พ่อผัวลูกสะใภ้


[ 30 เม.ย. 2548 ] - [ 18317 ] LINE it!

CASE  STUDY
พ่อผัวลูกสะใภ้
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ทาง DMC
 

 
กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง

    คุณแม่ เป็นลูกหลานคนจีนที่เกิดในประเทศไทย มีอาชีพทำไร่อ้อยอยู่ที่จังหวัดกาญจนบุรี คุณแม่เป็นบุตรสาวคนโตของบ้าน จึงต้องทำงานตั้งแต่เล็กๆ เวลาที่เจ้าหน้าที่อำเภอมาตรวจเช็คจำนวนเด็กที่ต้องเข้าเรียน คุณยายก็จะให้คุณแม่ไปหลบในตุ่มน้ำเพื่อจะได้ไม่ต้องไปเรียน คุณแม่จึงไม่มีความรู้และอ่านหนังสือไม่ออก เขียนหนังสือไม่ได้

    เมื่ออายุได้  18 ปี คุณแม่ก็แต่งงานกับ คุณพ่อ ซึ่งเป็นชาวจีนที่เกิดในประเทศจีน และอพยพหนีสงครามมาพร้อมกับ คุณปู่ เพียง 2 คน   เมื่อคุณแม่แต่งงานใหม่ ๆ ก็มีอาชีพเย็บเสื้อโหล ส่วนคุณพ่อก็เป็นลูกจ้างโรงงานไม้ทำประตู หน้าต่าง คุณปู่เป็นคนหัวโบราณ ชอบขู่คุณแม่ว่าจะให้คุณพ่อแต่งงานใหม่ถ้าคุณแม่ไม่สามารถมีลูกชายได้ 2 คน   คุณแม่จึงได้มีบุตรทั้งหมด 6 คน เป็นหญิง 4 คน และเป็นชาย 2 คน  อย่างที่คุณปู่ปรารถนา  โดยมีตัวลูกเป็นบุตรชายคนเล็กสุด    คุณแม่ต้องทำงานเกือบทุกอย่าง ทั้งงานบ้าน ทำอาหาร เลี้ยงลูกและดูแลคนงาน เวลาตรุษสารท ก็ต้องฆ่าสัตว์เพื่อนำมาทำการเซ่นไหว้และนำมาทำอาหาร   เงินเดือนของคุณพ่อนั้น  คุณปู่ก็เป็นคนเก็บเกือบทั้งหมด   คุณแม่จึงเจ็บช้ำน้ำใจเป็นอย่างมาก  ต่อมาคุณแม่จึงเริ่มแอบเก็บเงินจากการเย็บเสื้อโหลโดยไม่ให้คุณปู่รู้ เมื่อสะสมเงินได้จำนวนหนึ่งก็ได้เช่าบ้านเละเปิดกิจการเป็นของตนเอง โดยทำโรงงานประตูหน้าต่างไม้    คุณแม่ก็เริ่มมีอำนาจในบ้านเพิ่มมากขึ้น จนไม่ต้องเกรงใจคุณปู่อีก จนคุณปู่อยู่บ้านไม่ได้ โดยเมื่อคุณปู่ทานข้าวเช้าเสร็จก็ต้องออกไปอยู่นอกบ้านกับเพื่อน ๆ หรือญาติทุกวัน เพราะถ้าคุณปู่อยู่บ้าน คุณแม่ก็จะหงุดหงิดและด่าทุกคนไปทั่ว จนคุณปู่รู้ตัวก็เลยต้องออกจากบ้านทุกวัน กว่าจะกลับบ้านได้ก็ต้องรอจนตอนเย็น
 
    ต่อมาคุณแม่เก็บเงินได้ก้อนหนึ่งมาซื้อที่ดินและปลูกบ้าน คุณแม่รักบ้านหลังนี้มาก เมื่อย้ายมาอยู่บ้านหลังใหม่  คุณแม่ไม่ได้เตรียมห้องให้คุณปู่    คุณปู่จึงต้องนอนที่เก้าอี้ไม้ยาว กางมุ้งอยู่ข้างล่างคนเดียว  เวลาคุณพ่อของลูกหรือพี่ ๆ เข้าไปคุยกับคุณปู่   ไปช่วยเหลือหุงหาอาหารให้ ก็จะโดนคุณแม่ด่าทออย่างแรงมาก บางครั้งถึงขั้นตัดแม่ลูกกันก็มี จนลูกๆ ทุกคนคิดว่า สงครามระหว่างคุณปู่กับคุณแม่เมื่อไหร่จะจบลงเสียที

