CASE STUDY
ยิ่งมองยิ่งงาม ตอนที่ 3
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ทาง DMC
กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูงค่ะ
ลูก เป็นลูกหลานหลวงปู่ ซึ่งขออนุญาตส่งเรื่องราวที่เกี่ยวเนื่องกับท่านมาเพิ่มเติมอีก เพราะคิดว่า ทุกเรื่องราวที่เกี่ยวเนื่องกับท่านเป็นเรื่องราวอันทรงคุณค่ายิ่งต่อมวลมนุษยชาติ ดังมีเรื่องราวต่อไปนี้ค่ะ
ลูกได้มากราบหลวงปู่ ที่วัดปากน้ำภาษีเจริญเป็นครั้งแรกจากการที่ป้าแท้ๆ ของลูกเป็นคนพามาค่ะ พอมาถึงหลวงปู่ท่านก็เมตตาลูกมาก ท่านจึงได้มอบพระของขวัญวัดปากน้ำรุ่น 1 ให้ลูก แล้วท่านยังเมตตาเป่ากระหม่อมให้ลูกด้วยค่ะ ท่านพูดกับลูกว่า “ กูบรรจุพระให้แล้วนะ..” ซึ่งตอนนั้นลูกก็ไม่เข้าใจหรอกค่ะว่า บรรจุพระในตัวที่หลวงปู่ท่านพูดหมายความว่าอะไร ลูกรู้เพียงแต่ว่า พระของขวัญหลวงปู่ เป็นพระที่ศักดิ์สิทธิ์มาก ยิ่งรุ่น 1 ด้วยแล้ว ยิ่งศักดิ์สิทธิ์ไม่มีประมาณอย่างสุดชีวิต และนับจากนั้นลูกก็เก็บพระของขวัญนี้พกติดตัวรักษาบูชาเป็นอย่างดี แต่พอห้อย..ห้อยไป พระผงยุ่ยละลายน้ำง่าย เพราะมีส่วนประกอบของดอกมะลิ และลูกก็ห้อยท่านอย่างสมบุกสมบัน ลูกจึงคิดถามตัวเองในใจว่า “หากพระผงยุ่ยหมด ลูกจะทำยังไง ...ลูกจึงปิ้งขึ้นทันทีว่า.. งั้นเราขูดเอาเนื้อองค์พระบางส่วนกินเข้าไปในตัวแล้วกัน องค์พระจะได้อยู่กับเราไปได้ตลอดชีวิต แม้กาลเวลาผ่านไป ยุ่ยไปก็ไม่เป็นไร เมื่อลูกคิดดังนี้ จึงทำการขูดพระผงจากทางด้านหลัง แล้วเอาเข้าปากกินไปนิดหนึ่ง จากนั้นลูกก็รู้สึกสบายใจ ว่ามีพระในตัวลูกแล้ว และต่อมาด้วยความสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบกของลูก พระของขวัญก็ได้ยุ่ยละลายไปจนหมดจริงๆ เจ้าค่ะ ตอนนี้ลูกก็เหลือแต่พระรุ่น 1 อยู่ในท้องเท่านั้น
และก็มีเรื่องราวเกี่ยวกับพระของขวัญอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งเกิดกับญาติสนิทคนใกล้ชิดของลูก ซึ่งตอนนี้ท่านยังมีชีวิตอยู่ แต่มีช่วงหนึ่งท่านเคยมาอุปัฏฐากหลวงปู่วัดปากน้ำ หลวงปู่ท่านจึงมอบพระของขวัญให้กับญาติท่านนี้ แต่ท่านได้ทำหายไป จนกระทั่งวันหนึ่ง หลวงปู่ท่านเข้าห้องน้ำ อุปัฏฐากคนนี้ ก็ได้หยิบพระของขวัญของหลวงปู่ที่วางไว้บนโต๊ะเพื่อเอาไปแทนองค์ที่ตัวเองได้ทำหายไป แต่ภายหลังกลับใจเอามาคืนให้หลวงปู่วางไว้ที่เดิม หลวงปู่ท่านจึงพูดว่า “พระ..ท่านมีเจ้าของหมดแล้ว...” และช่วงบั้นปลายชีวิตอุปัฏฐากคนนี้ก็ได้กลับมาอยู่บนแผ่นดินรูปใบบัว และได้ขายที่ดินให้กับวัดเพื่อนำมาสร้างอนุสรณ์สถานให้หลวงปู่ค่ะ
