มหาปูชนียาจารย์


[ 28 ส.ค. 2555 ] - [ 18276 ] LINE it!

มหาปูชนียาจารย์
ยิ่งมองยิ่งงาม ตอนที่ 5
ออกอากาศครั้งแรกวันที่ 10 ตุลาคม พ.ศ.2548
 
กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูงค่ะ
 
    ลูก คือ ลูกหลานหลวงปู่ ที่ขอส่งเรื่องราวอันทรงคุณค่าอันไม่รู้จบของท่านมาอีกแม้ครั้งที่ห้าค่ะ ซึ่งเรื่องราวในตอนนี้ จะทำให้เรารู้ถึงคุณค่าและรักวิชชาธรรมกายมากขึ้น เพราะกว่าจะได้วิชชาธรรมกาย และสามารถทำให้คนเข้าใจได้ถึงขนาดนี้ ต้องฟันฝ่าอุปสรรคอย่างเอาชีวิตเป็นเดิมพันจริงๆ ดังเรื่องราวต่อไปนี้ค่ะ
 
    เท่าที่ลูกได้ศึกษาค้นคว้ามาจนทราบว่า วิชชาธรรมกาย เป็นวิชชาของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่หายสาบสูญไปหลังจากพุทธปรินิพพานประมาณ 500ปี ซึ่งหลวงปู่ได้ปฏิบัติธรรมอย่างเอาชีวิตเป็นเดิมพัน และค้นพบขึ้นมาใหม่ วิชชานี้มีคุณวิเศษอันไม่มีประมาณ และสร้างความอัศจรรย์ให้กับวงการพระพุทธศาสนาเป็นอย่างมาก หากคนไม่ได้มาปฏิบัติ หรือเห็นอานุภาพกับตาตัวเองจริงๆ ก็เชื่อได้ยาก เช่น วิชชาการระลึกชาติ การรู้วาระจิต การดับเดือนดับดาว การปัดลูกระเบิดในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง การรักษาโรค ฯลฯ
 
    ความมหัศจรรย์อย่างไม่มีประมาณนี้ ทำให้คนที่ไม่ได้ศึกษา ก็มักจะกล่าวหาว่าหลวงปู่อวดอุตริมนุสธรรม ทั้งๆที่คำว่า ธรรมกาย นี้ก็มียืนยันไว้ในพระไตรปิฎกอย่างชัดเจนหลายแห่ง แต่ท่านก็ไม่หวาดหวั่นทำการสอนและเผยแผ่จนเป็นที่ยอมรับ และมีคนหันมานับถือศรัทธาท่านเป็นจำนวนมาก แต่ก็มีคนกลุ่มหนึ่งที่รู้สึกไม่พอใจ พูดเหยียดหยามรุนแรงถึงขั้นว่า “ใครอยากเป็นอสุรกาย จงไปเรียนธรรมกายที่วัดปากน้ำ” ซึ่งข่าวนี้ก็ทราบถึงหลวงปู่เหมือนกัน แล้วท่านได้พูดว่า...
 
    “คนเช่นเราไม่ใช่ไร้ปัญญา ชั่วก็รู้ ดีก็เห็น เราจะฆ่าตัวเราเอง เพราะความปรารถนาทำไม ที่เขาพูดหาว่าเราอย่างนั้น บางคนคงจะไม่รู้จักคำว่า ธรรมกาย มีอยู่ที่ไหน หมายเอาใคร เขาอาศัยความไม่รู้มาว่าเราผู้ตั้งใจปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ เมื่อผู้ไม่รู้มาติเตียนเรา ความไม่รู้ของเขาจะลบล้างสัจธรรมของพระพุทธศาสนาได้อย่างไร ถ้าจะกลบก็กลบได้เพียงชั่วคราว ไม่ช้าดวงแก้วของพระพุทธศาสนาก็จะเปล่งรัศมีให้ผู้มีปัญญาเห็นด้วยสายตาของตนเอง...”
 
