พ่อเป็นคนดีที่หนึ่ง......รักพ่อที่สุด


[ 5 ธ.ค. 2548 ] - [ 18272 ] LINE it!
View this page in: 中文

CASE  STUDY
พ่อเป็นคนดีที่หนึ่ง......รักพ่อที่สุด
เรียบเรียง จากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ทาง DMC
 
 
 
กราบแทบเท้านมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อ คุณครูไม่ใหญ่ ด้วยความเคารพอย่างสูง
 
        คุณพ่อของกระผม มีชีวิตในวัยเด็กที่ค่อนข้างลำบาก  ไม่ได้อยู่กับพ่อแม่  แต่มีนายพลทหารเรือท่านหนึ่งได้มารับอุปการะเลี้ยงดูและส่งให้เรียนจนจบโรงเรียนช่างฝีมือทหาร ในสาขาช่างปรับอุปกรณ์ไฟฟ้ากำลัง  ต่อมาก็ได้มาทำงานที่ อ.ส.ร. ในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และได้เริ่มรู้จักพระเดชพระคุณพระภาวนาวิริยคุณที่นี่เองครับ    และได้พบกับคุณยายอาจารย์ที่บ้านธรรมประสิทธิ์   หลังจากนั้นชีวิตของท่านก็มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากในหลายๆประการเช่น

    1)    เริ่มจากการตั้งชื่อและนามสกุลให้ตัวเองและลูกชายทั้งสามใหม่หมด โดยทุกชื่อและนามสกุลมีคำ
           ว่า "พุทธ" ทุกชื่อ  เพราะว่าท่านปรารถนาอยากเป็นทายาทของพระพุทธเจ้าอย่างมาก  ท่านจึงภาค
           ภูมิใจกับชื่อและนามสกุลใหม่ที่ท่านตั้งเองนี้มาก      
    2)    คุณพ่อเลิกสูบบุหรี่อย่างเด็ดขาด  เลิกขายบุหรี่ เหล้า เบียร์ และยาฆ่าแมลงทุกชนิด
    3)    เชื่อเรื่องบุญ และ บาป 
    4)    รักษาศีล 5 อย่างเคร่งครัด 
    5)    พาลูก ๆ ไปวัดทำบุญอย่างสม่ำเสมอ  และสอนให้ลูก ๆ ฝึกการนั่งสมาธิ
 
        คุณพ่อนับถือพระเดชพระคุณหลวงปู่ฯและคุณยายอย่างมาก ตั้งแต่พวกเราจำความได้ก็มีรูปของมหาปูชนียาจารย์ทั้งสองอยู่บนหิ้งพระแล้ว  คุณพ่อสอนให้พวกเรายึดมหาปูชนียาจารย์ทั้งสองเป็นที่พึ่ง และเวลามีเรื่องเดือดร้อนหรือเจ็บไข้  ก็ให้นั่งสมาธิแล้วอธิฐานขอให้หลวงปู่กับคุณยายช่วยเสมอ  
 
        คุณพ่อได้แต่งงานกับคุณแม่ซึ่งคุณแม่เกิดในครอบครัวชาวจีนที่นับถือศาสนาคริสต์   หลังจากแต่งงานไม่นาน  คุณพ่อก็ได้ออกมาทำกิจการของตนเองโดยมีคุณแม่เป็นผู้ช่วย  นั่นคือ  การค้าขายเนื้อหมู   ต้องมีการสั่งฆ่าหมูเป็น ๆ  จำนวนมาก  นอกจากทำธุรกิจค้าขายเนื้อหมูแล้ว  คุณพ่อยังเปิดร้านรับซ่อมอุปกรณ์ไฟฟ้า  แอร์  ตู้เย็น  ซึ่งกิจการทั้ง 2 อย่างนี้ เจริญก้าวหน้าเป็นอย่างดี
 