ป้าแท้ๆของลูก คนที่พาลูกมากราบหลวงปู่ ท่านเป็นคนเคารพและศรัทธาหลวงปู่เป็นที่สุด จะมาวัดปากน้ำเป็นประจำ แต่ป้ามีกรรมอยู่อย่างหนึ่งคือ เมื่อถึงหน้าหนาวทีไร ป้าแกจะเป็นบ้า มีอาการคลุ้มคลั่งทุกที น่ากลัวมากเลยค่ะ ซึ่งก็ลูกรู้สึกประหลาดใจเพราะตั้งแต่ลูกจำความได้ก็เห็นท่านเป็นแบบนี้แล้ว แต่ตอนหน้าร้อน หรืออากาศร้อนท่านจะไม่เป็น เหมือนคนปกติดีๆนี่แหละ แต่พออากาศเริ่มหนาวหน่อย ขนจะลุกชู และก็ออกอาการโวยวาย ถือมีดด้ามเล็กๆไว้กับตัว เที่ยวเดินไปทั่ว คลุ้มคลั่ง แต่พออากาศเริ่มร้อนท่านก็จะหายเป็นปลิดทิ้ง ก่อนท่านจะมีอาการคลุ้มคลั่ง จะรู้ตัวก่อน จะบอกคนรอบข้างว่า ให้เอาท่านล่ามโซ่ไว้หน่อย พอท่านเริ่มหาย ก็จะบอกเขาว่า หายแล้วให้มาเอาโซ่ออกให้ด้วย ป้าของลูกมีอาการอย่างนี้มานานมาก และก็เป็นกังวลอยากจะให้ตัวเองหาย จึงเที่ยวไปหาหมอมารักษา กินน้ำมนต์ก็แล้ว อะไรก็แล้ว ไปมาร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำ แต่ก็ไม่หายสักที จนกระทั่งหลวงปู่บอกว่า “ เอ็งไม่ต้องไปรักษาที่ไหนหรอก เดี๋ยวหมดกรรม มันก็หายเองแหละ..” แล้วหลวงปู่ท่านก็ให้กินยาลมของวัดปากน้ำแค่นั้นเอง ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อค่ะ ต่อมาอีกประมาณ4-5 ปีอยู่ๆ ท่านก็หายเป็นปลิดทิ้งไปเฉยๆอย่างนั้นเอง และพออากาศหนาวก็ไม่กลับมาเป็นอีกจริงๆค่ะ ต่อมาท่านป่วยเป็นโรคชราและเสียชีวิตลงด้วยวัย 92 ปี
และลูกมีเรื่องราวที่อยากจะกราบเรียนถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับโยมพ่อ และโยมแม่ของพระเดชพระคุณหลวงปู่ เพราะลูกเข้าวัดปากน้ำมากราบท่านตอนช่วงที่มีการจัดงานศพของโยมแม่ท่านพอดี ซึ่งลูกได้แต่ฟังญาติ ๆ เล่าเกี่ยวกับโยมแม่ โดยเฉพาะลุงหลอมจะเล่าให้ฟัง ว่า โยมแม่ท่าน รักลุงหลอมมาก จนลุงหลอมพูดว่า “ย่ารักกูมากพิลึก”
โยมแม่ ท่านเป็นคนใจบุญมาก และเป็นคนเด็ดเดี่ยวเข้มแข็ง ทำอะไรทำจริงสุดชีวิต เหมือนหลวงปู่ ท่านชอบไปวัดเป็นประจำ ซึ่งช่วงก่อนจะมาวัดปากน้ำท่านได้บวชชีอยู่วัดสองพี่น้อง รักษาศีล เก็บดอกบัว และจะเตรียมดอกบัวไว้ให้คนบูชาพระ และต่อมาหลังจากที่หลวงปู่มาอยู่ที่วัดปากน้ำแล้ว ท่านได้ไปๆ มาๆ ระหว่างสองพี่น้องกับวัดปากน้ำอยู่เสมอ ซึ่งหลวงปู่ท่านก็ชวนให้โยมแม่มาอยู่ที่วัดปากน้ำด้วย แต่ท่านยังไม่ยอมในทีแรก จนกระทั่งพี่สาวของหลวงปู่ เอาที่ดินไปจำนองกับเจ๊กไว้แล้วถูกโกง ทำให้โยมแม่ท่านเสียใจมาก เสียดายที่ดิน ทำใจไม่ได้ที่สมบัติที่เคยเป็นของตน เองต้องตกไปเป็นของคนอื่น จึงได้เดินทางมาวัดปากน้ำ มาเล่าให้หลวงปู่ฟัง เรื่องการถูกโกงที่ดิน หลวงปู่ฟังแล้วก็หัวร่อชอบใจ แล้วชวนโยมแม่มาอยู่ที่วัดปากน้ำ โยมแม่ก็ตกลง
