เขาถามเธอว่า ชาวพุทธเขาไม่สอนให้เข้าวัดกันหรือ

View this page in: English

CASE STUDY

เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ทาง DMC

กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง

ผมเป็นชาวอิรักได้มารู้จัก DMC จากคนไทย เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2548 ซึ่งตอนนั้นใจผมที่กำลังห่อเหี่ยว หมดหวัง มีแต่ความทุกข์ กังวล แต่ครั้งแรกที่ผมได้เห็นหลวงพ่อคุณครูไม่ใหญ่นั้น แม้ผมยังไม่รู้ว่าท่านคือใคร ยังไม่เข้าใจความหมายที่ท่านพูด แต่แค่เห็นใบหน้าของท่าน ผมกลับรู้สึกมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก คลายความโศกเศร้าอย่างอัศจรรย์ ผมเห็นหลวงพ่อสว่างมากมีรัศมี ตอนนี้ผมทราบว่าหลวงพ่อเป็นผู้ให้ความเข้าใจเรื่องกฎแห่งกรรมได้อย่างดีเยี่ยม ผมจึงขอเขียนเรียนถามหลวงพ่อครับ

ครอบครัวของผมเป็นชาวอิรัก พ่อแม่มีลูก 15 คน แต่เสียชีวิตจนเหลือ 8 คน หญิง 4 คน ชาย 4 คน ผมเป็นลูกชายคนที่ 5

คุณพ่อของผม เป็นคนนิสัยดี มีน้ำใจช่วยเหลือคนอื่น ท่านนับถือศาสนาอิสลามเคร่งครัดมาก ไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ละหมาดวันละ 5 เวลา และก่อนละหมาดนั้น ท่านจะต้องทำความสะอาดล้างมือล้างหน้าก่อนทุกครั้ง ถ้าไปมัสยิดก็ต้องอาบน้ำทำความสะอาดร่างกายก่อน คุณพ่อเป็นต้นแบบปฏิบัติพิธีทางศาสนาให้แก่ลูกๆดูเป็นตัวอย่าง และสอนให้ลูกทุกคนเป็นคนดีด้วย นอกจากนี้คุณพ่อก็ยังเป็นหลักในการทำมาหากินเลี้ยงครอบครัว ท่านมีอาชีพขุดเจาะบ่อน้ำมัน ซึ่งมีรายได้ดีมากในช่วงนั้น ทำให้ฐานะของครอบครัวไม่อดอยาก จนปี 2523 ทางรัฐบาลทำสงครามในประเทศ ซึ่งหากครอบครัวไหนไม่เห็นด้วยกับศาสนาของรัฐบาล หัวหน้าครอบครัวจะถูกตัดคอ และปีนั้นก็มีคนตายกว่า 2 ล้านคน 1 ในนั้นก็คือพ่อผม

คุณแม่ของผม เป็นลูกพี่ลูกน้องของคุณพ่อ ซึ่งทางศาสนาบังคับให้ญาติแต่งงานกันเอง คุณแม่ถูกญาติผู้ใหญ่ให้หมั้นกับคุณพ่อ ตั้งแต่คุณแม่ยังเด็กๆ แม้โตขึ้นทั้งสองจะรักหรือไม่รักยังไงก็ต้องแต่งงานกัน ซึ่งมีเหตุการณ์ที่บางครอบครัว ลูกสาวไปรักกับคนที่ไม่ได้หมั้นหมาย หรือไปแต่งงานกับศาสนาอื่นหรือศาสนาเดียวกันแต่คนละนิกาย โทษของเธอก็คือถูกฆ่าทิ้ง เพราะถือว่าเธอทำให้ครอบครัวสกปรก การฆ่าเธอทิ้งจึงถือว่าเป็นเพียงการทำให้บ้านสะอาด แต่คุณแม่เป็นคนเคร่งศาสนา เชื่อฟังพ่อแม่ เมื่อท่านอายุได้18 ปี ก็เข้าพิธีแต่งงานกับคุณพ่อ ซึ่งขณะนั้นคุณพ่อมีอายุ 26 ปี ห่างกันถึง 8 ปี แต่พออยู่กินด้วยกันแล้ว ท่านทั้งสองก็รักกันมาก เลี้ยงดูลูกๆ ทุกคนไม่ให้อดอยาก คุณพ่อมีความรับผิดชอบต่อครอบครัวสูง ให้คุณแม่เป็นแม่บ้านแม่ศรีเรือน ไม่ให้ออกไปทำงานนอกบ้าน ให้คอยดูแลลูกๆ เพียงอย่างเดียว

