ขออุ้มหน่อย (ลุงถูกอุ้ม หลานก็น่าอุ้ม)


[ 31 ส.ค. 2548 ] - [ 18264 ] LINE it!

CASE  STUDY
ขออุ้มหน่อย  (ลุงถูกอุ้ม  หลานก็น่าอุ้ม)
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ทาง DMC
 
 
กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อด้วยควรเคารพอย่างสูง
 
    คุณปู่ของลูก เป็นข้าราชการในสมัยของจอมพล ป.พิบูลสงคราม ท่านเป็นผู้ที่มองการณ์ไกล เด็ดขาด อดทนและซื่อสัตย์ในหน้าที่ ทำงานไต่เต้าตั้งแต่เป็นข้าราชการระดับอำเภอ จนได้รับพระราชทานแต่งตั้งให้เป็นข้าหลวงประจำจังหวัด ครั้งหนึ่งในสมัยที่เป็นข้าหลวงประจำจังหวัดนครปฐม เวลานั้นเสือผาดเป็นเสือดังที่ออกเที่ยวปล้น สร้างความเดือดร้อนหวาดกลัวให้ชาวบ้านเป็นอย่างมาก เมื่อทางการจับได้ คุณปู่จึงสั่งลงโทษโดยการฆ่าตัดคอเสือผาดที่หน้าองค์พระปฐมเจดีย์ แล้วเอาหัวเสียบประจานเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง  ขณะที่ทำพิธีอยู่นั้น เพชฌฆาตฟันคอเสือผาดเท่าไรก็ฟันไม่เข้า จึงต้องเอาผ้าถุงของผู้หญิงมาคลุมหัวเสือผาดไว้ จึงสามารถตัดคอได้สำเร็จ คุณปู่เสียชีวิตในปี 2513 ด้วยโรคหัวใจวาย ก่อนวันครบรอบวันเกิดปีที่ 70 ของท่านเพียง 1 วันเท่านั้น   ก่อนปู่จะตาย    พ่อกำลังจะเตรียมงานจัดวันเกิดให้ท่าน    แต่ปู่ก็บอกว่าไม่ต้องเตรียมหรอก เพราะคงจะอยู่ไม่ถึงวันนั้น แล้วปู่ก็ตายก่อนจะถึงวันเกิดของท่านจริงๆ 
 
    เมื่อสิ้นบุญของคุณปู่แล้ว คุณย่า ก็หันมาเข้าวัดปฏิบัติธรรมอย่างจริงจัง     ท่านชอบไปวัดทุกๆวัด   ลูกๆหลานๆ จึงมีโอกาสได้ฟังเทศน์ฟังธรรมและผูกพันกับวัดตั้งแต่ยังเด็ก   ปี 2518 ขณะนั้นลูกอายุได้ 13 ปี คุณย่าได้พามาทำบุญที่ศูนย์พุทธจักรปฏิบัติธรรม บรรยากาศร่มรื่นเงียบสงบ ดูสะอาดสะอ้าน พอได้มาถึงวัด  ลูกรู้สึกอบอุ่นใจเหมือนได้กลับบ้านเก่าที่คุ้นเคยมานาน...เป็นบ้านที่ให้ความสุขใจแก่ลูกเป็นอย่างยิ่ง  ตั้งแต่นั้นมาลูกก็ได้มาทำบุญที่ศูนย์พุทธจักรปฏิบัติธรรมบ่อยๆ 
 
    คุณย่าก็ชอบปฏิบัติธรรม  ท่านเคยบอกว่าท่านเห็นกายละเอียดของตัวเอง   คุณย่าเป็นคนที่มีความทรงจำดีมาก ท่านรักษาศีล 8 อยู่เสมอ แม้ในช่วงที่ท่านชรามาก ลูกหลานไม่ค่อยอยากให้ท่านอดอาหารเย็น เพราะในระหว่างวัน ท่านก็ทานอาหารได้น้อยอยู่แล้ว แต่คุณย่าก็อดทนตั้งใจรักษาศีล 8 ด้วยจิตใจที่เข้มแข็ง ท่านจากพวกเราไปด้วยโรคหัวใจ เมื่ออายุได้ 86 ปี
 
