ผีพรายทะเล


[ 18 มิ.ย. 2548 ] - [ 18299 ] LINE it!

Case study
ผีพรายทะเล
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ทาง DMC
 
 

กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูงค่ะ

 
    ลูก เป็นนักเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา มีพื้นเพเดิมเป็นคนจังหวัดระยอง แต่หลังจากแต่งงานแล้ว ต้องย้ายมาอยู่กับ สามี ที่เกาะหมาก จังหวัดตราด เพราะบรรพบุรุษของสามีเป็นผู้บุกเบิกและตั้งรกรากอยู่ที่เกาะแห่งนี้ ลูกอยู่ที่นี่มา 50 กว่าปีแล้วค่ะ
 
    ชีวิตชาวเกาะเป็นชีวิตที่ค่อนข้างลำบาก ต้องคอยนั่งเรือเข้าไปในแผ่นดินใหญ่ เพื่อไปขนเสบียงมากักตุนไว้กิน ลูกเป็นภรรยากำนัน มีอาชีพนำผลิตผลจากเกาะไปขายบนฝั่ง พอได้เงินก็ซื้อเสบียงบรรทุกขึ้นเรือกลับมาที่เกาะ การเดินเรือบ่อยครั้ง ทำให้ลูกเชี่ยวชาญมากในการดูคลื่นลมทะเล จะรู้ว่าท้องฟ้าแบบไหนจะมีมรสุม สามารถออกทะเลได้หรือไม่
 
    แต่แล้ววันหนึ่ง เหตุการณ์อันโหดร้ายที่สุดในชีวิตลูกก็มาเยือน ทำให้ลูกเกือบไม่รอดชีวิตมาเขียน Case Study ในวันนี้ เหตุการณ์ในวันนั้น เกิดขึ้นในขณะที่ลูกกำลังจะเดินเรือขนเสบียงกลับมายังเกาะ ท้องฟ้าวันนั้นช่างไม่เป็นใจเอาเลย เพราะลูกรู้ว่า ยังไง วันนี้ต้องมีมรสุมอย่างแน่นอน แต่สามีของลูกได้ยืนยันว่าจะนั่งเรือกลับเกาะวันนี้ให้ได้ ลูกจำเป็นต้องฝืนยอมอย่างเสียไม่ได้ ทำให้ทุกคนต้องออกเดินทางพร้อมกันบ่ายโมง โดยเรือท้องแบนยาว 7 วา 2 ศอก กว้าง 4 เมตร ก่อนออกเดินทางพวกเรามีกันทั้งหมด 6 ชีวิต คือ ตัวลูก สามี วิศวกรเรือ นายท้าย และเด็กอีก 2 คน พอเรือออกไปได้สักระยะหนึ่ง สักครู่ก็มีเด็กสาวตัวดำวัย 17 ปี โผล่ขึ้นมาจากใต้ท้องเรือ เป็นเด็กที่หนีพ่อแม่ออกจากเกาะมาเที่ยว และแอบลงเรือของลูกเพื่อติดกลับมาด้วย   ตอนนี้บนเรือของเราจึงมีทั้งหมด 7 ชีวิต
 
    เรือได้แล่นออกจากฝั่งมา 2 ชั่วโมงอย่างปกติ สักครู่ทุกคนสังเกตเห็นคลื่นลมทะเลเริ่มแปรปรวนขึ้นเรื่อยๆ ก้อนเมฆมหึมาดำทะมึนใหญ่กำลังเคลื่อนตัวเข้ามาทางเรา น้ำทะเลกลายเป็นสีน้ำเงินเข้ม คลื่นก่อตัวสูงขึ้นเรื่อยๆ เรือส่ายโคลงเคลงไปมาจนยืนไม่ติด เพราะเรากำลังผ่านเข้าเขตมรสุมแล้ว ขณะนั้นลูกรู้สึกสังหรณ์อย่างบอกไม่ถูก จึงเดินไปตรวจความเรียบร้อยของเรือโดยเปิดดูที่ห้องเครื่องใต้ท้องเรือ ปรากฏว่าสิ่งที่เห็นคือ น้ำทะเลกำลังทะลักเข้าใต้ท้องเรือถึงครึ่งลำแล้ว  ลูกรีบตะโกนให้นายท้ายและวิศวกรเรือเข้ามาช่วยกัน แล้วถามนายท้ายว่า  เคยถือท้ายเรือจมไหม เขาตอบลูกว่า “เคยครับ” ลูกถามต่อว่า “แล้วสภาพเรือเราแบบนี้จมไหม” เขาก็ตอบลูกว่า “จมครับ”
 