แต่พอเกิดสงคราม คุณพ่อก็ถูกทางการจับไปตัดคอ ทำให้ลูกตัวเล็กๆหลายคนรวมถึงคุณแม่ ต้องถูกทางการสั่งให้เวียนกันเข้าออกคุกทุก 3 เดือน อยู่กินอย่างอดๆอยากๆ ลูกบางคนก็ตายไปในที่สุด ซึ่งเหตุการณ์เลวร้ายต่าง ๆ ได้ถาโถมเข้าไปในจิตใจของคุณแม่ นับตั้งแต่สามี และลูก 7 คน รวมทั้งญาติหลายคนต้องมาตายจากไป ซ้ำร้ายประเทศชาติบ้านเมืองก็ระส่ำระสาย ประชาชนอยู่ไม่เป็นสุข ทหารถือปืนเดินกันเกลื่อนกลาด จับผู้คนไปทำร้ายและขังคุกเป็นว่าเล่น คนดีในอิรักต้องมาตายหรือหนีออกไปหมด คุณแม่กลายเป็นคนซึมเศร้าหงอยเหงาร้องไห้เสียใจตลอดเวลา แต่ทุกวันนี้ท่านดูสดใสขึ้น เพราะผมได้หาทางช่วยเหลือครอบครัว โดยการเปิดร้านซ่อมรถให้พี่น้องมีรายได้เข้ามาบ้าง และผมก็ส่งเงินให้คุณแม่ใช้ทุกเดือน คุณแม่จึงรักผมมากที่สุด ขณะนี้ท่านมีอายุ 62 ปี

ภรรยาของผม เป็นชาวอิรักนับถือศาสนาอิสลาม เธอเคร่งครัดในศาสนามาก เป็นลูกพี่ลูกน้องของผมเอง ซึ่งก่อนแต่งงานทางพ่อแม่ได้หมั้นหมายเธอไว้ให้กับผม กอปรกับเธอและผมก็รู้จักคุ้นเคยกันมาก่อน และยังเคยพูดคุยเรื่องแต่งงานด้วยกันในสมัยเด็กๆ ซึ่งในตอนนั้นเธอก็พูดกับผมว่า “ฉันจะแต่งงานกับเธอคนเดียวเท่านั้น ถ้าไม่มีเธอ ฉันจะไม่ยอมแต่งงานกับใครเลย” คำพูดนี้ติดตรึงอยู่ในหัวใจของผมไม่ลืมเลือน ต่อมาเมื่อเธออายุ 23 ปี ผมอายุ 28 ปี ก็เข้าพิธีแต่งงานกันที่ประเทศอิหร่าน แต่เรามาอยู่กินด้วยกันที่ประเทศเดนมาร์ก มีลูกด้วยกัน 3 คน หญิง 2 คน ชาย 1 คน ลูกคนโตนั้นเป็นผู้หญิง ลูกคนนี้จะเจ็บป่วยบ่อยๆ อีกทั้งหูข้างซ้ายไม่ค่อยได้ยินมาตั้งแต่เกิด และอาการป่วยที่ลูกสาวเป็น หมอก็หาสาเหตุไม่เจอ ซึ่งภรรยาและผมก็หนักอกหนักใจมาก แต่ผมดูเหมือนจะหนักใจมากกว่า เพราะภรรยามีกระจิตกระใจอยากจะไปอยู่แต่ประเทศอิรัก ซึ่งหนึ่งปีเธอจะไป 5 - 10 ครั้งเป็นอย่างน้อย และเธอก็ให้เหตุผลกับผมว่า “ฉันเหงา ฉันคิดถึงพ่อแม่พี่น้อง ฉันอยากกลับอิรัก เพราะฉันอบอุ่น” ทุกวันนี้เธอก็พาลูกๆไปอยู่ที่อิรักสลับกับอยู่กับผม ครั้งละประมาณ 1 เดือนครึ่ง และผมก็คิดว่า จะปลูกบ้านที่อิรักให้เธอไว้อยู่ เวลาเธอกลับไปที่นั่นช่วงเดือนครึ่ง แต่ผมจะอยู่ที่เดนมาร์กกับลูกๆเพื่อให้ลูกได้เรียนหนังสือด้วย ซึ่งภรรยาผมก็รู้สึกเห็นด้วยกับความคิดนี้

