คาถาในฝัน


[ 22 ก.ย. 2548 ] - [ 18271 ] LINE it!

CASE   STUDY
คาถาในฝัน
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ทาง DMC
 
 
กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อครูไม่ใหญ่ที่เคารพอย่างสูง
 
    กระผม เป็นลูกพระธมฺ (อ่านว่า พระทัม) พันธุ์แท้คนหนึ่งครับ ที่ใคร่ขอกราบเรียนถามถึงชีวิตความเป็นจริงในสังสารวัฏ ที่ควรแก่การเรียนรู้เพื่อจะได้ทราบว่าชีวิตเราเกิดมาจากไหน เกิดมาทำไม และตายแล้วเราจะไปไหน เพราะว่าเชื่อตอนเป็น ดีกว่าที่เราจะไปเห็นตอนตายครับ  ดังที่พระเดชพระคุณคุณครูไม่ใหญ่ได้ตอกย้ำซ้ำเดิม เตือนสอนลูกๆทุกคนอยู่เสมอ นับได้ว่าเมตตาบารมีของพระเดชพระคุณหลวงพ่อใหญ่หลวงสุดที่จะพรรณนาครับ    เรื่องของกระผมมีดังนี้ครับ
 
    ครอบครัวของผม  เป็นคนสมุทรสงคราม มีอาชีพทำสวนมะพร้าว   ฐานะของครอบครัวอยู่ในเกณฑ์ปานกลาง  ก่อนผมจะได้มาเกิดนั้น คุณพ่อ คุณแม่มีบุตรด้วยกันแล้ว 4 คน คนโตเป็นหญิง นอกนั้นเป็นชาย  และแล้ววันหนึ่งก็เกิดวิบากกรรมขึ้นกับครอบครัวของผม เรื่องเกิดขึ้นในปี พ.ศ.2481   
 
    คุณพ่อ เล่าว่า คุณพ่อฝันเห็น ผู้เฒ่าท่านหนึ่ง ซึ่งไม่เคยเห็นมาก่อนและไม่คิดว่าจะมีตัวตน ผู้เฒ่าท่านนี้ได้ให้คาถาพ่อในฝันไว้ 5 ข้อ เป็นคาถามหาเสน่ห์ ครั้นเมื่อตื่นขึ้น พ่อจึงทบทวนความฝัน แต่จำได้เพียง 4 ข้อ อีก 1 ข้อนึกไม่ออก  จนกระทั่งกาลเวลาผ่านไป   คุณพ่อได้พบกับผู้เฒ่าคนที่เห็นในฝันจริงๆ  ด้วยความบังเอิญ  คุณพ่อจึงไปขอคาถาอีก 1 ข้อที่จำไม่ได้นั้นจากพ่อเฒ่า ตอนแรกพ่อเฒ่าปฏิเสธ พ่อจึงเล่าความฝันนั้นให้ฟัง  พ่อเฒ่าจึงยอมรับและบอกคาถาต่อให้  พ่อเฒ่าคนนี้เป็นผู้คงแก่เรียน เป็นหมอไสยเวท หลังจากให้คาถาพ่อแล้วพ่อเฒ่าก็ได้ย้ำเตือนกำชับพ่อว่า สิ่งใดมีคุณอนันต์ สิ่งนั้นย่อมให้โทษมหันต์  คุณพ่อดีใจมากที่ได้คาถาจากความฝันสมตามความปรารถนา  
 