โยมแม่หลวงปู่เป็นคนขยันไม่ชอบอยู่เฉยๆ อย่างวัดปากน้ำมีร่องน้ำขนาดใหญ่ ท่านก็จัดการดำนาปลูกข้าวเสียเลย หลวงปู่มายืนดูโยมแม่ท่านดำนา แต่ก็ไม่ว่าอะไร พอถึงฤดูเก็บเกี่ยว แม่ชีที่วัดก็เอาไปสีให้ โยมแม่ท่านอยู่ที่วัดปากน้ำจนกระทั่งวาระสุดท้ายของชีวิต หลวงปู่เก็บศพโยมแม่ท่านไว้เพื่อทำวิชชา แต่ต่อมาภายหลังท่านก็ได้จัดงานสลายร่างท่านไปในที่สุด
โยมพ่อของพระเดชพระคุณหลวงปู่ ท่านเป็นคนขยันขันแข็ง เป็นพ่อค้าขายข้าว แต่ท่านได้เสียชีวิตลงตอนหลวงปู่อายุได้เพียง 13 ปี ตอนนั้นหลวงปู่ยังไม่ได้บวช
ป้าดา เป็นพี่สาวคนโตของหลวงปู่ เคยดูแลหลวงปู่แทนโยมบิดาโยมมารดา เมื่อก่อนป้าดาเป็นผู้มีฐานะดี มีเรือจ้างขนาดใหญ่สามลำ แต่ตอนหลังกิจการเดินเรือขาดทุน ป้าดาจึงยากจนลง หลวงปู่จึงให้ป้าดามาอยู่ภายในวัดปากน้ำ และหาอาชีพให้ทำ โดยประชุมสงฆ์ในโบสถ์ ท่านพูดว่าท่านอยากช่วยพี่สาวท่านซึ่งขณะนี้ได้ยากจนลง แต่ตัวท่านนั้นเป็นสงฆ์ เงินทองที่เขาเอามาทำบุญจะเอาไปให้พี่สาวก็ไม่สมควร ดังนั้นท่านจะเอารูปท่านใส่กรอบขาย เพื่อเป็นการทดแทนคุณ ท่านก็ขอความเห็นจากคณะสงฆ์ในวัดว่า ถ้าสงฆ์ใดไม่เห็นด้วยก็ขอให้ยกมือคัดค้านได้ ถ้าสงฆ์เห็นดีด้วยก็ให้สาธุพร้อมกัน คณะสงฆ์ทุกรูปก็สาธุโดยพร้อมเพรียงกัน ป้าดาได้อาศัยจำหน่ายรูปหลวงปู่จนพอมีฐานะมีชีวิตที่สุขสบาย และอาศัยใบบุญของหลวงปู่อยู่ที่วัดปากน้ำตราบจนกระทั่งเสียชีวิต
ลูกกราบขอเรียนถามพระเดชพระคุณหลวงพ่อดังนี้ค่ะ
1. หลวงปู่พูดกับลูกว่า “กูบรรจุพระให้แล้วนะ” หลวงปู่ท่านบรรจุอย่างไร เมื่อบรรจุแล้วผู้รับจะเป็นเช่นไร และถ้าบรรจุในตัวแล้วทำองค์พระของขวัญหายหรือละลายไป องค์ที่บรรจุแล้วจะยังอยู่ในตัวหรือไม่ แล้วที่ทำบุญ 25 บาท แล้วชาติหน้าจะมีสมบัติพันล้าน ทำไมถึงทับทวีได้ขนาดนั้นคะ
2. การที่ลูกขูดพระผงเข้าปากไปนิดหนึ่งจะบาปไหม ทำไมลูกถึงคิดแบบนี้ในช่วงนั้น และตอนนี้พระที่กินเข้าไปช่วยชีวิตลูกในปัจจุบันได้อย่างไรคะ และทำไมพระของลูกต้องละลายไปเป็นเพราะกรรมอะไรของลูกหรือไม่คะ ทำไมพระขวัญของหลวงปู่ถึงศักดิ์สิทธิ์มากคะ