ตัวผมเอง นับถือศาสนาอิสลามตามบรรพบุรุษ ต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ทำละหมาดวันละ 5 เวลา แต่ผมก็ไม่ได้มีความสุขเลยผมไม่เข้าใจว่า “ทำไมต้องมีการทำสงครามเข่นฆ่ากันเอง?” ซึ่งความโหดร้ายเยี่ยงนี้เกิดขึ้นในบ้านเมืองของผม และผมก็เจอแต่ความโหดร้ายของสงคราม มาตั้งแต่อายุ 14 ปี ต้องเวียนเข้าออกคุกกับพี่น้องทุกๆ 3 เดือน พบกับความอดๆอยากๆ ต้องทำงานหาเงินมาเลี้ยงครอบครัว ผมต้องรับภาระเป็นหัวหน้าครอบครัวแทนพ่อที่ตายไปแล้วทุกอย่าง

และต่อมาในปี 2534 ผมอายุ 21 ปี อิรักก็ทำสงครามอีกครั้ง ซึ่งสงครามคราวนั้น บ้านเมืองระส่ำระสาย ผู้คนหลบหนีไปเป็นผู้ลี้ภัยอยู่ชายแดนคูเวต ตัวผมก็ชวนญาติๆทั้งแม่ พี่น้องให้หลบหนีไปที่นั่นด้วย แต่ไม่มีใครกล้าไปเพราะกลัวจะถูกฆ่าตายระหว่างทาง แต่ผมได้เสี่ยงกล้าตายมากับผู้ลี้ภัยอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งในระหว่างทางก็มีคนถูกยิงตายไปหลายคน ส่วนคนที่เหลือก็หลบๆซ่อนๆ หนีวิถีกระสุนปืนไปได้อย่างเฉียดฉิวและถึงจุดหมายในที่สุด ผมไม่เข้าใจว่า “ทำไมต้องมีการทำสงครามเข่นฆ่ากันเอง?”

จินตนาการดูสิ ...ลองสมมุติว่าไม่มีการแบ่งแยก... ไม่มีพรมแดน..ไม่มีการเข่นฆ่า...

ไม่มีการเสียชีวิต... ทุกผู้คนใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างสันติ...ลองจินตนาการดูซิ..

ผมว่ามันไม่ยากเกินกว่าที่เราจะทำได้ พอผมหนีมาเป็นผู้ลี้ภัยอยู่ชายแดนคูเวต ในเต็นท์ทหารค่ายอพยพ ซึ่งในหน้าร้อนอากาศขึ้นสูงถึง 50 องศาเซลเซียส ผมทำอะไรไม่ได้เลยได้แต่กินกับนอน อยู่ที่นั่นถึง 7 ปี แล้วผมก็ได้ย้ายมาที่เดนมาร์กเมื่ออายุ 28 ปี จากนั้นก็เข้าเรียนภาษาเดนมาร์กในโรงเรียนแห่งหนึ่ง ณ ที่แห่งนี้ ทำให้ผมพบผู้หญิงต่างชาติคนหนึ่งซึ่งครั้งแรกที่พบเธอผมก็อยากจะทักเธอมาก จึงตัดสินใจเข้าไปถามเธอทันทีว่า “คุณเป็นไทยพุทธหรือมุสลิม” เธอตอบว่า “เป็นพุทธ” ผมบอกเธอว่า“ผมเคยได้ยินคำว่าศาสนาพุทธครั้งแรกตอนที่ผมอยู่อิรัก ผมอยากรู้ว่าคำสอนของศาสนาพุทธคืออะไร?” เธอตอบว่า “ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว” ผมรีบถามต่อทันทีว่า “ทำดีทำยังไง อย่างไหนเรียกว่าทำชั่ว แล้วคนอย่างผมเรียกว่าคนดีหรือคนชั่ว” แล้วผมก็ถามเพราะอยากรู้อีกว่า “แล้วหลักปฏิบัติของพุทธละ” เธอกลับตอบว่า “ฉันไม่รู้ เอาไว้ถ้ารู้แล้ว ฉันจะบอกคุณ”

หลังจากนั้นเราก็คุยกันทุกวัน แต่จนแล้วจนเล่าเธอก็ยังไม่ตอบคำถามผมสักที จนมาวันหนึ่งผมถามเธอตรงๆ ว่า “คุณเป็นชาวพุทธ ทำไมคุณไม่รู้หลักและวิธีปฏิบัติของศาสนาพุทธละ คุณเป็นชาวพุทธตั้งแต่เกิดคุณกลับไม่รู้ แล้วจะให้ผมไปถามกับใคร ถ้าคุณมาถามผมเกี่ยวกับศาสนาอิสลามนะ ผมตอบคุณได้หมดเลย ผมขอถามคุณจริงๆเถอะ ชาวพุทธเค้าไม่สอนให้เข้าวัดกันหรือ? ”