    คุณตาของลูก เป็นคนตรงไปตรงมา พูดจาเสียงดังไม่กลัวใคร ท่านเป็นคนขยัน ซื่อสัตย์ ทำอะไรทำจริง ในวัยหนุ่มท่านเคยบวชพระและเรียนบาลีจนได้เป็นมหาเปรียญ เคยแต่งหนังสือสอนพระพุทธศาสนาสำหรับเด็ก เรื่องอิทธิบาท 4 จนได้รับพระราชทานรางวัลที่ 1 ในงานพระราชพิธีวิสาขะบูชา ต่อมากระทรวงศึกษาธิการได้นำหนังสือที่คุณตาแต่ง มาเป็นแบบเรียนในหลักสูตรของการเรียนสมัยนั้น คุณตาเป็นครูสอนอยู่ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และการเมือง เป็นทนายความและเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของจังหวัดสมุทรสาครบ้านเกิดของท่าน   และตำแหน่งสุดท้ายนี้เอง ที่ทำให้ฉากชีวิตของคุณตาได้จบลง  เพราะคุณตาได้หายสาบสูญไป  เหตุเกิดเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2497  คุณตาบอกที่บ้านว่า จะไปพบเจ้าหน้าที่ที่กรมตำรวจก่อน แล้วจึงจะเลยไปงานเผาศพ ท่านขับรถออกจากบ้านไปวันนั้น แล้วก็ไม่กลับมาที่บ้านอีกเลย ไม่มีใครรู้เลยว่า คุณตาท่านไปอยู่ที่ไหน อยู่อย่างไร ท่านหายตัวไปอย่างลึกลับ ไม่เหลือร่องรอยให้มีโอกาสสืบค้นพบตัวท่านได้อีกเลย
 
    หลังจากที่คุณตาหายเงียบไป คุณยาย ต้องรับภาระหนักในการหาเลี้ยงครอบครัว ทรัพย์สินที่มีอยู่ คุณยายก็ไม่สามารถที่จะทำนิติกรรมแทนคุณตาได้ ทำให้คุณยายมีความยุ่งยากลำบากใจหลายอย่างในการดูแลครอบครัว ใจท่านก็มีแต่ความวิตกกังวล เฝ้ารอคอยการกลับมาของคุณตาวันแล้ววันเล่าอย่างใจจดใจจ่อ  บางครั้งมีข่าวว่ามีคนไปพบคุณตาตรงนั้นบ้างตรงนี้บ้าง แต่ก็ไม่มีใครได้พบคุณตาจริงๆ ย่างเข้าปีที่ 8 ศาลจึงมีคำสั่งให้คุณตาเป็นผู้หายสาบสูญตามกฎหมาย คุณยายจึงสามารถนำทรัพย์สินที่มีอยู่ออกมาหล่อเลี้ยงครอบครัวได้มากขึ้น คุณยายได้ล้มป่วยด้วยโรคหัวใจวาย และเสียชีวิตในปี 2512  อายุได้ 59 ปี
 