    ต่อมาพ่อต้องการจะทดลองวิชา  ตอนนั้นคุณพ่อกำลังเป็นหนุ่มใหญ่  ทำงานเป็นลูกจ้างในโรงสีข้าว   คุณพ่อเป็นที่รักของนายจ้าง เป็นอย่างดี   แต่ข้อบกพร่องของท่านก็คือ ท่านเป็นคนขี้อาย   ไม่ชอบที่จะแสดงออก แต่นายจ้างก็รักและไว้วางใจ วันนั้นคุณพ่อได้เสกคาถาลงในขันน้ำดื่ม  แล้วเอาไปให้ลูกสาวของนายจ้างโรงสีดื่ม  ตอนที่เธอต้องการดื่มน้ำพอดี  ปรากฏว่าได้ผล   คุณพ่อได้ลูกสาวนายจ้างมาเป็นภรรยา ไม่นานลูกสาวนายจ้างคนนี้ก็มีท้องกับพ่อ ทำให้นายจ้างโกรธมาก ทั้งรักทั้งแค้น นายจ้างได้ขู่พ่อเอาไว้ว่า  ถ้าขืนอยู่ที่นี่ต่อไปเขาจะฆ่าล้างโคตร ถือว่ากินบนเรือนถ่ายรดบนหลังคา คุณพ่อจึงต้องพาคุณแม่และลูกอีก 4 คน หนีความตายไป  โดยหลวงปู่วัดข้างบ้านได้ให้จดหมายแก่คุณพ่อ ให้คุณพ่อพาครอบครัวไปหาพระคุณเจ้าซึ่งเป็นสหายธรรมของท่านอยู่ที่เมืองกาญจน์    
 
    คุณแม่ จึงรวบรวมเงิน  ซื้อเรือกำปั่นขนาดย่อมได้ 1 ลำ เหลือเงินสดเพียง 5 บาท พา 6 ชีวิต  ทั้งพาย ทั้งแจวทวนกระแสน้ำของแม่น้ำแม่กลองที่เชี่ยวกราก เป็นเวลาแรมเดือน หนีความตายไปอาศัยใบบุญของหลวงปู่วัดใต้  ที่เมืองกาญจน์   หลวงปู่ท่านได้เมตตาอนุญาตให้ปลูกบ้านอาศัย อยู่ในเขตวัด หน้าป่าช้า  คุณพ่อ คุณแม่ จึงได้เริ่มต้นตั้งหลักปักชีวิตใหม่  และในกาลต่อมาท่านได้ให้กำเนิดผม ณ ที่ป่าช้าแห่งนี้เอง    คุณแม่ประกอบสัมมาอาชีพด้วยการค้าฟืนหลา และขายของเล็กๆน้อยๆเก็บออมถนอมใช้   และทำหน้าที่เป็นโยมอุปัฏฐาก  ดูแลปรนนิบัติรับใช้ให้กับหลวงปู่ผู้มีพระคุณมาโดยตลอด
 
    ฝ่าย ลูกสาวนายจ้าง ที่พ่อทำเสน่ห์ใส่ เมื่อคลอดบุตรออกมาเป็นผู้หญิง เธอก็ได้ยกให้กับแม่นมเลี้ยง  แล้วไม่ไปสนใจใยดีเลย ต่อมาพอ ลูกสาวของเธอ โตขึ้น แม่นมก็ได้พาสืบเสาะตามหาพ่อของผมจนพบ และได้มาขอพักอาศัยอยู่ด้วย คุณแม่ก็ไม่ได้แสดงอาการรังเกียจแต่อย่างใด ได้ให้ความดูแลช่วยเหลือเสมือนเป็นลูกของตนเอง
 
    คุณแม่ มีความศรัทธาในพระพุทธศาสนา และวิชชาธรรมกายเป็นอย่างยิ่ง  เพราะคุณแม่เคยไปวัดปากน้ำสมัยที่หลวงปู่ยังมีชีวิตอยู่และเคยได้เรียนธรรมะกับ คุณยายทองสุก  สำแดงปั้น  คุณแม่จึงได้พยายามรวบรวมกำลังทรัพย์เป็นเจ้าภาพซื้อที่ดินแปลงหนึ่งจำนวน 12 ไร่ สร้างเป็นที่ปฏิบัติธรรม ถวายเป็นพุทธบูชา  ให้พระภิกษุสงฆ์ได้มาอยู่ธุดงค์  และคนทั่วไปได้ใช้เป็นที่ปฏิบัติธรรม    โดยยึดหลักตามคำสอนของหลวงปู่วัดปากน้ำ และนับตั้งแต่วันที่ 5 มีนาคม 2509 ซึ่งเป็นวันที่ลูกคนสุดท้องของคุณแม่(คือตัวกระผม) ได้แต่งงานไป   คุณแม่ก็ถือว่าหมดหน้าที่ของความเป็นแม่  เพราะหาคู่ครองให้ เมื่อถึงวัยอันสมควรเป็นที่เรียบร้อยแล้ว   คุณแม่จึงสมาทานศีล 8 ถือเพศพรหมจรรย์ตลอดชีวิต  โดยไม่ได้โกนผมห่มผ้าแสดงเพศนักบวชแต่ประการใด    
 