ผมต้องการแสวงหาความสงบเพราะผมเบื่อการรบราฆ่าฟันในหมู่พวกเรากันเอง ผมจึงเริ่มปรึกษาเรื่องส่วนตัว เธอเองก็เล่าเรื่องต่างๆให้ผมฟัง ซึ่งผมคิดว่าต่างจากศาสนาที่ผมนับถือมาก คือ “เราแต่งงานกันเองในเครือญาติ แต่ทำสงครามฆ่ากันเองในเครือญาติ ฆ่ากันได้ทั้งๆที่เป็นญาติกัน” แต่ศาสนาอื่นๆ ไม่ได้บังคับให้แต่งงานกับญาติ จะแต่งงานหรือมีครอบครัวกับใครก็ได้ ไม่ผิดไม่โดนฆ่า แต่ในที่สุดผมก็ต้องกลับไปแต่งงานกับชาวอิรักคนปัจจุบัน

8 ปีผ่านไป เมื่อเดือน พฤศจิกายน 2548 อยู่ๆเธอก็มาหาผม แล้วถามผมว่า “คุณยังอยากรู้เรื่องศาสนาพุทธอยู่หรือเปล่า ถ้าอยากรู้...คำตอบอยู่ใน DMC นี่ล่ะ” เมื่อเห็นหลวงพ่อเป็นครั้งแรก ผมดีใจและมีความสุขมาก รู้สึกรัก เคารพ ศรัทธา เลื่อมใสหลวงพ่อทันที

แล้วเธอก็สอนผมให้รู้จักกับสมาธิ ครั้งแรกที่นั่ง ผมก็เกิดความสงบและมีความสุขในใจอย่างบอกไม่ถูก ซึ่งผิดจากการทำละหมาดวันละ 5 เวลามาก เพราะก่อนทำขณะทำหรือหลังทำ ก็ไม่พบความสุขเลย บางครั้งผมก็วุ่นวายสับสนในชีวิต หาทางออกไม่เจอ แต่ผมลองเอาวิธีการนั่งสมาธิแบบชาวพุทธมาทำดู ผมกลับรู้สึกมีความสุขอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ผมจึงนั่งสมาธิทุกวันไม่ขาด และอยากให้ชาวอิสลามทุกคนได้รู้สึกอย่างผม ผมว่าไม่ยาก..แค่เปิดใจให้กว้างขึ้น..เรียนรู้สิ่งใหม่ๆที่เป็นความจริงของชีวิตแล้วจะพบกับความสุขที่แท้จริงอย่างที่ผมพบ.. ตอนนี้ผมเองก็มีอาชีพค้าขายและติดตั้งจานดาวเทียมให้กับชาวอิรัก ชาวอิหร่าน ชาวตุรกี และชาวมุสลิมในเดนมาร์ก ผมจะจูนช่อง DMC เพิ่มขึ้นอีกหนึ่งช่อง ซึ่งชาวมุสลิมที่เปิดดูก็ดีใจที่มีภาษาอาหรับด้วยทำให้เข้าใจ นับจากนี้ไปผมก็ตั้งใจว่าจะจูน DMC ให้ทุกคนที่มาติดดาวเทียม เพื่อให้โลกเกิดสันติสุขครับ

คำถาม

1. บุพกรรมใดคุณพ่อ จึงมาเกิดในอิรัก และนับถือศาสนาอิสลาม ,กรรมใดทำให้ถูกตัดคอ ท่านตายแล้วไปไหน มีสภาพเป็นอย่างไร ผมจะช่วยท่านได้อย่างไร

2. กรรมใดคุณแม่จึงมาเกิดในอิรักและนับถือศาสนาอิสลาม, ทำไมจึงต้องแต่งงานกับคุณพ่อซึ่งเป็นญาติ, ทำไมในภาวะสงครามคุณแม่ถูกขังคุกจนต้องเป็นโรคซึมเศร้าหงอยเหงา

3. ภรรยาของผมรักผมหรือไม่, แล้วทำไมเธออยากกลับไปอยู่กับญาติๆในอิรักทั้งที่มีสงคราม, ผมกับเธอจะอยู่ด้วยกันได้ตลอดรอดฝั่งหรือไม่ อย่างไรครับ

