พญาสัตตนาคา ภาค 2


[ 14 ต.ค. 2548 ] - [ 18274 ] LINE it!

CASE STUDY
พญาสัตตนาคา  ภาค 2
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ทาง DMC
 
 
กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อครูไม่ใหญ่ที่เคารพอย่างสูง
    
    ลูก มาเป็นนักเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยาเมื่อปลายปีพ.ศ.2547 เพราะมีกัลยาณมิตรท่านหนึ่งแนะนำให้ติดจานดาวธรรมให้คุณแม่ ตั้งแต่เริ่มติดจานดาวธรรม  ลูกก็ติดตามดูทุกวันไม่เคยขาดเลยค่ะ หลังจากได้ฟัง CASE STUDY ยังไม่ทันจะถึงสัปดาห์ ลูกก็เข้าใจในสิ่งที่คุณครูไม่ใหญ่ได้ถ่ายทอดในโรงเรียน เพราะนอกจากจะฟังสบายๆ แล้ว ยังมีเหตุมีผล เข้าใจได้ไม่ยาก จนลูกเกิดความศรัทธาในวิชชาธรรมกายอย่างแรงกล้า และบอกได้คำเดียวว่า...รู้อย่างนี้ก็ติด DMC ไปนานแล้วค่ะ    ลูกมีเรื่องแปลกที่เก็บความสงสัยมานาน มากราบขอความเมตตาคุณครูไม่ใหญ่ได้ฝันในฝันให้ ดังนี้ค่ะ
   
    เมื่อลูกเรียนจบมหาวิทยาลัย ลูกก็ได้แต่งงาน ลูกโชคดีมากค่ะที่ได้คู่บุญเป็นคนรักครอบครัว ทั้งพ่อกับแม่ของสามีเป็นคนใจบุญและรักการปฏิบัติธรรมด้วยกันทั้งคู่  โดยเฉพาะแม่สามี เป็นโยมอุปัฏฐากคนสำคัญของท่านเจ้าคุณรูปหนึ่ง ในจังหวัดนครพนม   ลูกศิษย์ลูกหาเรียกท่านเจ้าคุณว่า “ท่านพ่อ” ท่านเป็นพระที่มีชื่อเสียงมากในแถบลุ่มแม่น้ำโขง
    
    ท่านพ่อ ก่อตั้งสำนักวิปัสสนาขึ้นภายในวัดตั้งแต่ปีพ.ศ.2499 โดยควบคุมดูแลการปฏิบัติธรรมของพระเณรอย่างใกล้ชิด  กระทั่งผ่านไปหนึ่งปี ก็มีเหตุการณ์ประหลาดเกิดขึ้น คืนนั้นตรงกับวันขึ้น 5 ค่ำ เดือน 11 ปี พ.ศ. 2500 เวลาประมาณตี 2 ขณะที่ฝนตกกระหน่ำนานกว่าครึ่งชั่วโมง สลับกับฟ้าร้องดังสนั่นจนแผ่นดินสะเทือน ก็ปรากฏลำแสงประหลาดเป็นลำงามโตเท่าลำตาลขนาดใหญ่มีสีต่างๆ กันถึงเจ็ดสี  พุ่งแหวกอากาศแข่งกันเป็นลำยาวหลายเส้น  จากทางด้านทิศเหนือ  พอมาถึงหน้าซุ้มประตูวัด แสงนั้นก็หายเข้าไปในองค์พระธาตุพนม  เหตุการณ์ดังกล่าวมีชาวบ้านคนหนึ่งชื่อ เตี่ยไก้ฮวด ซึ่งเปิดร้านติดกับบ้านโยมแม่ เป็นประจักษ์พยานยืนยันว่าได้เห็นเหตุการณ์นั้นด้วยตาเนื้อ ขณะออกมารองน้ำฝนหลังบ้าน
  
