ยิ่งมองยิ่งงาม ตอนที่ 4


[ 8 ต.ค. 2548 ] - [ 18302 ] LINE it!

CASE STUDY
ยิ่งมองยิ่งงามตอนที่ 4
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ทาง DMC
 
 
กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูงค่ะ
   
    ลูก คือลูกหลานแท้ๆ ของหลวงปู่ ที่ขออนุญาตส่งเรื่องราวของท่านมาอีกเป็นครั้งที่ 4 ค่ะ เพราะหลังจากที่ลูกฟังเฉลยเรื่องราวจากภพอดีตในครั้งที่ผ่านๆมาแล้ว ยิ่งทำให้ลูกซาบซึ้งถึงประวัติการสร้างบารมีของหลวงปู่  จนเกิดแรงบันดาลใจ สามารถนึกถึงเรื่องราวอันทรงคุณค่าของท่าน และบุคคลสำคัญที่เกี่ยวข้องกับท่าน  ที่ลูกเคยได้อ่านและได้ฟังมา    ลูกจะขอเล่าดังต่อไปนี้ค่ะ
   
    คุณยายทองสุข  สำแดงปั้น ท่านมีต้นตระกูลทางแม่เป็นเชื้อเจ้าในวัง พ่อเป็นลูกมหาเศรษฐีแถวหัวลำโพง มีที่ดินและเงินทองมากถึงขนาดต้องเอาทองคำใส่ไว้ในกระจาด และเอาเงินตวงใส่กระบุง แม้แต่ขันใส่ข้าวตักบาตรยังทำด้วยทองคำแท้ๆ คุณยายทองสุขมีชีวิตอยู่อย่างมีความสุขอย่างนี้จนกระทั่งอายุ 5 ขวบ ก็เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญที่ทำให้ชีวิตต้องพลิกผันคือ พ่อแม่ของท่านเสียชีวิต ทำให้ญาติพี่น้องต่างก็เอากะลามาตักเงิน  ขนทอง ขนเสื้อผ้า เอาสมบัติไปจนหมด นับจากนั้นคุณยายทองสุขก็มีชีวิตที่ระหกระเหินไปอยู่กับคนโน้นทีคนนี้ที ต้องตรากตรำลำบากทำงานบ้านให้กับคนที่ไปอาศัยอยู่ด้วยตั้งแต่เด็กๆ แถมโดนแกล้งโดนเอาเปรียบอะไรก็ปริปากบ่นไม่ได้เลย จนกระทั่งคิดน้อยเนื้อต่ำใจ หาทางออกให้กับชีวิต โดยการไปผูกคอตาย แต่ระหว่างเดินไป ลูกของอา เห็น จึงได้ถามขึ้นว่า “จะไปไหน…” ท่านตอบกลับว่า “เราจะไปผูกคอตาย เรา...มันไม่รวยเหมือนกับเจ้านี่ เจ้า...น่ะ ร่ำรวยกินก็เป็นสุข นอนก็เป็นสุข ข้าทาสชายหญิงก็มีใช้ เรานี้...ยากจน ต้องกินต้องนอนอยู่ใต้ถุน” พอลูกขออาฟังอย่างนี้ เกิดสงสารจึงยื่นเงินให้ 1 บาท แล้วบอกว่า เอ็งอย่าไปฆ่าตัวตายเลย เพราะมันจะตกนรก
   
    จากนั้นคุณยายทองสุขจึงได้มาอยู่กับอา และได้แต่งงานกับศัลยแพทย์โรงพยาบาลจุฬาฯ มีลูกด้วยกัน 2 คน แต่ไม่นานนัก สามีก็ตายจากท่านไปอีก ภาระเลี้ยงลูกเล็กๆทั้ง   2 คน จึงต้องตกอยู่กับท่าน ทั้งๆที่เงินทองก็ไม่มี จนผู้อำนวยการโรงพยาบาลสงสารเลยรับให้มาทำงานในโรงพยาบาล แต่รายได้ก็ยังไม่พอใช้ ท่านจึงออกมาค้าขายมะพร้าว จึงเป็นเหตุให้ท่านได้ยินกิติศัพท์ของหลวงปู่ จึงได้มากราบท่าน และได้มาเรียนสมาธิ แต่ก็ไม่ก้าวหน้าเอาเลย จนกระทั่งเพื่อนที่เรียนสมาธิรุ่นเดียวกันได้ธรรมะกันหมด
   