4. ทำไมลูกสาวคนโตจึงปวดท้องบ่อยๆหาสาเหตุก็ไม่พบ, และทำไมหูข้างซ้ายของเธอไม่ค่อยได้ยินมาตั้งแต่เกิด, ลูกสาวจะหายหรือไม่ ควรแก้ไขอย่างไร

5. ทำไมผมจึงไปเกิดในประเทศที่มีแต่สงคราม มีชีวิตที่ลำบากจากสงคราม และทำไมผมไม่ถูกยิงตายขณะหนีออกนอกประเทศ

6. ผมคิดสงสัยตลอดเวลาว่า ทำไมโลกใบนี้ต้องมีสงครามฆ่ากันเอง, ทำอย่างไรจึงจะหยุดสงครามได้, และใครจะเป็นผู้ทำให้หยุดสงครามได้

7. ทำไมผมจึงอยากเรียนรู้พระพุทธศาสนา ชอบนั่งสมาธิและดู DMC แม้จะฟังไม่เข้าใจ และอยากให้อิสลามทุกคนมานั่งสมาธิด้วย ทำไมผมจึงคิดเช่นนี้

8. ผู้หญิงไทย เธอถูกครอบครัวจับคลุมถุงชนกับฝรั่ง จนมีลูกสาว 1 คน แต่ท้ายสุดก็ต้องเลิกกันไป เธอและลูกมีวิบากกรรมใด จะแก้ไขอย่างไร และทำไมจึงต้องมาอยู่ไกลถึงต่างประเทศ

9. บุญใดทำให้ผมพบผู้หญิงไทยจนได้รู้จักDMC , เรามีบุญร่วมกันมาอย่างไร, ผมและเธอและเคยสร้างบารมีกับหมู่คณะอย่างไร

10. ตัวผมภรรยาและลูก เคยสร้างบารมีกับหมู่คณะมาหรือไม่อย่างไร จะมีสิทธิไปดุสิตบุรีวงบุญพิเศษด้วยหรือไม่อย่างไร

11. ผมตั้งใจอยากแปลธรรมะของหลวงพ่อเป็นภาษาอาหรับ เพื่อขยายธรรมะไปทั่วโลก ผมมีบุญพอได้ทำงานนี้หรือไม่อย่างไร

12. ผมทำธุรกิจค้าขายและรับติดดาวเทียม ควรทำอย่างไรให้งานก้าวหน้า, ผมจะขยาย DMC ไปให้ชาวมุสลิมทั้งในและนอกอิรักได้สำเร็จหรือไม่ อย่างไร, อานิสงส์จากการขยาย DMC คืออะไร แล้วสิ่งที่ผมปรารถนาให้ชาวอิรักกลับมารักกันจะเป็นไปได้หรือไม่ และผมจะต้องทำอย่างไร

กราบขอบพระคุณหลวงพ่อเป็นอย่างสูงครับ

ฝันในฝัน

หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ ตื่นขึ้นมา หาว 1 ที

แล้วก็นำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากันนะจ๊ะ

1. พ่อมาเกิดในอิรักและนับถือศาสนาอิสลาม เพราะ....ในอดีตหลาย ๆ ชาติท่านได้นับถือศาสนา “เทวนิยม” คล้ายชาตินี้ , บางชาติเมื่อไปเกิดแล้ว ก็ได้มีส่วนในการทำสงครามต่างเผ่าที่มีความเชื่อต่างกัน ด้วยเหตุนี้จึงได้มาเกิดในประเทศที่นับถือศาสนา “เทวนิยม” และมีสงครามรบพุ่งกันในประเทศ

ท่านถูกตัดคอ เพราะ....ในอดีตได้เคยตัดศีรษะของสัตว์มากมายเพื่อ “บูชายัญ” เทพเจ้าที่ตนนับถือ วิบากกรรมนี้มาส่งผลจ่ะ !

ก่อนตายท่านกลัวมาก ได้พยายามนึกถึงพระเจ้า , เมื่อผ่านความทุกข์ทรมานจากการถูกตัดคอแล้ว วิบากกรรมที่เคยฆ่าสัตว์บูชายัญเทพเจ้าในหลาย ๆ ชาติ ก็ยังส่งผลให้กายละเอียดของท่าน ก็ยัง “คอขาด” อยู่ แล้วท่านก็หิ้วหัวหรือเอามือ 2 มือถือหัวที่ขาดโดยอัตโนมัติ แล้ววิ่งหนีอย่างสุดชีวิต แล้วกรรมดังกล่าวก็ดึงดูดให้ไปรวมกับพวกที่มีกรรมเสมอกับท่าน ,

ส่วนพวกที่ตายพร้อมกับท่านก็ไปตามวิบากกรรมของตน บ้างก็ไปสู่สุคติ , บ้างก็ไปสู่ทุคติ , บ้างก็ไปเกิดเป็นสัตว์ , บ้างก็ไปเกิดเป็นมนุษย์ เป็นต้นจ่ะ!

