวาบแรกที่มาตอกย้ำว่า คนสิงคโปร์ตื่นตัวในการศึกษาคำตอบของชีวิตแล้ว
">
หลายคนในวันนั้นเข้ามาถามลูกว่า
นั่งแล้วติดใจอยากนั่งสมาธิต่อจะทำยังไง แล้วจะให้ไปนั่งที่ไหน พวกเขาไม่มีที่ไป นี่คือเรื่องจริงค่ะ สำหรับประเทศที่ถือเป็นยักษ์ทางเศรษฐกิจ
การแสวงหาวัตถุดูจะง่ายกว่าการแสวงหาสันติสุขภายใน ตัวลูกพร้อมกัลยาณมิตรกลุ่มเล็กๆ
จึงอดรนทนไม่ได้ ที่จะปล่อยสิ่งนี้ให้เกิดขึ้นในบ้านเกิดของตน ในที่สุด ปี 2542 เราได้จดทะเบียนในนามสมาคมกับรัฐบาลสิงคโปร์ และกระแสเรียกร้องที่เคยได้ยิน
ก็ถูกตอกย้ำชัดขึ้นๆ ด้วยการมีคนทะลักทะล้นเข้ามาร่วมงานบุญ จนทำให้ศูนย์ฯ ต้องขยับขยาย เปลี่ยนที่เรื่อยมา
และทุกที่ต้องมีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ
">
">
">
">
">
">
">
">
">
ศูนย์ปฏิบัติธรรม กับบรรยากาศยุคแรกเริ่ม
เมื่อผู้คนหลั่งไหล ศูนย์ฯก็ขยับขยายมาถึงปัจจุบัน
หลังจากวันที่มีพระภิกษุมาประจำอย่างถาวร
ด้วยความเมตตาของพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ทำให้วันนี้เรามีเจ้าอาวาสถึง 2 รุ่นแล้วค่ะ รูปแรกคือพระอาจารย์ สมชาย สุคันโธ และปัจจุบันคือพระอาจารย์สมเกียรติ วรวังโส
พระอาจารย์ สมชาย สุคันโธ | พระอาจารย์สมเกียรติ วรวังโส |
แต่ทั้ง 2 รูป จะเจอโจทย์เดียวกันคือ เมื่อมาแล้วจุดยืนของท่านจะอยู่ตรงไหน
ในสังคมที่มีความหลากหลายทางเชื้อชาติและความเชื่อ มีผู้นับถือศาสนาทั้งพุทธ คริสต์
มุสลิม ฮินดู และลัทธิเต๋า แต่เนื่องจากที่นี่มีคนเชื้อสายจีนเกือบ
77 เปอร์เซ็นต์ ทำให้วัฒนธรรมชาวพุทธก็ยังคงอยู่ในจิตใจของชาวสิงคโปร์
และในที่สุดพระอาจารย์ก็ตัดสินใจนำสมาธิมาต่อยอดจากความเชื่อดั้งเดิมที่เขามีอยู่
ลูกคิดว่า
หากพระอาจารย์ ตัดสินใจเทศน์ด้วยภาษาไทยและรอคนไทยมาเข้าศูนย์ คงมีอีกหลายคนที่ฟังไม่เข้าใจและต้องหนีหาย
แต่เพราะพระอาจารย์เทศน์สอนด้วยภาษาจีนทุกวัน
ชวนชาวท้องถิ่นมาเป็นเจ้าหน้าที่ ช่วยกันขบคิดวางแผน
สรรหากิจกรรมระยะยาวแบบเป็นระบบ ใครมาศูนย์ใหม่ๆ จะให้ลงคอร์สไหน เข้ามานานระดับ 3 เดือน 1 ปี หรือ 5 ปี
จะต้องไปขั้นไหน ทำให้ความเจริญรุ่งเรืองเกิดขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
พระอาจารย์เล่าพอสังเขปว่า หากมาเป็นน้องใหม่
ก็ต้องป้อนความสุข เบสิคๆแต่เป็นเลิศ คือให้ปฏิบัติธรรมรุ่นพื้นฐาน 3 เดือน
ชาวสิงคโปร์มากันอย่างคับคั่ง ในคอร์สปฏิบัติธรรมภาษาจีน รุ่นที่17
จากนั้น ใครอยากศึกษาสมาธิเพิ่ม จะมีคอร์สพุทธศาสนาเบื้องต้นให้อีก
3 เดือน และก็เหมือนจังหวะชีวิตที่ลงตัว เมื่อครบ
6 เดือนจะถึงกลางปีหรือปลายปีพอดี เราจะได้คัดคนขึ้นที่สูง มาขึ้นปฏิบัติธรรมมิลเดิ้ลเวย์ภาคภาษาจีนที่สุขสว่าง
จ.เชียงใหม่ ซึ่งจะจัดปีละ 2-3 ครั้ง ทำอย่างนี้ต่อเนื่องไม่เคยหยุดเลยค่ะ
">
">