3. ที่หลวงปู่พูดว่า “พระ..ท่านมีเจ้าของหมดแล้ว” หมายความว่าอย่างไร...ความหมายเหมือนกับที่หลวงพ่อพูดว่าพระธรรมกายประจำตัวมีเจ้าของบุญอยู่แล้วหรือไม่คะ ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น
4. ทำไมอุปัฏฐากท่านนี้ถึงกล้าที่จะเอาพระของหลวงปู่ไปโดยไม่บอกหลวงปู่แต่ตอนหลังเอามาคืน จะมีวิบากกรรมอย่างไร และปัจจุบันก็ไม่ค่อยเข้าใจวัดเรา ท่านเคยมีผังเดิมมาอย่างไร
5. ป้ามีวิบากกรรมใดถึงทำให้เป็นบ้าเฉพาะฤดูหนาว แล้วมีบุพกรรมใดถึงบอกให้คนอื่นช่วยล่ามโซ่ตัวเอง แล้วทำไมโรคนี้อยู่ๆ ก็หายไปเอง ตอนนี้ท่านตายแล้วไปอยู่ที่ไหน มีอะไรฝากบอกหมู่คณะเราไหมคะ
6. โยมพ่อกับโยมแม่หลวงปู่ทำบุญร่วมมากับหลวงปู่อย่างไร ทำไมชาตินี้ถึงได้มาเป็นโยมพ่อโยมแม่ และเป็นโยมพ่อ โยมแม่ กันมากี่ชาติแล้ว โยมพ่อโยมแม่ได้รับอานิสงส์อย่างไรในการบวชของหลวงปู่บ้าง ตอนนี้โยมพ่อ โยมแม่ท่านอยู่ที่ไหน ชาติหน้าท่านจะเป็นโยมพ่อโยมแม่ของหลวงปู่อีกหรือไม่คะ
7. หลังจากที่โยมแม่เสียชีวิตหลวงปู่เก็บศพไว้ที่วัดปากน้ำเพื่อทำวิชชา ได้ยินข่าวมาว่าหลวงปู่ท่านทำวิชชาธรรมกายเพื่อช่วยให้โยมแม่ท่านฟื้นนั้นจริงหรือไม่ อย่างไร และจะมีการสานตอนวิชชานี้ให้สำเร็จได้หรือไม่คะ วิชชาธรรมกายสามารถทำให้คนตายแล้วฟื้นจริงหรือไม่อย่างไรคะ และทำอย่างไรถึงจะสามารถทำได้สำเร็จ
8. ด้วยบุพกรรมหรือบุญใดที่โยมแม่ถูกโกงที่ดิน แต่ได้มารับบุญใหญ่กับหลวงปู่ และที่หลวงปู่หัวเราะที่โยมแม่เล่าให้ฟังว่าถูกโกงนั้น เป็นเพราะอะไรหลวงปู่อธิษฐานให้ท่านมาหรือเปล่า
9. ทำไมโยมพ่อหลวงปู่ถึงอายุสั้นและไม่ได้รับบุญใหญ่กับหลวงปู่ในขณะที่หลวงปู่กำลังบวช แต่ท่านได้ชื่อว่าเป็นผู้ให้กำเนิดกายเนื้อหลวงปู่ ท่านจะได้อานิสงส์เช่นไร
10. ป้าดาทำบุญอะไรกับหลวงปู่มาถึงได้เกิดมาเป็นโยมพี่สาวท่าน และได้มาเป็นพี่เลี้ยงดูแลท่านแทนโยมพ่อโยมแม่ บุพกรรมใดที่ทำให้ป้าดามีฐานะร่ำรวย แต่กลับยากจนลง , ที่หลวงปู่ให้นำรูปท่านใส่กรอบขายจนสามารถมีเงินขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง เป็นเพราะบุญหลวงปู่หรือบุญป้าดาคะ , ตอนนี้ป้าดาอยู่ที่ไหน ชาติหน้าจะได้มาเป็นโยมพี่สาวหลวงปู่หรือไม่คะ
ฝันในฝัน
หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ ตื่นขึ้นมา หาว 1 ที
แล้วก็นำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากันนะจ๊ะ
1. หลวงปู่พูดว่า “กูบรรจุพระให้แล้ว” หมายถึง ท่านซ้อนองค์พระของขวัญด้วยวิชชาธรรมกาย โดยตอนที่มอบได้ซ้อนพระของขวัญติดไปในกลางกายของผู้มารับ จ่ะ!