    สองวันต่อมา เมื่อความทราบถึงท่านพ่อ  ท่านจึงให้สามเณรรูปหนึ่งซึ่งอายุเพียง 15 ปี นั่งเข้ากัมมัฏฐานตรวจดูเหตุการณ์ ครู่หนึ่งสามเณรก็เห็น พญานาคราชทั้งเจ็ด เรียงกันเป็นแถวอยู่บริเวณลานพระธาตุ  ลำตัวโตใหญ่เท่าลำต้นตาล มีหงอนแดงน่าสะพรึงกลัว แล้วจึงกลับสภาพเป็นร่างมาณพเจ็ดตนนุ่งห่มด้วยผ้าขาว ทันใดนั้นมาณพผู้เป็นหัวหน้าได้กล่าวทักทายสามเณรและขอโอกาสสนทนาธรรมกับท่านพ่อ  สักครู่พญานาคราชในร่างสามเณรก็ยกมือไหว้ท่านพ่อ กล่าวว่า  “นมัสการท่านเจ้าคุณ หม่อมฉันมาสองคืนแล้วมิรู้หรือ” ท่านพ่อแปลกใจจึงถามกลับว่า “ท่านเป็นใคร มาจากไหนหรือ”  สามเณรตอบว่า “พวกหม่อมฉันเป็นพญาสัตตนาคา มีพระนามเป็นมงคลตามอริยทรัพย์ตามลำดับว่า พญาสัทโทนาโค (เป็นหัวหน้า) พญาศีลวุฒนาโค พญาหิริวุฒนาโค พญาโอตตัปปะวุฒนาโค  พญาสัจจะวุฒนาโค  พญาจาคะวุฒนาโค และพญาปัญญาเตชะวุฒนาโค   มีรัศมีสีกายต่างกันคือ  น้ำเงิน  เขียวเข้ม  เขียวอ่อน  เหลือง   ชมพู  ส้ม และขาวตามลำดับ พวกหม่อมฉันมาจากสระอโนดาตในเทือกเขาหิมาลัย  ตามบัญชาขององค์อินทราธิราชเจ้า ผู้เป็นใหญ่ในดาวดึงส์ ตั้งแต่สองวันที่แล้ว เพื่อมาลงรักษาพระธาตุพนม ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระอุรังคธาตุ (กระดูกส่วนหัวอก) ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า โดยมาขับไล่พวกผีเจ้าเฮือนเทวดาหลักเมืองที่เฝ้าพระธาตุพนมให้ออกไปจากที่นี้ เพราะพวกนี้มักกินสินบนเครื่องเซ่นสรวงของชาวบ้าน ทำให้พระศาสนามัวหมอง 
   
    เมื่อถูกท่านพ่อถามว่า “พระองค์ทรงอยู่กินหลับนอนอย่างไร” พญาสัทโทนาคราชตอบว่า “พวกหม่อมฉันมีทิพยวิมานอยู่ใต้องค์พระธาตุนี้เอง จะเรียกว่าอยู่ใต้บาดาลก็ได้ เป็นดุจสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา นิมนต์ท่านเจ้าคุณลงไปชมดูก็ได้” ท่านพ่อจึงถามต่อไปว่า “เหตุไฉนพระองค์จึงเข้าประทับทรงร่างสามเณรผู้กำลังอยู่ในฌานได้” พญานาคกล่าวว่า  “ผู้มีฌานแก่กล้า  มีศีลบริสุทธิ์อย่างสามเณรรูปนี้  วิญญาณผีปิศาจเข้าสิงทรงไม่ได้หรอก  แต่สำหรับเทพชั้นสูงสามารถเข้าประทับทรงได้ด้วยเหตุสองประการคือเพราะเคยมีกรรมเก่าพัวพันมาก่อนในอดีตชาติ  และเพราะมีเจตนาจะมาสร้างกุศลผลบุญในโลกมนุษย์ด้วยจิตเมตตาใคร่ที่จะช่วยบำบัดทุกข์  สำหรับหม่อมฉันเข้าประทับทรงด้วยเหตุประการหลัง  ดังนั้นขอท่านเจ้าคุณได้โปรดเป็นประธานในการประทับทรงทุกครั้งไป  และขอว่าผู้ที่จะเป็นร่างทรง จะต้องเป็น
 