เดี๋ยวนี้ท่านก็ยังเป็นกายละเอียดถือหัวอยู่ , มีความหิวโหยทรมาน , ท่านและผู้มีกรรมเสมอท่านได้อยู่ในความดูแลของ “ยักษ์” ที่เป็นเจ้าหน้าที่เขตในบริเวณที่กำหนดไว้ โดยก็ยังมีความเชื่อว่าสักวันพระเจ้าก็จะต้องมาโปรด แต่ก็ยังไม่มาสักที ลูกจะต้องทำบุญในพระพุทธศาสนา ทั้งทาน , ศีล , ภาวนา แล้วอุทิศบุญดังกล่าวไปให้ท่านบ่อย ๆ ก็จะค่อย ๆ ดีขึ้นจ่ะ !

2. คุณแม่เกิดมาในอิรักและนับถือศาสนาอิสลาม เพราะ....เคยนับถือศาสนา “เทวนิยม” แบบพ่อมาหลายชาติ และได้มีความยินดีในการทำสงครามระหว่างเผ่าที่มีความเชื่อต่างกันเช่นเดียวกันกับพ่อ แต่คนละยุคจ่ะ !

ต้องแต่งงานกับคุณพ่อซึ่งเป็นญาติ เพราะ....ในอดีตหลาย ๆชาติ ท่านทั้งสองได้อยู่ในเผ่าที่นับถือเทวนิยมแล้วเข่นฆ่ากันระหว่างเผ่า จึงไม่นิยมให้ไปแต่งงานระหว่างเผ่าอื่นเพื่อป้องกันความลับรั่วไหล , ด้วยความคุ้นนี้ จึงถูกดึงดูดให้มาอยู่ในหมู่ความเชื่อดังนี้ แต่ระบบใหญ่ขึ้นจ่ะ !

ในภาวะสงคราม คุณแม่ถูกขังคุกจนเป็นโรคซึมเศร้า เพราะ....เป็นผลพวงจากวิบากกรรมดังกล่าว ที่เคยอนุโมทนาบาป , สนับสนุน , ยินดีในการทำสงครามระหว่างเผ่าที่มีความเชื่อต่างกันมาส่งผลจ่ะ !
เพราะเผ่าอื่นเมื่อถูกรุกรานหรือทำสงคราม ก็จะมีการพลัดพราก , ถูกจับขัง แล้วก็ซึมเศร้าคล้ายดังนี้จ่ะ !

3. ภรรยาของลูกก็ยังรักตัวลูกอยู่ แต่ความผูกพันกับครอบครัวและแดนเกิดมันมีมากจนยากที่จะห้ามใจที่จะกลับไปถิ่นเดิมในสิ่งแวดล้อมที่พรั่งพร้อมไปด้วยหมู่ญาติ แม้จะเกิดภาวะสงครามก็ตาม

ให้ลูกประคองรักนี้ไว้ให้ได้ตลอดไป ด้วยการยินยอม , ยืดหยุ่น , ยิ้มแย้ม , เยือกเย็น เพราะเธอก็เป็นคนดี , เป็นภรรยา ที่ดีของสามี , เป็นแม่ที่ดีของลูกจ่ะ !
ลูกอย่ากังวลหรือเป็นทุกข์ใจเลย ชีวิตก็เป็นอย่างนี้เป็นไปตามวิบากกรรม ดังนั้นไม่ว่าเธอจะไปอิรักหรือไม่ไป ก็ให้ลูกนั่งสมาธิทำใจใส ๆ แล้วนึกถึงบุญนี้ให้ไปคุ้มครองเธอและลูกให้ปลอดภัยจ่ะ !

4. “ลูกสาวคนโต” ปวดท้องบ่อย ๆ โดยหาสาเหตุไม่เจอ เพราะ....เกิดจาก “ความเครียด” ในปัจจุบันเป็นหลัก , เธอเครียดในหลายเรื่อง , เช่น เรื่องประเทศ , เรื่องสงคราม , ภาวะแวดล้อม , ความสับสนทางวัฒนธรรม เป็นต้น , เป็นเรื่องจิตใจที่มีผลมาถึงร่างกาย , ให้เธอนั่งสมาธิให้ใจใส ๆ เดี๋ยวก็หายไปเองจ่ะ !