- เมื่อบรรจุแล้ว พระนิพพานท่านก็จะซ้อนความศักดิ์สิทธิ์ ผ่านพระของขวัญมายังเจ้าของพระ ซึ่งจะบันดาลความปรารถนาของเจ้าของพระให้สำเร็จ จ่ะ!
- หากพระของขวัญหายไปหรือละลายไปก็ตาม ส่วนละเอียดที่ศูนย์กลางกาย ก็จะยังมีพระนิพพานซ้อนอยู่ แต่อานุภาพไม่เท่ากับการมีพระของขวัญ ซึ่งเป็นของส่วนหยาบเป็น “สื่อ” ด้วย จ่ะ!
- ที่ทำบุญ 25 บาท สร้างโรงเรียนปริยัติธรรมวัดปากน้ำ ในสมัยหลวงปู่ แล้วได้รับพระของขวัญ และสมบัติพันล้านนั้นเป็นเรื่องจริง จ่ะ!
- เพราะได้ทำบุญถูกเนื้อนาบุญ คือ ถูกองค์พระธรรมกายนับอสงไขยพระองค์ไม่ถ้วน , ดังนั้นทำน้อย จึงได้มาก , ทำมากก็ยิ่งได้มากเพิ่มขึ้นเป็นทับทวี จ่ะ! เหมือนการถวายทานแด่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์เดียว ยังได้เป็น พระเจ้าจักรพรรดิ ซึ่งมีมูลค่ามากมายนัก จ่ะ!
2. การที่ลูก “ขูดพระผงเข้าปาก” ไปนั้น ตอนนั้นยังเป็นเด็กไม่มีความรู้อะไร แต่ก็ไม่เป็นบาป เพียงแต่ศรัทธาที่เกิดขึ้นไม่ประกอบไปด้วยปัญญาเท่าที่ควร จ่ะ! ซึ่งถ้าจะให้ดี ควรนึกถึงท่านไว้ในศูนย์กลางกายไว้บ่อย ๆ จึงจะถูกหลักวิชชา จ่ะ!
- ที่คิดอย่างนั้น ก็เพราะ เป็นเด็ก จึงยังไม่รู้ว่าอะไรควร อะไรไม่ควรจ่ะ ! ...พระที่กินเข้าไปแล้วในตอนเด็ก จะช่วยลูกได้เต็มที่ต่อเมื่อ ลูกนึกถึงพระของขวัญเต็มองค์ไว้ในศูนย์กลางกาย จ่ะ!
- พระที่ละลายไป ก็เพราะ ทำด้วยดอกมะลิ กอปรกับลูกดูแลเอาใจใส่ท่านไม่เป็น แต่ก็ไม่ได้เป็นกรรมอะไร จ่ะ! ...พระของขวัญของหลวงปู่ศักดิ์สิทธิ์มาก เพราะ ...พระนิพพานนับไม่ถ้วนท่านลงซ้อนความศักดิ์สิทธิ์ตลอดเวลา จ่ะ!
3. ที่หลวงปู่พูดว่า “พระของขวัญมีเจ้าของหมดแล้ว” หมายถึง ท่านคำนวณเอากายละเอียดของผู้ที่ทำบุญกับท่านมา ทั้งในอดีต ปัจจุบัน มาซ้อนในกลางพระของขวัญด้วยวิชชาธรรมกาย แล้วเชื่อมให้ติดกัน จ่ะ!