    สามเณรหรือแม่ชีผู้มีศีลบริสุทธิ์เท่านั้น โดยที่ไม่จำเป็นต้องมีเครื่องเซ่นสรวงบูชาใดๆ  ขอเพียงน้ำเปล่าสักถ้วยหนึ่งก็พอ  เพราะน้ำนี้เป็นสภาวะของพวกนาคราช จึงต้องอาศัยน้ำเป็นสื่อ ถ้าใครผู้ใดมีจิตรำลึกถึงหม่อมฉัน ก็ขอให้ตั้งถ้วยน้ำลอยด้วยดอกมะลิหอม จุดธูปเจ็ดดอก  กล่าวอัญเชิญก็จะสามารถส่งกระแสจิตติดต่อกันได้ทันที”
   
    เหตุการณ์นี้ได้สร้างความประหลาดใจให้ท่านพ่ออย่างมาก  ใครที่อยู่ใกล้ชิดจะรู้ว่า ท่านพ่อเองก็ไม่ใช่คนที่เชื่ออะไรง่ายๆ ท่านพ่อจึงพยายามพิสูจน์ความจริงครั้งแล้วครั้งเล่า     จนกระทั่งเกิดความมั่นใจ การประทับทรงเพื่อแสดงธรรมและรักษาโรคจะมีขึ้นทุกวันพระ และต่อมาก็เพิ่มวันพฤหัสอีกหนึ่งวัน  ทุกครั้งที่เสด็จประทับทรง  พญาสัตตนาคาจะหยิบผ้าสีใดสีหนึ่งจากพาน ซึ่งตรงกับรัศมีสีกายของท่าน สาธุชนในที่นั้นก็จะรู้ได้ทันทีว่าท่านเป็นพญานาคราชองค์ใดในจำนวนเจ็ดองค์ ขณะที่ท่านแสดงธรรม แต่ละพระองค์จะมีน้ำเสียง บุคลิก ลักษณะ ท่วงที ในการแสดงธรรมที่แตกต่างกันไป บ้างก็มาดสุขุมเหมือนนักวิชาการ  บ้างก็กิริยาอาการคล้ายเด็กที่ขี้เล่น คำพูดที่ใช้เป็นคำราชาศัพท์เกือบทั้งหมด โดยท่านจะสอนให้ประชาชนรักการสั่งสมบุญ และที่สำคัญทุกพระองค์ยืนยันเหมือนๆกันว่า เทวดาอย่างท่านหาใช่ผู้ประเสริฐสูงสุด เพราะแม้ท่านเองก็ยังต้องเลื่อมใสศรัทธาและบูชาองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเหนือสิ่งอื่นใด  หลังจากแสดงธรรมและเปิดให้ซักถามหัวข้อธรรมต่างๆ แล้ว ท่านก็จะเมตตาตรวจโรคให้กับผู้ที่มารับการรักษาครั้งละหลายราย
   
    ในจำนวนผู้ที่มารับการรักษาโรคที่วัด มีอุบาสิกาท่านหนึ่งที่ท่านพ่อได้เมตตารับไว้และให้บวชเป็นแม่ชี  ท่านพ่อสอนวิปัสสนาให้ระดับหนึ่งแล้วส่งให้ไปเรียนกัมมัฏฐานต่อที่วัดปากน้ำฯ ภาษีเจริญ เมื่อกลับมาท่านพ่อก็ทราบว่าเธอได้ดวงธรรมแล้ว จึงมอบหมายให้ทำหน้าที่เป็นร่างประทับแทนสามเณรที่เพิ่งจะลาสิกขาไป  แม่ชีปฏิบัติหน้าที่ให้พญาสัตตนาคาเสด็จผ่านอยู่นานกว่าสิบปี ภายหลังจึงได้ลาสิกขาไป
   
    วันที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2518 ขณะที่ลูกและครอบครัวย้ายไปอยู่ที่สหรัฐอเมริกา ลูกก็ได้ทราบข่าวที่น่าเศร้าสลดว่า  องค์พระธาตุพนมได้พังทลายลงมาท่ามกลางสายฝนที่ตกพรำตลอดทั้งวัน เพราะฐานเก่าแก่มากจนไม่อาจทานน้ำหนักส่วนบนได้ หลังจากนั้น 62 วัน ทางราชการจึงค้นพบพระอุรังคธาตุของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า 8 องค์บรรจุอยู่ในผอบแก้วหุ้มทอง   หลังบูรณะพระธาตุเสร็จเรียบร้อยแล้ว    พญาสัตตนาคาก็เสด็จผ่านอุบาสิกาท่านนั้นอีกครั้งเพื่อแจ้งว่า  “ถึงเวลาที่หม่อมฉันจะต้องขอกราบลาไปปฏิบัติธรรมที่ยิ่งๆขึ้นไปแล้ว เพราะบัดนี้ภารกิจได้เสร็จสิ้นลงแล้ว  แต่หากท่านพ่อต้องการให้ท่านช่วยกิจอันใด ขอให้ท่านพ่ออัญเชิญ จึงจะสามารถเสด็จผ่านร่างได้เช่นเดิม”
   