    คุณแม่ของลูก เป็นคนพูดน้อย มีจิตใจโอบอ้อมอารี เป็นที่รักของเพื่อนๆ ตั้งแต่รู้จักวัดพระธรรมกาย คุณแม่ก็มาทำบุญที่วัดเป็นประจำสม่ำเสมอ ทุ่มเททำบุญทุกๆบุญอย่างเต็มกำลัง   คุณแม่ได้ถวายปัจจัยซื้อที่ดินตั้งแต่ตารางวาละ 62.50 บาท ร่วมบุญทอดผ้าป่าทุกเดือน ทำบุญสร้างโบสถ์  ทอดกฐิน ถวายหนังสือพระไตรปิฎกให้พระเณรได้ศึกษา ร่วมบุญสร้างโรงเรียนพระปริยัติธรรม บอกบุญและร่วมบุญสร้างองค์พระธรรมกายประจำตัวประดิษฐาน ณ มหาธรรมกายเจดีย์ 100 กว่าองค์ แม้คุณแม่จะมีสุขภาพร่างกายที่ไม่แข็งแรงนัก  แต่ท่านก็ใช้ความเพียรพยายามที่จะมาวัดจนถึงที่สุด  
 
    ปี 2542 คุณหมอตรวจพบว่าคุณแม่มีอาการติดเชื้อในกระแสโลหิต  ตอนกลางคืนมีไข้สูง หนาวสั่นมากจนเข็มน้ำเกลือที่สอดอยู่ที่แขนหลุดออกมา ปีถัดมา คุณแม่ก็เริ่มก้าวขาไม่ค่อยออก จากนั้นไม่นานท่านเดินไม่ได้อีกเลย คุณหมอบอกว่าเชื้อไวรัสได้กินประสาทส่วนหลัง ตั้งแต่ใต้หน้าอกจนถึงเท้า    ปี 2544  คุณแม่มีอาการของโรคทางเดินหายใจ ทำให้กล้ามเนื้อที่ช่วยหายใจอ่อนแรง    จวนเจียนจะเสียชีวิต  ลูกๆได้แต่สวดภาวนา ขอบุญบารมีของครูบาอาจารย์ ช่วยคุ้มครองไม่ให้คุณแม่ต้องใส่ท่อช่วยหายใจเลย แล้วเช้ามืดวันหนึ่งน้องของลูกก็ฝันเห็นชายนุ่งผ้าแดงหยักรั้ง เข้ามาเข็นเตียงคุณแม่ออกไปจากห้อง  ปัจจุบันคุณแม่อายุได้  74   ปี ท่านเป็นอัมพฤกษ์ เดินไม่ได้ ทานอาหารเองไม่ได้ แต่ท่านดู DMC ได้ทุกวัน ฟังเข้าใจรู้เรื่อง  สติ  และการรับรู้อื่นยังดีอยู่ ท่านชอบดูDMC มาก 
 
    ส่วนตัวลูกนั้น ปกติเป็นคนแข็งแรงมาก กระทั่งอายุได้ 23 ปี ลูกได้ออกสุกใส หลังจากเป็นได้ 1 เดือน  ลูกได้ถ่ายท้องและอาเจียนออกมาเป็นเลือดสดๆเยอะมาก ทำให้ความดันต่ำมาก หน้ามืดและมีผลทำให้น้ำหนักลดลงไปถึง 10 กิโลกรัม  
 
    เมื่อครั้งที่ทางวัดเริ่มโครงการบอกบุญสร้างองค์พระใหม่ๆ คุณแม่ได้สร้างองค์พระให้คุณยายและคุณทวด  หลังจากนั้นลูกฝันเห็นคุณยายและคุณทวด ซึ่งได้เสียชีวิตไปแล้วเดินเข้ามาหา  ขณะนั้นท่านทั้งสองแต่งตัวโทรมมาก เนื้อตัวมีแผลตามตัว ลูกได้เดินไปถามท่านทั้งสองว่า คุณแม่ได้สร้างพระธรรมกายประจำตัวให้ คุณยายคุณทวดได้รับหรือไม่ คุณยายตอบว่า ยายไม่รู้นี่  ไม่เห็นมีใครบอก ในฝันลูกได้จับมือท่านทั้งสองคนละข้าง และพูดนำให้ท่านนึกถึงองค์พระที่คุณแม่สร้างให้ เมื่อพูดจบเสื้อผ้าที่ท่านทั้งสองสวมอยู่ก็เปลี่ยนไป ประณีตขึ้นสวยขึ้น เนื้อตัวที่เป็นแผลอยู่ก็หายไป กายก็สว่างขึ้นและลอยขึ้นเหนือพื้น
 