    จากนั้น ทุกคนจึงเตรียมความพร้อมในการสละเรือ เพราะในอีกไม่ช้าเรือจะต้องจมลงท่ามกลางมรสุมที่พัดเหวี่ยงเรือของเราอยู่ในขณะนี้ ฝนสาดเข้าในเรืออย่างกระหน่ำ ความสูงของคลื่นเท่าหลังคาบ้าน สายฟ้าฟาดลงบนท้องน้ำ แลบร้องแปลบปลาบเป็นระยะๆ ลูกได้ให้กำลังใจทุกคนว่า หากเราไม่ถึงที่ตาย เราก็จะไม่ตาย ทั้งๆที่ทุกคนรู้ดีอยู่แก่ใจตอนนั้นว่า ยังไง พวกเราทุกคนก็ไม่มีทางรอดแล้ว ซึ่งลูกก็ได้กำชับทุกคนเป็นครั้งสุดท้ายว่า ขณะลอยคออยู่ในทะเลหากเห็นภาพอะไรก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นทุ่น เป็นเรือใหญ่ ห้ามปล่อยวัสดุที่เกาะไว้กับตัวเด็ดขาด เพราะคนโบราณเชื่อกันว่า หากถึงที่ตาย จะเห็นภาพหลอน เพื่อหลอกให้เราปล่อยวัสดุที่กำลังเกาะอยู่ หากเราปล่อย คือ ตายเท่านั้น
 
    ทุกคนรับปาก แล้วกระโดดถีบตัวลงให้พ้นเรือ โดยมีของเกาะเพื่อช่วยชีวิตคนละชิ้น แต่ตัวลูก สามี และเด็กสาวอายุ 17 ปี เกาะอยู่บนล้อยางรถยนต์ 2 ล้อ ที่ตรงกลางมีไม้กระดานขนาด 1 วา พาดขวางอยู่ 1 แผ่น ตัวเด็กสาวอายุ 17 ปี เกาะอยู่ริมด้านซ้ายของลูก ตัวลูกอยู่ตรงกลาง ส่วนสามีของลูกเกาะอยู่ริมด้านขวา พวกเรากำลังลอยคอกลางทะเลที่มองไปอย่างไม่เห็นฝั่ง อย่างไร้ความหวัง ทุกคนตกอยู่ในภาวะที่รอคอยสิ่งเดียวกันคือ “ปาฏิหาริย์”
 
    ทันใดนั้นเอง ก็มีเสียงดังก้องขึ้นจากกลางท้องของลูก เป็นเสียงผู้ชายห้าวๆ พูดว่า “ยังตายไม่ได้ ต้องสร้างบารมีก่อน” เสียงนั้นดังมาก ดังจนออกหูลูกทั้ง 2 ข้าง แต่เป็นเสียงที่ลูกได้ยินเพียงคนเดียวเท่านั้น จนลูกเกิดคำถามขึ้นมาในขณะที่ลอยคออยู่นั้นว่า เสียงใครกัน ทำไมต้องให้เราสร้างบารมี แล้วบารมี มันคืออะไร เสียงนี้ทำให้ลูกแปลกใจสุดขีด ลูกไม่เข้าใจเลยว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับตัวลูก เพราะตอนนั้นลูกยังไม่รู้จักวัดพระธรรมกาย ยังไม่เคยเข้าวัดมาก่อนเลย  ลูกครุ่นคิดถึงเสียงนี้ ท่ามกลางความบ้าคลั่งของทะเลและพายุที่ยังไม่ยอมสงบลงง่ายๆ
 