    ครอบครัวของลูก อยู่ที่สหรัฐอเมริกาได้ 5 ปี ก็ตัดสินใจย้ายกลับมาอยู่เมืองไทยเพราะความเป็นห่วงคุณแม่  เมื่อกลับมาถึง  อุบาสิกาท่านนั้นก็แวะเวียนมาหาครอบครัวของลูกเกือบทุกสัปดาห์ การเสด็จผ่านจึงเกิดขึ้นทุกครั้งที่เธอมาหา จึงเป็นโอกาสดีที่จะได้ฟังธรรมจากพญาสัตตนาคา  ภายหลังเธอก็ห่างหายไปนาน จนในที่สุดก็เลยไม่ได้ติดต่อกัน นานประมาณ 3 ปีแล้วค่ะ
   
    หลังจากที่ลูก ได้มาเป็นนักเรียนอนุบาลฯ ก็ได้คุณครูไม่ใหญ่คอยตอกย้ำให้รู้ว่าที่พึ่งสูงสุดของชีวิต คือพระรัตนตรัยภายใน ดังนั้น ครอบครัวของลูกจึงมาวัดเป็นประจำทุกวันอาทิตย์  ต่อมามีพระภิกษุที่วัดชักชวนให้ สามี มาอุปสมบทรุ่นเข้าพรรษาเพื่ออุทิศบุญกุศลให้กับโยมพ่อโยมแม่ ลูกก็ยินดีและอนุโมทนาบุญอย่างเต็มที่ ส่วนตัวลูกเองก็ได้มีโอกาสขึ้นไปปฏิบัติธรรม จนกระทั่งได้รับผลการปฏิบัติที่ก้าวหน้าขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ลูกและครอบครัวตั้งใจว่าจะได้มีโอกาสรับใช้งานพระศาสนาและทุ่มเทชีวิตจิตใจสร้างบารมีตามติดคุณครูไม่ใหญ่ไปดุสิตบุรีวงบุญพิเศษกันทั้งครอบครัวค่ะ
 
คำถามมีดังนี้ค่ะ 
 
1. เหตุการณ์ประหลาดที่มีผู้เห็นลำแสงเจ็ดสีพุ่งเข้าไปในพระธาตุพนมนั้น แท้จริงแล้วเป็นอย่างไร  เหตุใดจึงต้องมาเกิดในช่วงปีพ.ศ. 2500 พอดีคะ บุพนิมิตดังกล่าวเป็นเพราะพญาสัตตนาคาเสด็จมาลงที่พระธาตุพนมใช่หรือไม่  เหตุใดจึงแสดงออกมาในลักษณะของลำแสงคะ 
 
2. พญาสัตตนาคาคือใคร มีที่มาอย่างไร เหตุใดจึงมีถึงเจ็ดพระองค์และเกี่ยวข้องกันอย่างไร เหตุใดพระนามถึงพ้องกับอริยทรัพย์ 7 ประการ ลูกสงสัยว่าเทวดาจำเป็นต้องมาคลุกคลีกับมนุษย์ด้วยหรือ จริงๆแล้วท่านมีวัตถุประสงค์การมาอย่างไร  มาแล้วสถิตอยู่ที่แห่งหนใดกันคะ เรื่องราวเกี่ยวกับพญาสัตตนาคาตามที่ท่านพ่อให้สามเณรตรวจดูนั้น เป็นจริงทุกประการตามที่สามเณรกล่าวหรือไม่
 