    ท่านจึงรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจคิดว่า ตัวเองมันบาปหนาที่ไม่ได้ธรรมะกับเขาสักที จึงโมโหไปเก็บกระโถนในวัดปากน้ำทั้งวัดมาขัด ขัดไปก็บ่นไปว่า “กิเลสมันหนามากนัก ขัดมันเสียบ้างเจ็บใจนัก ใครๆ เขาก็ได้กันหมด..เหลือคนเดียว เจ็บใจต้องขัดมันออกไปเสียไอ้กิเลสนี่ ...” พอขัดเสร็จมาตรึกธรรมะ จนกระทั่งเข้าถึงธรรมกายในที่สุด แล้วได้มาบวชอยู่วัดปากน้ำ ต่อวิชชากับหลวงปู่ , ตอนที่อยู่วัดปากน้ำ คุณยายทองสุขต้องเข้าเวรทำวิชชากะดึก ซึ่งท่านก็เชี่ยวมากสามารถไปนรกไปสวรรค์ได้คล่องแคล่ว เมื่อหลวงปู่ให้ลองวิชชาอะไรใหม่ๆ ท่านจะเป็นคนแรกที่อาสาลองทุกครั้ง เช่นเรียนวิชชาแปลงเพศ ซึ่งท่านก็ทำสำเร็จจริงๆค่ะ    ท่านสามารถทำจันทรคราส ดับเดือน ดับดาวได้เก่งมาก โดยดวงดาวดวงไหนจะเป็นภัยต่อมนุษย์ ท่านจะทำวิชชาดับมัน ท่านทำในเหตุ ดับในเหตุ ทำต่อเนื่องกันมา แม้จะมีอีกกี่แสนกี่หมื่นชาติท่านก็ทำ...
   
    คุณยายทองสุข เป็นมือเผยแผ่วิชชามือ1 ของหลวงปู่ เพราะนอกจากเชี่ยวชาญในวิชชาธรรมกายแล้ว เมื่อใดที่หลวงปู่ส่งท่านไปเผยแผ่ในสถานที่ต่างๆ ลูกศิษย์ลูกหาท่านจะเยอะมากๆ และท่านยังเป็นคนสำคัญ เป็นอาจารย์คนแรกที่สอนธรรมะให้กับคุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง และเป็นผู้พาคุณยายมาพบกับหลวงปู่ 
   
    หลังจากได้ศึกษาประวัติของหลวงปู่แล้ว ทำให้ลูกนึกถึงบุคคลสำคัญที่เกี่ยวเนื่องกับท่านอีกคนหนึ่ง คือ ลุงประยูร  สุนทารา ที่มีตำแหน่งเป็น ไวยาวัจกรของวัดปากน้ำ ก่อนหน้านั้น ลุงประยูรทำงานเป็นกองคลังของอัยการมณฑล ต่อมาได้ลาออกมาอยู่ที่บ้านพระภิรมย์ราชาซึ่งอยู่ตรงข้ามวัดปากน้ำ จึงได้มีโอกาสเข้ามาช่วยเหลืองานหลวงปู่หลายอย่าง ตอนที่หลวงปู่เดินตรวจวัดปากน้ำตอนเช้ามืด จะมีลุงประยูรเดินตามมาด้วยแทบทุกครั้ง  ลุงประยูรทำหน้าที่การเงินและบัญชีทั้งหมดเป็นระยะเวลายาวนานถึง 30 ปีเพราะลุงประยูรมีนิสัยที่ซื่อตรงสุจริตและทุ่มเทงานมาก บางทีทำบัญชีจนไม่ได้หลับได้นอน ต่อมาในช่วงบั้นปลายชีวิต ท่านเป็นลมบ่อย และเป็นโรคความดัน จึงขอลาพัก และได้หันมาปฏิบัติธรรมอย่างจริงจังจนสามารถเข้าถึงพระธรรมกายได้ในที่สุด
   
    ป้าอู๊ด ซึ่งเป็นน้องสะใภ้ของหลวงปู่ ท่านเป็นคนมีความเลื่อมใสในหลวงปู่และวิชชาธรรมกายมาก ท่านทำบุญตักบาตรทุกเช้า แต่มีอยู่ช่วงหนึ่ง ท่านล้มป่วยหนักเป็นฝีที่ท้องขนาดใหญ่มาก มีอาการเจ็บปวดทรมานปางตาย จนต้องให้คนแจวเรือเข้ากรุงเทพ เพื่อไปผ่าตัด ระหว่างทางทรมานจนคิดว่าไม่รอดแน่ๆ ท่านจึงได้นึกถึงหลวงปู่ และนอนทำภาวนาสัมมาอะระหังไปเรื่อยๆ แล้วอยู่ๆ ท่านก็เห็นภาพหลวงปู่มาอยู่ที่บนหัวนอน คอยโบกมือปัดให้ท่านหาย พอหลวงปู่ปัด ท่านก็รู้สึกหายทรมานขึ้นมาทันทีอย่างไม่น่าเชื่อ ท่านเห็นอย่างนี้ไปตลอดทางจนกระทั่งถึงมือหมอ และได้รับการผ่าตัดจนกระทั่งรอดชีวิต และหลังจากนั้นท่านก็เสียชีวิตด้วยโรคชราจากไปด้วยอายุได้ 80 ปีเจ้าค่ะ
   