    พี่สาวของลูก เมื่อปี 2523 ถูกรถชน กระเด็นไปไกล  ศีรษะแตก กระดูกนิ้วเท้าหัก แพทย์ได้ทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นให้ โดยเย็บศีรษะที่แตก และเอาเหล็กมาดามที่นิ้วเท้าที่หักและบอกว่าไม่ได้เป็นอะไรมาก นอนพักที่โรงพยาบาล 3 วัน พอกลับมาถึงบ้านอาการก็แย่ลง ปากอ้าไม่ขึ้น คอเอี้ยวไม่ได้ หน้าบวม จึงนำส่งโรงพยาบาล ผลเอ็กซเรย์ออกมาพบว่า กระดูกตรงปีกคอหัก ต้องเข้าเฝือกตั้งแต่ศีรษะจนถึงเอว ต้องผ่าตัดเท้าที่แตก   รักษาอยู่นานจึงหายเป็นปกติ  หลังจากพี่สาวเกิดอุบัติเหตุได้ 16 วัน ตัวลูกเองได้เดินเหยียบไม้กระดานที่ชำรุด ทำให้ไม้กระดานกระดกมาฟาดหน้าลูกอย่างแรง ทำให้จมูกหักและหายใจไม่ออก
 
    หลานสาว  ขณะนี้อายุ 7 ขวบ เป็นคนโมโหร้าย ชอบขู่ว่าจะยิงตัวตายและชอบทำท่ายกมือจ่อขมับตัวเอง  บ่อยครั้งเข้าพวกเราก็วิตกว่าหลานจะทำอย่างนั้นจริงๆ
 
สำหรับคำถามมีดังนี้
 
1. คุณปู่เสียชีวิตแล้วไปอยู่ที่ไหนคะ   ท่านมีกรรมอะไรมากับเสือผาดหรือไม่ จึงต้องมาตัดสินประหารชีวิตอย่างน่ากลัว  กรรมที่สั่งประหารชีวิตเสือผาดจะส่งผลอย่างไร    และเหตุใดคุณปู่จึงรู้วันตายของตนเองล่วงหน้า
 
2. คุณย่าเสียชีวิตแล้วไปไหน  มีคตินิมิตก่อนตายเป็นอย่างไร  ท่านปฏิบัติธรรมเห็นกายละเอียดตัวเองจริงหรือไม่คะ    อานิสงส์ที่ท่านตั้งใจรักษาศีล 8 แม้อายุมากแล้ว  ส่งผลให้ท่านอย่างไรบ้างคะ   กรรมใดจึงทำให้ท่านเสียชีวิตด้วยโรคหัวใจ
 
3. คุณตาออกจากบ้านแล้วไปไหนคะ ใครพาคุณตาไปและมีชีวิตความเป็นอยู่อย่างไรบ้าง หากท่านละโลกไปแล้ว อยู่ภพภูมิใด ได้รับบุญที่ลูกหลานอุทิศให้หรือไม่  บุญจากการบวชและการแต่งหนังสือ   จะช่วยท่านได้อย่างไรบ้าง
 
4. คุณยายละโลกแล้วไปอยู่ที่ไหนคะ กรรมใดที่ทำให้คุณยายต้องลำบากทุกข์ใจอยู่ช่วงหนึ่งเพราะใช้สมบัติของคุณตาไม่ได้  และทำไมจึงอายุสั้น หัวใจวายตายด้วยอายุเพียง 59 ปี
 
