ผมเริ่มเข้าใจคำว่า "สบาย" ว่าเป็นอย่างไร


[ 25 ก.ค. 2549 ] - [ 18265 ] LINE it!

ผลการปฏิบัติธรรมคุณครู

(ประเทศไทย)

กราบนมัสการคุณครูไม่ใหญ่ด้วยความเคารพ
 
    ผมชื่อ นายสมเกียรติ อินทร์ณรงค์ ตำแหน่งผู้อำนวยการ ร.ร.บ้านกุดม่วง  ตำบลบ้านด่าน อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว อายุ ๔๗ ปี  เข้าวัดครั้งแรก  ในวันที่ ๑๖-๒๒ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๔๙  ที่สวนพนาวัฒน์ จ.เชียงใหม่ ตามโครงการปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติฯ เนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวครองราชย์ ๖๐ ปี ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาสระแก้ว เขต ๒ โดยนายสุรพล น้อยแสง  ผู้อำนวยการสำนักงานเขตเป็นผู้นำบุญให้  โดยเป้าหมายแต่แรก คือการปฏิบัติธรรมให้องค์พ่อหลวงถวายเป็นพระราชกุศล
 
    ซึ่งก่อนหน้านั้นตั้งแต่ปลายเดือนเมษายน พ.ศ.๒๕๔๙ ก็ได้ตั้งใจงดเหล้า หรือของมึนเมาและใส่เสื้อเหลืองตราสัญลักษณ์ของพระองค์ท่านทุกวัน โดยตั้งใจจะทำให้ได้ตลอดปี พ.ศ.๒๕๔๙ ให้จงได้ ด้วยความจงรักภักดีต่อพระองค์ท่านอย่างสูงสุด โดยส่วนตัวแล้วผมไม่ใช่คนติดเหล้า บุหรี่ (เลิกนาน ๒๐ กว่าปีแล้ว) แต่สังคมพาไปมีงานบ่อย งานบวช งานแต่ง งานรื่นเริงต่างๆของชุมชน และส่วนใหญ่มีหน้าที่เป็นพิธีกรของงานด้วย ดังนั้นจะได้รับเชิญบ่อยมาก และก็ต้องนั่งร่วมวงดื่มไปด้วย
 
    หลังงดดื่มก็ยังจำเป็นต้องไปงานเช่นเดิม แต่เกิดประโยชน์กว่าที่คิด เช่น ความน่าเชื่อถือจากผู้คนรอบข้างมีมากขึ้น  งานไม่เสีย มีสติมากขึ้น  การพูดจาสุภาพเรียบร้อยดี  ประหยัดทรัพย์ (ชอบเลี้ยงเพื่อน) มีสติในการขับรถ  แม่บ้านไม่มีความห่วงกังวลมาก  กลับบ้านได้เร็ว  ที่สำคัญยังสามารถกลับมาทำงานต่อได้อีก สุขภาพก็ดี สามารถไปปฏิบัติงานในวันรุ่งขึ้นด้วยสภาพที่สมบูรณ์เต็มร้อย
 
    หลังจากที่ท่านผอ.สำนักงานเขต ได้นำบุญมาบอกในที่ประชุมผู้บริหารว่าอยากจะให้ไปปฏิบัติธรรมที่สวนพนาวัฒน์ จ.เชียงใหม่ ก็ตัดสินใจสมัครทันที  ทั้งๆที่อยู่ไกลบ้านพอสมควร หลายร้อยกิโลเมตร โดยไม่รู้มาก่อนว่าสวนพนาวัฒน์เป็นอย่างไร เป็นสวนหรือเป็นวัด และไม่รู้ว่า เป็นของวัดพระธรรมกาย
 
    ถ้ารู้ว่า เป็นที่ของวัดพระธรรมกายก็อาจต้องพิจารณาอีกพอสมควร  เพราะมีความคิดที่เป็นอคติต่อวัดนี้อยู่หลายเรื่อง เช่น คิดว่าเป็นนิกายใหม่ที่เอาดวงแก้วเป็นสิ่งเคารพบูชา มีกัลยาณมิตรที่อยู่สระแก้วมาบอกบุญหลายครั้ง ก็ไม่อยากรู้ ไม่อยากมา และคิดค้านว่า ทำไมไม่นำเงินที่มาทำบุญกับวัดพระธรรมกายไปทำนุบำรุงวัดใกล้บ้านของตน ทำไมหลายคนจึงนุ่งขาว ห่มขาว เหมารถ เอาผ้าป่ามาสร้างวัดพระธรรมกาย ลุ่มหลง งมงายมากไปหรือเปล่า
 
