แม้จะผ่านพ้นฤดูกาลทอดกฐิน และวันรวมพลังเด็กดีวีสตาร์ ครั้งที่ห้า กันไปแล้ว แต่สิ่งหนึ่งที่ยังคงอยู่ คือ ความประทับใจไม่รู้ลืมที่เต็มตื้นอยู่ในหัวใจเหล่าเด็กดีวีสตาร์ คุณครูผู้ให้แสงสว่าง คุณพ่อคุณแม่ ผู้ปกครอง และผู้ใหญ่ใจดีทุกท่าน โดยเฉพาะการทอดกฐินสัมฤทธิ์ เด็กดีวีสตาร์ กว่า 800-วัด ในปี พ.ศ.2553-ที่ผ่านมา ได้สร้างความตื่นตัวของชาวพุทธตัวจิ๋วยุคใหม่ หัวใจอินเทรนด์ เชิญชวนเพื่อนๆและผู้ใหญ่ใจดีเข้าวัดทอดกฐินสัมฤทธิ์กันทั่วประเทศ งานกฐินสัมฤทธิ์ เด็กดีวีสตาร์ ปี พ.ศ.2553-ที่ผ่านมานี้ เรียกว่า...ปลื้มกันไม่รู้จบ เพราะตอนนี้เด็กดีวีสตาร์ได้จองกฐินข้ามปีกันเลยทีเดียว และในวันนี้มีแชมป์ประธานกฐินสัมฤทธิ์ที่ขอมาประกาศวีรกรรมให้เหล่าเด็กดีวีสตาร์และผู้ใหญ่ใจดีได้ปลื้มกันไปทั่วทั้งโลก

 

        งานแรกเป็นกฐินสัมฤทธิ์เงินล้าน ทอด ณ วัดโบสถ์ อำเภอกงไกรลาศ จังหวัดสุโขทัย เมื่อวันที่ 14-พฤศจิกายน พ.ศ.2553-โดยมีประธานกฐิน คือ น้องจ๋า หรือ ด.ญ.กัลยรัตน์ สังข์ทอง อายุแปดขวบ อดีตประธานกฐินสัมฤทธิ์ ปี พ.ศ.2552-ในปี พ.ศ.2553-น้องจ๋าควงคู่มากับคู่ซี๊ประธานกฐินรุ่นพี่ คือ น้องขันทอง หรือ ด.ญ.พรทิพย์ สินส่ง อายุเก้าขวบ

 

 

 

        ประธานกฐินสัมฤทธิ์ เด็กดีวีสตาร์ คู่นี้ แม้จะตัวเล็กแต่ก็ใจใหญ่สุดๆ ทุ่มหัวใจทำหน้าที่อย่างสุดกำลัง จะนั่ง นอน ยืน เดิน ก็นึกถึงแต่บุญกฐินอยู่ตลอดเวลา ทำหน้าที่แจ้งข่าวบุญทุกครั้งที่มีโอกาส ตลอดต่อเนื่องทั้งปี เธอมาพร้อมกับกระเป๋าคู่ใจที่มีข้อความเชิญชวนร่วมบุญกฐิน แสนน่ารัก ใครได้เจอก็มักจะกวักมือเรียก ขอร่วมบุญกับสองประธานกฐิน อยู่เป็นประจำ

 

        เหตุที่ทุ่มสุดตัวสุดใจอย่างนี้ น้องจ๋าและน้องขันทอง บอกว่า “หนูอยากทำบุญเยอะๆ เพราะหนูอยากบวชเป็นพระ อยากเป็นเจ้าอาวาสแบบหลวงพ่อค่ะ”-และด้วยความน่ารัก บวกความเก่งและดีของประธานกฐินคู่นี้ ที่สามารถกล่าวนำทอดกฐินทั้งภาษาบาลีและภาษาไทย และนำปฏิญาณตนเป็นพุทธมามกะได้โดยไม่ดูบท ทำให้บรรยากาศภายในงานทอดกฐิน เต็มไปด้วย    น้ำตาแห่งความปลื้มปีติของทุกคนที่มาร่วมงาน โดยเฉพาะผู้เฒ่าผู้แก่ที่บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า “ปีหน้ามาใหม่นะลูกนะ ชอบจังเลย ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยเห็นเลย เด็กเป็นประธานกฐินอย่างนี้”

 

 

        ที่น่าทึ่ง...น่าอนุโมทนาสุดๆ คือ พุ่มปัจจัยบริวารกฐินที่เกิดจากการร่วมแรงร่วมใจของทุกคนในครั้งนี้ ที่ขอบอกว่ามีแต่แบงก์ใหญ่ๆทั้งนั้น นับรวมกันได้มากถึง 1,005,000-บาทเลยทีเดียว ถึงแม้ว่าพวกหนูจะเด็ก แต่ก็เล็กพริกขี้หนูนะคะ

 

 

 