    ด้วยความที่มีคนไม่เข้าใจท่านหลายอย่าง ทำให้เกิดเหตุการณ์อันไม่คาดคิดขึ้น คือ เกิดอาชญากรรมขึ้นในวัด วันนั้นพระกมล ศิษย์ที่ถูกใจของหลวงปู่ในด้านเทศนาใช้ปฏิภาณ และด้านปฏิบัติชั้นดี ได้เทศนาหัวข้อธรรมเกี่ยวกับพระกรรมฐาน และหลวงปู่ก็ฟังอยู่ด้วย เมื่อเสร็จการอบรมแล้ว เวลาประมาณสองทุ่ม ต่างก็แยกย้ายกลับที่พักของตน ทันใดนั้น มีผู้ร้ายเข้ามาลอบสังหารหลวงปู่ที่หน้าศาลาการเปรียญ ขณะที่ท่านออกมาจากศาลา และจะกลับกุฏิ ผู้ร้ายได้ใช้ปืนยิงท่านถูกจีวรของท่านทะลุสองรู และยิงนายพร้อม อุปัฏฐากผู้ติดตาม ถูกที่ปากทะลุแก้มเป็นบาดแผลสาหัส แต่ไม่ถึงแก่กรรม
 
    ครั้นภายหลังจับผู้ยิงได้ ชื่อนายรอด ซึ่งหลวงปู่ก็เมตตาไม่ถือโทษโกรธ ไม่เอาเรื่องเอาความอะไรเลย แต่เจ้าหน้าที่ที่ดำเนินคดีด้านกฎหมายเขาไม่ยอม เขาเรียนหลวงปู่ว่า ต้องเป็นไปตามกฎหมาย เพราะหากไม่ทำตาม อีกหน่อยกฎหมายจะไม่ศักดิ์สิทธิ์ จากนั้นนายรอดคนยิงก็ติดคุกอยู่นาน จนกระทั่งถึงวันที่นายรอดออกจากคุก หลวงปู่...ท่านเห็นในที่ และทักขึ้นว่า “วันนี้นายรอดออกจากคุก แต่จะไม่รอด” ซึ่งก็จริงๆค่ะ หลังจากที่นายรอดออกจากคุกก็โดนยิงตายทันที
 
    นับจากนั้น ชื่อเสียงของหลวงปู่ก็โด่งดังขึ้นอีก มีศิษยานุศิษย์หันมานับถือท่านอย่างล้นหลาม แต่คนไม่ชอบก็ยังมีอยู่ จึงทำให้มีคนลอบวางยาพิษท่านในภัตตาหาร ซึ่งหลวงปู่...ท่านจะรู้ก่อนในญาณทุกครั้ง หากสำรับไหนมียาพิษ ท่านก็จะเอาช้อนเงินจุ่มลงไปให้ดู ซึ่งช้อนเงินก็จะเปลี่ยนเป็นสีดำทันที
 
    ปู่ผงเคยเล่าให้ลูกฟังว่า มีครั้งหนึ่งหลวงปู่ไม่ยอมบอกอะไร ท่านกล่าวเพียงว่า ให้เอาอาหารในสำรับไปทิ้ง แต่อุปัฏฐากรู้สึกเสียดาย จึงไม่ยอมทิ้งเอาไปวางไว้ก่อน พอดีหมาแมวมากิน ปรากฏว่าหมาแมวตายทันที หลวงปู่จึงตำหนิ แล้วพูดว่า ก็ในสำรับมันมียาพิษ
 
    แม้มีคนมุ่งปองร้ายแต่หลวงปู่ก็ไม่เคยเป็นอะไรเลย ไม่มีใครทำอะไรท่านได้ จนท่านมีชื่อเสียงเลื่องลือขึ้นไปอีก ทีนี้ท่านดังใหญ่ ดังอย่างไม่ต้องโหมโรง ลูกศิษย์ลูกหาของท่านก็มากขึ้นทับทวี จนมีแต่คนบอกว่าหลวงปู่...ท่านศักดิ์สิทธิ์จริง แต่ท่านบอกว่า ธรรมกายต่างหากล่ะที่ศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งถ้าพูดถึงความศักดิ์สิทธิ์ของวิชชานี้แล้ว ทำให้ลูกนึกถึงเรื่อที่ปู่ผงเล่าให้ฟังในช่วงที่หลวงปู่ทำวิชชาในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองว่า...
 
    อยู่ๆก็มีลูกระเบิดตกลงกลางวงฉัน ซึ่งทุกคนต่างตระหนกตกใจกันมาก แต่หลวงปู่...ท่านนิ่งๆ แล้วบอกว่า “ไหน...ลองเอาระเบิดลูกนี้ ไปพิสูจน์ดูสิว่า มันด้านรึเปล่า”
 
    ปรากฏว่า ไม่ด้าน...ซึ่งสร้างความฮือฮาและแปลกใจกันอย่างสุดฤทธิ์สุดเดชว่า แล้วทำไมไม่ระเบิด ซึ่งปู่ผงก็พูดว่า “ก็บุญและอานุภาพวิชชาธรรมกายล่ะสิ...จะเป็นอย่างอื่นไม่ได้”
 