- ก็คล้าย ๆ กันกับคำว่าพระธรรมกายประจำตัวที่ประดิษฐานที่มหาธรรมกายเจดีย์มีเจ้าของแล้ว แต่ประการหลังไม่เข้มงวดเท่ากับพระของขวัญสมัยหลวงปู่ จ่ะ ! ที่ทำได้อย่างนี้ก็เพราะวิชชาธรรมกาย จ่ะ!
4. อุปัฏฐากท่านนี้ ท่านอยากจะได้มีพระของขวัญติดตัว แต่ว่าของท่านเองหายไป จึงอยากจะได้ของหลวงปู่ไปแทน แต่ไม่กล้าขอ
- แต่ว่าเมื่อเอาไปแล้วก็กลัวหลวงปู่จะรู้ และกลัวบาป ก็เลยเอามาคืน , การทำดังนี้ก็จะมีวิบากกรรมบ้าง แต่เบาบางลง เพราะเอามาคืน , โดยวิบากกรรมนี้ถ้าได้ช่องส่งผล ก็จะทำให้สมบัติของตนอาจจะพลัดพรากไปชั่วคราว แล้วกลับมาคืนใหม่
- ปัจจุบันนี้ ท่านไม่ชอบวัดพระธรรมกาย เพราะไปเชื่อคนพูดยุแหย่ ทั้ง ๆ ที่ผังเดิมก็ทำมาดี ได้สร้างบารมีกับหมู่คณะมา จ่ะ!
5. ป้าแท้ ๆ ของลูกเป็น “บ้าในฤดูหนาว” เพราะ ... กรรมในอดีตชาติ เคยโกนหัวบวชชีเป็นอุบาสิกา และในระหว่างนั้น ก็จะ “ดื่มเหล้าเพื่อแก้หนาว ในฤดูหนาว” โดยเข้าใจว่าไม่ผิดเพราะถือว่าเป็นเภสัช แต่ว่าหลายครั้งก็ดื่มซะจนมึนเมาในช่วง ฤดูหนาว แต่ภายหลังรู้ว่ามันผิดศีล เพราะกินแก้หนาวไม่ถือว่าเป็นเภสัช จึงได้เลิก
- วิบากกรรมที่ทำไปโดยไม่ได้ศึกษา มาส่งผล จ่ะ! ...ท่านมีกรรมที่ “ล่ามสัตว์” มาเสริมกรรมสุรา จึงทำให้ท่านถูก “ล่ามโซ่” แต่ต่อมาหายได้ เพราะหมดกรรม จ่ะ!
- ตายแล้ว ก็ไปเป็นเทพธิดา “ชั้นจาตุมหาราชิกา สายยักษ์” ระดับชั้นดี ด้วยบุญที่ทำไว้ในพระพุทธศาสนา แต่ต่อมาหลวงปู่ท่านเอากลับไปดุสิตบุรีวงบุญพิเศษ แต่อยู่ท้ายแถว จ่ะ!
6. โยมพ่อ – โยมแม่ของหลวงปู่ ที่มาเป็นโยมพ่อ – โยมแม่ของท่าน เพราะ ...ในอดีตชาติหนึ่งที่หลวงปู่ท่านบวช ได้มี 2 ตา – ยายคู่หนึ่ง มาคอยอุปัฏฐาก ได้อำนวยความสะดวกในการปฏิบัติธรรมของหลวงปู่ในชาตินั้นที่เป็นพระหนุ่ม ด้วยจิตที่เลื่อมใสในข้อวัตรปฏิบัติของท่าน จึงได้เกิดความรักในตัวท่านเหมือนบุตร เพราะตัวเองไม่ได้มีบุตรชาย
- และในที่สุดก็ได้อธิษฐานจิตทุกครั้งที่ทำบุญอุปัฏฐากท่านว่า ขอให้ภพชาติต่อไปได้ไปเป็นโยมพ่อ – โยมแม่ของหลวงปู่ ด้วยคำอธิษฐานดังกล่าวชาตินี้มาเจอกัน จึงได้เป็นโยมพ่อ – โยมแม่ของหลวงปู่ จ่ะ! ...โดยเพิ่งสมปรารถนาในชาตินี้
- ทั้ง 2 ท่านเมื่อตายแล้ว หลวงปู่ท่านก็พากลับไปส่งที่ดุสิตบุรีวงบุญพิเศษ จ่ะ! ... ส่วนภพชาติเบื้องหน้านั้น ยังไม่แน่ว่าท่านทั้งสองจะสมปรารถนาไหม จ่ะ!