        เมื่อประมาณปี 2522  เมื่อลูกคนเล็กอายุประมาณ 2-3 ขวบ เศรษฐกิจในประเทศไทยโดยรวมค่อยข้างซบเซา  กิจการทั้ง 2 อย่างของคุณพ่อประสบปัญหา  คุณพ่อจึงหาลู่ทางที่จะไปทำงานต่างประเทศ โดยเลือกที่จะไปอเมริกาแทนที่จะไปซาอุดิอาระเบียตามที่คนสมัยนั้นนิยมกัน โดยคิดว่าการไปทำงานที่อเมริกา ก็เพื่อจะให้ลูก ๆ ได้ตามไปเรียนหนังสือได้ด้วย   แต่คุณแม่และลูกทั้ง 3 คนพยายามทำเรื่องขอวีซ่าเข้าสหรัฐอเมริกาหลายครั้ง ก็ไม่ผ่านสักครั้ง
 
        ชีวิตในอเมริกาของคุณพ่อระยะเริ่มต้นลำบากมาก  ไม่ได้สวยหรูเหมือนที่คาดฝันไว้ว่าจะไปหางานช่างที่ตนเองถนัดทำ   งานที่หาได้ก็จะเป็นประเภทล้างจานตามร้านอาหาร หรือเฝ้าที่จอดรถ  ขายแซนด์วิช และแฮมเบอร์เกอร์  ซึ่งมีรายได้ไม่มากนัก  แต่ท่านก็ยังต่อสู้ทำงานอย่างหนักเพื่อส่งเงินมาเลี้ยงครอบครัวและส่งมาทำบุญในเมืองไทยเป็นประจำทุกเดือน ในระหว่างนั้นเอง   ท่านได้มาเจอเพื่อนรุ่นน้องท่านหนึ่ง สมัยเรียนหนังสือด้วยกันที่เทคนิคกรุงเทพ ซึ่งพวกเรานับถือท่านว่าเป็นคุณอา คุณอาท่านได้แนะนำและช่วยเหลือให้คุณพ่อได้งานทำ  เป็นช่างไฟฟ้าที่โรงเรียนรัฐบาลแห่งหนึ่งในรัฐแคลิฟอร์เนีย
 
        ถึงแม้ว่าเราพ่อลูกจะอยู่ห่างไกลกันคนละประเทศ   แต่ก็ไม่เคยรู้สึกขาดความอบอุ่นแต่อย่างใด  คุณพ่อได้ทำหน้าที่ของพ่ออย่างสมบูรณ์   ระยะแรก ๆ ท่านเขียนจดหมายถึงลูก  ต่อมาก็เปลี่ยนเป็นโทรศัพท์ทางไกลข้ามประเทศอาทิตย์ละหลายๆครั้ง เพื่อมาอบรมและสอนธรรมะให้กับลูก ๆ และหลายครั้งก็สอนการบ้านให้ด้วย  หากใครมีปัญหา หรือไม่เข้าใจเกี่ยวกับการเรียน  ท่านก็จะให้ส่งตำราเรียนไปให้ท่าน  แล้วท่านก็จะสอนการบ้านทางโทรศัพท์ข้ามประเทศเลย  ในสมัยนั้น ค่าโทรศัพท์ทางไกลแพงกว่าสมัยนี้มาก  ท่านก็ยอมจ่ายค่าโทรศัพท์หลายหมื่นบาทต่อเดือน เพราะความรักที่ท่านมีต่อลูก ๆ นั่นเองครับ 
 
        พวกเราทั้งรักและเคารพคุณพ่อ  เชื่อฟังคำสั่งสอนของท่าน  ไม่มีใครแตะต้องกับอบายมุขใดๆ ทั้งสิ้น  คุณพ่อมักจะย้ำอยู่เสมอว่า  บุญเท่านั้นเป็นที่พึ่งของเรา  ให้ทำบุญอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะเป็นจำนวนไม่มากก็ตาม ชีวิตจะได้ไม่ลำบาก 
 