    หลังจากนั้น วิชชาธรรมกายก็ได้เผยแผ่ไป มีผู้มาปฏิบัติและเข้าถึงกันมาก และมีพยานทางศาสนาเกิดขึ้นอย่างมากมาย และกลายเป็นที่ยอมรับมาอย่างยาวนาน ซึ่งก็เป็นที่สังเกตว่า หากวิชชาธรรมกายของหลวงปู่ เป็นของเทียมมิใช่ของแท้ ไม่ประกอบด้วยเหตุและผล ไม่เกิดประโยชน์แก่ผู้ปฏิบัติแล้ว ถึงแม้จะโด่งดังก็เป็นเพียงชั่วระยะเวลาหนึ่งเท่านั้นก็จะดับไป แต่ตรงกันข้ามวิชชานี้กลับสืบทอดกันมาเป็นมรดก รุ่งเรืองขึ้นตามลำดับ มีผู้สนใจและปฏิบัติกันยาวนานกว่า 88ปีแล้ว
 
    ลูกจะขอกล่าวถึงแม่ครัวของวัดปากน้ำภาษีเจริญอีกคนหนึ่งค่ะ
 
    คุณแม่ท้วม หุตานุกรม ท่านเกิดที่ประเทศจีน และได้เดินทางมาประเทศไทย มาประกอบอาชีพค้าขายอยู่ที่ อำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี ท่านเป็นผู้ใฝ่ธรรมะมากมาตั้งแต่เล็กๆ พออายุได้ 20ปี ก็หนีบิดามารดามาบวชชี และออกจาริกธรรมไปปฏิบัติตามวัดต่างๆ ซึ่งท่านมีความตั้งใจเข้มข้นถึงขนาดบางพรรษาถือธุดงควัตรแบบเนสัชชิกังคัง คือ อยู่ในสามอิริยาบถ คือ นั่ง ยืน เดิน ไม่นอนเลยตลอดสามเดือน เพื่อหวังจะได้บรรลุธรรมให้ได้
 
    ท่านมีความสันโดษมักน้อย และมีความกตัญญูกับพ่อแม่สูงมาก โดยการไปทำหน้าที่กัลยาณมิตรให้กับพ่อจนพ่อของท่านได้มาบวชและศรัทธาในพระพุทธศาสนาอย่างแรงกล้า และหลังจากที่คุณพ่อได้บวชแล้ว ท่านก็ยอมสึกจากแม่ชี ออกมาเพื่อประกอบอาชีพหาเงินมาเลี้ยงคุณแม่อยู่ระยะหนึ่ง และสร้างความเข้าใจในพุทธศาสนาให้กับคุณแม่ไปด้วย และหลังจากที่ทุกอย่างลงตัว ท่านก็ได้กลับเข้าไปบวชชีอีกครั้งที่วัดปากน้ำฯ ซึ่งท่านได้รับมอบหมายหน้าที่สำคัญจากหลวงปู่ คือ ดูแลเรื่องอาหารการกินของวัดปากน้ำฯทั้งหมด และเป็นหัวหน้าโรงครัวจัดการทำอาหารเลี้ยงพระประมาณ 500รูป และแม่ชี อุบาสก อุบาสิกาอีก 300คน
 
    นอกจากนี้ หลวงปู่ยังมอบหมายให้ท่านเป็นผู้ดูแลแม่ชีอีกด้วย ซึ่งในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง อาหารไม่มี ท่านก็ได้แก้ปัญหาโดยปลูกต้นมะละกอ และทำอาหารที่เป็นผลิตผลจากมะละกอทุกอย่าง อยู่นานหลายปี ซึ่งท่านรับบุญอาหารนี้ด้วยความตั้งใจ ต้องตื่นแต่เช้าเพื่อไปซื้อกับข้าวมาปรุง ซึ่งหนักและเหนื่อยมาก แต่ท่านก็ไม่เคยย่อท้อหรือหมดกำลังใจเลย ท่านทำหน้าที่นี้ด้วยความปีติในบุญทั้งชีวิต จนกระทั่งท่านอายุได้ 70ปี จึงได้พักเพราะชรามากแล้ว แต่ท่านก็ยังอยู่คอยดูแลงานอยู่ที่วัดปากน้ำฯ จนกระทั่งท่านเสียชีวิต ด้วยวัย 97ปี
 