    ต่อมาคุณปู่เริ่มไม่สบาย เจ็บบริเวณช่วงท้อง คุณแม่ก็ไม่ให้คุณพ่อพาคุณปู่ไปรักษา คุณปู่เลยอาศัยการกินยาตราตกเบ็ด แก้ปวดท้องเป็นประจำ หรือบางครั้งต้องใช้เวลาที่คุณแม่ไปตลาด คุณพ่อถึงได้มาดูแลคุณปู่บ้าง มีอยู่คืนวันหนึ่งคุณปู่ปวดท้องไม่สบายมากจนทนไม่ไหว ขึ้นมาหาคุณพ่อที่ชั้นบน มาร้องขอให้คุณพ่อพาไปหาหมอ คุณแม่ไม่ให้คุณพ่อออกมาจากห้อง และไล่คุณปู่ลงไป เนื่องจากคุณปู่ไม่สบายจึงเดินไม่ค่อยไหว คุณแม่จึงใช้ไม้หน้าสามตีคุณปู่ตกบันไดลงมา เป็นเหตุให้คุณปู่ขาเจ็บและไม่สบายมากขึ้น คุณแม่ไม่ให้คนในบ้านช่วยอะไรทั้งสิ้น และไล่คุณปู่ไปอยู่หลังบ้านนอนตากยุง ต้องซักผ้า   หาอาหาร  หายากินเอง  ทำเองทุกอย่าง   คุณแม่ไม่ให้ใครเข้าไปยุ่งเด็ดขาด จนคุณปู่ทนไม่ได้ จะไปอยู่ที่อื่น คุณแม่ก็ไม่ให้คุณพ่อไปส่ง คุณพ่อเสียใจร้องไห้   แต่คุณพ่อรู้ว่าถ้าขัดใจแม่ ต้องเดือดร้อนถึงทุกคนแน่ๆ เมื่อคุณปู่ออกไปอยู่กับญาติแถวโบ๊เบ๊       คุณพ่อได้แต่แอบไปเยี่ยมคุณปู่แบบเงียบโดยไม่ให้คุณแม่รู้   ต่อมาคุณปู่อาการทรุดหนัก   คุณพ่อได้ไปเยี่ยมที่โรงพยาบาล และดูใจเป็นครั้งสุดท้าย    หลังจากคุณปู่เสียชีวิต คุณแม่ยังโกรธและไม่ให้จัดงานศพคุณปู่ แต่คุณพ่อบอกว่าถ้าไม่ให้จัดงานศพก็จะหย่าขาดจากคุณแม่  คุณแม่เลยยอมทุกอย่าง

    คุณแม่เป็นคนที่ไม่ค่อยปฏิเสธการทำบุญ คุณแม่ได้ทำบุญกฐินที่วัด ใน จ.สุพรรณบุรี โดยเป็นเจ้าภาพกฐิน 3 ปีซ้อน และได้ทำบุญอื่นๆ กับทางวัดนี้มาตลอด เช่นทำบุญสร้างประตู หน้าต่าง สร้างโบสถ์กับทางวัด ถวายเทียนพรรษาเป็นประจำ รวมถึงเป็นเจ้าภาพตัดลูกนิมิตกับทางวัดนี้ด้วย คุณแม่ได้ร่วมบุญสร้างองค์พระธรรมกายประจำตัว  และได้มาวัดพระธรรมกายบ้างเป็นบางโอกาส เช่นได้จุดดวงมาฆะประทีป มางานบุญกฐิน แต่คุณแม่มาร่วมงานเฉย ๆ ไม่ชอบนั่งสมาธิ  และสวดมนต์ไม่เป็นเพราะอ่านหนังสือไม่ออก

    คุณแม่ได้รับการผ่าตัดหลายครั้ง เช่น ผ่าไส้ติ่ง ตัดมดลูกทิ้งเนื่องจากเป็นเนื้องอก  มีโรคประจำตัวหลายอย่าง เช่น โรคเบาหวาน ตับแข็งซึ่งมีอาการตั้งแต่ยังสาว จนปี พ.ศ.2538 คุณแม่มีอาการชัก หน้าเบี้ยว ปากเบี้ยว จึงได้ไปพบแพทย์ พบว่าเป็นอาการเนื่องจากเส้นเลือดในสมองตีบ
 