“หูข้างซ้าย” ไม่ได้ยินมาตั้งแต่เกิด เพราะ....กรรมในอดีตเคยแกล้งน้องโดยไม่ได้ตั้งใจ เรื่องมีอยู่ว่า น้องสาวกำลังเอาไม้ “แคะหู” เธอได้เอามือของเธอตบไปที่มือของน้องสาวในชาตินั้น แล้วเป็นเหตุให้ไม้แคะหูนั้นทิ่มเข้าไปในหูจนแก้วหูบอด วิบากกรรมนี้มาส่งผลจ่ะ !
คงจะหายยาก , ให้สร้างบุญไปแล้วอธิษฐานจิตให้บุญนี้ไปช่วยให้หนักเป็นเบาจ่ะ !

5. ลูกต้องไปเกิดในประเทศที่มีสงคราม , มีชีวิตที่ลำบากจากสงคราม เพราะ....ในอดีตได้เคยเป็นพ่อค้านักธุรกิจใหญ่ ได้ให้เงินสนับสนุนรัฐในการทำสงครามด้วยความไม่เต็มใจตามที่ทางรัฐบาลขอมา วิบากกรรมนี้มาส่งผลจ่ะ !

ไม่ถูกยิงตายขณะหนีออกนอกประเทศ เพราะ....ในชาตินั้น ตัวลูกก็ไม่ได้เต็มใจในการสนับสนุนให้เขาทำสงคราม แค่ให้เงินด้วยความจำใจจึงรอดตายจ่ะ !

6. โลกใบนี้ต้องมีสงครามฆ่ากันเอง เพราะ....มนุษย์ยังมีกิเลส , มีความโลภ , โกรธ , หลง , บังคับให้สร้างกรรม , เมื่อทำกรรมแล้วก็ทำให้เกิดวิบากกรรม , วิบากกรรมคล้าย ๆ กัน จึงดึงดูดให้มาเกิดร่วมกัน , แล้วก็ถูกกิเลสดังกล่าวบังคับวนไปวนมาดังนี้ โดยแต่ละคนก็ไม่รู้ว่าใครบังคับบัญชาอยู่ฉากหลังที่ทำให้เกิดเหตุการณ์ดังนี้ เพราะยังไม่มีดวงตาเห็นธรรมจ่ะ !

จะหยุดสงครามได้นั้น ต้องร่วมมือกัน “ทุกคน” ในโลก ด้วยการ “หยุดใจ” เข้าไปให้ถึงความสงบภายใน จนเกิดสันติสุข แล้วสันติสุขนั้นก็จะขยายมาสู่ภายนอกจ่ะ !

7. ลูกอยากเรียนรู้พระพุทธศาสนา , ชอบนั่งสมาธิ , และดู DMC ทั้ง ๆ ที่ไม่เข้าใจ , และอยากให้อิสลามทุกคนมานั่งสมาธิ เพราะ....ในอดีตลูกก็เป็นชาวพุทธแบบนับถือในทะเบียนบ้าน ไม่ได้ศึกษาพระพุทธศาสนาอย่างจริงจัง จึงไม่เข้าใจเรื่องราวความจริงของชีวิต ดังนั้นจึงพลัดจากพระพุทธศาสนาไป , แต่ “เชื้อ” ยังมีอยู่บ้าง , และปัจจุบันก็ประสบทุกข์ที่เกิดจากสงครามที่มีความเชื่อต่างกัน จึงขวนขวายที่จะเรียนรู้พระพุทธศาสนา

อีกทั้งลูกได้รู้ว่า เหตุแห่งความทุกข์ร้อนของจิตใจ ก็เพราะใจที่ร้อนรุ่มด้วยความโลภ , โกรธ , หลง ใจจึงไม่สงบ , ลูกจึงอยากให้ทุกคนมานั่งสมาธิเพื่อทำใจให้สงบ จนพบกับความสุขแท้จริงแล้วเลิกเบียดเบียนกันจ่ะ !