5. บุพกรรมใดทำให้คุณแม่มีอาการติดเชื้อทางกระแสโลหิต และทางเดินปัสสาวะ  , ไวรัสกินประสาทส่วนหลัง จนทำให้ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้เอง  , เป็นโรคทางเดินหายใจ ทำให้กล้ามเนื้อที่ช่วยหายใจอ่อนแรง   จนเกือบเสียชีวิต   บุญใดที่ทำให้คุณแม่รอดตายมาได้อย่างเฉียดฉิว  คุณแม่จะมีโอกาสหายป่วยไหมคะ  
 
6. ชายนุ่งผ้าแดงที่น้องชายเห็นในความฝันเป็นจริงหรือไม่ เขาจะมาพาแม่ไปหรือไม่
 
7. กรรมใดทำให้คนเราเป็นโรคสุกใส  และต้องเป็นกันเกือบทุกคนคะ   และสำหรับลูกเกิดจากกรรมอะไรคะ  หลังจากเป็นสุกใสแล้วลูกถ่ายท้อง  อาเจียนออกมาเป็นเลือดสดๆ เพราะทำวิบากกรรมใดไว้คะ
 
8. เหตุการณ์ที่ลูกฝันเห็นคุณยายและคุณทวดเป็นจริงหรือไม่คะ    ท่านอยู่ในภพภูมิไหน  ทำไมต้องรอให้บอกอนุโมทนาบุญ   จึงจะได้รับ 
 
9. พี่สาวและลูก เคยทำกรรมอะไรมา  จึงเกิดอุบัติเหตุในเวลาไล่เลี่ยกัน   แต่ต่างสถานที่กัน
 
10. ที่หลานสาวบอกว่าจะยิงตัวตายตั้งแต่เล็กๆ เป็นเพราะเธอเคยมีกรรมฆ่าตัวตายมาในอดีตหรือไม่ค่ะ  ถ้ามีจะแก้ไขได้อย่างไรคะ
 
11. คุณแม่ พี่สาว ตัวลูก น้องชาย เคยสร้างบุญและกรรม ร่วมกันมาอย่างไร และเคยสร้างบารมีกับหมู่คณะมาอย่างไรคะ โดยเฉพาะลูกกับคุณแม่เคยมีความสัมพันธ์อย่างไร เคยสัญญาสาบานอะไรกันไว้หรือไม่  ท่านจึงไม่อยากให้ลูกทิ้งท่านไปไหนคะ    จากการที่ลูกดูแลคุณแม่อย่างดี ลูกจะสามารถอธิษฐานจิตให้ไปอยู่ดุสิตบุรี ติดตามหลวงพ่อและหมู่คณะไปสร้างบารมี พอจะมีสิทธิ์ไหมคะ
 
 
หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ  ตื่นขึ้นมา หาว 1 ที
แล้วก็นำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากันนะจ๊ะ
 
1. คุณปู่กับเสือผาดไม่ได้มีกรรมกันมาในอดีต แต่เป็นกรรมปัจจุบันของเสือผาดที่ปล้นฆ่า และคุณปู่ก็ทำตามหน้าที่จ่ะ!  
 
 
  • ถ้าเสือผาดจองเวร  ภพต่อ ๆ ไปถ้าเจอกันกับคุณปู่  ก็จะตามฆ่าคุณปู่  
  • คุณปู่รู้ว่าตัวเองจะตายล่วงหน้า เพราะบุญที่ท่านทำงานตามหน้าที่อย่างซื่อสัตย์  และบุญที่ทำไว้ในพระพุทธศาสนา ได้บอกท่านหรือทำให้ท่านรู้สึกและคาดการณ์ได้จ่ะ!  
 
 
  • ตายแล้วก็ไปเป็นเทพบุตรมีวิมานทองของชั้น “จาตุมหาราชิกา สายกุมภัณฑ์ชั้นสูง” จ่ะ!
 