    มีอีกเรื่องหนึ่งค่ะ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเมตตาของหลวงปู่ ที่เป็นห่วงลูกหลานอย่างมาก และแสดงให้เห็นถึงคำพูดของหลวงปู่ที่ศักดิ์สิทธิ์มากๆ พูดคำไหนคำนั้นไม่มีเปลี่ยนแปลง ซึ่งลูกเห็นมาหลายรายแล้ว ดังเรื่องของ แม่ชีท่านหนึ่ง ที่ลูกกำลังจะเล่าต่อไปนี้ค่ะ แม่ชีท่านนี้ ท่านเป็นหลานแท้ๆของหลวงปู่ ซึ่งลูกเองก็รู้จักท่านดี ท่านได้เข้าวัดปากน้ำตั้งแต่เด็กๆ หลวงปู่จึงให้บวชชี ท่านนั่งสมาธิได้ดี ถึงขั้นทำวิชชาได้ ต่อมาพอโตเป็นสาว ท่านได้แอบหนีออกจากวัดไปเที่ยวและไปพักอาศัยกับเจ้าภาพใหญ่ของวัดปากน้ำ คงจะสนุกเลยทำให้รู้สึกอยากสึก ต่อมาหลวงปู่จับได้จึงทำโทษ และสั่งห้ามสึก เพราะสึกไปจะต้องลำบากเลือดตาแทบกระเด็น แต่ก็ห้ามไม่อยู่ค่ะ สุดท้ายแม่ชีท่านนี้ก็แอบสึกไปจริงๆ และไม่นานต่อมาท่านก็มีชีวิตที่ลำเค็ญจริงๆ ท่านไปได้สามีเป็นช่างเชื่อมเหล็กที่ขาเดินไม่ได้ และก็จนมากไม่ค่อยมีกิน ท่านต้องทำงานเก็บมะขามเทศเร่ขาย ท่านต้องเลี้ยงทั้งลูกทั้งสามี และบั้นปลายชีวิต ตาของท่านก็มองไม่เห็น ซึ่งปัจจุบันลูกได้ไปเยี่ยมและนั่งคุยกับท่าน ท่านบอกกับลูกว่า หากท่านเชื่อหลวงปู่ตั้งแต่ตอนนั้น ชีวิตท่านคงไม่ลำบากแบบนี้  ท่านบอกว่าที่ตัดสินใจผิดตอนนั้นเพราะมารมันแทรก...
   
    และลูกมีเรื่องราวอีกเรื่องหนึ่ง เกี่ยวกับสมบัติใต้แผ่นดินที่วัดสองพี่น้อง ซึ่งเป็นวัดที่หลวงปู่ได้บวชค่ะ คือในสมัยที่ หลวงพ่อเนียน ท่านเป็น เจ้าอาวาสที่วัดสองพี่น้อง นี้ มีเปรตเยอะมาก บางทีกลางคืนก็มาส่งเสียงร้องอย่างน่ากลัว บางทีก็มาปรากฏตัวให้เห็นยืนสูงลิบเหนือหลังคาโบสถ์ ท่านจึงต้องทำบุญอุทิศให้เป็นประจำ ซึ่งมีอยู่วันหนึ่ง อยู่ๆ ก็มีเสียงดังมาก ดังครืนๆ...เหมือนมีอะไรเคลื่อนไหวอยู่ใต้พื้นดินของโบสถ์ จากนั้นพื้นโบสถ์ก็ทรุดตัวลง จนหลังคาเอียง หลวงพ่อเนียนท่านบอกว่า เรือชะล่ามันเคลื่อน              (เรือชะล่าเป็นเรือท้องแบนชนิดหนึ่ง) ในเรือมีทองอยู่เต็ม แต่มันเคลื่อนไปที่อื่นแล้ว ซึ่งเป็นเรื่องที่เล่าขานมาจนถึงทุกวันนี้ค่ะ
 
ขอกราบเรียนถามพระเดชพระคุณหลวงพ่อดังนี้ค่ะ
 
1. บุญใดทำให้คุณยายทองสุขเกิดมาในตระกูลร่ำรวย แต่ภายหลังถูกเอาสมบัติไปหมดและมีชีวิตที่ลำบาก และคิดฆ่าตัวตาย และบุญใดที่ทำให้ลูกอามาทัก เลยไม่ได้ฆ่าตัวตาย คะ
 