    เมื่อวันขึ้นรถมาถึง รถมารับถึงสำนักงานเขต ทุกอย่าง ตั้งแต่ที่นั่ง บนรถ อาคารที่พัก เลขที่เตียง แม้แต่เลขที่นั่งปฏิบัติธรรมก็มีให้ มีน้องๆเสียงเพราะๆ ยิ้มแย้มตลอดเวลาทักทาย  ดูแล แนะนำ บริการ มีการเปิดสื่อต่างๆของที่วัดตลอดทาง แต่ที่แปลกใหม่สำหรับผมคือการสวดมนต์บูชาพระรัตนตรัยบนรถ
 
    เช้าวันที่ ๑๗ ก.ค. ไปถึงสวนพนาวัฒน์  ก้าวแรกที่เหยียบลงไป บรรยากาศสุดยอดมาก บนภูเขาสูง มองเห็นเทือกเขาซ้อนกันอยู่อย่างเรียงราย เห็นความสะอาดของสถานที่ ห้องน้ำ เตียงนอน ก็รู้สึกว่าดีกว่าที่คิดมากมาย มีอาหารที่ดีเลิศ สถานที่สวยงามจัดได้เหมาะสม มีทุกอย่างพร้อมหมด  อากาศเย็น ไม่ต้องติดแอร์ ไม่มียุงกัด (อย่างนี้สิ ถึงน่านั่งปฏิบัติธรรมผมคิด)
 
    ทันที ที่เข้าห้องปฏิบัติธรรม ผมถึงกับตกตะลึงว่า จะมีใครคิดสร้างห้องปฏิบัติธรรมที่ใหญ่ขนาดนี้ ผมไม่เคยเห็นมาก่อน  สวยงาม  มีสิ่งอำนวยความสะดวกพร้อม  เช่น พื้นพรม  มีเบาะนั่ง  มีพนักพิงหลัง   ทำให้ผมรู้สึกอยากนั่งสมาธิขึ้นมาทันที
 
 
ผมเริ่มนั่งสมาธิตามที่พระอาจารย์แนะนำ นั่งขัดสมาธิ ขาขวาทับขาซ้าย มือขวาทับมือซ้าย  เริ่มนั่งหลับตา พอเริ่มหลับตาก็เริ่มปวดขา  เมื่อยตัว เพราะหลังจากบวชมาสิบกว่าปีแล้ว ไม่ค่อยได้นั่งสมาธินัก ส่วนใหญ่นั่งแต่เก้าอี้หย่อนขาสบายๆ จำเป็นต้องบิดตัว ขยับไปมา หลับตาไม่เป็นสุข เพราะมีความทุกข์ที่ขา จึงขาดสมาธิ ไม่เห็นอะไร  หน้านิ่วคิ้วขมวดตลอด ซึ่งผู้บริหารที่มาด้วยกันก็จะมีสภาพคล้ายๆกันทุกคน  แต่ก็อดทน กลัวถูกกลุ่มผู้ปฏิบัติอื่นๆดูถูกเอา
 
ขณะที่กระสับกระส่าย  พระอาจารย์ก็พูดไปเรื่อยๆ ได้ยินแต่คำว่า “ใสๆ” และที่ขัดใจมากคือคำว่า “สบาย” ผมนึกในใจว่า "สบายตรงไหน เมื่อยจะแย่อยู่แล้ว" ผมจึงภาวนาให้หยุดนั่งสมาธิเร็วๆ น่าแปลกครับ พระอาจารย์หยุดพูด เงียบไปชั่วขณะหนึ่ง คำภาวนาของผมได้ผล ผมพยายามคิด นึก จินตนาการให้เห็นดวงแก้ว แสงสว่าง ก็ไม่เจอไม่เห็นอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน แวบไป แวบมา เร็วมาก จนเลิกปฏิบัติ
 