3. พญาสัตตนาคาเป็นพญานาคใน 4 ตระกูล หรือไม่ และมีความเกี่ยวข้องอย่างไรกับพญานาคแถบลุ่มน้ำโขงที่บูชาพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในวันออกพรรษาหรือไม่
 
4. ผีเฮือนทั้งสามนั้นคือใคร เมื่อถูกขับแล้วไปพากันไปอยู่ที่ไหน องค์อินทราธิราชทรงมีภารกิจที่เกี่ยวข้องกับงานพระศาสนาด้วยหรือคะ เมื่อมีเหตุเภทภัยใดๆ ที่ร้อนถึงอาสน์ท่านบ่อย ๆ แล้วท่านจะไม่รำคาญและบ่นมนุษย์หรือคะ ท่านเป็นผู้ปกครองภพดาวดึงส์แต่ขอบข่ายหน้าที่ของท่านครอบคลุมไปถึงที่โลกมนุษย์ด้วยหรือ แล้วโลกมนุษย์ไม่มีเทพองค์ใดเป็นผู้ปกครองหรือเป็นใหญ่ที่สุดเหมือนสวรรค์หรือคะ 
 
5. สามเณรและอุบาสิกาที่เป็นร่างเสด็จผ่าน มีความพิเศษจากคนทั่วไปอย่างไร เหตุใดพญาสัตตนาคาจึงจำเพาะเจาะจงที่จะเสด็จประทับทรงแต่เพียงสองท่านนี้
 
6. ท่านพ่อมรณภาพเมื่ออายุได้ 82 ปี บุญที่ท่านได้ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาไว้มากมายตลอดชีวิต ส่งผลต่อท่านอย่างไร ท่านมรณภาพแล้วไปไหนคะ 
 
7. การที่พระธาตุพนมพังทลายลงมานั้น เป็นบุพนิมิตอะไรหรือไม่ เกิดขึ้นด้วยสาเหตุใดคะ  เมื่อพญาสัตตนาคาหมดหน้าที่แล้วท่านกลับไปเสวยบุญ ณ ที่แห่งใด   ปัจจุบันมีใครมารักษาพระธาตุแทนคะ การมาพิทักษ์รักษาพระธาตุของเทพเหล่านั้นต้องทำอย่างไรคะ และจะทำให้ได้รับอานิสงส์อย่างไร
 
8. (คำถามข้อนี้ ตามแต่คุณครูไม่ใหญ่จะเห็นสมควรคะ)  พระธาตุพนมสร้างครั้งแรกตั้งแต่สมัยใด ใครเป็นผู้สถาปนาคะ  ตามตำนานพระอุรังคธาตุกล่าวว่า ครั้งหนึ่งพระพุทธองค์เคยเสด็จมาประกาศพระศาสนาที่นี่ด้วยพระองค์เอง หลังจากเสด็จดับขันธปรินิพพานแล้ว พระมหากัสสปะและพระอรหันต์ 500 รูปจึงได้นำเอาพระอุรังคธาตุมาประดิษฐานที่ภูกำพร้า จ.นครพนม  ทั้งหมดเป็นเรื่องจริงหรือเป็นเพียงตำนานคะ ถ้าเป็นเพียงตำนาน พระอุรังคธาตุที่ค้นพบหลังจากองค์พระธาตุพังลงมานั้นคืออะไร เหตุใดเมื่อมีผู้อธิษฐานขอความสำเร็จต่อพระธาตุ จึงสำเร็จสมความปรารถนาในทุกเรื่องคะ
 
9. เหตุใดลูกจึงรักการทำบุญและชอบศึกษาธรรมะมาตั้งแต่เล็กจนถึงบัดนี้ เป็นเพราะได้เคยบวชพระมาบ้างหรือไม่ ลูกปรารถนาอย่างยิ่งที่จะเป็นชายได้บวช  ความปรารถนาของลูกจะสำเร็จหรือไม่ ต้องสร้างบุญในชาตินี้ให้ยิ่งยวดเพียงไร  และมีมาตรฐานขนาดไหนที่ลูกหญิงในหมู่คณะจะมั่นใจได้ว่า จะติดตามคุณครูไม่ใหญ่ได้ไม่ตกไม่หล่น
 