        คุณพ่อท่านเป็นผู้หนึ่งในผู้ริเริ่มก่อตั้งศูนย์ฯและวัดสาขาของวัดพระธรรมกายในรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยเริ่มต้นจาก บ้านปฏิบัติธรรมที่เมืองเซอร์ริโตส    วัดพุทธเมย์วูด  และวัดพระธรรมกายแคลิฟอร์เนีย (อาซูซ่า) ตามลำดับ ซึ่งท่านได้ทำหน้าที่กัลยาณมิตรชักชวนคุณอา (เพื่อนรุ่นน้องท่านนั้น) ให้รู้จักบ้านปฏิบัติธรรมเซอร์ริโตส    ซึ่งเป็นที่รู้จักกันทั่วไปว่าคุณพ่อและคุณอาเป็นเพื่อนที่สนิทกันมาก คุณพ่อจะไปช่วยงานที่วัดอย่างสม่ำเสมอ  รับบุญทุกอย่างเท่าที่ทำได้ โดยไม่เห็นแก่ความเหน็ดเหนื่อยหรือยากลำบาก  และที่สำคัญท่านไม่เคยขาดการไปวัดทำบุญในวันบูชาข้าวพระ  และเมื่อกลับจากวัดท่านก็จะโทรศัพท์ทางไกลไปหาลูก ๆ ทั้ง 3 คนที่เมืองไทย เพื่อตรวจสอบว่าได้ไปวัดในวันบูชาข้าวพระหรือเปล่า?
 
        คุณพ่อได้ร่วมบุญทุกบุญที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อบอก และตั้งใจทำบุญร่วมกันกับลูกๆทุกเดือนโดยส่งเงินมาเพื่อให้ลูกเป็นคนเอาไปทำเองที่วัดพระธรรมกายที่เมืองไทย เพราะท่านอยากให้ลูกมาเข้าวัดทุกเดือน โดยเฉพาะเวลามีงานบุญใหญ่ๆท่านจะโทรมากำชับก่อนล่วงหน้าทุกครั้งให้ไปร่วมบุญให้ได้ไม่ว่าจะมีธุระอะไรก็ตาม ให้เอาบุญเป็นใหญ่ เป็นสำคัญ และคุณพ่อมีกัลยาณมิตรท่านหนึ่ง คอยบอกข่าวบุญให้กับครอบครัวเราอยู่อย่างสม่ำเสมอ อีกทั้งคุณพ่อยังฝากลูกทั้งสามของท่านให้กัลยาณมิตรท่านนี้คอยดูแลให้เข้าวัดปฏิบัติธรรมอย่างสม่ำเสมอ
 
        ครั้งสุดท้ายที่คุณพ่อกลับไปเยี่ยมพวกเราเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2548 คุณพ่อได้ไปปฏิบัติธรรมที่พนาวัฒน์กับน้องชายคนเล็กเป็นเวลา 7 วัน โดยมีกัลยาณมิตรท่านนี้ คอยเป็นธุระติดต่อให้อย่างดี ดูคุณพ่อมีความสุขมากที่ได้ไปปฏิบัติธรรมในครั้งนั้น และยังคงสอนเหมือนทุกครั้งถึงการให้ตั้งมั่นอยู่ในความไม่ประมาทในการที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์  ให้ทำบุญให้ต่อเนื่องมิให้ขาด
 
        ปีนี้คุณพ่อรู้สึกว่าแก่ลงไปเยอะ  ไม่รู้ว่าจะไปเมื่อไร  จึงอยากให้ลูก ๆ จำสิ่งที่พ่อสอนไว้  จะได้ดูแลตัวเองได้ คุณพ่อสอนให้เราเจริญมรณานุสติ และให้เตรียมพร้อมตลอดเวลา คืนสุดท้ายก่อนกลับอเมริกา น้องชายคนเล็กได้ชวนคุณพ่อไปเข้าโรงเรียนฝันในฝันที่วัดพระธรรมกาย ได้ฟังธรรมะจากพระเดชพระคุณหลวงพ่อในตอนหัวค่ำ หลังจากนั้นคุณพ่อก็ไปบูชามหาธรรมกายเจดีย์ คุณพ่อยืนมองพระเจดีย์อยู่นานมากแล้วท่านก็พูดว่า สวยงามมากจริงๆ อยากจะจำภาพนี้ให้ติดไว้ในดวงใจ จะได้นึกถึงบ่อยๆ  จากนั้นคุณพ่อก็กลับไปทำงานที่แคลิฟอร์เนียต่อ และยังคงโทรหาลูกๆที่เมืองไทยบ่อยๆ  จนกระทั่งวันที่ 6  กรกฎาคม (เวลาในแคลิฟอร์เนีย)  ทางวัดพระธรรมกายแคลิฟอร์เนียก็ได้ทราบข่าวว่าคุณพ่อเสียชีวิตในที่พักที่ท่านอาศัยอยู่เพียงคนเดียว  โดยไม่รู้สาเหตุแห่งการเสียชีวิต  และไม่ทราบวันที่ที่แน่นอนว่าเสียชีวิตตั้งแต่เมื่อไร
 