    วาระสุดท้าย ก่อนที่คุณแม่จะละสังขารจากไป  คุณแม่เป็นโรคหัวใจโต ตามสภาพของผู้สูงวัย   วันนั้นประมาณ สามทุ่ม ของคืนวันที่ 15  พฤศจิกายน  2535  คุณแม่เข้านอน พร้อมกับพี่สาวและพี่สะใภ้ซึ่งนอนอยู่ข้างๆ ครั้นเมื่อถึงเวลาประมาณตีสี่  ซึ่งเป็นเวลาตื่นนอนตามปกติ ทุกคนก็ต้องพบกับความโศกเศร้าอาลัยเสียใจในการจากไปอย่างไม่มีวันกลับของคุณแม่ นับอายุขัยของท่านได้ 87 ปี
 
    คุณพ่อของผม เป็นคนที่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง ไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ไม่ชอบเข้าสังคม ใช้ชีวิตที่เรียบง่าย    ในตอนแรกๆ ที่คุณแม่ได้ไปอยู่สำนักปฏิบัติธรรม และตั้งใจรักษาศีล 8 ตลอดชีวิต   คุณพ่อได้ไปมีภรรยาใหม่และให้กำเนิดบุตรชาย 1 คน   แต่ต่อมาคุณพ่อก็ได้มาอยู่ปฏิบัติธรรมที่สำนักปฏิบัติธรรมของคุณแม่ด้วย ปล่อยลูกชายของท่านให้กับพี่สาวคนโตของผมได้เลี้ยงดู  บั้นปลายชีวิตของพ่อ  ท่านป่วยด้วยโรคต่อมลูกหมากโตและหัวใจล้มเหลว ละสังขารจากไปด้วยวัย   86 ปี 
 
    น้องชายของผม ที่เกิดกับภรรยาใหม่ของคุณพ่อนั้น พี่ชายคนที่ 3 ของผมเคยได้ฝันว่า น้องชายคนนี้ อดีตชาติเป็นลูกของพี่สาวคนโตผม แต่ไม่ได้มาเกิดเป็นลูกของพี่สาวในชาตินี้ เพราะว่าพี่สาวไม่ได้แต่งงาน   และเป็นที่น่าสังเกตว่า พี่สาวคนโตก็ได้เลี้ยงดูน้องคนนี้อย่างดีและรักเหมือนลูก พอน้องชายอายุได้ 17-18 ปี เขาก็ได้ไปช่วยดูแลอุปัฏฐากพระที่สำนักของคุณแม่ผม ซึ่งพระท่านจะผลัดเปลี่ยนแวะเวียนกันมาพักที่สำนักเป็นประจำ น้องชายคนนี้ก็อยากจะมีความรู้ด้านพระไตรปิฎก เพื่อจะได้คุยกับพระรู้เรื่อง   เขาจึงมุ่งมั่นอ่านพระไตรปิฎกด้วยความจริงจังและตั้งใจ  แต่จะด้วยวิบากกรรมอย่างไร  ทำให้น้องชายคนนี้ กลายเป็นโรคจิตประสาท   เขาจะนิ่ง ไม่พูดไม่จา ไม่สุงสิงกับใคร ไม่ยอมอาบน้ำ ผมเผ้าก็ปล่อยให้ยาวรุงรัง จนต้องนำตัวส่งโรงพยาบาล พอหายออกมา แล้วก็ให้เขาบวช พอบวชไปได้ระยะหนึ่งก็เป็นอีก  ก็ให้สึก หายก็บวชอีก บวชๆสึกๆอยู่ประมาณ 4 ครั้ง ครั้งสุดท้ายได้บวชและมีพระธุดงค์รูปหนึ่งท่านพาไปด้วย  ไปอยู่ในป่าแถวๆชายแดนและไม่ได้ข่าวอีกเลย ปัจจุบันอายุก็ประมาณ 28 ปี
 