    วันนั้นทั้งวัน สิ่งที่ผมได้มาในวันแรกของการปฏิบัติมีอยู่ ๒ อย่าง คือ ปวดขา กับเมื่อยตัว กลับไปพักผ่อนก็ตั้งใจว่า วันต่อไปจะต้องพยายามตั้งสมาธิใหม่ ปฏิบัติใหม่ แล้วก็นึกว่า "วันพรุ่งนี้ต้องดีกว่าวันนี้แน่นอน" (ผมปลอบใจตัวเองครับ)
 
    วันที่ ๑๘-๒๑ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๔๙ หลังจากที่ได้ฟังคำแนะนำในจากปฏิบัติจากพระอาจารย์ ทำให้ผมเข้าใจหลักปฏิบัติมากขึ้น ผมเริ่มเข้าใจคำว่า "สบาย" ว่าเป็นอย่างไร เริ่มคลายปวดเมื่อย มีสมาธิมากขึ้น  รู้สึกสบายตัวขึ้น ผมสามารถนั่งได้อย่างต่อเนื่องนานไม่ลุกไปไหน โดยไม่รู้สึกปวดเมื่อยเหมือนวันแรก ผมมองเห็นแสงสว่างกลมๆ เหลืองๆ ลอยวาบไป แวบมา  เป็นองค์พระบ้าง พยายามประคองให้เห็นอยู่นานๆ ก็หายไปกลับมาใหม่ เมื่อมีเสียงดังรอบข้าง ก็จะหายไป
 
    แต่ช่วงหลังๆ ยิ่งได้รับการแนะนำจากพระอาจารย์ต่างๆ ก็ยิ่งเข้าใจหลักการ และวิธีการปฏิบัติมากขึ้น ก็ยิ่งสบายใจมากขึ้น  ระยะหลังเพียงหลับตาก็มีสมาธิเห็นดวงแก้วใสๆบ้าง เหลืองๆเป็นสีทองสว่างๆ จากเล็กขยายใหญ่ขึ้น พยายามให้มาอยู่ช่องท้องฐานที่ ๗ มาครู่หนึ่ง ก็เคลื่อนไปที่ตรงหน้าด้านนอกกาย แสดงว่า ยังไม่เห็นดวงแก้วใสๆในกาย แต่ก็เริ่มจะเข้าใจหลักการปฏิบัติมากขึ้น ความสบายตัว กายเบาขึ้น มีสมาธิมากขึ้น มีความสุขมากขึ้นเรื่อยๆอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เพราะการมีสมาธิทำให้ผมมีปัญญามากขึ้น ผมเข้าใจตัวเองมากขึ้น 
 
    พอผมได้นั่งหลับตา ได้นั่งมองตัวเอง ผมเห็นตัวเองชัดขึ้น  ทำให้เกิดแรงบันดาลใจหลายเรื่องครับ และจากการเทศน์สอนของพระอาจารย์ในเรื่องการให้ทาน การสร้างบารมี การดูเรื่องราวประวัติของพระเดชพระคุณหลวงปู่วัดปากน้ำฯ คุณยายอาจารย์ และที่ผมประทับใจมาก คือ การเทศน์สอนของคุณครูไม่ใหญ่ ในโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ที่ผมได้ชมทุกคืน ดูไปผมก็นึกไป
 
    พระเดชพระคุณหลวงพ่อครับ ผมเองมีหน้าที่เป็นผู้บริหารโรงเรียน  ซึ่งเคยคิดหลายเรื่องเกี่ยวกับการศึกษาของไทยที่ล้มเหลว เช่น ผู้บริหารไม่เป็นตัวอย่างที่ดีแก่ครู ครูไม่เป็นตัวอย่างที่ดีแก่เด็ก  เพราะ ๓ ส่วนนี้จะสอดคล้องกัน ถ้าผู้บริหารดี ครูก็น่าจะดีไปด้วย  ครูดีเด็กก็น่าจะดีไปด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งปัจจัยสำคัญต้องมีเวลาให้เด็กมากขึ้น  ครูต้องรู้หลักการ และหลักปฏิบัติด้านธรรมะที่ดี และนำมาปฏิบัติพัฒนาตนเอง เมื่อทำได้แล้วก็นำสิ่งที่ตนทำได้ไปอบรมสั่งสอนลูกศิษย์ต่อไป  เมื่อลูกศิษย์เป็นคนดี  สังคมก็จะดีประเทศชาติก็จะดีไปด้วย ความสุขก็จะเกิดกับทุกคน
 