คำถาม
 
1.    ก่อนวันบูชาข้าวพระ 1 วันคือวันศุกร์ที่ 1 กรกฎาคม (เวลาอเมริกา) เพื่อนสนิทของคุณพ่ออีกท่านหนึ่งซึ่งเป็นเจ้าของร้านอาหารได้โทร.ไปหาคุณพ่อ แต่ติดต่อไม่ได้จึงฝากข้อความไว้ทางโทรศัพท์  ซึ่งโดยปกติแล้ว  คุณพ่อจะต้องโทร.กลับไปหาภายในวันเดียวกัน หรือในทันทีที่ได้รับข้อความ  ทำไมคุณพ่อของผมถึงไม่โทร.ไปหา  ท่านเสียตั้งแต่ตอนนั้นรึเปล่าครับ?  
 
2.    วันบูชาข้าวพระซึ่งเวลาในอเมริกาตรงกับวันเสาร์ที่ 2 เวลา 19.30 น. (เวลาเมืองไทยคือ 9.30 น.ของเช้าวันอาทิตย์)  คุณพ่อไม่ได้ไปร่วมงานเลยซึ่งปกติท่านไม่เคยขาดแม้แต่ครั้งเดียว  ทำไมท่านถึงไม่ได้ไป แต่ที่เมืองไทยในวันอาทิตย์   คุณพ่อได้โทร.ไปหาลูกชายคนเล็ก เพื่อเช็คว่าลูก ๆ ได้ไปบูชาข้าวพระที่วัดหรือไม่?
 
3.    คุณพ่อของผมเสียชีวิตเมื่อวันที่เท่าไร   ด้วยสาเหตุอะไร  และอย่างไรครับ? 
 
4.    ใน 7 วันหลังจากที่คุณพ่อเสียชีวิต ท่านมีสภาพเป็นอย่างไร? ท่านได้มาเวียนประทักษิณที่พระเจดีย์ตามหลักวิชาหรือไม่? และขณะนี้ท่านอยู่ที่ไหน?  ที่อยู่ของท่านมีลักษณะเป็นอย่างไร
 
5.    วิบากกรรมใดที่ทำให้คุณพ่อต้องพลัดพรากจากพ่อแม่ที่แท้จริง และห่างไกลภรรยาและลูกไปอยู่ต่างประเทศ  และต้องมาเสียชีวิตคนเดียว  ขณะอยู่ในต่างประเทศ
 
6.    คุณแม่และพวกผมทั้ง 3 คนซึ่งอยู่ที่เมืองไทย  ได้ทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้คุณพ่อ ในขณะเดียวกัน ทางวัดพระธรรมกายแคลิฟอร์เนียก็ได้จัดพิธีสวดพระอภิธรรมให้ด้วย   คุณพ่อของผมได้รับรู้และได้รับบุญจากทั้งเมืองไทยและอเมริกาหรือไม่? 
 
7.    ผมได้ทำบุญเสาแก้วพันปีไปให้คุณพ่อ  และน้องชายคนเล็กได้บวชพระรุ่นนานาชาติให้คุณพ่อเป็นเวลาประมาณ 1 เดือน  คุณพ่อได้รับผลบุญอย่างไรบ้างครับ?
 