    พี่สาวคนโตของผม หลังจากที่เรียนจบม.3 แล้ว ก็ได้สมัครเป็นครูจ้างสอน สมัยนั้นเงินเดือน 120 บาท และได้อาศัยเงินนั้นส่งเสียเลี้ยงดูน้องๆแทนคุณพ่อคุณแม่ เพราะช่วงนั้นคุณพ่อคุณแม่ท่านได้ไปอยู่ที่สำนักปฏิบัติธรรมอุทิศชีวิตให้กับการสร้างบารมี  พี่สาวคนโตก็ได้เลี้ยงดูน้องๆจนได้เรียนจบหมดทุกคน  เมื่อหมดภาระที่ต้องดูแลน้องๆแล้ว พี่สาวก็ได้ลาออกจากการเป็นครู และได้มาอยู่ดูแลพ่อกับแม่ที่สำนักปฏิบัติธรรม  พี่สาวได้ประพฤติพรหมจรรย์และอุทิศชีวิตให้กับงานสร้างบารมีดูแลสำนักปฏิบัติธรรม  เช่นเดียวกับคุณพ่อคุณแม่ พอหลังจากที่คุณพ่อคุณแม่เสียชีวิตหมดแล้ว พี่สาวก็ได้อยู่ดูแลสำนักต่อ จนกระทั่งบั้นปลายชีวิต พี่สาวป่วยเป็นโรคความดันโลหิตสูง และได้เสียชีวิตลงในวัย 78 ปี   
 
    ภรรยาของผม เธอเป็นคนน่าสงสารมาก เธอไม่มีญาติพี่น้องที่ไหน คุณแม่เธอ เสียชีวิตด้วยโรคเบาหวานตั้งแต่เธอยังเรียนพยาบาล พอเรียนจบกำลังจะแต่งงาน พ่อของเธอ ก็มาเสียชีวิตด้วยโรคลำไส้อุดตันไปอีกคน แต่เธอก็ยังมีน้องสาวเหลืออยู่อีกคน แต่ไม่นาน น้องสาวของเธอ ก็มาแต่งงานและเสียชีวิตลงด้วยโรคหัวใจ ขณะเพิ่งคลอดลูกสาวได้ไม่ถึงขวบ ลูกของน้องสาวเธอ ผมกับภรรยาก็ได้นำมาเลี้ยงจดทะเบียนเป็นลูก ส่วนตัวผมและภรรยานั้นไม่มีลูกด้วยกัน ลูกของน้องสาวภรรยา คนที่ผมและภรรยานำมาเลี้ยงเป็นลูก พอเธอโตขึ้นก็ได้แต่งงานและแยกตัวไป ปัจจุบันผมและภรรยาต่างก็ปลดเกษียณแล้ว  ก็อยู่กันลำพัง 2 คน ผมเองอยากจะบวชอุทิศชีวิตให้กับพระศาสนา แต่ผมเป็นห่วงภรรยาของผม เพราะเธอไม่มีที่พึ่งไม่มีที่ปรึกษาที่ไหนเลย นอกจากผมเพียงคนเดียว ญาติที่ไหนก็ไม่มีแต่ผมอยากบวชมากครับ
 
คำถามมีดังนี้ครับ
 
1. บุพกรรมใดที่ทำให้คุณพ่อ คุณแม่ และพี่ผมทั้ง 4 คน ต้องพบกับวิบากกรรมเกือบโดนฆ่าทั้งตระกูล  แทบจะเอาชีวิตไม่รอด
 
2. คุณแม่เคยเป็นอัมพาตในขณะที่นั่งปฏิบัติธรรม เป็นเพราะผลกรรมใด คุณแม่เคยเล่าว่าท่านเคยเกิดในสมัยพุทธกาล เป็นเรื่องจริงหรือไม่ครับ  ถ้าจริงท่านทราบได้อย่างไรครับ
 
3. ในวันที่คุณแม่จะละสังขารจากไป  คุณแม่ได้บูชาข้าวพระและปฏิบัติธรรมนานเป็นพิเศษ  คุณแม่ทราบวาระของท่านหรือไม่ ครับ  ผลของความเพียรที่คุณแม่กระทำ  โดยเฉพาะการสร้างสำนักปฏิบัติธรรมของท่าน นำท่านสู่ภพภูมิใด  และคุณแม่ได้สั่งฝากอะไรมาถึงลูกๆบ้างครับ 
 