2. ทำไมคุณยายทองสุขถึงเข้าถึงธรรมยากกว่าคนอื่นในรุ่นเดียวกัน  บุพกรรมใดทำให้ท่านต้องหงุดหงิดน้อยใจก่อนจะเข้าถึงธรรมคะ    แต่เมื่อเข้าถึงแล้วกลับเป็นผู้ที่มีวิชชาเชี่ยวชาญมาก
 
3. เมื่อตอนที่คุณยายทองสุขเรียนวิชชาดับดาว ทำไมดาวถึงเป็นโทษภัยต่อมนุษย์ได้คะ ดับแล้วจะเป็นอย่างไร
 
4. คุณยายทองสุขสร้างบารมีกับหลวงปู่มาอย่างไร ทำไมคุณยายทองสุขถึงเป็นกำลังหลักของหลวงปู่ในการเผยแผ่วิชชาธรรมกาย  ท่านมีผังในอดีตมาเป็นเช่นไร และทำไมท่านถึงมาเป็นมะเร็งปากมดลูก   ท่านใช้วิชชาธรรมกายช่วยตัวท่านอย่างไรคะ
 
5. ทำไมคุณยายทองสุขในชาตินี้ถึงได้เป็นอาจารย์ของคุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง ท่านทั้ง2สร้างบารมีกันมาอย่างไรในชาติก่อนคะ
 
6. ทำไมคุณยายทองสุขและคุณยายอาจารย์ ถึงได้บุญพิเศษเป็นผู้เริ่มต้นการบูชาข้าวพระ และในชาติก่อนๆ มีการบูชาข้าวพระแบบนี้หรือเปล่า
 
7. หลวงปู่ คุณยายทองสุข และคุณยายอาจารย์ฯ ท่านจะมาบังเกิดสร้างบารมีพร้อมกันในทุกชาติหรือไม่  มโนปณิธานที่ท่านจะรื้อสัตว์ขนสัตว์ไปสู่ฝั่งพระนิพพานให้หมด จะสำเร็จในชาติใด โดยวิธีการใดคะ
 
8. ตอนที่หลวงปู่ คุณยายทองสุข และคุณยายอาจารย์ ละสังขาร ท่านกลับดุสิตบุรีด้วยวิธีการใด ตอนนี้ท่านทำอะไรกันอยู่ และการที่ลูกหลานทำบุญบูชาท่าน บุญจะไปถึงท่านอย่างไรและบุญจะส่งผลมาถึงพวกเราอย่างไรคะ
 
9. ลุงประยูรชาติก่อนสร้างบุญอะไรมาถึงได้มาเป็นไวยาวัจกรของหลวงปู่ ท่านจะได้ทำหน้าที่นี้ทุกชาติไหมคะ ตอนนี้ท่านตายแล้วไปไหน และได้อานิสงส์จากการเป็นไวยาวัจกรอย่างไรบ้าง ชาติหน้าบุญนี้จะส่งผลกับท่านอย่างไร ท่านจะรวยมากไหมคะ  และบุพกรรมใดท่านถึงเข้าถึงธรรมตอนชรา
 
10. บุพกรรมใดที่ป้าอู๊ดเป็นฝีใหญ่ที่ท้อง ขณะท่านอยู่บนเรือแจวหลวงปู่ได้มาหาจริงหรือไม่ ทำไมถึงเห็นเช่นนั้น และที่หลวงปู่โบกมือพัดให้ท่านหาย หายได้อย่างไร ป้าอู๊ดตายแล้วไปไหน ท่านสร้างบารมีกับหลวงปู่มาอย่างไรคะ
 
11. แม่ชีที่เป็นญาติท่าน เคยสร้างบารมีกับหลวงปู่มาอย่างไร บุญอะไรที่ทำให้ได้บวชชีและทำวิชชากับหลวงปู่ตั้งแต่เล็ก และบุพกรรมใดท่านถึงออกจากวัด และต้องลำบากดังที่หลวงปู่บอกจริงๆ เป็นเพราะท่านทำผิดหน้าที่รึเปล่าค่ะ และท่านมีบุญพอจะได้กลับดุสิตบุรีไปหาหลวงปู่ไหมคะ
 