8.    คุณอาที่เป็นเพื่อนรุ่นน้องของคุณพ่อได้บวชเป็นพระภิกษุประจำวัดพระธรรมกายแคลิฟอร์เนีย เมื่อเดือนตุลาคม 2547   ต่อมาได้ไปอบรมพระนวกะที่วัดพระธรรมกายประเทศไทย   ในเวลานั้นได้ทราบข่าวการเสียชีวิตของคุณพ่อ หลวงอาได้บินกลับไปแคลิฟอร์เนียเพื่อจัดการเรื่องต่างๆและเรื่องทรัพย์สินส่วนตัวของคุณพ่อ เพราะหลวงอาเป็นคนเดียวที่รู้เรื่องของคุณพ่อดีที่สุด   หลวงอาและคุณพ่อท่านเป็นอะไรกันมาก่อน  ชาตินี้จึงได้มาเกื้อกูลช่วยเหลือซึ่งกันและกันอย่างจริงใจและเต็มใจ
 
9.    จาก Case Study หลายๆ Case ทำให้กระผมทราบว่าคนที่มีการกระทบกระทั่งกันในหมู่คณะ แล้วหลุดออกไปจากหมู่คณะนั้น เมื่อมาเกิดใหม่ วิบากกรรมจะทำให้นับถือนอกพระพุทธศาสนา คุณแม่ผมที่ท่านนับถือคริสต์ เป็นเพราะเหตุเดียวกันนี้หรือไม่ครับ? ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะอะไร? สำหรับผู้ที่ทำให้เพื่อนกัลยาณมิตรต้องออกจากหมู่คณะโดยไม่มีเจตนาหรือมีเจตนา จะมีวิบากกรรมแตกต่างกันอย่างไรครับ? ถ้าผมจะเป็นกัลยาณมิตรให้คุณแม่มีพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งที่ระลึก จะต้องทำอย่างไรครับ?   และคุณแม่จะหายจากการป่วยจากการเป็นโรคมะเร็งได้อย่างไรครับ?
 
10.    การที่คุณพ่อคุณแม่เคยประกอบอาชีพสั่งฆ่าหมูเป็นจำนวนมาก  บุญที่คุณพ่อและคุณแม่ได้สั่งสมมา จะสามารถตัดรอนวิบากกรรมนี้ได้บ้างไหมครับ?    ถ้าไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ?
 
11.    คุณพ่อและครอบครัวของเราเคยร่วมสร้างบุญกับหมู่คณะมาหรือไม่อย่างไรครับ ? หากผมอยากเกิดเป็นลูกของท่านอีกในชาติต่อ ๆ ไป  ผมต้องทำอย่างไรบ้างครับ? คุณพ่อได้ฝากอะไรถึงคุณแม่และลูกๆบ้างครับ?
 
12.    ท่านกัลยาณมิตรที่คอยบอกบุญพวกเราด้วยดีตลอดมา เคยสร้างบุพกรรมใดร่วมกันมาในอดีตชาติ จึงมาชักชวนให้ได้สร้างบุญบารมีกันอีกในชาตินี้ครับ? และเมื่อพุทธันดรที่แล้วท่านเคยสร้างบารมีมากับหมู่คณะอย่างไร? และปฏิบัติธรรมได้ผลอย่างไร?   ชาตินี้จะทำวิชชาได้ไหมครับ?
 
13.    เพื่อนกัลยาณมิตรของคุณพ่อท่านหนึ่งเคยเป็นกำลังสำคัญในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาวิชชาธรรมกายในแคลิฟอร์เนียตั้งแต่ปี 2536 แต่เมื่อมีกรณีสื่อ ท่านได้เชื่อตามสื่อและไม่ได้เข้าวัดจนปัจจุบัน ไม่ทราบท่านเคยสร้างบารมีมากับหมู่คณะอย่างไร? บุพกรรมอะไรทำไมท่านต้องออกจากหมู่คณะ? และจะต้องทำอย่างไรให้ท่านได้กลับมาสร้างบารมีกับหมู่คณะอีกครั้งครับ?
 
14.    ผมมีคำถามที่ขออนุญาตกราบเรียนเพิ่มเติมครับ   คือ การขอขมาพระรัตนตรัยที่หลวงพ่อนำสวดก่อนการนั่งสมาธิกับการขอขมาพระภิกษุเฉพาะเจาะจงนั้น มีอานิสงส์เหมือนกันหรือแตกต่างกันอย่างไรครับ?
สุดท้ายนี้กระผมขอกราบแทบเท้านมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อ คุณครูไม่ใหญ่ที่เมตตาช่วยไขความกระจ่างในเรื่องครอบครัวลูกมา ณ โอกาสนี้
 