    จนเวลาล่วงเลยไปถึงเที่ยงคืน ลูกได้เริ่มสังเกตเห็นปรากฏการณ์ประหลาด ที่เกิดขึ้นกับสมาชิกที่อยู่รอบข้างทั้ง 2 ของลูก อยู่ๆเขากลายเป็นมนุษย์เรืองแสงได้ มีผิวกายที่ระยิบระยับสวยงามมาก ลูกได้เอามือไปสัมผัสตัวพวกเขา ปรากฏว่าลื่นเป็นเมือกปลา จับแล้วลื่นหลุดมือ โดยเฉพาะเด็กสาว แต่ปรากฏการณ์อย่างนี้ชาวบ้านบอกว่า เป็นลางบอกให้รู้ว่า ผีพรายทะเลมันจะมาเอาตัวไป แต่ถ้าทางวิทยาศาสตร์จะให้เหตุผลในเรื่องนี้ว่า เป็นเพราะธาตุฟอสฟอรัสในทะเลมันเกาะผิวหนัง ทำให้เราเรืองแสงได้ แต่ถ้าเป็นการเรืองแสง เพราะฟอสฟอรัสจริงๆก็จบ แต่เรื่องนี้มันไม่จบลงง่ายๆอย่างนั้นหรอกค่ะ เพราะกำลังมีเหตุการณ์ผิดปกติบางอย่าง เกิดขึ้นกับเด็กสาวข้างๆลูก คือ เธอพยายามบอกกับลูกตลอดเวลาว่า เธอไม่ไหวแล้ว เธอขอตายเถอะ และไม่ยอมลืมตาขึ้นเลย และชอบขยับตัวเบียดมาทางลูกเรื่อยๆ จนกระทั่งตัวลูกต้องขยับไปเบียดสามี เกือบหลุดตกจากวัสดุที่ยึดเกาะอยู่อีกด้าน  ลูกได้แต่บอกเด็กสาวว่า “อย่าขยับมา จะขยับมาทำไม” พอเธอถูกลูกเอ็ด ก็ขยับกลับที่เดิม เป็นอยู่อย่างนี้ทั้งคืน จนลูกงงมาก ว่ามันเกิดอะไรขึ้น พอลูกถาม เธอก็พูดอย่างเดียวว่า ไม่ไหวแล้ว ขอเธอตายเถอะ อยากตายๆ เหตุการณ์เป็นอยู่อย่างนี้ถี่ๆตลอดทั้งคืน จนถึงรุ่งเช้าลูกได้เห็นเรือประมงที่กำลังมาลงอวนจับปู ลูกจึงหันบอกเด็กสาวว่า ไม่ต้องอยากตายหรอก เพราะเรากำลังจะรอดตายแล้ว ไม่ต้องกลัว ทันใดนั้นหลังจากสิ้นเสียงลูก เด็กสาวก็ได้ลืมตาลุกวาวขึ้น มองมาที่ลูก ขนาดดวงตานั้นเท่ากับปากแก้วน้ำ ลูกตกใจกลัวมาก ว่าเด็กคนนี้กำลังเป็นอะไรไป จากนั้นลูกไม่กล้าหันไปมองเธออีกเลย แล้วรีบตะโกนเรียกเรือให้เข้ามาช่วยเราให้ได้ คนบนเรือได้ยินเสียงลูก แต่ไม่ยอมเข้ามาช่วยเราสักที จนลูกต้องตะโกนอย่างสุดเสียงถี่ๆ  จนในที่สุดเขาจึงยอมเข้ามา เขาบอกลูกว่าที่ไม่เข้ามาช่วยทีแรกเพราะนึกว่าผี เพราะเช้านี้มีแต่ศพลอยมาติดฝั่งเต็มไปหมด ไม่มีรายไหนรอดสักราย ขณะนั้นลูกปลอดภัยแล้ว หลังจากที่ได้ลอยคอรอคอยความตายมาถึง 16 ชั่วโมง ซึ่งพอขึ้นฝั่งก็พบว่า ชาวบ้านต่างเตรียมจัดงานศพให้ลูกกับสามีเรียบร้อยแล้ว
 
    ส่วนเด็กสาวอายุ 17 ปี ที่รอดชีวิตในครั้งนี้กับลูกด้วย ได้กลับไปบอกพ่อแม่ของเธอว่า ขณะลอยคออยู่ในทะเลกับลูก เธอได้เห็นผู้หญิงสาวผมยาวตัวเปลือยผิวขาว มาเกาะยางรถยนต์ข้างๆเธอตลอดเวลา เธอกลัวมากและพยายามกระเถิบมาเบียดลูกตลอดคืน   แต่เธอไม่กล้าเล่าให้ลูกฟัง ลูกจึงได้แต่สงสัยถึงเรื่องราวนี้ตลอดมา
 
    หลังจากนั้น ลูกได้มีโอกาสมาวัดพระธรรมกายครั้งแรก เพราะการบวชธรรมทายาทของลูกชายคนที่สาม ทำให้ลูกได้มาวัดพระธรรมกายบ่อยขึ้น แต่ก็ไม่ได้ติดใจอะไรเป็นพิเศษ จนกระทั่งวันหนึ่งลูกมองไปเห็นป้ายวัดที่เขียนว่า “เราเกิดมาสร้างบารมี” คำนี้ได้แล่นเข้าไปในใจจนขนลุกซู่ เพราะทำให้ลูกนึกถึง เสียงกลางท้องในคืนเรือล่มกลางทะเลขึ้นมาทันที จากนั้นลูกจึงคิดว่า เรามาถูกทางแล้ว ลูกจึงตั้งใจสร้างบารมีจริงจังตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมาค่ะ