12. ที่วัดสองพี่น้องมีเปรตจริงหรือไม่ ก่อนมาเป็นเปรตได้ทำผิดอะไร และใต้โบสถ์มีสมบัติจริงหรือไม่ ทำไมต้องอยู่ในเรือชะล่า ถ้าจริง..สมบัติเป็นอะไรคะ เหตุใดสมบัติจึงเคลื่อนที่ไป เคลื่อนแล้วไปอยู่ที่ไหนคะ และทำไมหลวงพ่อเนียนถึงทราบเรื่องนี้คะ
    ส่วนตัวลูกเองเคยเป็นโรคกระดูกทับเส้นเดินไม่ได้อยู่ 3 เดือน ไปไหนต้องคลานไป เป็นเพราะบุพกรรมใดคะ จะกลับมาเป็นใหม่หรือไม่คะ                                 
 
 
ฝันในฝัน
 
หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ  ตื่นขึ้นมา หาว 1 ที
แล้วก็นำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากันนะจ๊ะ
 
1. คุณยาย “ทองสุก   สำแดงปั้น”   เกิดมาในตระกูลร่ำรวย แต่ภายหลังถูกเอาสมบัติไปหมดและมีชีวิตลำบาก   จนคิดฆ่าตัวตาย เพราะ  ...อดีตชาติ ๆ หนึ่ง  ท่านเป็นลูกชายเศรษฐี    ที่ค่อนข้าง เกเรมาก     เพราะถูกตามใจและได้รับการเลี้ยงดูอย่างดี     ดังนั้นท่านจึงเจ้าชู้มาก     อีกทั้งหล่อและรวยด้วย
 
 
  • ต่อมาบิดามารดาเสียชีวิตจึงได้รับมรดกสืบต่อมา     ได้ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย     จึงทำให้ทรัพย์ร่อยหรอลง  ,   วันหนึ่ง มีคนมาชวนสร้างศาลาประชาคม  ,   ท่านก็รับปากว่าจะทำ     แต่ตอนหลังเปลี่ยนใจเพราะเสียดายทรัพย์      ที่เหลือน้อย     
 

 
  • ต่อมาก็คิดหาทางเพิ่มทรัพย์    โดยได้ติดตามไป   ทวงหนี้สินของลูกหนี้เดิม     ซึ่งเคยบอกเขาว่าจะยกดอกเบี้ยให้    แต่ตอนหลังเปลี่ยนใจ    ไม่มีจ่ายก็ยึดบ้านเรือนเขาเลย
 
 
  • มีอยู่      รายหนึ่งพ่อแม่ลูกหนี้เสียชีวิต    เหลือแต่ลูกซึ่งอายุยังน้อยอยู่  ,     ท่านก็ไปริบทรัพย์เขา     จึงทำให้เด็กน้อยต้องลำบากระหกระเหินจากการริบทรัพย์สินในคราวนี้     จนคิดน้อยใจในชีวิต     คิดฆ่าตัวตาย แต่ก็ไม่ได้ฆ่า
 
  • ด้วยบุญเก่าที่เคยทำไว้     จึงทำให้ท่านเกิดในตระกูลร่ำรวย ในช่วงแรก     แต่วิบากกรรมตระหนี่ที่รับปากว่าจะทำศาลาประชาคมในตอนแรก     แต่เปลี่ยนใจภายหลัง     กับกรรมที่ไป   ยึดที่  ,  บ้าน  ของลูกหนี้หลายราย     จนมาถึงรายเด็กน้อยดังกล่าว       จึงทำให้ต่อมาภายหลังชีวิตลำบาก   จนคิดฆ่าตัวตาย
 
  • แต่มีบุญที่เคยทำกับหลวงปู่     และต้องมาทำหน้าที่ในกองทัพธรรมช่วยเอาไว้     จึงรอดตายเพราะลูกอามาทัก จ่ะ!
 
 
2. “คุณยายทองสุก   สำแดงปั้น”   เข้าถึงธรรมกายยากกว่าคนอื่นในรุ่นเดียวกัน    เพราะ ...กรรมในชาติที่เป็นลูกเศรษฐีในช่วงวัยกลางคน  ,  ได้มีกัลยาณมิตรมาชวนให้ปฏิบัติธรรมกับพระมหาเถระ  ,   แต่ตัวเองก็ไม่เชื่อ     แถมบอกว่าการเข้าถึงธรรมนั้น “มันยาก”     จะมีคนเข้าถึงธรรมจริงหรือ ?  ,  ไม่เชื่อว่า        พระมหาเถระนั้นบรรลุธรรมจริง   ,  ด้วยวิบากกรรมดังกล่าวมาส่งผล จ่ะ!