กราบนมัสการด้วยความเคารอย่างสูง
 

ฝันในฝัน

หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ  ตื่นขึ้นมา หาว 1 ที
แล้วก็นำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากันนะจ๊ะ
 
1.    เพื่อนสนิทของคุณพ่อท่านหนึ่ง   ได้โทรศัพท์ไปถึงคุณพ่อแต่ติดต่อไม่ได้   ได้ฝากข้อความไว้     แต่คุณพ่อไม่ได้โทรกลับไปซึ่งตามปกติท่านจะโทรกลับไป   เพราะ..... ท่านเพลียเหนื่อย   ไม่สบายอย่างมาก จึงไม่ได้โทรศัพท์กลับไป     ได้เสียชีวิต  เพราะหัวใจล้มเหลว   และหมดอายุขัยแล้ว     ท่านหลับผล็อยไปหลังจากอาทิตย์ต้นเดือนจ่ะ !
 
 
 
2.    คุณพ่อตายแล้วก็วนเวียนอยู่  7  วัน     ซึ่งในช่วงนั้นท่าน  ก็พยายามนึกถึงบุญและทำสมาธิด้วย     พอครบ  7  วันก็มี “เทวรถ” ทองประดับรัตนชาติพร้อมบริวารมารับท่าน    
 
  
  • แล้วก็ได้มาเวียนประทักษิณตามหลักวิชชาที่มหาธรรมกายเจดีย์  3  รอบ     เพื่อระลึกนึกถึงบุญต่าง ๆ ด้วยความปีติใจ     แล้วก็ “แว๊บ” ไป “ดุสิตบุรี      วงบุญพิเศษเขตเสบียง”     มีวิมานทองประดับรัตนชาติ   ด้วยบุญที่ทำกับหมู่คณะมาจ่ะ ! 
  • ท่านได้รับบุญทุกบุญที่อุทิศไปให้    ก็ยิ่งมีทิพยสมบัติเพิ่มขึ้น  
  
  • ขณะนี้กำลังจะไปนั่งธรรมะที่ “วิมาน     มหาสมณะเทวบุตร”     ภายหลังจากตรวจตราทิพยสมบัติด้วยความปีติใจ   
  
  • ท่านอยากให้บุตร - ภรรยาได้สร้างบุญดังที่ท่านได้สอนไว้ ,โดยเฉพาะอยากให้ภรรยามาสร้างบุญกับหมู่คณะ เพื่อจะมาอยู่ด้วยกันกับท่านจ่ะ !
 
 
 
3.    คุณพ่อต้องพลัดพรากจากพ่อ – แม่  และบุตร – ภรรยา  ไปอยู่ต่างประเทศ   และต้องเสียชีวิตคนเดียว เพราะ..... มี “ผังเดิม” ในหลาย ๆ ชาติที่มีลักษณะดังนี้ติดตัวมา  คือ ท่านจะต้องเดินทางจากแคว้นแดนไกล เพื่อประกอบอาชีพ   แต่ไม่ได้มีวิบากกรรมอะไรจ่ะ !

 
 
4.    คุณอาที่เป็นรุ่นน้องของคุณพ่อ   ได้ช่วยเหลือเกื้อกูลกันอย่างจริงใจและเต็มใจหลายเรื่อง     รวมทั้งเรื่องทรัพย์สินและเรื่องส่วนตัวของคุณพ่อ   เพราะ..... เคยเป็น “พี่น้อง” กันมา   โดยคุณพ่อในอดีตชาติใกล้เป็นพี่ชาย  ส่วนคุณอาที่เป็นรุ่นน้องก็เป็นน้องชาย ,ได้เคยเกื้อกูลกันมาในชาตินี้ จึงมาเกื้อกูลกันต่อจ่ะ !