    หลานสาวของลูก ได้มาวัดพระธรรมกายตั้งแต่อายุ 7 เดือน พอโตขึ้นเธอก็ได้มาวัดกับลูกบ่อยขึ้น ปัจจุบันอายุ 7 ขวบแล้วค่ะ แต่เรียนอยู่ที่ประเทศอินเดีย เธอมักจะพูดว่า เธอคิดถึงวัดมาก อยากมาถวายปัจจัยกับหลวงพ่อใกล้ๆที่วัด เธอพูดได้ 3 ภาษา อังกฤษ อินเดีย  ไทย  เธอเป็นเด็กฉลาดเกินเด็ก สามารถนั่งเครื่องบิน ไปกลับเมืองไทย-อินเดียคนเดียวได้ เป็นเด็กช่างเจรจามาก รักการทำบุญ นั่งสมาธิสวดมนต์ก่อนนอนทุกวันค่ะ
 
    ลูกชายคนที่ 7 ของลูก ปัจจุบันเป็นลูกคนเดียวที่อยู่เกาะกับลูก เพราะลูกๆ คนอื่นแต่งงานไปก็ไปอยู่กับครอบครัวหมดแล้ว เขาเคยบวชธรรมทายาทที่วัดค่ะ
 
ลูกขอเรียนถามคำถามพระเดชพระคุณหลวงพ่อดังนี้ค่ะ
 
1. บุพกรรมใดที่ลูกและสามีต้องมาอยู่เกาะ   คนที่มีชีวิตอยู่เกาะหรือใกล้ทะเล ต้องเจอความแปรปรวนของคลื่นลมทะเลบ่อยๆ ส่วนใหญ่เป็นเพราะกรรมอะไรคะ
 
2. บุพกรรมใดที่ ตัวลูกและ สามี และเด็กสาวอายุ 17 ปี ต้องเจอเรือล่ม จนเกือบตาย และบุญใดที่ทำให้ลูกและทุกคนรอดมาได้คะ
 
3. เสียงที่เกิดขึ้นกลางท้องขณะลอยคอในทะเล เป็นเสียงใคร ทำไมลูกถึงได้ยินในสภาวะที่เกือบไม่รอดเช่นนั้น และทำไมต้องเป็นคำว่าให้มาสร้างบารมี  ลูกมีความผูกพันอะไรกับคำนี้หรือไม่คะ
 
4. ทำไมเด็กสาว 17 ปี คนนั้นต้องหลับตากลัวตลอดทั้งคืน เธอเขยิบมาหาลูกทำไม เธอเห็นผู้หญิงสาวผมยาวตัวเปลือยผิวขาว จริงตามนั้นหรือไม่ ถ้าจริง สิ่งนั้นคืออะไร ใช่ผีพรายทะเลหรือไม่   และทำไมตอนลูกบอกเธอว่าจะรอดชีวิต เธอจึงลืมตาอย่างน่ากลัวคะ
 
5. ถ้าผีพรายทะเลมีจริง กราบขอความเมตตาคุณครูไม่ใหญ่ว่า เขามีความเป็นอยู่อย่างไร รูปร่างลักษณะเป็นอย่างไร  บุพกรรมใด เขาต้องมาเป็นผีพรายที่อยู่ในทะเล  เขาชอบทำให้เรือล่ม แล้วเอาคนไปตายแทนจริงหรือไม่   ทำไมต้องทำเช่นนั้นคะ
 
6. บุพกรรมใดที่ทำให้หลานสาวของลูก ฉลาดเกินเด็ก คล่องมาก โตขึ้นลูกอยากให้เธอได้มาช่วยงานที่วัดจะเป็นไปได้หรือไม่ หลานสาวเคยสร้างบารมีกับหมู่คณะมาอย่างไรคะ
 
7. ลูก สามี ลูกชายคนที่ 3 และ 7 เคยสร้างบารมีกับหมู่คณะมาในรูปแบบใด มีหน้าที่อะไรคะ และเพราะเหตุใดลูกชายคนที่ 7 ถึงต้องมาอยู่เกาะสืบทอดกิจการของลูกคะ
 