    ก่อนเสียชีวิตคุณแม่ได้หกล้มจนต้นขาหัก 2 ครั้งและได้ทำการผ่าตัดฝังเหล็กดามกระดูกไว้ข้างใน ต่อมาคุณแม่มีอาการปวดท้อง  หนาวสั่นอย่างมาก  คุณหมอวินิจฉัยว่าคุณแม่มีนิ่วในถุงน้ำดีและถุงน้ำดีก็บวมโต จึงต้องทำการผ่าตัด  อาการของคุณแม่ทรุดลงเรื่อย ๆ จนสุดท้ายคุณหมอบอกว่าคุณแม่ไตวาย ขณะนั้นมีเลือดไหลในกระเพาะ  คุณหมอใช้วิธียิงบอลลูนเข้าที่ท้องเพื่อกดรอยแตกของเส้นเลือด คุณแม่ทรมานมาก ต่อมาคุณหมอได้ใช้ยาช่วยให้เลือดไหลช้า จนยาก็ไม่สามารถช่วยได้แล้ว  ทางโรงพยาบาลได้เรียกลูกทุกคนให้ไปดูใจคุณแม่ ลูกทุกคนเลยตัดสินใจถอนยา เพื่อให้คุณแม่ได้ไปอย่างสงบ      ลูกๆ ได้ช่วยกันทบทวนบุญให้คุณแม่ฟัง   สวด อิติปิโส และช่วยกันนั่งสมาธิส่งให้คุณแม่ จนท่านจากไปอย่างสงบ มีอายุรวม 66 ปี ในระหว่างที่คุณแม่ได้อยู่ในห้อง ICU  ลูก ๆได้นิมนต์พระมาให้คุณแม่ถวายสังฆทานที่ห้อง ICU ทุกวัน ๆ ละ 3 รูป
   
    งานศพคุณแม่มีการสวดอภิธรรมทุกคืน และทำพิธีกงเต็กในวันสุดท้าย และลูกได้ช่วยกันติดรูปงานบุญต่าง ๆ ที่คุณแม่เคยร่วมทำมา ไว้ตามจุดต่าง ๆ ในบ้านที่คุณแม่ชอบอยู่ หลังจากที่คุณแม่เสียชีวิตแล้ว คุณพ่อได้จัดเก็บตู้เสื้อผ้าคุณแม่ และได้พบตุ๊กตาเทียน 2 ตัว ยาวประมาณ 3 นิ้ว มีกระดาษสีชมพูเขียนภาษาจีนแปะติดไว้ด้วยการลงเทียนทั้ง 2 ตัว และมีการผูกมัดติดกันด้วยสายสิญจน์อย่างแน่นหนา ลูกได้ทำตามหลักวิชชาครูไม่ใหญ่ โดยให้พี่สาวไปถวายสังฆทานและนำตุ๊กตาไปขุดดินฝังไว้หลังบ้านพี่สาว ได้อุทิศส่วนบุญกุศลไปให้ และได้บอกกล่าวให้สิ่งที่อยู่ในตัวตุ๊กตากลับไปอยู่กับเจ้าของวิชชา เรามิได้ลบหลู่ และอย่าได้ผูกเวรกันโดยเฉพาะกับคุณแม่     เพราะลูกไม่รู้ว่าของนี้มีที่มาที่ไปอย่างไร

    หลานชาย ของลูก เป็นลูกของพี่สาว เขาเป็นเด็กแฝด มีแฝดพี่อีก 1 คน แต่แฝดพี่ตายตั้งแต่อยู่ในท้องตอนอายุประมาณ 3 เดือน หมอพยายามช่วยชีวิตแฝดน้องไว้อย่างเต็มที่ หลานของลูกจึงได้เกิดมา แต่มีอาการผิดปกติ คือ ควบคุมกล้ามเนื้อไม่ได้และสมองเติบโตช้า ซึ่งคุณหมอบอกว่าเป็นโรคเกี่ยวกับระบบผิดปกติทางสมอง  หลานของลูกเคยไปรักษากับหมอนวดแผนโบราณท่านหนึ่งที่จังหวัดชลบุรี เมื่อประมาณกลางปี 2547   เมื่อหมอรู้ว่าหลานของลูกมีแฝดพี่ที่เสียชีวิตแล้ว ก็คิดว่าจะทำพิธีสู่ขวัญ เพื่อให้ดวงวิญญาณของแฝดพี่ไม่ต้องมาข้องเกี่ยวกับแฝดน้องอีก  พอตกดึกคืนนั้นหมอก็ได้เห็นวิญญาณแฝดพี่มาหา หมอจึงไม่ขอทำพิธีสู่ขวัญให้   และที่บ้านของหลานชายของลูก คนในบ้านก็รู้สึกเหมือนว่ามีใครมาคอยดูเขาอยู่  หรือบางทีก็เห็นเหมือนคนมานั่งในห้องแล้วก็หายไป