 
 
5.    คุณแม่นับถือศาสนานอกบุญเขตของพระพุทธศาสนา เพราะ..... เมื่อหลายพุทธันดรที่แล้ว   ได้เป็นคู่บุญคู่บารมีกับคุณพ่อ ได้มาสร้างบารมีกับหมู่คณะ    
 
  
  • ได้กระทบกระทั่งกับบางคนกับหมู่คณะ     และ “งอน” คุณพ่อที่มาทุ่มเทให้กับหมู่คณะจนเกิดความรู้สึกว่า   คุณพ่อรักบุญและหมู่คณะมากกว่าตัวเอง    จึงไม่ยอมสร้างบุญกับหมู่คณะด้วยในภายหลัง   แต่ไม่ได้ออกจากหมู่คณะ  ,  
  
  • แต่ก็เป็นเหตุทำให้พรากจากหมู่คณะมาอีกหลายพุทธันดร    และไปนับถือศาสนานอกบุญเขต  ,  ชาตินี้บุญเก่าดึงดูดให้มาเจอกันอีก   แต่เกิดนอกบุญเขตจ่ะ ! 
  
  • ผู้ที่ทำให้เพื่อนกัลยาณมิตรได้ออกจากหมู่คณะ   โดยเจตนาและไม่เจตนา     จะมีวิบากกรรมต่างกัน  คือ ..... ถ้าทำโดย “เจตนา”      ก็จะทำให้มีเหตุอันใดอันหนึ่งให้ตัวเองหลุดออกจากหมู่คณะด้วยกรรมนั้น  ,  ถ้าทำโดย “ไม่เจตนา”   ก็จะทำให้มีอุปสรรคต่าง ๆ มาขวางในการสร้างบารมีอย่างที่เราก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรจ่ะ ! 
  
  • ลูกจะเป็นกัลยาณมิตรให้คุณแม่หันมานับถือพระรัตนตรัยนั้น  ลูกก็ต้องคอยคุยธรรมะให้ท่านฟัง  ,  แนะนำให้ท่านทำสมาธิภาวนาทุกวัน     และให้ท่านอนุโมทนาบุญทุกบุญที่พ่อและลูกได้ทำไว้บ่อย ๆ จ่ะ !  
  • ไม่ช้าบุญเก่าที่ท่านเคยทำกับหมู่คณะก็จะได้   ช่องเองที่จะทำให้ใจท่านเปิดจ่ะ ! 
  
  • ต้องให้ท่านทำบุญในพระพุทธศาสนาให้เยอะ ๆ   เพราะกรรมปาณาติบาตท่านมาก     ดังนั้นคงหายยากจ่ะ ! 
  • แต่บุญก็จะไป  ตัดรอนวิบากกรรมให้หนักเป็นเบาจ่ะ !
 
 
 
6.    คุณพ่อ – คุณแม่เคยมีอาชีพ “สั่งฆ่าหมู” จำนวนมาก  ,  บุญที่คุณพ่อ - คุณแม่สั่งสมมาก็พอตัดรอนวิบากกรรมได้  คือ  พอปิดอบายภูมิในชาตินี้ได้  ,  แต่ต้องให้คุณแม่ทำบุญในพระพุทธศาสนา ให้เยอะ ๆ ด้วยตัวเอง  ,  เพราะไม่มีใครล้างบาปให้ใครได้หรอกนอกจากตัวเองต้องสร้างบุญจ่ะ !

 
 
7.    คุณพ่อและครอบครัว   เคยสร้างบารมีกับหมู่คณะมาแบบ “กองเสบียง” ประเภทเรื่อย ๆ ตามกำลังอย่างสม่ำเสมอจ่ะ !
 
  
  • ถ้าอยากเกิดเป็นลูกท่านอีกในชาติต่อไป  ,  ลูกก็ต้องหมั่นทำบุญอุทิศให้ท่านบ่อย ๆ อย่างสม่ำเสมอ     แล้วอธิษฐานจิตทุกครั้งว่า  ภพชาติต่อไปให้ได้ไปเกิดเป็นลูกท่านอีกจ่ะ ! 
  
  • ท่านได้ฝากข้อความมาว่า   ท่านมีความสุขมากจากบุญที่ได้ทำไว้ตอนเป็นมนุษย์     และอยากให้ลูก ๆ ท่านทุกคนรวมทั้งภรรยาท่านได้สร้างบุญอย่างท่าน   จะได้มาอยู่ด้วยกันที่ดุสิตบุรีวงบุญพิเศษจ่ะ !
 