10. อดีตสามี (พระธรรมทายาท) อายุมาก(60ปี) แต่พรรษาน้อย (เพิ่งบวชรุ่นเข้าพรรษาปีนี้) อยากห่มผ้าสีสุดท้ายจนกระทั่งละสังขาร  ลูกซึ่งเป็นโยมผู้หญิงจะได้บุญอย่างไรที่เต็มใจให้บวชคะ
     
กราบนมัสการด้วยความเคารพอย่างสูง

 
ฝันในฝัน
หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ  ตื่นขึ้นมา หาว 1 ที
แล้วก็นำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากันนะจ๊ะ
 
1. เหตุการณ์ประหลาดที่มีผู้เห็นลำแสง  7  สี    พุ่งเข้าไปในพระธาตุพนมนั้น  ก็คือ  กลุ่มพญานาค  7  ตนที่เป็นนาคระดับ   ภุมมเทวา     ที่ได้รับบัญชาเป็นทอด ๆ มาจาก ท้าววิรุณปักษ์ จนถึงหัวหน้าเขต     ให้มาอารักขาพระธาตุพนมจ่ะ !
 
 
  • ที่มาในปี  2500    ปีนั้นก็ไม่ได้มีอะไรพิเศษ   แค่มาพ้องกันพอดีกับความเชื่อที่ว่า   เป็นยุคกึ่งพุทธกาลจ่ะ !     ...ที่แสดงออกมาให้เห็นเป็นลำแสง       ก็เป็นไปตามรัศมีกายหรือผิวกายของพญานาค     ซึ่งแยกย่อยออกมาจากพญานาค  4  ตระกูลใหญ่จ่ะ !   ...ผู้ที่เห็นได้นั้นเป็นเพราะ  ... อายตนะตรงกันพอดีในช่วงจังหวะนั้นจ่ะ !
 
 
  • กลุ่มพญานาคทั้ง  7  ก็ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับพญานาคในน้ำโขง       ที่ได้บูชาพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในวันออกพรรษา     แต่ก็รู้จักกัน   จ่ะ !
 
 
2. พญาสัตตนาคา  คือ  กลุ่มพญานาคระดับภุมมเทวาดังกล่าว     โดยอดีตชาติตอนเป็นมนุษย์ได้เป็นกลุ่มช่างก่อสร้าง  7  คน   ที่ได้รับจ้างไปบูรณะอารามแห่งหนึ่ง     โดยทำด้วยจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา     แต่ก็มักหาเวลาว่างมาตั้งวงดื่มเหล้ากัน
 
 
  • ในช่วงบั้นปลายชีวิตก็ได้ไปฟังธรรม  ,  ซึ่งพระเถระได้แสดงธรรมเรื่องอริยทรัพย์  7  ,  ท่านให้จำคนละข้อ   เพราะทั้ง  7  คน   จำได้ไม่หมดทุกข้อ  ,  และได้ตั้งชื่อให้ใหม่ในทางธรรม   โดยเรียกเป็นชื่อตามหัวข้อธรรมะ
 
 
  • เมื่อตายไปก็ได้มาเกิดเป็นพญานาคระดับภุมมเทวาดังกล่าวจ่ะ !    ...ไม่จำเป็นที่เมื่อเป็นเทวดาแล้วจะต้องมาคลุกคลีกับมนุษย์     แต่เนื่องจากตั้งใจที่จะบำเพ็ญกุศล   เพราะมี เศษกรรมสุราติดมาจากตอนเป็นมนุษย์     จึงทำให้เกิดเป็นพญานาคจ่ะ !
 
 
  • ที่ท่านพ่อให้สามเณรตรวจดูนั้น   โดยส่วนใหญ่ก็เป็นความจริง     แต่บางส่วนก็เป็นความเข้าใจผิดจ่ะ !  เช่น  สระอโนดาตไม่ได้อยู่ที่ภูเขาหิมาลัยจ่ะ !
 
 
3. “ผีเฮือน” ทั้งสาม  คือ  พวก “ภูติ” ที่มาอยู่อาศัยที่พระธาตุพนม  เพื่อคอยกินเครื่องเซ่นสรวงดังกล่าวจากมนุษย์จ่ะ ! ... เมื่อถูกขับไปแล้วก็หนีเข้าป่าไปจ่ะ !