4. เหตุใดคุณพ่อจึงได้คาถามาจากความฝัน ชายแก่คนนั้นมีความเกี่ยวข้องอย่างไร จึงได้มาปรากฏในความฝันและบอกคาถาแก่พ่อ คาถานั้นมีความศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างไร พ่อทำกรรมใดไว้ จึงทำให้พ่อนำคาถาไปลองกับลูกสาวเจ้าของโรงสี จนมีเรื่องผิดพลาดเสียหายเกิดขึ้น กรรมนี้จะส่งผลให้พ่อเป็นอย่างไรครับ    คุณพ่อของผมตายแล้วไปไหนครับ ได้รับบุญที่อุทิศให้หรือไม่
 
5. น้องชายของผมที่เกิดจากภรรยาใหม่ของพ่อ  ท่านทำบุพกรรมใดมาจึงมีสุขภาพทางจิตไม่สมบูรณ์ต้องบวชแล้วสึกอยู่หลายครั้ง   อดีตชาติท่านได้เกิดเป็นลูกของพี่สาวคนโตของผมตามที่พี่ชายฝันจริงหรือไม่ครับ   ปัจจุบันนี้ท่านเป็นอย่างไรบ้างครับ  บุญที่ท่านได้บวชจนถึงปัจจุบัน   ส่งผลให้ท่านพ้นวิบากกรรมหรือยังครับ
 
6. พี่สาวคนโตของผมทำกรรมใดมา จึงถึงแก่กรรมด้วยโรคเส้นโลหิตในสมองแตก  ปัจจุบันนี้พี่สาวอยู่ภพภูมิใดครับ
 
7. ผมได้สร้างบุญเสาแก้วพันปีหนึ่งแสนบาท  สร้างพระธรรมกาย  สององค์และบุญอื่นๆอีก เท่าที่จะทำได้ อุทิศให้กับคุณพ่อ คุณแม่และพี่สาวเสมอๆ     ทั้งสามท่านได้รับบุญหรือไม่ครับ
 
8. ภรรยาของผมมีวิบากกรรมใดครับถึงต้องกำพร้า ทั้งคุณพ่อ คุณแม่และน้องสาว เรียกได้ว่าไร้ญาติขาดมิตรในสายตระกูลของตน ไม่ทราบว่าทั้งสามท่านมีความเป็นอยู่อย่างไร และบุญที่ผมและภรรยาอุทิศให้    ได้รับหรือไม่ครับ
 
9. ผมทำกรรมใดมาครับ ถึงต้องพิการทางหูด้านซ้าย  หมดสภาพการได้ยินมาตั้งแต่เด็ก และทำอย่างไรจึงจะหมดกรรมครับ
 
10. ผมและภรรยาเคยสร้างบารมีมากับหมู่คณะมาอย่างไร ผมเคยมีผังบวชมาอย่างไรครับ ผมกราบขอคำแนะนำจากคุณครูไม่ใหญ่ ผมจะบวชในบั้นปลายชีวิตนี้ จะมีทางออกอย่างไร ครับ ที่จะทำให้ภรรยาของผมอยู่ได้อย่างมีความสุข โดยไม่ต้องพึ่งผมเหมือนอย่างปัจจุบันนี้   ผมควรจะกระทำตนอย่างไร ดีครับ
กราบแทบเท้าพระเดชพระคุณหลวงพ่อครูไม่ใหญ่ด้วยความเคารพอย่างสูงครับ  
                                                                          