ฝันในฝัน
หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ  ตื่นขึ้นมา หาว 1 ที
แล้วก็นำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากันนะจ๊ะ
 
1. คนที่มีชีวิตอยู่บนเกาะหรือใกล้ทะเล ต้องเจอความแปรปรวนของคลื่นทะเลบ่อย ๆ   ก็มีสาเหตุหลายประการ เช่น...มีบุพกรรมคล้ายกับเรื่องของหัวหน้าชั้น  ที่เคยเอานักโทษไปปล่อยเกาะบ้าง 
 
 
  • เกิดจากความพึงพอใจ ที่มีจิตใจผูกพัน และรักท้องทะเล มาหลายชาติบ้าง 

 

 
  • อธิษฐานมาบ้าง  เพราะในอดีต  เบื่อความวุ่นวายของสังคมที่มีคนอยู่เยอะ แต่ไม่อาจหนีไปได้ จึงได้อธิษฐานว่า ภพชาติต่อไปให้ไปเกิดในที่ที่เป็นส่วนตัว  หรือเป็นเกาะ เป็นที่สงบสงัด  แม้ลำบากกายแต่ก็ไม่ลำบากใจ 
 
 
  • ในกรณีของลูกและสามีนั้น  เกิดจากความคุ้นเคยกับการอยู่เกาะและได้อธิษฐานมาด้วย เพราะพอใจในการใช้ชีวิตกับธรรมชาติท้องทะเลจ่ะ!
 
 
2. ตัวลูก , สามี และเด็กสาวอายุ 17 ปี  ต้องเจอเรือล่มในทะเล  และเกือบตาย  เพราะ ... กรรมในอดีตทั้ง 3 คน  ก็เคยมีชีวิตอยู่บนเกาะ โดยตัวลูกกับสามี  ก็เป็นสามี-ภรรยากันเหมือนชาตินี้  ได้ทำมาค้าขายบนเกาะแห่งหนึ่ง  โดยมีเด็กสาวอายุ 17 ปีในชาตินี้ เป็น “ลูกจ้าง” 
 
 
  • ครั้งหนึ่งทั้ง 3 คน ได้นั่งเรือออกจากฝั่ง  เพื่อนำสินค้าไปขาย  ได้มีเด็กผู้ชายคนหนึ่ง  แอบขึ้นมาขโมยของ  ตอนเรืออยู่ริมฝั่ง  และเมื่อเรือออกจากฝั่งแล้วก็หนีไม่ทัน  จึงได้แอบอยู่ใต้ท้องเรือ
 
 
  • เมื่ออยู่ในทะเลก็ถูกจับได้  โดยทั้ง 3 คน ช่วยกันจับให้เกาะแผ่นกระดาน ตะเกียกตะกายเข้าหาฝั่งเอง  เป็นการลงโทษ ปรากฏว่า “เด็กคนนั้น” ไม่ตาย จึงทำให้รอดมาได้
 
 
  • เพราะลูกทั้ง 3 คน ไม่มีกรรมปาณาติบาต   กอปรกับ มีบุญที่เคยทำไว้กับหมู่คณะมาในอดีตตามช่วยด้วย   เพื่อให้ได้มาสร้างบารมีกับหมู่คณะอีกในชาตินี้จ่ะ!
 
 
3. เสียงที่เกิดขึ้นในกลางท้อง  ในขณะที่ลอยอยู่ในทะเลนั้นเป็นเสียง “กายมนุษย์ละเอียด” ของตัวลูกเอง , ที่ได้ยินในขณะที่เกือบเอาตัวไม่รอด  ก็เพราะ บุญที่เคยทำกับหมู่คณะมาหลายชาติตามมาช่วยในขณะนั้น  เพื่อให้ได้มีโอกาสมาสร้างบารมีร่วมกับหมู่คณะอีกในชาตินี้จ่ะ! 
 
 
  • ที่ต้องเป็นคำว่า “ให้มาสร้างบารมี”  ก็เพราะ เป็นความปรารถนามาข้ามชาติ ที่เคยทำบุญกับหมู่คณะมาดังกล่าว  จึงมีความผูกพันกับคำคำนี้จ่ะ!
 