">
">
">
หลังฟูมฟักศรัทธาจนมีพลังเต็มที่
เมื่อไฮไลท์ในรอบปีมาถึง การชวนชายแท้ man man มาบวชก็ไม่เป็นเรื่องยาก มีท่านชายตัดสินใจเข้าอบรมธรรมทายาทนานาชาติที่วัดพระธรรมกายติดต่อกันทุกปี
และรุ่นที่ 7 เพิ่งผ่านมาหมาดๆ บวชไปแล้ว 45
ท่านค่า
ธรรมทายาทนานาชาติชาวสิงคโปร์ ภาคภาษาจีน
รุ่นที่ 7 ทั้งหมด 45 รูป
">
">
">
">
">
ศูนย์รวมเยาวชน...เก่งและดี
">
">
กิจกรรมนอกสถานที่ คือการจัดงานวิสาขบูชา ใจกลางประเทศสิงคโปร์
">
">
หลายคนได้เปลี่ยนจากถ่านมาเป็นเพชร
เช่น คุณหวัง คัง เผย ฮีโร่ผู้หักดิบเลิกเหล้าและเอาน้ำเมามาเททิ้ง
ถือเป็นผู้จัดพิธีเทเหล้าครั้งแรกของโลก
เมื่อปี พ.ศ.2546 หวัง คัง เผย ชาวสิงคโปร์ ฮีโร่คนแรกของโลก
ที่เกิดแรงบันดาลใจหักดิบเลิกเหล้า ไม่เอาน้ำเสนียดไว้ในบ้าน
ที่เกิดแรงบันดาลใจหักดิบเลิกเหล้า ไม่เอาน้ำเสนียดไว้ในบ้าน
|
พิธีเทเหล้าครั้งแรกของโลก ณ ประเทศสิงคโปร์
หรือหนุ่มหน้ามนที่ชื่อ...เผยคุน ก็เป็นผลิตผลจากนักเรียนสมาธิรุ่นหนึ่ง
ปัจจุบันผันตัวเองมาเป็นอุบาสก สร้างบารมีอย่างมืออาชีพ รับบุญแปลภาษาจีนและอังกฤษอยู่ที่สำนักต่างประเทศค่ะ และอีกหลายคนจากที่ไม่เคยทำทานหรือเข้าวัดฟังธรรม
ก็หันมาทำบุญอย่างครบถ้วนทั้งทาน ศีล ภาวนา
สละเวลาว่างของตนในการช้อปปิ้ง ดูหนังฟังเพลง มาอุทิศตนเป็นเจ้าหน้าที่ของศูนย์ฯ เพราะทุกคนหลงรักและผูกพันกับสถานที่แห่งนี้ ที่สำคัญคือ คนสิงคโปร์จะไม่มาเพียงคนเดียว
แต่ยังชักชวนพ่อแม่ญาติสนิทเข้ามาไม่อั้น บางคนอายุ 60 แล้วยังพาพ่อแม่อายุ 80
ถือไม้เท้ามาเข้าวัด บางครอบครัว ในวันบุญใหญ่ก็ชักชวนกันมาทำบุญถึง 4 ชั่วรุ่น ตั้งแต่ยาย
แม่ ลูก และหลาน จนทำให้ศูนย์ปฏิบัติธรรมสิงคโปร์ต้องจัดห้องสำหรับดูแลเด็กโดยเฉพาะ
และมีครอบครัวอบอุ่นเกิดขึ้นมากมายจากที่นี่
เด็กทุกคนจะได้มีพระรัตนตรัยเป็นแสงสว่างของชีวิต ท้ายที่สุด ทุกคน
ก็ไว้วางใจเหมือนศูนย์ฯ
สิงคโปร์เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต และทุกวันนี้ เมื่อถึงงานบุญใหญ่ก็จะมีคนสิงคโปร์มาครั้งละไม่ต่ำกว่า
150 คน
วันอาทิตย์ต้นเดือน มีการถ่ายทอดภาพและเสียงของคุณครูไม่ใหญ่
และมีสาธุชนไม่ต่ำกว่า 150 คน
สาธุชนกำลังล้นห้องไปทุกขณะแล้ว
กิจกรรมนอกสถานที่ คือการจัดงานวิสาขบูชา ใจกลางประเทศสิงคโปร์
ได้รับความสนใจจากผู้คนอย่างล้นหลาม
อาจกล่าวได้ว่า เราสามารถสร้างคนรุ่นใหม่ให้มาดูแลพุทธศาสนาวิชชาธรรมกายได้เป็นจำนวนมาก ช่วยผ่อนแรงพระเดชพระคุณหลวงพ่อด้วยหยาดเหงื่อแรงกายจากลูกชาวท้องถิ่นล้วนๆ ซึ่งในอนาคตทุกคนตั้งใจว่าจะสร้างศาสนสถานที่ถาวรให้เกิดขึ้น
กราบขอบารมีธรรมหลวงพ่อช่วยให้สำเร็จโดยไวด้วยนะเจ้าคะ
เพื่อให้ทศวรรษหน้าและต่อๆไป สิงคโปร์จะไม่มีคำว่า
วัดร้าง จะมีแต่คำว่ารุ่งโรจน์ และรวยโลดตลอดไปค่า