ลูกขอกราบเรียนถามคำถามพระเดชพระคุณหลวงพ่อดังนี้ค่ะ
 
1.บุพกรรมใด ที่ทำให้หลวงปู่ถูกลอบยิงแต่ไม่เป็นไร ท่านทราบเหตุการณ์ล่วงหน้ามาก่อนหรือไม่ และบุพกรรมใดที่ทำให้อุปัฏฐากถูกยิง คนที่ยิงท่านเคยมีบุพกรรมข้ามชาติกับท่านมาอย่างไรคะ
 
2.คนที่มาลอบยิงหลวงปู่ ทำไมออกจากคุกแล้วถึงโดนยิงตายทันที ตายแล้วไปไหน จะมีสิทธิ์กลับขึ้นมาเกิดอีกหรือไม่ และถ้าได้กลับมาเกิดเป็นมนุษย์จะมีวิบากกรรมติดตัวมาเช่นไร และพ่อแม่ของคนที่มาลอบยิงจะมีเศษกรรมร่วมด้วยหรือไม่คะ ในฐานะผู้ให้กำเนิด
 
3.เพราะอะไรในช่วงแรกถึงมีคนส่วนหนึ่งไม่เข้าใจหลวงปู่และวิชชาธรรมกาย แต่ภายหลังกลับมีคนเข้าใจและหันกลับมานับถือกันอย่างล้นหลาม และสืบทอดกันมาอย่างยาวนานคะ
 
4.พวกที่เข้าใจผิดว่าร้ายหลวงปู่ต่างๆนานา ชาติก่อนๆเคยว่าร้ายหลวงปู่มาหรือไม่ และคนเหล่านี้จะมีวิบากกรรมเช่นไรในชาติปัจจุบัน และหลังจากละโลกไปแล้วคะ
 
5.ทำไมหลวงปู่ถึงโดนวางยาพิษ แล้วทำไมท่านถึงรู้ล่วงหน้าได้ทุกครั้ง คนวางยาท่านจะต้องได้รับวิบากกรรมอย่างไรคะ
 
6.ทำไมการเผยแผ่วิชชาธรรมกายในยุคแรกถึงมีปัญหา เป็นเพราะอะไร และในชาติก่อนๆมีปัญหาการเผยแผ่แบบนี้หรือไม่คะ
 
7.เหตุใดวิชชาธรรมกายถึงสูญหายไปหลังพุทธปรินิพพาน 500ปี มีเหตุอะไรหรือไม่ และในชาติก่อนๆเคยมีการสูญหายของวิชชาธรรมกายหรือไม่ การค้นพบวิชชาธรรมกายนั้น ในชาติก่อนๆ หลวงปู่เป็นผู้ค้นพบวิชชาธรรมกายใช่หรือไม่ และหลวงปู่ทำบุญอะไรมาถึงได้เป็นผู้ค้นพบวิชชาธรรมกายคะ
 
8.หลวงปู่ประกอบบุญใดในอดีต ถึงทำให้มีศิษยานุศิษย์มากมาย มาร่วมใจกันหล่อรูปเหมือนทองคำขนาดใหญ่ บูชาท่านถึงห้าองค์ ในชาติก่อนๆมีแบบนี้หรือไม่ และบุญนี้จะทำให้อยู่ในวิชชาธรรมกายมีสายบุญกับท่านไปทุกชาติหรือไม่คะ
 
9.ทำไมระเบิดถึงตกมากลางวงฉันพอดี และทำไมถึงไม่ระเบิดทั้งๆที่ระเบิดไม่ด้าน และทำไมสงครามโลกถึงต้องมาเกิดในช่วงของหลวงปู่ค่ะ หลวงปู่ใช้วิชชาธรรมกายแก้ไขสงครามโลกอย่างไรบ้างคะ
 
10.บุพกรรมใดที่ทำให้คุณแม่ท้วมถึงมีอัธยาศัยฝักใฝ่ในธรรมะมากมาตั้งแต่เล็กๆ และชอบบวชชี และอายุยืน ทำไมชาตินี้ท่านถึงมาทำหน้าที่เป็นหัวหน้าโรงครัว คนทำหน้าที่นี้ต้องสร้างบารมีมาเป็นพิเศษอย่างไรคะ อดีตชาติท่านสร้างบารมีกับหลวงปู่มาในรูปแบบใด ตายแล้วไปอยู่ที่ไหนคะ
 
11.การได้เป็นหัวหน้าแม่ครัว หรือเป็นฝ่ายจัดเลี้ยงพระภิกษุสามเณร กับผู้ที่เป็นเจ้าภาพทำบุญภัตตาหารแต่ไม่ได้ทำหน้าที่นี้ จะได้รับบุญต่างกันอย่างไรคะ
 