 
  • พระอินทร์ท่านเป็นผู้ปกครองสวรรค์ชั้นดาวดึงส์  ,  โดยมีท้าว จาตุโลกบาลทั้ง  4  คือ  ท้าวเวสสุวรรณโณ  ,  ท้าววิรุณปักษ์  ,  ท้าววิรุณหค  ,  ท้าวฐตรถ  ปกครองนาค , ยักษ์ , คนธรรพ์ , ครุฑ       เป็นประเทศราช     แล้วก็ยังมีสายปกครองมาตามลำดับ  เช่น  อากาศเทวา  ,  รุกขเทวา  ,  ภุมมเทวา  บนพื้นมนุษย์จ่ะ !    
 
  • พระอินทร์ท่านเป็นพุทธศานิกชน   ไม่ได้มายุ่งโดยตรงกับมนุษย์ แต่สั่งการปกครองมาตามลำดับดังกล่าวจ่ะ ! เมื่อมีเหตุเภทภัย   กับพระพุทธศาสนา ท่านก็มองดูด้วยทิพย์จักษุ   แล้วก็สั่งการ    ลงมาเป็นชั้น ๆ จ่ะ !
 
 
  • เมืองมนุษย์ไม่มีเทวาปกครองใหญ่ที่สุดเหมือนสวรรค์จ่ะ !    ...แต่แบ่งการปกครองเป็นเขต ๆ และแต่ละเขตก็มีหัวหน้าเขตจ่ะ !
 
 
4. สามเณรและอุบาสิกาที่เป็น “ร่างผ่าน” ได้นั้น    เพราะ  ...เคยมีบุญกรรมร่วมกับกลุ่มพญานาคทั้ง  7  คือ  ตอนเป็นมนุษย์ก็ได้เคยมาช่วยช่างทั้ง  7  ขณะบูรณะอารามจ่ะ !...แต่ก็มีกรรมที่ถูกช่างทั้ง  7  ใช้ให้ไปซื้อเหล้าเรื่อย ๆ จ่ะ !    
 
 
  • ส่วนอุบาสิกาก็เคยบวชชีอยู่ที่วัดที่ช่างทั้ง  7  ไปบูรณะ   และเคยทำอาหารเลี้ยงจ่ะ !  อีกทั้ง  2  คนก็มี “เชื้อ” สิง ๆ ทรง ๆ ติดข้ามชาติมาด้วย  ,  มาชาตินี้มาเจอกันก็เลยเป็นร่างผ่านได้จ่ะ !
 
 
5. “ท่านพ่อ” มรณภาพเมื่ออายุ  82     มรณภาพแล้ว   ...ท่านก็ไปอยู่สวรรค์ชั้นดุสิตเขตทั่วไป     ด้วยบุญที่ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาต่าง ๆ มากมาย  ,  รวมทั้งบุญที่บวชเป็นอายุพระพุทธศาสนา   และได้บำเพ็ญสมณธรรมจนหมดอายุขัยจ่ะ !
 
 
6. การที่ “พระธาตุพนม” พังลงมานั้น     ก็เป็นไปตามกาลเวลาของสังขารทั้งหลาย   ที่มีความเสื่อมไปเป็นธรรมดา  ,       เมื่อเกิดขึ้น  ,  ตั้งอยู่  ,  ก็เสื่อมไปจ่ะ !     ไม่ได้เป็นบุพนิมิตที่จะบอกอะไรจ่ะ !
 
 
  • ด้วยบุญที่พิทักษ์รักษาพระธาตุพนมได้ส่งผลให้พญานาคสัตตนาคา   ไปเป็น “อากาศเทวา” มีวิมานเป็นทอง   เป็นกลุ่ม  7  วิมานจ่ะ !    ... เมื่อกลุ่มเก่าไปแล้ว   หัวหน้าเขตก็ส่ง    กลุ่มใหม่มาแทน     โดยมาเฝ้าพิทักษ์พระธาตุเหมือน ร.ป.ภ. ที่มาอารักขาเป็นเกียรติแก่พระศาสนาที่คนเลื่อมใสศรัทธาจ่ะ !   และปกป้องผองภัยเท่าที่ทำได้จ่ะ !   ด้วยอานิสงส์นี้ก็จะได้ผลบุญส่งให้เลื่อนชั้นไปสูงขึ้น   คล้ายพญาสัตตนาคาที่ได้ผลบุญส่งให้ไปเป็น “อากาศเทวา” จ่ะ !
 