 
 
8.    ท่านกัลยาณมิตรในปัจจุบัน   ได้ชวนครอบครัวลูกสร้างบุญเสมอ ๆ นั้น     ในอดีตได้เคยเป็นกัลยาณมิตรให้ตั้งแต่พุทธันดรที่ผ่านมา  ,  แต่ภรรยาของพ่อในพุทธันดรที่ผ่านมา   ได้อธิษฐานจิตขอให้ได้เกิดเป็นผู้ชายในชาติต่อไป  ,  ชาตินี้ได้มาเกิดเป็นผู้ชายไปแล้ว
 
  
  • พุทธันดรที่ผ่านมา   ท่านกัลยาณมิตรท่านนี้   ได้เป็นทหารของพระราชาองค์ที่ออกบวช   ได้ออกบวชตามพระราชา     เมื่อบวชแล้วก็ได้เป็นกัลยาณมิตรให้กับครอบครัวของพ่อของลูก  ,  
  
  • โดยท่านกัลยาณมิตรท่านนี้ทำหน้าที่ “เผยแผ่” จนตลอดชีวิต  ,  มีผลการปฏิบัติธรรมพอประคองตัวกลับดุสิตบุรีได้  เพราะชอบศึกษาคัมภีร์และเทศน์สอนมากไป จนหย่อนในการปฏิบัติไปหน่อยจ่ะ !     
  
  • วิบากกรรมกาเมเจ้าชู้ในหลาย ๆ ชาติมาส่งผลให้ชาตินี้มาเป็นผู้หญิงจ่ะ ! 
  • ชาตินี้จะทำวิชชาได้ก็ต้องมีความเพียรมากกว่านี้จ่ะ !
 
 
 
9.    เพื่อนกัลยาณมิตรของคุณพ่อท่านหนึ่ง   ได้เคยเป็นกำลังสำคัญในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาวิชชาธรรมกาย     ต่อมาเชื่อตามสื่อที่ลง   จึงไม่ได้กลับมาสร้างบารมีกับหมู่คณะอีกนั้น  
 
  
  • เพราะ .... ในอดีตเคยสร้างบารมีกับหมู่คณะ   โดยเป็น “กองเสบียง”     แต่หย่อนบุญคบกัลยาณมิตรและการปฏิบัติธรรม     จึงทำให้ขาด “โยนิโสมนสิการ”  คือ  การไตร่ตรองอย่างแยบคายว่า   ควรเชื่อและไม่เชื่ออะไรจ่ะ ! 
  
  • อยากให้ท่านกลับมาอีก   ลูกก็ต้องอดทนไปทำหน้าที่กัลยาณมิตรให้กับท่านด้วยใจที่ใส  ,  เยือกเย็น  ,  และด้วยรักและห่วงใยจ่ะ ! 
 
 
10.    ถ้ามีเจตนาเคยล่วงเกินท่านองค์ใด    ก็ควรจะไปขอขมาท่านองค์นั้นเป็นการส่วนตัว    
 
  
  • แต่ถ้าไม่เจตนาองค์ในองค์หนึ่ง     และไม่รู้ว่าล่วงเกินหรือเปล่า , เกิดความไม่แน่ใจ   ก็ให้ไปขอขมาพระรัตนตรัยแทนจ่ะ !
  • เหมือนยาครอบจักรวาล  คือ  มีส่วนในการทำให้วิบากกรรมเบาบาง   แต่ยังไม่หมด  ,  แต่ถ้ารู้ตัวว่าทำกับองค์ไหนแล้วไปขอขมากับองค์นั้น    ก็จะทำให้วิบากกรรมหมดจ่ะ ! 
  
  • ชาตินี้มาเจอกันแล้ว     ก็ให้ตั้งใจสร้างบารมีให้เต็มที่ในทุกบุญ แล้วอธิษฐานจิต     ตามติดไปดุสิตบุรีวงบุญพิเศษเขตบรมโพธิสัตว์อย่าได้พลัดกันเลยจ่ะ !
 

 


Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
เจ้าเมืองไปเกิดเป็นพญานาคเจ้าเมืองไปเกิดเป็นพญานาค

นักบุญ - นักธุรกิจนักบุญ - นักธุรกิจ

สังขารดับ แต่ใจยังอาวรณ์สังขารดับ แต่ใจยังอาวรณ์



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

กรณีศึกษากฎแห่งกรรม