เพราะคุณยายช่วยแท้ๆ


[ 21 ต.ค. 2552 ] - [ 18263 ] LINE it!

จดหมายจากหลานคุณยาย IN MY HEART
">

">
ตอน...นั่งสมาธิกับคุณยาย โรคภัยคลีนแอนด์เคลียร์
">
">

">
">

">
กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง
 
">
">
">
 
">
">
">
 
    
ลูกชื่อ ประชา ธีระวิทย์ ปัจจุบันรับราชการที่กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เข้าวัดครั้งแรกตอนปี 2522 และเป็นศิษย์ ม.เกษตรศาสตร์ กล่าวกันว่า หนุ่ม ม.เกษตรฯ มีพันธุกรรมความหล่อกันทุกคน แต่ที่หล่อเหนือกาลเวลาลูกว่า ไม่มีใครเกินคุณครูไม่ใหญ่ครับ วันนี้ลูกขอเทรนดี้จี้กระแส นำอานุภาพของคุณยายที่ได้เจอกับตัวเองจัง ๆ มาเล่าให้ฟังครับ
">
">
 
     ในปี 2530 ลูกรับราชการอยู่สำนักงานป่าไม้เขตพิษณุโลก และได้นำหมู่คณะซื้อที่ดินเพื่อสร้างธุดงคสถาน จึงตั้งใจถือศีล 8 ช่วงเข้าพรรษา แต่ปรากฏว่าลูกมีอาการป่วยหนักต้องเข้าไปโรงพยาบาล หมอตรวจเลือดแล้วบอกว่า “ตับอักเสบ ไวรัสบีลงตับ อาจต้องใช้เวลารักษา 3-6 เดือน” พอฟังหมอวินิจฉัยหัวใจก็ละเหี่ย ถ้าให้นอนรักษาตัวนานอย่างนี้มีหวังเป็น “เป็ดง่อย” แน่ๆ ขอไปรักษาตัวที่กรุงเทพฯ ดีกว่าจะได้ไปวัดด้วย แต่ถ้าไปรถทัวร์หมอคงไม่อนุญาต ถ้าไปเครื่องบินจ่ายเงินเองก็แพง จึงอธิษฐานขอคุณยายว่า “คุณยายครับ ตอนนี้ลูกป่วยแต่อยากไปวัด ถ้ามีเหตุให้ได้ไปราชการที่กรมฯ ก็ดีนะครับ” พอเช้าวันศุกร์ก็มีหนังสือคำสั่งให้ไปราชการในกรมฯ จริงๆ โป๊ะเช๊ะ..เข้าทางเลยครับ หลังจากลงเครื่องบินที่ถึงกรุงเทพลูกก็บอกญาติซึ่งอยู่ที่ ร.พ.รามาฯ ให้ติดต่อหมอที่เก่งที่สุดให้ แล้วเข้าไปตรวจร่างกายวันจันทร์ พอวันอังคารก็เข้าไปนั่งสมาธิกับคุณยายที่อาคารยามา หลังจากนั่งสมาธิได้ครึ่งชั่วโมง ลูกรู้สึกได้เลยว่า อาการอ่อนเพลียสูญหายสลายเกลี้ยง พอไปหาหมอ ปรากฏว่า หมอทำหน้าเหมือนโดนผีหลอก “ซีดครับ” ลูกก็ชักไม่มั่นใจไงหมอทำหน้าอย่างนั้น จึงบอกหมอไปว่า “หมอครับ ผมยังเป็น ๆ อยู่นะครับ” เมื่อหมอได้สติก็จับเนื้อจับตัวลูกเช็คหาความมั่นใจ เพราะผลตรวจของทั้ง 2 โรงพยาบาลยืนยันตรงกันว่า “อาการน่าเป็นห่วง”  แต่เป็นไงมาไง “น่าหายห่วง” ไปซะงั้น แล้วหมอก็ถามว่า คุณไปรักษาที่ไหนมา ลูกก็บอกว่า ไม่ได้รักษาที่ไหนแค่นั่งสมาธิกับคุณยาย หมอ“งง ๆ” แล้วไม่จ่ายยาอะไรให้เลย จากนั้นอาการของโรคก็หายไปเลย 1 ปี
">
 