8. ผู้หญิงไทยที่เป็นกัลยาณมิตรให้ลูก เธอถูก “คลุมถุงชน” กับฝรั่งจนมีลูกสาว 1 คน แต่ท้ายสุดก็เลิกกันไป เพราะ....กรรมในอดีตสมัยที่เธอเกิดในสังคมเกษตรกรรม เธอได้เคยจับลูกหลานคลุมถุงชนเหมือนกัน วิบากกรรมนี้มาส่งผลให้โดนบ้าง ,

ส่วนที่เลิกกับสามี เพราะวิบากกรรมกาเมเจ้าชู้สมัยที่เป็นผู้ชาย และปัจจุบันเธอกับสามีก็มีศีล , ศรัทธา , ทิฐิที่ไม่เสมอกัน จึงทำให้เกิดเหตุการณ์ดังนั้น ,

ส่วนตัวลูกสาวก็มีเศษกรรมกาเมเจ้าชู้ในอดีตเหมือนกัน ที่เคยมีภรรยาหลายบ้าน และทำให้ครอบครัวแตกแยกในสมัยที่เป็นผู้ชายมาส่งผลจ่ะ !

จะแก้ไข ก็ให้สั่งสมบุญทุกบุญให้มาก ๆ แล้วอธิษฐานจิตให้พ้นวิบากกรรมนี้จ่ะ !
ส่วนที่มาอยู่ต่างประเทศนั้น ก็ไม่ได้เป็นวิบากกรรมอะไร , เป็นเรื่องปัจจุบันเป็นหลักจ่ะ !

9. ลูกได้มารู้จักผู้หญิงไทยคนนี้จนได้รู้จัก DMC เพราะ....บุญเก่าที่ผู้หญิงคนนี้เคยเป็นกัลยาณมิตรได้ชวนลูกทำบุญในพระพุทธศาสนา และลูกก็ได้ทำบุญนั้น แต่ก็ไม่ได้ศรัทธาและซาบซึ้งในพระพุทธศาสนาเท่าไหร่ , ทำเพราะความเกรงใจ ,

จึงทำให้พลัดไป และบุญนั้นทำให้ชาติต่อมาก็ได้เป็นนักธุรกิจใหญ่ ที่สนับสนุนเงินรัฐบาลให้ทำสงคราม โดยไม่เต็มใจดังกล่าว และต่อมาก็พลัดกันมาตลอดจ่ะ !

บุญที่เคยทำมาจึงทำให้มาเจอเธออีกภายหลังจากพลัดพรากกันมาหลายกัปแล้วจ่ะ !
ตัวลูกและเธอเคยสร้างบารมีกับหมู่คณะมาแบบ “กองเสบียง” และได้เธอเป็นกัลยาณมิตรดังกล่าว ไปชวนลูกมาทำบุญกับหมู่คณะ ซึ่งลูกก็ทำด้วยความเกรงใจ , จึงพลัดกันไปหลายกัปดังที่ได้เล่าให้ฟังมาจ่ะ !

10. ตัวลูก , ภรรยา และลูก ๆ เคยสร้างบารมีกับหมู่คณะมา ภรรยาและลูก ๆ ก็เคยสร้างบารมีกับหมู่คณะมาแบบ “กองเสบียง” เหมือนตัวลูก แต่นานมากแล้ว และได้พลัดกันมาหลายกัปแล้วจ่ะ !

11. ลูกตั้งใจแปลธรรมะเป็นภาษาอาหรับ เพื่อขยายธรรมะไปทั่วโลกนั้น ก็เป็นสิ่งที่ดี , ลูกก็พอมีบุญด้านนี้ แต่ก็ให้ค่อย ๆทำไปอย่างสบาย ๆ จ่ะ !

12. ลูกทำธุรกิจค้าขายและติดดาวเทียมในชาตินี้ ลูกก็สามารถทำได้อยู่แล้ว แต่ก็ให้ค่อย ๆ ทำไป เพราะอดีตก็เคยเป็นนักธุรกิจใหญ่ ด้วยบุญดังกล่าวมาแล้ว ดังนั้นก็ค่อย ๆ หาคนที่เก่งและดีมีอุดมการณ์เดียวกันมาร่วมงาน , ค่อย ๆ ศึกษาเรียนรู้ ค่อย ๆ เติบโตเดี๋ยวก็ดีเองจ่ะ !

อานิสงส์การขยาย DMC โดยย่อ ก็คือ ได้รูปสมบัติ , ทรัพย์สมบัติ , คุณสมบัติ , พวกพ้องบริวารหมู่ญาติที่ดี , มีดวงปัญญา และจะได้เกิดในพระพุทธศาสนา ปิดอบายไปสวรรค์ เป็นต้นจ่ะ !

ชาตินี้มาเจอกันแล้ว ก็ให้ตั้งใจสร้างบารมีให้เต็มที่ในทุกบุญแล้วอธิษฐานจิต ตามติดไปดุสิตบุรีวงบุญพิเศษเขตบรมโพธิสัตว์อย่าได้พลัดกันเลยจ่ะ !