        งานที่สองเป็นงานทอดกฐินสัมฤทธิ์ ณ วัดเมตารางค์ จังหวัดปทุมธานี เมื่อวันที่ 13-พฤศจิกายน พ.ศ.2553-ที่ผ่านมา โดยมีประธานกฐิน คือ คุณครูไอโกะ หรือ ด.ญ.มณีใส ศิริเลิศไชยากุล อายุแปดขวบ ประธานกฐินสามปีซ้อน ซึ่งกฐินครั้งนี้ถือเป็นกฐินมหัศจรรย์ที่แม้แต่ภัยธรรมชาติยังต้องเปิดทางให้ โดยพระครูปทุมธรรมสิริ เจ้าอาวาสวัดเมตารางค์ เล่าว่า...ก่อนที่จะถึงวันงานทอดกฐิน ที่วัดเมตารางค์ประสบปัญหาน้ำท่วมมานานเกือบหนึ่งเดือนแล้ว โดยมีปริมาณน้ำท่วมสูงกว่าสองเมตร ซึ่งถือว่าสูงเป็นประวัติการณ์ และไม่มีทีท่าว่าระดับน้ำจะลดลงแต่อย่างใด ทางวัดจึงเตรียมเรือไว้หลายลำ เพื่อใช้ในการเดินทางมายังศาลาวัด ซึ่งศาลาวัดค่อนข้างอยู่สูง น้ำจึงท่วมไม่ถึง แต่เรื่องอัศจรรย์ก็เกิดขึ้น เพราะเมื่อถึงเวลาใกล้รุ่ง ประมาณตีห้าของวันงาน ระดับน้ำก็ค่อยๆลดลงจนแทบไม่น่าเชื่อ ในขณะที่พื้นที่ใกล้ๆวัด น้ำยังคงท่วมเหมือนเดิม สร้างความประหลาดใจให้กับชาวบ้านในละแวกนั้นเป็นอย่างมาก ถึงกับเอ่ยปากว่า  “ประธานกฐินคนนี้มีบุญมากจริงๆ แม้แต่น้ำยังต้องหลีกทางให้”

 

 

 

        เรื่องราวความอัศจรรย์ในครั้งนี้ ได้ถูกบอกต่อๆกันอย่างรวดเร็ว ทำเอาหลายๆบ้านต้องรีบแต่งตัวมาร่วมบุญทอดกฐิน เพราะอยากเห็นหน้าประธานกฐินผู้มีบุญ อีกทั้งยังเชื่อว่าบุญนี้เป็นบุญใหญ่จริงๆ ลำบากแค่ไหนก็ต้องมาให้ได้ ส่วนปัญหาน้ำท่วมก็ทิ้งไว้ที่บ้านก่อน ซึ่งงานนี้คุณครูไอโกะก็ไม่ทำให้คุณลุงคุณป้าผิดหวัง สามารถทำหน้าที่ประธานกฐินได้อย่างยอดเยี่ยมเป็นที่ประทับใจ พร้อมทั้งได้ปัจจัยบริวารกฐินมากกว่าหนึ่งแสนบาท สมศักดิ์ศรีประธานกฐินสามปีซ้อน

 

        งานที่สามเป็นประธานกฐินคู่ดูโอ้ต่างวัย สองศรีพี่น้องตระกูลอมรเธียร น้องเกรซ พิมพ์ทอง วัยสิบขวบ และ น้องพราว พิมพ์มาดา วัยเจ็ดขวบ ทอดกฐิน ณ วัดเขาลาดวนาราม จังหวัดสระบุรี เมื่อวันที่ 26-ตุลาคม พ.ศ.2553-ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวัดเดิมที่น้องเกรซได้เคยเป็นประธานกฐินมาแล้วเมื่อปีที่ผ่านมา ซึ่งจากการเป็นประธานกฐินของพี่สาวในครั้งนั้น ได้ก่อเกิดเป็นแรงบันดาลใจให้กับน้องสาววัยซนอย่างยิ่งยวด งานนั้นน้องพราวนั่งมองพี่สาวตาปริบๆ พร้อมพูดด้วยเสียงดังฟังชัดว่า “ปีหน้าหนูขอเป็นประธานกฐินแบบพี่เกรซ หนูจะได้บุญใหญ่ๆแบบพี่เกรซบ้างค่ะ”

 

 

        จากนั้นสองศรีพี่น้องก็ทำหน้าที่บอกบุญกฐินเรื่อยมา เจอใครที่ไหน ก็จะเข้าไปบอกบุญพร้อมทั้งท่องคำกล่าวถวายกฐินให้ฟัง และเมื่อถึงวันงานทอดกฐิน สองประธานวัยใสก็อัญเชิญผ้าไตรด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มตลอดเวลา พอถึงเวลากล่าวคำถวายก็กล่าวได้เสียงดังฟังชัด โดยไม่ดูบท ทำเอาผู้หลักผู้ใหญ่ที่มาร่วมงานอมยิ้มตลอดทั้งวันเลยทีเดียว งานนี้นอกจากความปลื้มแบบไม่รู้จบแล้ว ยังได้ยอดปัจจัยบริวารกฐินมากถึง 522,229 บาทอีกด้วย

 

************************