 
2. คุณย่า ท่านปฏิบัติธรรมจนเห็นกายละเอียดของตัวเองจริงจ่ะ!    
  • อานิสงส์ในการรักษาศีล  8  แม้ท่านจะอายุมากแล้ว ก็จะส่งผลให้ท่านจะมี  รูปสมบัติ , ทรัพย์สมบัติ , คุณสมบัติ  และเนกขัมมะบารมีติดตัวไป ซึ่งจะทำให้ท่านเกิดเป็นผู้ชายในภพชาติใดชาติหนึ่ง เป็นต้นจ่ะ!  
 
 
  • ท่านเสียชีวิตด้วย “โรคหัวใจ” เพราะท่านหมดอายุขัย  ,  ส่วนที่เป็นโรคหัวใจ  เพราะ  ในอดีต  ท่านใช้แรงงานทาสกับแรงงานสัตว์มากเกินไป  จนไม่ค่อยมีเวลาพักผ่อน  
 
 
  • ตายแล้ว ก็ไปเป็นเทพธิดามีวิมานทองของชั้น “ดุสิตบุรีวงบุญพิเศษ เขตเสบียง” จ่ะ!  

                   

 
 
3. คุณตาถูกฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง “อุ้มเอาไปฆ่า” จ่ะ! ตายแล้วใหม่ ๆ ท่านก็เดินโซซัดโซเซกลับมาที่บ้าน แต่คุยกับใครไม่รู้เรื่อง จึงวนเวียนอยู่ระยะหนึ่ง
 
 
  • ต่อมาได้รับบุญที่อุทิศไปให้บวกกับบุญที่ท่านสั่งสมมา ทำให้ภายหลังท่านได้ไปเกิดเป็น “มนุษย์” แล้วจ่ะ!
 
 
4. คุณยายลำบากอยู่ช่วงหนึ่ง ภายหลังจากที่คุณตาตายไปแล้ว และใช้สมบัติของคุณตาไม่ได้     เพราะ  ...ในอดีตท่าน  เคยทำบุญแล้วเกิดเสียดายในภายหลังจ่ะ!  จึงทำให้มีสมบัติแต่ใช้ไม่ได้อยู่ระยะหนึ่งจ่ะ!   
 
 
  • ท่าน “หัวใจวาย” และอายุสั้น เพราะในอดีตท่านเคยสั่งฆ่าสัตว์ใหญ่บ่อย ๆ  เพื่อทำอาหารเลี้ยงแขกเหรื่อ มาส่งผลจ่ะ!    
  • ตายแล้วก็ไปเป็น “ภุมมเทวา” ระดับทั่วไปจ่ะ!  
  • ได้รับบุญที่อุทิศไปให้  จึงทำให้มีสภาพดีขึ้นจ่ะ!
 
 
5. คุณแม่มีอาการติดเชื้อทางกระแสโลหิต  และทางเดินปัสสาวะ  ,  ไวรัสกินประสาทส่วนหลัง  จนไม่สามารถเคลื่อนไหวได้เอง , เป็นโรคทางเดินหายใจ ทำให้กล้ามเนื้อที่ช่วยหายใจอ่อนแรงจนเกือบเสียชีวิต   
 
 
  • เพราะ  ...กรรมในอดีต  ชาติหนึ่ง เป็นเศรษฐีในสังคมเกษตรกรรม  มีคอก “ปศุสัตว์” ใหญ่  ,  ได้สั่งจับ “มัดสัตว์”  เพื่อส่งไปขายให้เขาฆ่าทำเป็นอาหารเป็นจำนวนมาก  มาส่งผลจ่ะ!    
 
 
  • ที่รอดมาได้  เพราะ  บุญที่ได้ทำไว้ในพระพุทธศาสนา และบุญที่ได้ช่วยสงเคราะห์ในสาธารณะกุศลต่าง ๆ  และบุญที่ตัวท่านและลูก ๆ ทำกับหมู่คณะอย่างเต็มที่มาช่วยไว้จ่ะ!
 