 
  • คุณยายทองสุกต้อง  หงุดหงิด  น้อยใจ     ก่อนจะเข้าถึงธรรมกาย แต่เมื่อเข้าถึงกลับมีวิชชาเชี่ยวชาญมาก   เพราะ  ...ในอดีตชาติ      ที่เป็นลูกเศรษฐี    มักจะพูดให้กัลยาณมิตรที่มาชวนไปปฏิบัติธรรมหงุดหงิดใจอยู่เรื่อย
 
 
  • ต่อมาก็ได้ไปหาพระมหาเถระหรือหลวงปู่ในชาตินั้น     ได้ลงมือปฏิบัติธรรมและได้เข้าถึงธรรมกายจนหายสงสัยและได้ออกบวช   ,  เมื่อบวชแล้วได้ทำวิชชากับเผยแผ่ธรรมะจนตลอดชีวิต     บุญนี้ได้ตามมาส่งผล จ่ะ !
 
 
3. คุณยายทองสุกเรียนวิชชา “ดับดาว”   เพราะทุกอย่างในจักรวาลมีความสัมพันธ์กัน    ทั้งโอกาสโลก , ขันธโลก , สัตว์โลก , ดวงอาทิตย์ , ดวงจันทร์ , ดวงดาว
 
 
  • โดยเฉพาะดาวบางดวงเป็นประดุจดังสถานีรับส่งกระแสบาปอกุศล     มาเชื่อมโยงกับใจมนุษย์ทำให้มีผลเป็นโทษกับมนุษย์  เช่น  เกิดข้าวยากหมากแพง  แห้งแล้งเหี้ยนเตียน  ฝนไม่ตกต้องตามฤดูกาล  ,  มนุษย์รบราฆ่าฟันกัน  , เกิดโรคภัยไข้เจ็บร้ายแรง  ,  เศรษฐกิจตกต่ำ  เป็นต้น    
 
 
  • หลวงปู่ท่านจึงสอนให้ดับดาวดวงนั้น  ,   โดยหลักการที่ว่า   ให้ไปดับที่ต้นเหตุที่ส่งกระแสบาปอกุศลผ่านมาทางดาวดวงนั้น  ,   เมื่อใดไปถึงต้นเหตุจริง ๆ   ,  ดับต้นเหตุนั้นได้   ,  ดาวก็จะดับไปจ่ะ !   ... เมื่อดับไปแล้ว ผลที่จะเกิดขึ้นกับมนุษย์ หนักก็จะเป็นเบา , เบาก็จะหาย จ่ะ!
 
 
4. คุณยาย “ทองสุก   สำแดงปั้น”   ท่านได้สร้างบารมีกับพระเดชพระคุณหลวงปู่มาอย่างต่อเนื่อง     ในรูปแบบต่าง ๆ  เช่นได้ออกบวช  ,  ได้ทำวิชชา  ,  ได้เทศน์สอนเผยแผ่ธรรมกายไปจนตลอดชีวิต     เมื่อเป็นผู้ชายก็บวชพระ  ,  เมื่อเป็นผู้หญิงก็บวชชี , บางชาติก็เป็นภิกษุณี   ผังนี้จึงติดตัวมา จ่ะ!

 
  • ท่านเป็น “มะเร็งปากมดลูก”   เพราะ  ...กรรมเจ้าชู้ในชาติที่เป็นผู้ชายในหลาย ๆ ชาติ  เช่น  ชาติที่เป็นลูกชายเศรษฐี  เป็นต้น จ่ะ! ...ท่านได้ทำวิชชาแก้ไขตนเองมาตลอด     แต่เนื่องจากวิบากกรรมมันหนาแน่น     จึงทำให้ท่านมีอายุขัยเพียง  63  ปี จ่ะ!
 
 
5. คุณยายทองสุก  สำแดงปั้น   กับคุณยายอาจารย์มหา-    รัตนอุบาสิกาจันทร์   ขนนกยูง    ทั้ง  2  ท่านได้สร้างบารมีร่วมกันมา โดยในชาติที่ท่านเป็นลูกชายเศรษฐี   ภายหลังจากได้บรรลุธรรมกายแล้ว     ก็ได้ไปชวนญาติผู้น้องซึ่งก็เป็นลูกชายเศรษฐี       ที่ทั้งหล่อและรวยเหมือนกัน     มาศึกษาปฏิบัติธรรมกับพระมหา-เถระ    
 
 
  • และในที่สุดก็ออกบวชด้วยกัน     ด้วยบุพกรรมนี้   ในชาตินี้ท่านจึงได้มาเป็นกัลยาณมิตรของคุณยายอาจารย์     และได้ออกบวชเป็นอุบาสิกาพร้อมกันอีก จ่ะ!
 