มีคำถามดังนี้ครับคุณครูไม่ใหญ่

1. กรรมอะไรทำให้คุณปู่ต้องมีชีวิตที่ลำบากขาดคนดูแล  คุณปู่กับคุณแม่ทำกรรมอะไรกันมาจึงไม่ถูกกันอย่างมาก ตอนนี้คุณปู่ไปอยู่ที่ไหนครับ พวกเราพี่น้องได้สร้างองค์พระธรรมกายประจำตัวให้คุณปู่ หลังจากที่ท่านเสียชีวิตไปนานแล้ว ท่านจะได้รับบุญนี้ไหมครับ   

2. คุณพ่อและคุณแม่มีความเชื่อว่า การที่ท่านมีฐานะขึ้นมาได้ เกิดจากการทำกฐิน 3 ปีซ้อน ที่วัดจังหวัดสุพรรณ จริงไหมครับ หรือว่าเป็นเพราะบุญอะไรครับ

3. คุณแม่ทำวิบากกรรมอะไรมาถึงได้รับการผ่าตัดบ่อย ผ่าไส้ติ่ง ผ่ามดลูก  ผ่าดามเหล็กที่ขา  ผ่านิ่วในถุงน้ำดี  และมีโรคประจำตัวมาก   และอายุสั้น

4. ลูกทุกคนช่วยคุณแม่จนสุดความสามารถแล้ว แต่ก็ต้องปล่อยคุณแม่ไป ด้วยการให้คุณหมอถอนยาจะบาปหรือไม่ครับ

5. ตอนเสียชีวิตคุณแม่มีคตินิมิตอย่างไรบ้างครับ   ตอนนี้คุณแม่ไปไหนครับ และในช่วง 7 วันคุณแม่ได้กลับบ้านและได้มาดูรูปที่ติดไว้บ้างหรือไม่ครับ และคุณแม่มีอะไรฝากบอกลูกๆกับคุณพ่อบ้างไหมครับ

6. บุญในการถวายสังฆทานช่วงสุดท้าย ในห้อง ICU ทุกวันช่วยคุณแม่ได้ไหมครับ    การที่ลูกชายทั้ง 2 คนได้บวช จะช่วยให้คุณแม่พ้นจากอบายหรือไม่ครับ และบุญจากการบวชส่งผลต่อคุณแม่อย่างไรบ้างครับ

7. ตุ๊กตาที่เจอในห้องนอนเป็นของคุณแม่หรือเปล่าครับ แล้วทำเพื่ออะไรครับ    การที่คุณพ่อยอมคุณแม่ทุกอย่างจนแทบไม่ได้ดูแลคุณปู่  เป็นเพราะตุ๊กตานี้หรือเปล่าครับ

8. การนำตุ๊กตาไปฝังดินถูกต้องหรือไม่ครับ ต้องทำอะไรเพิ่มเติมอีกหรือเปล่าครับ ตอนนี้ยังส่งผลอะไรกับครอบครัวหรือไม่ครับ ถ้ามีใครไปเหยียบย่ำโดนที่หลุมฝังจะมีผลอะไรหรือไม่ครับ

9. หลานชายของลูกทำกรรมอะไรมาจึงเป็นโรคเกี่ยวกับระบบผิดปกติทางสมอง  และแฝดพี่ชายที่เสียชีวิตไปแล้วตอนอยู่ในท้องได้ 3 เดือน  ตอนนี้อยู่ที่ไหน ทำกรรมอะไรร่วมกับหลานชายของลูกจึงมาเกิดร่วมกัน และเขายังตามดูแลหลานชายของลูกอยู่รึเปล่าครับ

10. หลานชายของลูกก่อนมาเกิด เขามาจากไหนครับ และเขาเคยสร้างบารมีมากับหมู่คณะหรือไม่ครับ และเขามีโอกาสหายจากโรคที่เป็นอยู่ไหมครับ