12.บุพกรรมใดที่ทำให้คุณแม่ท้วมมีอัธยาศัยมีความกตัญญูสูง โดยการไปโปรดพ่อแม่ของท่านให้มีความศรัทธาในศาสนา และในกรณีที่ลูกอยากปลูกศรัทธาให้กับพ่อแม่แต่ทำไม่สำเร็จในชาตินี้ จะมีวิธีการใดที่ชาติหน้าจะทำให้ได้ไปเกิดในครอบครัวที่พ่อแม่ศรัทธาพระพุทธศาสนามากๆคะ
 
กราบนมัสการด้วยความเคารพอย่างสูง
 
ฝันในฝัน
หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ ตื่นขึ้นมา หาว 1 ที
แล้วก็นำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากันนะจ๊ะ
 
1.พระเดชพระคุณหลวงปู่ฯ ถูกลอบยิงแต่ไม่เป็นไร เพราะในอดีตชาติๆหนึ่ง ในช่วงที่เป็นเจ้าชายก่อนเป็นพระราชา(แต่คนละชาติกับตอนเป็นพระราชาบริจาคทาน) ท่านมีความสามารถในการยิงธนูได้แม่นยำในระยะต่างๆ   
 
 
ได้มีน้องชายต่างมารดาที่คอยชิงดีชิงเด่นกับท่าน ได้เคยประลองฝีมือในการยิงธนู โดยการขี่ม้าดวลยิงกัน โดยผลัดกันยิงสวนกันคนละหนึ่งดอก ตอนแรกน้องชายต่างมารดายิงก่อนแต่ไม่ถูก ต่อมาท่านก็ยิงบ้าง แต่ไม่ตั้งใจยิงให้ถูกแค่ยิงสั่งสอนเฉียดกายจนเป็นแผล จึงทำให้น้องชายผูกโกรธ จึงเป็นเหตุให้ชาตินี้ท่านถูกลอบยิง ซึ่งท่านก็ทราบเหตุการณ์ล่วงหน้าด้วยญาณทัสสนะ
 
 
แต่ที่ถูกยิงแล้วไม่เป็นไร เพราะอานุภาพแห่งธรรมที่ทำมานับภพนับชาติไม่ถ้วน รวมทั้งชาติปัจจุบันที่มีวิชชาธรรมกายได้คุ้มครองท่าน
 
 
อุปัฏฐากถูกยิง เพราะเคยเป็นทหารของเจ้าชาย แต่มีนิสัยชอบฆ่าสัตว์ โดยการล่าสัตว์ วิบากกรรมนี้มาส่งผล
 
 
คนที่มาลอบยิงท่าน ก็เคยมีบุพกรรมกับท่านมาในอดีต คือ คนนี้เคยอยู่ในกลุ่มกบฏที่คิดโค่นราชบัลลังก์ ในช่วงที่ท่านได้ขึ้นครองราชย์แล้ว แต่กบฏไม่สำเร็จ ถูกจับได้ และถูกลงโทษโดยโดนเนรเทศไปอยู่ชายแดน จึงผูกโกรธพยาบาทข้ามชาติมา
 
 
2.คนที่มาลอบยิงพระเดชพระคุณหลวงปู่ฯ เมื่อออกมาจากคุกแล้ว ถูกคู่อริยิงตายทันที เพราะเป็นวิบากกรรมทั้งในอดีตและปัจจุบันที่เคยฆ่าคน กับวิบากกรรมที่ทำกับพระเดชพระคุณหลวงปู่ฯ ผู้มีคุณธรรม คุณวิเศษ และมีพระคุณต่อมวลมนุษย์ชาติ    
 
 
ตายแล้วก็ไปทุกข์ทรมานอยู่ในภพภูมิพิเศษ ซึ่งมีความทุกข์มานมากๆ อีกยาวนานมากๆ จนกำหนดเวลายังไม่ได้ว่าจะกลับมาเกิดเป็นมนุษย์อีกเมื่อไหร่
 
 
พ่อ-แม่ ก็มีความทุกข์ร้อนใจกับการกระทำของลูกชายในปัจจุบัน แต่ไม่มีวิบากกรรมอะไรติดไปแม้เป็นผู้ให้กำเนิดก็ตาม เพราะเป็นกรรมส่วนตัวของลูกชายเอง
 