 
7. ลูกรักการทำบุญและชอบศึกษาธรรมะตั้งแต่เด็ก    เพราะ   ... คำอธิษฐานเมื่อสร้างบุญทุกครั้งว่า    ชาติต่อไปให้ได้สร้างบุญศึกษาธรรมะตั้งแต่ยังเยาว์วัย   ตามมาส่งผล
 
 
  • คำอธิษฐานนี้เกิดขึ้นภายหลังจากประสบปัญหาชีวิตครอบครัว     เพราะได้สามีดื่มเหล้า  ,  เจ้าชู้  ,  จนกลุ้มมาก     ต่อมาก็ได้เจอกัลยาณมิตรแนะนำให้เข้าวัด  ฟังธรรมะ  ,  สร้างบุญ   เมื่อสร้างบุญแล้วก็อธิษฐานจิตดังกล่าว  ,  ภพชาตินี้บุญส่งผลก็เป็นไปตามความปรารถนาทุกอย่างจ่ะ !   
 
 
  • ถ้าลูกอยากจะเป็นผู้ชายได้บวชในภพชาติต่อไป     ลูกก็ต้องตั้งใจประพฤติพรหมจรรย์รักษาศีล  8  ให้เคร่งครัด     และ หมั่นสั่งสมบุญทุกบุญทั้ง  ทาน , ศีล , ภาวนา  แล้วอธิษฐานจิตว่าขอให้ได้เกิดเป็นผู้ชายได้บวช  ,  ให้ทำบ่อย ๆ จนตลอดชีวิต     เมื่อบุญส่งผลก็จะเป็นไปตามความปรารถนาจ่ะ !
 
 
8. ลูกเต็มใจให้อดีตพ่อบ้านบวชอุทิศชีวิตให้พระศาสนา      ก็จะได้อานิสงส์ที่อนุโมทนาบุญ  คือ  ปิดอบายภูมิ   และจะได้ไปเจอพระพุทธศาสนาไปอีกในภพชาติต่อ ๆ ไป  ,  เมื่อเจอแล้วก็จะเกิดกุศลศรัทธา  เข้าวัด  ,  ฟังธรรม  ,  ปฏิบัติธรรมจนเข้าถึงธรรมะภายใน  ,  จะมีจิตใจที่ฝักใฝ่แต่กุศลธรรม  ,  จะสั่งสมบุญเป็นนิตย์ ทำให้ไปสวรรค์นิพพานได้จ่ะ !

 
  • ให้ตั้งใจสร้างบารมีให้เต็มที่ในทุกบุญ     แล้วอธิษฐานจิตตามติดไปดุสิตบุรีวงบุญพิเศษเขตบรมโพธิสัตว์     อย่าได้พลัดกันเลยจ่ะ !
     



รับชมคลิปวิดีโอพญานาค ตอนที่ 3 พญานาคฟังธรรมจากพระเถระ
ชมวิดีโอพญานาค ตอนที่ 3 พญานาคฟังธรรมจากพระเถระ   Download ธรรมะพญานาค ตอนที่ 3 พญานาคฟังธรรมจากพระเถระ


รายการวิดีโอที่เกี่ยวข้อง

พญานาค
พญานาค พระพุทธเจ้าทรงตรัสเรื่องราวพญานาคไว้หลายแห่ง ซึ่งพญานาคก็มีกำเนิดหลากหลาย มีอานุภาพ และในทรรศนะของโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา พญานาคเกี่ยวข้องกับบั้งไฟพญานาคอย่างไร
 


Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
เจ้าเมืองไปเกิดเป็นพญานาคเจ้าเมืองไปเกิดเป็นพญานาค

นักบุญ - นักธุรกิจนักบุญ - นักธุรกิจ

สังขารดับ แต่ใจยังอาวรณ์สังขารดับ แต่ใจยังอาวรณ์



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

กรณีศึกษากฎแห่งกรรม