11. ตัวลูกชื่นชอบการทำบุญ โดยมักจะพยายามทำบุญเต็มกำลัง แต่ทรัพย์ที่ลูกมีอยู่น้อย  ลูกควรทำบุญพิเศษอะไร ที่จะช่วยส่งผลให้ลูกมีทรัพย์ไว้ทำบุญได้ดังใจนึกครับ  

12. ลูกและภรรยาและลูกชายลูกสาวทั้งสองเคยสร้างบารมีกับหมู่คณะมาอย่างไรครับ

ฝันในฝัน
หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ  ตื่นขึ้นมา หาว 1 ที 
แล้วก็นำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากันนะจ๊ะ

1. คุณปู่ต้องมีชีวิตลำบากขาดคนดูแล เพราะไม่มีบุญเลี้ยงดูบิดามารดาในอดีต


2. คุณปู่ไม่ถูกกับคุณแม่ เพราะกรรมในอดีตและปัจจุบัน กรรมในอดีตแม่เคยเป็นลูกสะใภ้ของคุณปู่ เหมือนในชาตินี้ ในชาตินั้นคุณแม่ถูกคุณปู่ทำเหมือนในชาตินี้ จึงผูกเวรไว้ว่าจะทำคืนบ้าง


3. ดังนั้นเมื่อมาเจอกันในชาตินี้และในช่วงแรกของชีวิตครอบครัว คุณปู่ก็ทำกับแม่เหมือนชาติก่อนอีก จึงทำให้คุณแม่โกรธมากและได้พยายามทำทุกวิธีทางให้สมโกรธ


4. คุณปู่ตายใหม่ๆเป็นผีตีนโรงตีนศาล มีความลำบากมาก จนต่อมาได้รับบุญที่สร้างองค์พระธรรมกายประจำตัว จึงทำให้ท่านเป็นภุมมเทวาที่มีระดับดีขึ้นไม่ลำบากเหมือนเก่า


5. คุณพ่อคุณแม่เชื่อว่าที่ท่านมีฐานะดีขึ้น เพราะทอดกฐิน 3 ปีซ้อนที่วัด จ.สุพรรณบุรีนั้น ก็มีส่วนถูกอยู่บ้าง แต่ในแง่ของกฎแห่งกรรมนั้นท่านมีทั้งทานบารมีในอดีตและปัจจุบันมารวมกัน กอปรกับความขยันหมั่นเพียรในปัจจุบันด้วย
 
 
6. คุณแม่มีกรรมฆ่าสัตว์ทำอาหารทั้งในอดีตและปัจจุบันมาส่งผล จึงทำให้ผ่าตัดบ่อย เช่น ผ่าตัดใส้ติ่ง ผ่าดามเหล็กที่ขา มีโรคประจำตัวมากและอายุสั้น


7. ส่วนที่ผ่าตัดมดลูก เพราะกรรมกาเมเจ้าชู้ ผ่าตัดนิ่วในถุงน้ำดี เพราะกรรมมักโกรธและไม่ค่อยยอมให้อภัย โมโหร้าย


8.    คุณแม่หมดอายุขัยแล้วอีกทั้งร่างกายก็ไม่ไหวแล้ว ลูกจะให้คุณหมอท่านถอนยาหรือไม่ถอนก็ต้องตาย ดังนั้นไม่ได้เป็นบาปกรรมอะไรสำหรับลูก


9.    อีกทั้งลูกก็พยายามช่วยคุณแม่จนสุดความสามารถ ด้วยความกตัญญูกตเวที ให้ลูกนึกถึงบุญนี้ จะทำให้ลูกมีแต่ความเจริญรุ่งเรือง


10.    คุณแม่ก่อนตายมีคตินิมิตใสไม่มาก ตายแบบหลับแล้วตื่น ไปเกิดเป็นยักษิณีระดับกลาง มีวิมานทองขนาดปานกลางของชั้นจาตุมหาราชิกา ด้วยบุญที่ทำเองในพระพุทธศาสนาและบุญที่ลูกให้ทำและช่วงสุดท้ายได้ถวายสังฆทานด้วย ท่านไม่ได้มาที่บ้านเลย