7. ภายหลังจากโยมแม่เสียชีวิตแล้ว หลวงปู่ท่านก็ได้เก็บศพของโยมมารดาท่านไว้ แล้วท่านก็ทำวิชชาปราบมารของท่านต่อไป แต่ก็ยังไม่ชนะพยามาร ความปรารถนาของท่านจึงยังไม่สำเร็จ ดังนั้นท่านจึงได้ทำการสลายร่างโยมมารดาของท่าน
8. โยมแม่ของหลวงปู่ถูกโกงที่ดิน เพราะ ...วิบากกรรมในอดีต ที่ท่านเป็นเศรษฐีแล้วปล่อยเงินกู้ และได้ยึดที่ดินของลูกหนี้ไว้ ดังนั้นชาตินี้จึงมาโดนบ้าง
- แต่หลวงปู่ท่านมีความกตัญญูกตเวที จึงได้รับโยมมารดามาดูแล อีกทั้งโยมมารดาก็จะได้สร้างบุญได้เต็มที่ จ่ะ! ...ที่หลวงปู่หัวเราะ เพราะท่านดีใจที่จะได้ดูแลโยมแม่ของท่าน จ่ะ! ไม่ได้เป็นเพราะหลวงปู่อธิษฐานให้โดนโกงที่ จ่ะ!
9. โยมพ่อหลวงปู่อายุสั้น เพราะ กรรมในอดีตท่านเป็นพ่อค้า ได้มีโจรมาปล้น ท่านได้ต่อสู้และได้ฆ่าโจรตาย วิบากกรรมปาณาติบาตนี้มาส่งผล จ่ะ!
- ท่านได้ให้กำเนิดกายเนื้อหลวงปู่ ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย ท่านก็จะได้บุญมาก บุญนี้ก็จะทำให้ท่านได้สมบัติทั้ง 3 คือ มนุษย์สมบัติ , ทิพยสมบัติ และนิพพานสมบัติ จ่ะ!
10. ป้าดา ท่านก็เคยได้เป็นพี่สาวของหลวงปู่ ในชาติที่ หลวงปู่เกิดเป็นพระราชาที่ชอบบริจาคทาน และได้เห็นการบริจาคทานของพระราชาผู้เป็นพระอนุชา , ตอนแรกก็ปีติเลื่อมใสในการบริจาคทาน
- แต่ต่อมาเห็นสมบัติในท้องพระคลังร่อยหรอ-ลง ก็เสียดาย จึงไม่ยินดีในการบริจาคทาน ได้ไปห้ามปรามพระราชาไม่ให้บริจาคทานต่อไปอีก แต่พระราชาท่านก็ไม่ย่อท้อในการทำทาน เพราะท่านก็ยังทำต่อไป
- ด้วยวิบากกรรมนี้ จึงทำให้ชาตินี้ตอนแรกป้าดาร่ำรวย แต่ภายหลังกลับยากจนลง แต่จิตที่ยินดีในช่วงแรกที่พระราชาบริจาคทานชาตินี้ จึงได้มาเป็นพี่สาวหลวงปู่ จ่ะ!
- บุญปัจจุบันของป้าดา ที่ได้ดูแลในชาติปัจจุบัน และบุญหลวงปู่ ได้มาช่วยฟื้นฟูฐานะของป้าดา ให้กลับคืนมาใหม่ ด้วยการจำหน่ายรูปหลวงปู่ใส่กรอบ จ่ะ!
- ป้าดาตายแล้ว หลวงปู่ท่านก็นำกลับไปดุสิตบุรีวงบุญพิเศษ จ่ะ! ...ส่วนภพชาติเบื้องหน้า ก็ยังไม่แน่ว่าจะได้มาเป็นพี่สาวหลวงปู่อีกหรือไม่ จ่ะ!