 
6. น้องชายฝันเห็น “ชายนุ่งผ้าแดง” ก็เป็นแค่จิตนิวรณ์เท่านั้นจ่ะ!
 
 
7. คนเป็นโรคสุกใสและเป็นกันเกือบทุกคนนั้นมักจะเป็น...กรรมบี้มดตบยุงฆ่าสัตว์เล็ก ๆ น้อยติดตัวมาจ่ะ!  
 
 
  • สำหรับตัวลูกเองที่เป็นสุกใสแล้วถ่ายท้อง อาเจียนออกมาเป็นเลือดสด ๆ เพราะ  ...กรรมในอดีตชาติ  ลูกเคยวางยาประเภทเดียวกับ “สลอด”  กับคนที่ทะเลาะกันจนทำให้เขาอาเจียน และถ่ายอย่างหนัก มาส่งผลจ่ะ!
 
8. ที่ลูกฝันเห็น “คุณยาย” และ “คุณทวด” นั้น     ก็เป็นจิตนิวรณ์จ่ะ!  
  •  “คุณทวด” ตายแล้วก็ไปเป็น “ภุมมเทวา” ระดับธรรมดาจ่ะ!  
  • ได้รับบุญที่อุทิศส่วนกุศลไปให้แล้ว  ทำให้ท่านมีสภาพที่ดีขึ้นเช่นเดียวกับคุณยาย  โดยอยู่ในหมู่บ้านภุมมเทวาเดียวกันจ่ะ!
 
 
9. พี่สาวและตัวลูก ประสบอุบัติเหตุในเวลาไล่เลี่ยกัน แต่ต่างสถานที่กัน เพราะ ...ต่างก็มีกรรมเป็นส่วนตัว และมาส่งผลในเวลาไล่เลี่ยกันจ่ะ!  

 
  • ตัวลูกในอดีต ก็เคยแกล้งผลักเพื่อนเล่นในวัยเด็ก จนหกล้มจมูกหัก วิบากกรรมนี้ตามมาส่งผลจ่ะ!
  • พี่สาวก็มีกรรมคล้ายคุณแม่ ที่จับสัตว์มัดขาย แต่ว่าน้อยกว่าจ่ะ! ตามมาส่งผล
 
 
10. ที่ “หลานสาว” บอกว่าจะยิงตัวตายตั้งแต่เล็ก ๆ เพราะ ...เด็กเลียนแบบสื่อสีเทาเท่านั้นจ่ะ!  
  • จะแก้ไขก็ให้ดูสื่อสีขาวและสั่งสมบุญตั้งแต่ยังเยาว์วัย เพื่อให้ใจผูกพันกับบุญจ่ะ!
 
 
11. คุณแม่ , พี่สาว , ตัวลูกและน้องชาย  ก็เคยสร้างบุญมากับหมู่คณะ โดยเป็น “กองเสบียง”

 
  • ลูกกับคุณแม่ที่มีความผูกพันกันในปัจจุบัน จนท่านไม่อยากให้ลูกไปไหน  เพราะลูกดูแลท่านดีกว่าผู้อื่น  ในยามที่ท่านเจ็บป่วยจ่ะ!  ไม่ได้สาบานอะไรกันมา
 
  • ชาตินี้มาเจอกันอีก ก็ให้ตั้งใจสร้างบารมีให้เต็มที่ในทุกบุญแล้วอธิษฐานจิต ตามติดไปดุสิตบุรีวงบุญพิเศษเขตบรมโพธิสัตว์อย่าได้พลัดกันเลยจ่ะ!
 


Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
เจ้าเมืองไปเกิดเป็นพญานาคเจ้าเมืองไปเกิดเป็นพญานาค

นักบุญ - นักธุรกิจนักบุญ - นักธุรกิจ

สังขารดับ แต่ใจยังอาวรณ์สังขารดับ แต่ใจยังอาวรณ์



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

กรณีศึกษากฎแห่งกรรม