    ผมชอบใจในคำสอนของคุณครูไม่ใหญ่มากครับ  เพราะพระเดชพระคุณหลวงพ่อทำให้ความคิดของผมถูกนำมาปัดฝุ่นใหม่ หลังจากที่เคยคิดแต่ก็ลืมไปแล้ว เพราะรู้สึกว่า "เราคงทำอะไรไม่ได้" วันนี้ผมคิดใหม่หลังจากที่นั่งปฏิบัติมา ๕ วันว่า วันนี้ในฐานะที่ผมเป็นผู้บริหาร ผมจะทำหน้าที่ของผมให้ดีที่สุด ผมจะเริ่มต้นที่ตัวผมเองก่อน จะนำความสุขที่ผมได้รับจากสมาธิไปบอกเล่าให้ลูกศิษย์ และคุณครูของผมฟัง และผมก็ตั้งใจว่าจะไปเชิญชวนคนในครอบครัว และเพื่อนครูที่ผมรักให้ได้มายังสถานที่แห่งนี้ จะได้รับสิ่งดีๆอย่างที่ผมได้รับ
 
    วันนี้ เป็นวันสุดท้ายของการปฏิบัติธรรม (๒๒ ก.ค.) ผมดีใจที่ได้เขียน จดหมายรายงานผลการปฏิบัติธรรมถึงคุณครูไม่ใหญ่ ผมอยากกราบขอบพระคุณพระเดชพระคุณหลวงพ่อคุณครูไม่ใหญ่เป็นอย่างสูง ที่ช่วยชี้แนะเพิ่มเติมสร้างความหนักแน่น แข็งแกร่ง แก่จิตใจพวกเราคณะครู ให้มีกำลังใจมุ่งมั่นอย่างเต็มเปี่ยมในการสร้างบารมีให้เกิดขึ้น ทำให้พวกเรารักและหวงแหนอาชีพครูที่พวกเราดำรงอยู่ เพื่อสร้างความสุขแก่ทุกคนในโลกนี้
 
    จากวันแรก จนถึงวันนี้ ผมเข้าใจในหลักปฏิบัติของทางวัดพระธรรมกายมากยิ่งขึ้น ภาพอคติในใจก็หมดไป ผมเข้าใจแล้วว่า ทำไมต้องสร้างวัดใหญ่  ทำไมพระเดชพระคุณหลวงพ่อต้องชวนคนทำบุญ ถ้าพระพุทธศาสนาไม่มีงบประมาณแล้วจะพัฒนาให้เจริญรุ่งเรืองได้อย่างไร ทุกอย่างที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อทำ เพื่อให้คนในโลกได้มาปฏิบัติ ค้นพบความจริงของชีวิต  และเรียนรู้หลักปฏิบัติที่พระพุทธองค์ท่านได้ทรงสอนพวกเรามนุษยโลก
 
    ผมตั้งใจแล้วว่า ผมจะขอเลิกอบายมุขทั้งหลายอย่างเด็ดขาด ตลอดไป และขอถือศีล ๕ อย่างมุ่งมั่นให้ได้ตลอดชีวิต  สำหรับอบายมุขแล้ว ต้องไม่งด แต่ต้องเลิก เหมือนที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อสอนว่า "ต้องหักดิบ" ผมจะต้องทำให้ได้ กลับไปผมจะไปปฏิบัติสมาธิต่อเพื่อตัวผมเอง และคนที่ผมรัก ผมจะไปทำหน้าที่นำบุญ นำความสุข นำความรู้ที่ผมได้รับไปบอกเล่า ให้ทุกคนฟัง ผมขอกราบขอบพระคุณพระเดชพระคุณหลวงพ่อคุณครูไม่ใหญ่เป็นอย่างสูงครับ
 
                                                        นายสมเกียรติ   อินทร์ณรงค์
                                   ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านกุดม่วง จ.สระแก้ว


Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
หลุมหลบภัยแห่งชีวิตหลุมหลบภัยแห่งชีวิต

เด็กช่างซ่อมได้ทุกอย่าง ยกเว้นอกที่หักกับรักชำรุดเด็กช่างซ่อมได้ทุกอย่าง ยกเว้นอกที่หักกับรักชำรุด

ผมมี 2 ขาแล้วครับผมมี 2 ขาแล้วครับ



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

ผลการปฏิบัติธรรมนานาชาติ