กัลฯ ประชา เมื่อครั้งที่เข้าไปกราบคุณยายอาจารย์ฯ
">
 
     ก่อนเข้าพรรษาปีถัดมา อาการออกอีกครั้ง พอส่องกระจกดูหน้าตัวเอง “ชัดครับ” ตาเหลือง ตัวเหลือง เห็นดังนั้นลูกก็นึกถึงคุณยายทันที แล้วก็แปลกครับมีคำสั่งจากป่าไม้เขตให้ไปราชการที่กรมฯ ได้นั่งเครื่องบินฟรีอีกแล้ว ลูกได้นัดหมอคนเดิม โรงพยาบาลเดิมและตรวจอย่างเดิม แล้วไปหาคุณยายที่วัด วันนั้นคุณอารีพันธ์แจ้งว่า ตอนบ่ายคุณยายมีภารกิจข้างนอกอาจจะนั่งคุมธรรมะไม่ทัน คุณยายท่านเมตตามาก ท่านบอกว่า “ทันสิ เดี๋ยวขอยายไปคุมธรรมะก่อน” คุณยายท่านคุมธรรมะอยู่ครึ่งชั่วโมงแล้วก็ออกไปทำธุระ ต่อมาก็มีท่านผู้ใหญ่คนหนึ่งเดินมาบอกว่า “ยินดีด้วยนะ คุณยายท่านเคลียร์ให้หมดแล้ว”  วันรุ่งขึ้นลูกรีบไปหาหมอ ปรากฏว่า หมอซีดอีกแล้วครับ ลูกสะกิดถามหมอว่า “เอ่อ..หมอครับ หมอเป็นอะไรหรือเปล่าครับ” หมอตอบว่า “ตกใจ” เพราะหน้าตาลูกดูผ่องใสไม่เหมือนคนป่วย หมอถามด้วยคำถามเดิมว่า “ไปรักษาที่ไหน ไปทำอะไรมา” แถมจดข้อมูลละเอียดยิบเพราะสิ่งที่เจอมันอัศจรรย์เกินมือแพทย์จะเอื้อมถึง เมื่อไม่รู้จะทำอะไรหมอก็เลยบอกว่า “เอางี้แล้วกันเอายาบำรุงตับไปกินหนึ่งขวด เพราะไม่มีอาการอะไรเหลือให้รักษาแล้ว” นับจากวันนั้นถึงวันนี้ผ่านมา 20 ปี ลูกไม่มีอาการอะไรเลย ไม่ต้องกินยา ไม่ต้องรักษา คุณยายท่านเคลียร์ให้หมดแล้วจริงๆ
">
 
     อีกเรื่องเป็นเรื่องของคุณแม่ครับ คุณแม่ของลูกท่านผูกพันกับคุณยายมาก ท่านชอบมาถวายปัจจัยคุณยายในวันอาทิตย์ต้นเดือน และแม่ชอบเข้าไปถวายหลังสุด เพราะท่านอยากมองคุณยายนาน ๆ ยิ่งมองใจของแม่ยิ่งเลื่อมใส และกฐินฉลองครบรอบ 84 ปีคุณยาย คุณแม่ของลูกก็ได้เป็นประธานรองตามติดคุณยายด้วยครับ
">
 