 
6. ที่คุณยายทองสุก   สำแดงปั้น   และคุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาจันทร์   ขนนกยูง   ได้บุญพิเศษที่เป็นจุดเริ่มต้นบูชา-ข้าวพระ    เพราะ  ...บุญเก่าในอดีต   ที่ท่านทำวิชชามาอย่างเชี่ยวชาญมานับภพนับชาติไม่ถ้วน     จึงทำให้ค้นพบบุญพิเศษนี้ได้ ...ซึ่งก็ได้ค้นพบวิธีบูชาข้าวพระดังนี้มาหลายชาติแล้ว จ่ะ!
 
 
7. หลวงปู่  ,  คุณยายทองสุก   สำแดงปั้น  ,  และคุณยายอาจารย์     ท่านได้มาทำวิชชาปราบมารกันมาตลอดเหมือนชาตินี้แหละ จ่ะ!    ...มโนปณิธานที่จะรื้อสัตว์ขนสัตว์ไปสู่ฝั่งพระนิพพาน  ให้หมดได้     ก็ต่อเมื่อไปถึงที่สุดแห่งธรรม จ่ะ!
 
 
8. หลวงปู่   เมื่อท่านกลับดุสิตบุรีวงบุญพิเศษ     ท่านก็จะกลับไปด้วยวิธีพิเศษอย่างสมเกียรติสง่างาม     โดยมีผู้มีบุญ , มีฤทธิ์ มีอานุภาพมากมายมหาศาลหนาแน่นมากกว่ามาก     มาอัญเชิญท่านกลับไป จ่ะ!

 
  • คุณยายทองสุก  สำแดงปั้น  และคุณยายอาจารย์   ก็เหมือนกันจ่ะ ! แต่ลดหลั่นกันลงมาตามกำลังบารมี ...ตอนนี้ท่านก็ได้เป็น “สมณเทวบุตร”     ได้กำลังทำวิชชาปราบมารอยู่ในวิมานของ “มหาสมณเทวบุตร”     พร้อมทีมงานของท่าน จ่ะ!   
 

  • การที่ลูกหลานทำบุญบูชาท่าน     ก็จะทำให้ได้บุญมาก    เพราะท่านได้อยู่ในอู่แห่งทะเลบุญอยู่ตลอดเวลา  เมื่อเราบูชาท่าน  ก็จะทำให้กระแสธารแห่งบุญจากพระนิพพานมาเชื่อมกายเรา จ่ะ!
 
9. ลุงประยูร ท่านก็เป็น “ขุนคลัง” คู่บุญของหลวงปู่มาตลอดไม่ว่าหลวงปู่จะอยู่ในฐานะไหนก็ตาม  เช่น  ท่านเป็นพระราชา  ,มหาเศรษฐี  หรือพระมหาเถระ จ่ะ!
 
 
  • ตายแล้วก็ไปนั่งธรรมะกับพระเดชพระคุณหลวงปู่อยู่ที่ดุสิตบุรีวงบุญพิเศษ จ่ะ!    ...อานิสงส์ของการเป็นขุนคลังแก้วของหลวงปู่   ก็มีมากมาย  ทั้งรูปสมบัติ , ทรัพย์สมบัติ  ,  คุณสมบัติ  และเข้าถึงธรรมกาย  เป็นต้น จ่ะ!
 
 
  • ท่านเข้าถึงธรรมตอนชรา   เพราะ  ...ท่านมี “ปลิโพธิ” จากการทำงานมาก     ทั้ง ๆ ที่บารมีท่านพร้อมจะเข้าถึงได้ตลอดเวลา  ,     เมื่อหมดเครื่องกังวลใจ   ก็เข้าถึงธรรม จ่ะ!   ท่านไม่ได้มีบุพกรรมใด
 
 
10. “ป้าอู๊ด”  เป็น “ฝีใหญ่ที่ท้อง”   เพราะ  ...กรรมฆ่าสัตว์ทำอาหารทั้งอดีตและปัจจุบัน   มาส่งผล จ่ะ!    ...ขณะท่านอยู่บนเรือแจว     กายละเอียดที่ปาฏิหาริย์จากการทำวิชชาของหลวงปู่     มาหาจริง ๆ จ่ะ!    ...ที่เห็นได้   เพราะ  ใจศรัทธาผูกพันกับหลวงปู่ จึงเห็นกายปาฏิหาริย์ของท่าน จ่ะ!

 
ตายแล้ว   ก็ไปอยู่ “ดุสิตบุรีวงบุญพิเศษเขตเสบียง”   ...ขณะนี้กำลังนั่งธรรมะในวิมานของ “มหาสมณะเทวบุตร” จ่ะ!
 