11.    ตอนนี้ท่านรู้และเข้าใจตัวเองแล้วว่าที่ท่านมาอยู่ตรงนี้ เพราะทำบุญด้วยใจที่ไม่ค่อยใสและมีอารมณ์มักโกรธ ได้ฝากความระลึกนึกถึงทุกคนที่อุทิศบุญไปให้ และฝากขออภัยพ่อว่าอย่าโกรธเขาเลย ในเรื่องราวของชีวิตที่ผ่านมา


12.    บุญทุกบุญทั้งถวายสังฆทานทุกวันในช่วงสุดท้าย บุญบวชของลูกทั้ง 2 คน ได้ช่วยให้คุณแม่ไปสู่สุคติโลกสวรรค์ดังกล่าว


13.    ตุ๊กตาที่เจอในห้องนอนเป็นของคุณแม่ ท่านทำเสน่ห์ด้วยไสยเวทย์เพื่อผูกใจให้คุณพ่อยอมทำตามท่านทุกอย่าง แม้กระทั่งไม่ได้ดูแลคุณปู่


14.    ที่ทำได้อย่างนี้ เพราะเป็นกรรมเก่าของพ่อที่เคยใช้ไสยเวทย์นี้ทำเสน่ห์มาก่อน กอปรกับเป็นกรรมเก่าในอดีตของคุณปู่ที่ผูกกันไว้กับแม่ด้วย จึงทำได้ผลให้คุณพ่อยอมคุณแม่และไม่ได้ดูแลคุณปู่ แต่เป็นกรรมใหม่ของคุณแม่ที่จะต้องผูกเวรกันต่อไป


15.    การนำตุ๊กตาไปฝังดินไว้เป็นการถูกต้อง ทำถูกหลักวิชาแล้ว จะไม่มีผลเสียกับครอบครัวหรือใครที่ผ่านไปเหยียบย่ำเข้าโดยไม่เจตนา อีกทั้งไสยเวทย์นั้นหมดอายุการใช้งานหรือเสื่อมไปแล้ว ที่ผ่านมาใช้ได้กับคนที่มีกรรมเวรผูกกันมาดังกล่าว


16.    หลายชายของลูกมีเศษกรรมสุรา โดยในอดีตฝาแฝดทั้งคู่นั้นเป็นเพื่อนรักกัน มักจะกอดคอกันเมา ได้สาบานเป็นพี่น้องกัน


17.    ส่วนแฝดผู้พี่ตายไป เพราะชาติในอดีตเคยไปทำให้เขาท้องแล้วให้เขาทำแท้ง วิบากกรรมนี้ตามมาส่งผลจึงต้องตายตั้งแต่อายุ 3 เดือนในท้อง


18.    ตายแล้วมีความผูกพันกับแฝดผู้น้อง เพราะสาบานว่าจะเป็นพี่น้องกัน ไม่ทอดทิ้งกัน ให้แก้ไขโดยทำบุญใหญ่อุทิศให้ จะได้ไปเกิดใหม่และไม่ต้องมาดูแลแฝดผู้น้อง


19.    หลานชายพลัดจากหมู่คณะมานาน เวียนว่ายตายเกิดไปตามกรรมจนชาตินี้ได้มาเจอหมู่คณะ ให้ชวนเขาสร้างบุญกับหมู่คณะให้มากๆจะได้พ้นจากวิบากกรรม แต่ชาตินี้คงจะไม่หาย


20.    ลูกต้องทำบุญทุกบุญทั้งทาน ศีล ภาวนาให้สม่ำเสมอและปัจจุบันให้ขยันหมั่นเพียร เป็นต้น เมื่อบุญส่งผล สภาพชีวิตจะดีขึ้น


21.    ลูกและภรรยาพร้อมบุตรชายหญิงเป็นกองเสบียงของหมู่คณะมาแบบตามอารมณ์บ้าง เต็มกำลังบ้าง ดังนั้นในชาตินี้บุญจึงส่งผลให้บางครั้งก็ทำได้ตามปรารถนา บางครั้งก็ไม่ได้


22.    ให้ตั้งใจสั่งสมบุญให้ดี แล้วอธิษฐานจิตตามติดไปดุสิตบุรีวงบุญพิเศษเขตบรมโพธิสัตว์
 
 


Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
เจ้าเมืองไปเกิดเป็นพญานาคเจ้าเมืองไปเกิดเป็นพญานาค

นักบุญ - นักธุรกิจนักบุญ - นักธุรกิจ

สังขารดับ แต่ใจยังอาวรณ์สังขารดับ แต่ใจยังอาวรณ์



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

กรณีศึกษากฎแห่งกรรม