หมายเหตุ    เรื่องภพชาติในอดีตที่คุณแม่เล่าให้ฟัง
 
    ครั้งหนึ่งคุณแม่ได้เคยเล่าให้ลูกๆได้ฟังว่า อดีตแต่ชาติปางก่อน คุณแม่เคยเกิดเป็นลูกของพระพุทธองค์ในสมัยที่พระองค์เสวยพระชาติเป็นปลาช่อน  ในภพต่อๆมาพระองค์ก็มีพระมหากรุณาธิคุณแก่คุณแม่เสมอ จนกระทั่งในสมัยพุทธกาลที่ผ่านมา คุณแม่เกิดเป็นเศรษฐีนีมีฐานะที่มั่งคั่งมีชื่อว่า  ศุภภะวาสา มีอาการปวดครรภ์ใกล้คลอดทรมานมาก จึงกราบทูลกับพระอานนท์ ทูลขอให้พระพุทธองค์เมตตาดับเวทนาให้ด้วย พระองค์ประทานพรมากับพระอานนท์ว่า “ ศุภภะวาสา เธอจงเป็นสุขเป็นสุขเถิด” อาการปวดครรภ์ของคุณแม่ก็หายดังปลิดทิ้ง คลอดบุตรได้อย่างปลอดภัย  คุณแม่ดีใจจึงนิมนต์พระพุทธองค์และพระภิกษุสงฆ์มาฉันภัตตาหารที่บ้าน  ก่อนที่พระพุทธองค์จะประทานพรได้ถามคุณแม่ว่า “ ศุภภะวาสา แม่เข็ดต่อการมีบุตรหรือยัง ” คุณแม่กราบทูลว่า  “ ยังพระพุทธเจ้าข้า ”  คุณแม่เล่าไปคุณแม่ก็ร้องไห้ไปเสียใจในความโง่เขลาเบาปัญญา อวิชชาเข้าครอบงำ  ถ้าคุณแม่ตอบพระองค์ว่าเข็ดแล้วพระพุทธเจ้าข้า คุณแม่ก็คงจะได้พรเข้าพระนิพพานในสมัยพุทธกาลนั้นเอง
 
ฝันในฝัน
หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ  ตื่นขึ้นมา หาว 1 ที
แล้วก็นำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากันนะจ๊ะ
 
1. คุณพ่อ  ,  คุณแม่  และพี่ทั้ง  4  คนของลูก เกือบโดนฆ่าทั้งตระกูล เพราะ ...กรรมปัจจุบันของพ่อเป็นหลัก ที่ไปเอาลูกเขามาเป็นภรรยาจ่ะ!  จึงทำให้เดือดร้อนไปทั้งครอบครัว ซึ่งคนอื่นภายในครอบครัว  ก็ไม่ได้มีวิบากกรรมอะไรด้วยเลย
 
 
2. คุณแม่เคยเป็น “อัมพาต” ขณะนั่งปฏิบัติธรรม  เพราะ ...กรรมในอดีตชาติหนึ่ง  คุณแม่ได้ไปบวชชี     ต่อมามีแม่ชีคนหนึ่งทำผิดระเบียบจึงได้สั่งลงโทษแม่ชีคนนั้น โดยให้นั่งสมาธิ โดยไม่ให้ขยับ ให้นั่งนิ่ง ๆ     ถ้าขยับจะโดนตีเป็นวัน จนเกิดอาการเส้นค้าง    
 
 
  • บวกกับกรรมที่...คุณแม่เคย “ผูกมัดสัตว์”  เพื่อส่งไปขาย  เช่น  มัดขาแพะ  ,  ขาแกะ เป็นต้น วิบากกรรมดังกล่าวมาส่งผลจ่ะ!
 
  • คุณแม่ท่านเล่าว่า   ท่านเคยเกิดในสมัยพุทธกาลนั้น เป็นเรื่องจริงจ่ะ! ...ท่านทราบโดยญาณทัสสนะของท่าน  จากการปฏิบัติธรรมจ่ะ!
 
3. ก่อนละโลก   คุณแม่ปฏิบัติธรรมนานพิเศษ  เพราะท่านทราบว่าท่านจะถึงวาระแล้วจ่ะ! ...โดยทราบจากสมาธิของท่าน

 
  • ตายแล้วก็ไปอยู่ดุสิตบุรี แต่ไม่ใช่วงบุญพิเศษ เป็นเฟสทั่วไป เพราะท่านมีความปรารถนา อยากจะพ้นทุกข์ในพุทธันดรหน้าจ่ะ!
  • ที่ท่านมาอยู่ตรงนี้    ก็เพราะ   บุญทุกอย่างที่ท่านทำ  เช่น  การปฏิบัติธรรม  ,  การสร้างสำนักปฏิบัติธรรม  ,  ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา  เป็นต้นจ่ะ!
 