3.ช่วงแรก มีคนส่วนหนึ่งไม่เข้าใจวิชชาธรรมกาย และพระเดชพระคุณหลวงปู่ฯ เพราะไม่ได้ปฏิบัติธรรม มัวแต่คิดกับคุยกับพวกที่ปฏิบัติธรรมแล้วแต่ไปยังไม่ถึงจุดของวิชชา เนื่องจากกิเลสมารขวางกันบดบังเอาไว้ จึงไม่อาจเข้าใจวิชชาธรรมกาย และพระเดชพระคุณหลวงปู่ฯได้
 
 
ต่อมา มีคนมานับถือพระเดชพระคุณหลวงปู่ฯล้นหลาม ทำให้มีการสืบทอดวิชชาธรรมกายมายาวนาน เพราะของจริงมีอยู่แล้วในตัวมนุษย์ทุกคน เมื่อผู้มีบุญบารมีเหล่านั้นปฏิบัติธรรมตามคำสอนของท่านก็ได้บรรลุธรรมกายที่มีอยู่แล้วในตัว จึงเป็นพยานในการบรรลุธรรมของท่าน ทำให้มีการสืบทอดวิชชาธรรมกายต่อมายาวนาน
 
 
4.พวกที่เข้าใจผิดว่าร้ายพระเดชพระคุณหลวงปู่ฯต่างๆนานานั้น บางคนก็เป็นกรรมเก่า บางคนก็เป็นกรรมใหม่
 
กรรมเก่า ก็คือพวกที่เคยว่าร้ายพระเดชพระคุณหลวงปู่ฯมาในอดีตชาติ ตอนก่อนท่านออกบวช เมื่อตายจากชาตินั้นก็ไปตกมหานรกยาวนาน เมื่อกาลผ่านไปวงจรในวัฏฏะมาเจอกันอีก กิเลสมารก็บังคับตามผังเก่าให้มาว่าร้ายท่านอีก
 
 
ส่วนพวกที่ว่าร้ายท่านตอนที่ท่านบรรลุวิชชาธรรมกายแล้ว เมื่อตายไปก็จะไปทุกข์ทรมานอยู่ในภพภูมิพิเศษดังกล่าวที่ยาวนานมากๆ จนกำหนดเวลายังไม่ได้ว่าจะกลับมาเกิดเป็นมนุษย์อีกเมื่อไหร่ ส่วนที่ยังมีชีวิตอยู่ วิบากกรรมนี้ก็จะบันดาลให้วิบัติด้วยภัยต่างๆอย่างใดอย่างหนึ่ง
 
 
5.พระเดชพระคุณหลวงปู่ฯโดนลอบวางยาพิษ เพราะในปัจจุบันพวกเหล่านี้อิจฉาหมั่นไส้ท่าน ไม่อยากให้ท่านเป็นสมภาร เพราะถูกกิเลสมารบังคับไว้ให้ทำดังนั้น
 
ส่วนกรรมในอดีต กลุ่มคนชุดนี้ก็คือ กลุ่มคนที่เคยกบฏในชาติที่ท่านเป็นพระราชา แล้วโดนเนรเทศไปอยู่ชายแดน ได้ผูกพยาบาทอาฆาตท่านไว้
 
 
ท่านรู้ล่วงหน้าได้ทุกครั้ง เพราะญาณทัสสนะของธรรมกายที่ท่านบรรลุ จึงทำให้ท่านเอาตัวรอดได้
 
 
คนวางยาจะได้รับวิบากกรรม คือ เมื่อมีชีวิตอยู่ ก็จะวิบัติด้วยภัยต่างๆนานา และเมื่อตายไปแล้ว ก็จะไปอยู่ในภพภูมิพิเศษที่มีความทุกข์ทรมานมากๆอย่างยาวนาน จนกำหนดกาลเวลายังไม่ได้ว่าจะกลับมาเกิดใหม่เมื่อใด
 
 
6.ชาติก่อนๆที่ผ่านมา การเผยแผ่วิชชาธรรมกาย บางชาติก็ยาก บางชาติก็ง่าย
 
 
ชาติที่ง่าย เช่น ในพุทธันดรที่ผ่านมาก็เป็นไปตามผังเดิม คือ ได้เผยแผ่วิชชาธรรมกายไปทั่วโลก คนทั่วโลกก็ได้นับถือวิชชาธรรมกาย โดยฝ่ายอาณาจักรก็จะมีพระเจ้าจักรพรรดิที่มาจากวงบุญพิเศษมาเกิด และด้วยบารมีของพระเจ้าจักรพรรดิพระองค์นี้ จึงทำให้การเผยแผ่เป็นได้สะดวก เพราะได้ปกครองไปทั่วโลก จึงทำให้พระเดชพระคุณหลวงปู่ฯและหมู่คณะ ซึ่งเป็นฝ่ายพุทธจักรขยายธรรมะได้ง่าย
 