 
กัลฯ ประชา และ คุณแม่วุ้ย ธีระวิทย์
เป็นประธานกฐินฉลองครบรอบ 84  ปี คุณยาย

">
 
     ในปี 2537 แม่ป่วยเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ จากนั้นมะเร็งก็ลามไปถึงตับ จึงทำให้แม่มาวัดไม่ไหว แต่หัวใจของแม่ผูกพันกับคุณยายตลอดเวลา วันหนึ่งแม่ถามลูกว่า “เอ็งไปบอกคุณยายรึยังว่าแม่ไม่สบาย” พอลูกนำรูปของคุณแม่มาให้คุณยาย คุณยายดูรูปถ่ายเสร็จปุ๊บท่านบอกปั๊บเลยครับว่า “ให้ไปบอกแม่นะว่าให้เลิกกินหมาก หมากมันสกปรก ข้างในเน่าหมดแล้ว ให้อยู่กับธรรมะแล้วยายจะช่วย” ลูกเหวอเลยครับ ยังไม่ทันบอกอะไรคุณยายท่านรู้แจ้งหมดเลยว่า แม่เป็นอะไร แถมรู้ด้วยว่า แม่กินหมาก จากนั้นลูกก็โทรบอกแม่ว่า “แม่..ผมบอกคุณยายให้แล้วนะ คุณยายท่านฝากมาบอกว่า ให้แม่อยู่กับธรรมะและเลิกกินหมากได้แล้ว หมากมันสกปรก” พอฟังอย่างนั้นแม่ก็ดุยกใหญ่เลยครับว่า “ประชา..เอ็งไปฟ้องคุณยายหรือว่าข้ากินหมาก”ลูกจึงต้องรีบชี้แจงไปว่า “ผมไม่ได้บอกอะไรเลยแค่เอารูปให้ดู  แล้วท่านก็บอกขึ้นมาเอง” แล้วแม่ก็รำพึงว่า “คุณยายท่านเจ๋งจริงๆ” นับจากวันที่คุณยายบอกว่าจะช่วย อาการป่วยของแม่ก็ดีวันดีคืน แม้มะเร็งจะยังอยู่แต่ก็อยู่อย่างไร้ค่าและไม่อาจเรียกน้ำตาจากแม่ได้ เมื่อมะเร็งไม่ระคายอารมณ์ ไม่เจ็บไม่ปวด แม่จึงเป็นคนไข้ที่มีความสุขและต่อมาแม่ก็บอกว่า “แม่เห็นองค์พระในท้องใสสว่าง ข้านอนดูองค์พระเพลินดี” หน้าตาแม่ยิ้มแย้มแก้มเป็นสีชมพู อีก 9 เดือนต่อมา แม่ก็ลาจากมะเร็งและร่างที่ผุพังไปอย่างสงบ และสิ่งที่ลูกซึ้งใจที่สุดก็คือ หลังจากจัดงานศพของแม่เรียบร้อยก็มาวัด คุณอารีพันธ์ก็เดินมาบอกว่า “พี่ประชา คุณยายท่านพาแม่ไปส่งตั้งแต่วันนั้นแล้วนะ” ลูกขนลุกซู่ด้วยความปีติ เพราะหลังจากวันที่ลูกรายงานว่าแม่ป่วยก็ไม่ได้แจ้งอะไรคุณยายอีกเลย แต่คุณยายตามใส่ใจตลอดเวลา “ยามป่วยคุณยายช่วย ยามตายคุณยายส่ง” รักของคุณยายที่มีต่อลูกศิษย์เป็นรักข้ามภพจริง ๆ ครับ เมื่อคุณยายท่านเปี่ยมพระคุณขนาดนี้ กฐิน 100 ปี ของท่านลูกจึงเทใจ เทกระเป๋า เอาบุญกับคุณยายอย่างเต็มที่ ตอนนี้ล้นกองแล้วครับ และลูกจะมารับภารกิจที่สำคัญในงานสัมมนา โค้งสุดท้ายสถาปนาอาคาร 100 ปีคุณยายอาจารย์ ในวันที่ 23 ตุลาคมนี้  
">
 
 บัตรเชิญสัมมนาโค้งสุดท้าย สถาปนาอาคาร 100 ปีคุณยาย
วันศุกร์ที่  23  ตุลาคม พ.ศ.2552  เวลา  13.00 น.  ณ สภาธรรมกายสากล

">
 
     จึงอยากจะเชิญผู้นำบุญทหารกล้าหลานยายทุกท่าน เลิกเป็นทาสความจน  มารวยด้วยกัน มาสัมมนารวมพลสู่ภารกิจแห่งความสำเร็จของอาคาร 100 ปี คุณยาย ที่สภาธรรมกายสากล เวลา 13.00 น. กันนะครับ
 
 
">
">
กัลฯ  ประชา ธีระวิทย์
">
">
">
">
"> 


Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
เทวดามาหรือยัง ภาค 1เทวดามาหรือยัง ภาค 1

พิธีทอดกฐินสัมฤทธิ์ ดาราสามัคคีพิธีทอดกฐินสัมฤทธิ์ ดาราสามัคคี

สณ.ธทย.ยุวชนรอบวัดรุ่นที่ 1สณ.ธทย.ยุวชนรอบวัดรุ่นที่ 1



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

ช่วงเด่นฝันในฝัน