 
  •  ท่านฝากมาบอกว่า อยากให้  ลูก ๆ ปฏิบัติธรรมแล้วมาอยู่กับท่านจ่ะ!
 
 
4. คุณพ่อได้ “คาถา” จากคนแก่ในความฝันนั้น  ก็เพราะ ในอดีต   ได้เคยเป็นลูกศิษย์ของคนแก่ในฝันนั้น  แต่ต่อมาภายหลังท่านก็เลิก ที่ฝันดังนี้   เพราะ  “เชื้อเก่า” บันดาลจ่ะ!  คาถาจะศักดิ์สิทธิ์   เพราะอาจารย์ดูแลคาถา  ,  และอาจารย์อนุญาต, อีกทั้งต้องมีกรรมผูกกันมาด้วยจ่ะ!

 
  • คุณพ่อได้ทดลองใช้คาถา กับลูกสาวเจ้าของโรงสี  จนมีเรื่องผิดพลาดได้  เพราะ  ...ในอดีตลูกสาวเจ้าของโรงสี   ได้เคยชอบพอกับพ่อ  ,  ได้เคยทำเสน่ห์   โดยใส่ลงไปในอาหารให้พ่อกิน  จนพ่อหลงเสน่ห์     และได้อยู่ร่วมเป็นสามี – ภรรยากัน  ,   กรรมนี้ผูกกันมา     จึงทำให้พ่อทำเสน่ห์สำเร็จอย่างง่าย ๆ จ่ะ!
  • กรรมนี้ ถ้าส่งผล ก็จะทำให้พ่อกลับคืนมาเป็นผู้หญิง ในภพต่อไปจ่ะ!
 
  • คุณพ่อตายแล้ว   ก็ไปเป็นเทพบุตรสุดหล่อของชั้น “ดาวดึงส์”    เฟส  3  มีวิมานทอง     ด้วยบุญที่ทำไว้ในพระพุทธศาสนาจ่ะ!        
  • ได้รับบุญที่อุทิศไปให้แล้ว  ก็ยิ่งมีทิพยสมบัติเพิ่มขึ้น  ,  ขณะนี้ท่านกำลังเพลิดเพลินอยู่ในสวนสวรรค์  กับสาว ๆ ชาวสวรรค์จ่ะ! ...เพราะท่านชอบเรื่องนี้มาก
 
 
5. น้องชายที่เกิดจากภรรยาใหม่ของคุณพ่อ มีจิตประสาทไม่สมบูรณ์  ต้องบวช ๆ สึก ๆ  เพราะ  ...ในอดีตน้องชายคนนี้เคยบวชเป็นพระ , ได้ไปกินยาดองกระสายเหล้าเพื่อรักษาอาการป่วย  จนติดเหล้าโดยไม่รู้ตัว
 
 
  • และมีกรรมเคยด่าบริภาษ เพื่อนพระว่า องค์นั้นไม่ดี  ,  องค์นี้ไม่ได้เรื่องอะไร   ทำนองนี้  ,   กรรมดังกล่าวมารวมกันส่งผลจ่ะ!

 
  • อดีตชาติ   ท่านได้เคยเกิดเป็นลูกชายของพี่สาวคนโต  ดังที่พี่ชายฝันจริง ๆ จ่ะ!
  • ปัจจุบันนี้กรรมเบาบางลงไปแล้ว แต่ยังไม่หมด เพราะบุญบวชในอดีตและปัจจุบัน มาตัดรอนวิบากกรรม  ,  ยังบวชเป็นพระอยู่
 
 
6. พี่สาวคนโตเสียชีวิตด้วย   “เส้นเลือดในสมองแตก”   เพราะ  ...กรรมฆ่าสัตว์ทำอาหารในอดีตและปัจจุบัน ได้ตามมาส่งผลจ่ะ!