 
ส่วนบางชาติที่เผยแผ่ได้ยาก เพราะพญามารทำให้ผังเดิมคลาดเคลื่อน คือ ทำให้หมู่คณะมาเกิดไม่พร้อมกันไม่รวมกัน ไม่คิด-พูด-ทำ ไปในทิศทางเดียวกัน อีกทั้งทำให้คนอื่นไม่เข้าใจเรื่องวิชชาธรรมกาย และพระเดชพระคุณหลวงปู่ฯ เป็นต้น
 
 
7.วิชชาธรรมกายสูญหายไป ภายหลังจากพุทธปรินิพพาน 500ปี เพราะมารได้พยายามลบล้างคำว่า ธรรมกาย ให้สูญสิ้นไป เพราะกลัวว่าถ้าเข้าถึงธรรมกายแล้ว ก็จะทำให้รู้เรื่องราวไปตามความเป็นจริง แล้วก็จะแก้ไขตัวเองให้พ้นจากกิเลสมาร ซึ่งจะทำให้มารบังคับบัญชาไม่ได้
 
 
จึงเอากิเลสมารมาบังคับ ให้พุทธบริษัท4ไม่สนใจในคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอย่างจริงจัง เช่น ไม่มีคารวะ6 เป็นต้น
 
 
ชาติที่ผ่านๆมาวิชชาธรรมกาย ภายหลังจากพุทธปรินิพพาน ก็จะสูญหายคล้ายกับยุคปัจจุบัน จึงเป็นหน้าที่ของหมู่คณะที่จะลงมากอบกู้ เอาคำว่า ธรรมกาย หวนคืนมาอีกครั้งหนึ่ง เป็นดังนี้ทุกยุค
 
 
การค้นพบวิชชาธรรมกายในชาติก่อนๆที่ผ่านมา ภายหลังจากพุทธปรินิพพานดังกล่าว พระเดชพระคุณหลวงปู่ฯ...ท่านก็จะเป็นผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย และฟื้นฟูธรรมกายขึ้นมาใหม่ทุกครั้งไป
 
 
ที่ท่านทำได้อย่างนี้ เพราะท่านมีธาตุธรรมพิเศษที่จะต้องมาทำภารกิจตรงนี้ในทุกๆครั้ง โดยมีเป้าหมายจะไปสู่ที่สุดแห่งธรรม
 
 
8.พระเดชพระคุณหลวงปู่ฯ มีศิษยานุศิษย์มากมายล้นหลาม มาร่วมใจหล่อรูปเหมือนท่านเป็นทองคำขนาดเท่าองค์จริงถึงห้าองค์
 
 
เพราะเป็นเศษเสี้ยวบุญที่ท่านสั่งสมมาทุกอย่าง ซึ่งที่จริงจะต้องมากกว่านี้อีกเยอะแยะ เมื่อเทียบกับคุณธรรม คุณวิเศษอันแท้จริงของท่าน รวมกับการที่ท่านมีพระคุณต่อมวลมนุษย์ชาติ ในการที่ท่านสละชีวิตเพื่อฟื้นฟูคำสอนเรื่องมรรคผลนิพพาน ให้กลับคืนมา
 
 
ในชาติก่อนๆ ก็ได้ทำมาดังชาตินี้ แต่ก็ไม่ทุกชาติ เช่น พุทธันดรที่ผ่านมา ไม่มีการหล่อรูปเหมือนท่านด้วยทองคำ
 
ใครที่ได้ทำบุญนี้ด้วยจิตที่เลื่อมใสในองค์ท่าน ก็จะทำให้มีสายบุญเชื่อมโยงกับท่านและวิชชาธรรมกายตลอดไป
 
 
9.ลูกระเบิดถูกขว้างมาตกกลางวงฉัน เพราะกลุ่มเดิมที่ไม่ปรารถนาดีต่อท่าน ได้ขว้างระเบิดมา แต่ระเบิดไม่ระเบิด ทั้งๆที่ไม่ด้าน เพราะสัมมาปฏิบัติที่ท่านได้บำเพ็ญ อีกทั้งอานุภาพของวิชชาธรรมกายได้คุ้มครองและบันดาลให้เป็นดังนั้น
 