 
11. “แม่ชีที่เป็นญาติหลวงปู่”   ในอดีตเคยบวชเณรอยู่กับหลวงปู่     ในช่วงท้ายชีวิตของหลวงปู่   ได้หนีสึกตอนเป็นพระ คล้ายการหนีสึกในชาตินี้     หลังจากหลวงปู่สิ้นไปแล้ว  ,  เมื่อเป็นคฤหัสถ์ก็เกเร  ,  เจ้าชู้  และไม่ค่อยได้ทำทาน
 
 
  • ด้วยบุญเก่าที่เคยบวชอยู่กับท่าน     จึงได้มาเกิดเป็นญาติท่าน     และได้มาบวชเป็นชี ได้นั่งธรรมะตั้งแต่เด็ก  ,  แต่มาชาตินี้ธาตุธรรมอ่อนลงมาแล้ว       จึงทำให้เข้าสู่วงจรเดิม   และหนีสึกเร็วขึ้น
 

 
  • และมีชีวิตลำบากเพราะทำทานมาน้อย   ,  มีกรรมเจ้าชู้   จึงต้องมาเป็นผู้หญิง จ่ะ!    ...ส่วนจะได้กลับดุสิตบุรีหรือไม่     ก็แล้วแต่ใจมีกำลังของกุศลธรรมได้ถึงหรือไม่  ,  ถ้าถึงก็ไปได้ จ่ะ!  
 
 
12. ที่วัดสองพี่น้องมี “เปรต” จริง จ่ะ!    ...มีทั้งเปรตพระ     ที่ไม่ได้ตั้งใจรักษาศีลให้ดี     เพียงแต่อาศัยวัดและหลงลาภสักการะ ตายแล้วก็มาเป็นเปรตเฝ้าวัด  ,   กับ “เปรตโยม” ที่เคยเอาของวัดไป
 
 
  • ใต้โบสถ์มีสมบัติโบราณจริง ๆ จ่ะ!     เป็นเรือที่จมอยู่ตอนที่คลองสองพี่น้องยังเป็นแม่น้ำใหญ่กว่านี้ จ่ะ!     ...มีทั้งแก้วแหวนเงินทอง  ,  ถ้วยโถโอชาม  เป็นต้น จ่ะ!
 
  • สมบัตินี้ได้เคลื่อนไปแล้วเป็นระยะทุก ๆ ปี จ่ะ!  ...ที่เคลื่อนเพราะกายละเอียดที่เฝ้าสมบัติเขาลากไป    เพราะวิบากกรรม      หวงแหนสมบัติในเรือของตน จ่ะ!  ... หลวงพ่อเนียนทราบเรื่องนี้จากความรู้สึกของท่าน     และความรู้ที่เคยได้ยินได้ฟังมา จ่ะ!
 
13. ตัวลูกเป็น “กระดูกทับเส้น ไปไหนไม่ได้ถึง  3  เดือน  ต้องคลาน”   เพราะวิบากกรรมในพุทธันดรที่ผ่านมา  ได้มาส่งผล
 
 
  • คือในชาตินั้นลูกได้เป็น “คุณหนู”  ดอกฟ้า  ลูกมหาเศรษฐีที่สุดแสนจะสุขุมาลชาติ  ,   อีกทั้งโสภาสง่างามเฉิดฉาย  ,  ครั้งหนึ่งเคยลงโทษ  “ล่าม” บริวารที่ทำขัดใจตัวเอง    เพราะหงุดหงิดใจที่บริวารคนนี้มักจะหายไปไหนก็ไม่รู้  ,  หาตัวก็ไม่ค่อยเจอ  ,  จึงรำคาญ    ได้ล่ามโซ่ไว้เป็นเวลา  3  เดือนจ่ะ !   ...และได้เคยสั่งล่ามเขาไว้หลายครั้ง  ,  ดังนั้นอย่าประมาท  มันอาจจะกลับมาใหม่ได้
 
 
ลูกจึงควรสั่งสมบุญทุกบุญ  ทั้งทาน  ,ศีล ,  ภาวนา ไว้ให้มาก ๆ     แล้วอุทิศบุญกุศลไปให้ผู้ที่ลูกเคยไปเบียดเบียนเขามา     ก็จะทำให้หนักเป็นเบา  เบาเป็นหาย  จ่ะ!

 
 


Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
เจ้าเมืองไปเกิดเป็นพญานาคเจ้าเมืองไปเกิดเป็นพญานาค

นักบุญ - นักธุรกิจนักบุญ - นักธุรกิจ

สังขารดับ แต่ใจยังอาวรณ์สังขารดับ แต่ใจยังอาวรณ์



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

กรณีศึกษากฎแห่งกรรม