 
4. เด็กสาว 17 ปี ต้องหลับตากลัวอยู่ทั้งคืน  เพราะ ...เด็กสาวได้เห็นกายละเอียดของ “ผีทะเล” ก็คือ ผู้ที่ตายอยู่ในทะเล แล้วเป็นกายสัมภเวสีที่ร่อนเร่ล่องลอยอยู่ในกลางทะเล 
 
 
  • ส่วนพรายทะเลก็คล้าย ๆ ภูติบนบก คือ เป็นกายละเอียดที่มีฤทธิ์บางอย่างได้
  • แต่ถ้าเป็น “ปีศาจทะเล” จะหน้าตาหน้าเกลียดน่ากลัว  และแสดงฤทธิ์ได้ด้วย 
 
 
  • ตอนที่ลูกบอกว่า  เธอจะรอดชีวิต  ก็ทำให้เธอ “ดีใจอย่างสุดขีด”  จึงทำให้ดูคล้ายดวงตาโต ในจังหวะที่ลูกก็เหนื่อยล้าเต็มที่ จึงทำให้ดูคล้ายตาโตเป็นพิเศษ ที่ดูน่ากลัวจ่ะ!
 
 
5. “ผีพรายทะเล” ก็มีจริง คือ พวกที่ตายอยู่ในทะเล ด้วยวิบากกรรมเก่า  แต่บาปไม่มากพอให้ไปอบาย  และบุญไม่เพียงพอให้ไปสวรรค์  หรือไปเกิดเป็นมนุษย์ ก็จะเป็นผีพรายทะเลที่มีฤทธิ์บ้างเล็ก ๆ น้อย ๆ คล้ายภุมมเทวาระดับบริวารของหัวหน้าเขตเป็นต้น  
 
 
  • แต่ผีพรายทะเลจะเป็นบริวารของยักษ์ทะเล  ผู้ดูแลทะเลในบริเวณท้องทะเลตอนนั้น   ซึ่งมีกฎเงื่อนไขบางอย่างของเจ้าหน้าที่เขตยักษ์ทะเลว่า  ต้องมีคนมาตายบริเวณนั้น  แล้วมาอยู่แทนตัว , ตัวจึงจะไปเกิดใหม่ได้ 
 
 
  • แต่ที่คนเรือล่มตายนั้น  ก็เป็นเพราะวิบากกรรมของคน ๆ นั้น  ที่จะหมดอายุขัยได้บันดาลให้เกิดขึ้น  ซึ่งพรายทะเลจะทำได้ก็แค่เนรมิตว่าใครที่จะมาอยู่แทนตัว ให้เห็นภาพทุ่นให้คน ๆ นั้นเกาะแล้วตายมาเกิดแทนตัว
 
 
  •  ส่วนตัวเองไม่ทำ เพราะพรายทะเลถ้าทำให้ใครตาย  ก็จะต้องไปเกิดในอบาย เพราะกรรมปาณาติบาตจ่ะ!
 
 
6. หลานสาวของลูกฉลาดเกินเด็กในวันเดียวกัน  เพราะมีปัญญาบารมีที่สั่งสมมามากจากในอดีต  ตามมาส่งผล เช่น เป็นคนชอบแสวงหาความรู้  โดยคบบัณฑิต นักปราชญ์  และบุญสนับสนุนการศึกษาจ่ะ! 

 
  • หลานสาวก็เคยสร้างบารมีกับหมู่คณะมาแบบ “กองเสบียง” และ “เผยแผ่” จ่ะ! 
  • ให้ประคับประคองหลานสาวให้ดี ให้อยู่ในเส้นทางธรรม บุญเก่าก็จะบันดาลให้เธอ ได้มาสร้างบารมีกับหมู่คณะได้อีกจ่ะ!
 
7. ลูก , สามี , ลูกชายคนที่ 3 และคนที่ 7 เคยสร้างบารมีกับหมู่คณะมาแบบ “กองเสบียง” 

 
  • ลูกชายคนที่ 7 มีความผูกพัน ชอบและคุ้นอยู่กับทะเลจึงต้องมาอยู่ดูแลกิจการของลูกสืบทอดกันจ่ะ! 
 
  • ชาตินี้มาเจอกันอีก  ก็ให้ตั้งใจสร้างบารมีให้เต็มที่  อย่าให้ตกบุญเลย  แล้วอธิษฐานจิตตามติดไป “ดุสิตบุรีวงบุญพิเศษเขตบรมโพธิสัตว์” อย่าได้พลัดกันเลยจ่ะ!


Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
เจ้าเมืองไปเกิดเป็นพญานาคเจ้าเมืองไปเกิดเป็นพญานาค

นักบุญ - นักธุรกิจนักบุญ - นักธุรกิจ

สังขารดับ แต่ใจยังอาวรณ์สังขารดับ แต่ใจยังอาวรณ์



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

กรณีศึกษากฎแห่งกรรม