 
  • ตายแล้ว   ได้ไปเป็นเทพธิดา ไปอยู่วิมานทองเดียวกันกับคุณแม่ที่ดุสิตบุรี  ด้วยรักและผูกพัน อยากอยู่กับคุณแม่จ่ะ!  ไปอยู่ตรงนี้ได้ เพราะบุญทุกบุญที่ทำไว้ในพระพุทธศาสนา  และประพฤติพรหมจรรย์จ่ะ!
 
 
7. ลูกได้สร้างเสาแก้วพันปี  ,  สร้างพระธรรมกายประจำตัวและบุญอื่น ๆ อุทิศไปให้  คุณพ่อ , คุณแม่ , และพี่สาวนั้น  ทุกคนได้รับจ่ะ!  จึงทำให้ทุกท่านมีทิพยสมบัติเพิ่มขึ้น  ,   ทุกท่านมีความสุขมาก   ,   ดีใจที่ได้รับบุญที่อุทิศไปให้จ่ะ!
 
 
8. ภรรยาของลูกไร้ญาติขาดมิตร  เป็นกำพร้าพ่อและแม่ เพราะ  ...กรรมในอดีตที่ได้หนีออกจากบ้าน     ด้วยเหตุที่ทะเลาะกับพ่อแม่พี่น้อง  และไม่ได้กลับไปหาครอบครัวอีกเลยจ่ะ!  วิบากกรรมนี้ตามมาส่งผลจ่ะ!

 
  • ทั้งสามได้ไปเกิดใหม่เป็น “มนุษย์” แล้วจ่ะ!  โดยไปเกิดก่อนที่ลูกจะอุทิศบุญไปให้  , ดังนั้นทุกท่านจึงไม่ได้รับบุญจ่ะ!
 
9. ลูกหูพิการด้านซ้าย  หมดสภาพการได้ยินมาตั้งแต่เด็ก เพราะ  ...กรรมในอดีตตอนเด็ก ๆ เคยเล่นคะนอง ไปตบมือ ที่พี่สาวกำลังแคะหูให้น้องชาย ด้วยความอยากจะแกล้ง จนทำให้ไม้แคะหูทิ่มเข้าไปในหู จนแก้วหูขาดพิการไม่ได้ยิน วิบากกรรมนี้มาส่งผลจ่ะ!

 
  • ให้สั่งสมบุญทุกบุญ  ทั้งทาน , ศีล , ภาวนา  ให้มาก ๆ    ปฏิบัติธรรม  ก็ให้เข้าถึงพระธรรมกายในตัวให้ได้ แล้วอุทิศบุญกุศลไปให้ ผู้ที่เราไปเบียดเบียนเขาไว้  ,  กรรมหนักก็จะได้เบา  ,  เบาก็จะได้หาย ในภพชาติต่อไปจ่ะ!
 
 
10. ลูกและภรรยาก็เคยเป็น “กองเสบียง” ของหมู่คณะมา, โดยเฉพาะลูก   บางชาติก็บวชระยะสั้น  ,  บางชาติก็บวชระยะยาว จึงมีอุปนิสัยน้อมมาทางบวช

 
  • ถ้ามีกุศลศรัทธาจะบวชก็มีทางออก  คือ  เข้าวัดด้วยกันทั้งคู่ ,   ลูกเป็นผู้ชายก็ออกบวช  ,  ภรรยาเป็นผู้หญิงก็มาช่วยงานวัด  แบบศรัทธาวาสนั่นแหละจ่ะ! จะได้ไม่ต้องมีเครื่องกังวลซึ่งกันและกัน  ,  เพราะต่างก็สร้างบารมีด้วยกันจ่ะ!
 
  • ชาตินี้มาเจอกันแล้ว ก็ให้ตั้งใจสร้างบารมีให้เต็มที่ในทุกบุญแล้วอธิษฐานจิต   ตามติดไปดุสิตบุรีวงบุญพิเศษเขตบรมโพธิสัตว์อย่าได้พลัดกันเลยจ่ะ!


Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
เจ้าเมืองไปเกิดเป็นพญานาคเจ้าเมืองไปเกิดเป็นพญานาค

นักบุญ - นักธุรกิจนักบุญ - นักธุรกิจ

สังขารดับ แต่ใจยังอาวรณ์สังขารดับ แต่ใจยังอาวรณ์



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

กรณีศึกษากฎแห่งกรรม