 
สงครามโลกมาเกิดในช่วงของพระเดชพระคุณหลวงปู่ฯ เพราะมารสอดสายให้มนุษย์มารบราฆ่าฟันกันเอง เพื่อจะได้เดือดร้อนไม่มีเวลาทำมาหากินและสั่งสมบุญ โดยมีเป้าหมายมุ่งมาทำลายวิชชาธรรมกายโดยตรงด้วย
 
 
พระเดชพระคุณหลวงปู่ฯ...ท่านใช้วิชชาธรรมกายแก้ไข โดยไปเก็บผังละเอียดในเหตุที่พญามารส่งมาบังคับให้มนุษย์รบราฆ่าฟันกันเองให้หมดไป เมื่อเก็บในเหตุได้หมด ผลก็จะหมดตามไปด้วย
 
 
10.คุณแม่ท้วมมีอัธยาศัยฝักใฝ่ธรรมะตั้งแต่เด็ก ชอบบวชชีและอายุยืน เพราะท่านก็ได้สร้างบารมีกับหมู่คณะมาตลอด ไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือเป็นชายท่านก็จะออกบวช
 
ที่อายุยืนเพราะท่านเลี้ยงภัตตาหารพระ-เณรทุกวัน ที่ท่านเป็นหัวหน้าโรงครัว เพราะท่านอธิษฐานจิตมา อยากทำหน้าที่นี้
 
คนจะทำหน้าที่นี้ จะต้องมีใจรักและได้ทำดังนี้อย่างต่อเนื่องหลายชาติ จนเป็นผังสำเร็จติดในกลางตัว เมื่อตั้งความปรารถนาซ้ำอีกก็จะเป็นไปได้
 
 
คุณแม่ท้วมตายแล้ว ก็ไปอยู่ดุสิตบุรี วงบุญพิเศษ เขตใน ขณะนี้เป็นเทพบุตร กำลังปฏิบัติธรรมอยู่ที่วิมานของมหาสมณเทวบุตร เพื่อสะสางธาตุธรรมของตนให้สะอาด
 
 
11.การเป็นหัวหน้าแม่ครัว หรือเป็นฝ่ายจัดเลี้ยงพระภิกษุ-สามเณร จะได้รับบุญแตกต่างจากเจ้าภาพ คือ ฝ่ายหัวหน้าแม่ครัวจะได้ทั้ง ทานมัย คือ บุญที่เกิดจากการทำทาน และไวยาวัจมัย บุญที่เกิดจากการขวนขวายช่วยเหลือกิจการงานกุศล และเป็นบุญต่อเนื่องทุกวันไม่ขาด
 
ส่วนเจ้าภาพก็ไม่ได้ทำสม่ำเสมอ จึงได้แค่ส่วนเดียวเป็นครั้งคราว คือ ทานมัย บุญที่สำเร็จด้วยการให้ทาน
 
เมื่อบุญส่งผล ผู้เป็นหัวหน้าแม่ครัว จึงได้บุญมากกว่าในทุกด้าน
 
 
12.คุณแม่ท้วมมีความกตัญญูกตเวทีสูง โดยการไปโปรดโยมพ่อโยมแม่ของท่าน ให้มีความศรัทธาในศาสนา
 
 
การที่ลูกอยากปลูกศรัทธากับพ่อ-แม่ในชาตินี้แต่ไม่สำเร็จ แต่อยากจะมีพ่อ-แม่เป็นสัมมาทิฐิในภพชาติเบื้องหน้า ลูกจะต้องหมั่นทำหน้าที่กัลยาณมิตรชวนคนทำความดีให้มากๆ และทำบุญใดก็ตามทุกครั้ง ให้อธิษฐานจิตให้เกิดในครอบครัวที่ดี พ่อ-แม่ดีเป็นสัมมาทิฐิและมีศรัทธาในพระพุทธศาสนา ให้อธิษฐานดังนี้บ่อยๆก็จะสำเร็จได้
 
 
ชาตินี้มาเจอกันแล้ว ก็ให้ตั้งใจสร้างบารมีให้เต็มที่ในทุกบุญ แล้วอธิษฐานจิตตามติดไปดุสิตบุรี วงบุญพิเศษ เขตบรมโพธิสัตว์ อย่าได้พลัดกันเลย
 
 


Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
วิบากกรรม วิบากกรรม "คนหาปลา"

วิบากกรรมสุรา มหานรกขุม 5วิบากกรรมสุรา มหานรกขุม 5

ยมโลกมหานรกขุม 5ยมโลกมหานรกขุม 5



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

กรณีศึกษากฎแห่งกรรม