ชีวิตก็เป็นอย่างนี้ ตอนที่ 4

 

 

 

        เมื่อหนุ่มคนสวนได้เห็นเหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว เขาก็รู้ได้ทันทีว่าตัวเขาเองถูกภรรยาหลอก และประพฤตินอกใจเขาตลอดมา ทำให้เขารู้สึกเสียใจอย่างที่สุดที่หลงเชื่อใจ, ไว้ใจ และทุ่มเทใจให้กับภรรยามาโดยตลอด หลังจากได้รู้เรื่องราวความจริงเกี่ยวกับภรรยาสุดที่รักแล้ว หนุ่มคนสวนจึงได้หนีหายจากไปด้วยความบอบช้ำระทมทุกข์เพราะพิษรักในครั้งนี้ โดยไม่หวนกลับคืนมาหาภรรยาของเขาอีกเลย

 

 

 

 

        นอกจากคุณแม่ของลูกในภพชาตินั้นจะมีนิสัยเจ้าชู้ และแอบไปมีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับภรรยาของคนอื่นแล้ว ท่านยังเป็นนักเลงการพนันที่ชอบคบกับเพื่อนที่เป็นคนพาล จนทำให้ท่านต้องมีเรื่องทะเลาะวิวาทกับคนโน้นคนนี้อยู่เป็นประจำอีกด้วย แต่ด้วยความที่ท่านเป็นลูกของเศรษฐีประจำหมู่บ้าน ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้คุณแม่ของลูกในภพชาตินั้นเป็นผู้ที่มีอิทธิพลคนหนึ่งในหมู่บ้าน จนไม่มีใครกล้าที่จะมายุ่งกับท่าน จนกระทั่งอยู่มาวันหนึ่ง ได้มีงานเทศกาลประจำหมู่บ้านที่จัดขึ้นในหมู่บ้านข้างเคียงกับหมู่บ้านของท่าน ซึ่งคุณแม่ของลูกในภพชาตินั้นกับกลุ่มเพื่อนๆอันธพาลก็ได้เดินทางไปร่วมงานเทศกาลในครั้งนั้นด้วย

 

 

 

 

        เมื่อคุณแม่ของลูกในภพชาตินั้นได้ไปร่วมงานเทศกาลที่หมู่บ้านข้างเคียงแล้ว ท่านก็ได้พบกับสาวงามคนหนึ่งที่สวยบาดตาบาดใจเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งท่านก็รู้สึกถูกอกถูกใจตั้งแต่แรกพบ เมื่อเป็นเช่นนี้ท่านจึงได้เดินเข้าไปหาสาวงามคนนั้นเพื่อทำความรู้จักและผูกสัมพันธไมตรีกับเธอในทันที แต่ด้วยความที่เธอเป็นคนรักของหัวหน้ากลุ่มนักเลงประจำหมู่บ้านแห่งนั้น ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้เกิดเรื่องทะเลาะวิวาทกันระหว่างกลุ่มของคุณแม่ของลูกในภพชาตินั้นกับกลุ่มของนักเลงประจำหมู่บ้าน

 

 

 

 

        หลังจากที่กลุ่มของคุณแม่ของลูกในภพชาตินั้นกับกลุ่มของนักเลงประจำหมู่บ้านทะเลาะวิวาทกันไปได้สักพักหนึ่ง กลุ่มของนักเลงประจำหมู่บ้านแห่งนั้นสู้กลุ่มของคุณแม่ของลูกไม่ได้ เมื่อเป็นเช่นนี้ กลุ่มของนักเลงประจำหมู่บ้านแห่งนั้นจึงได้พากันวิ่งหนีเอาตัวรอดกันไปหมด ส่วนที่เหลืออยู่ก็มีแต่หัวหน้ากลุ่มเพียงคนเดียวที่ยังคงปักหลักต่อสู้กับกลุ่มของคุณแม่ของลูกในภพชาตินั้น ด้วยความรู้สึกที่ว่า “อาจจะแพ้ในสนามรบได้ แต่จะไม่ยอมแพ้ในสนามรักเป็นอันขาด” ซึ่งผลที่ออกมาก็คือ หัวหน้ากลุ่มของนักเลงประจำหมู่บ้านแห่งนั้นถูกกลุ่มของคุณแม่ของลูกรุมทำร้าย จนในที่สุด เขาได้เสียชีวิตคาที่ กลางงานเทศกาลประจำหมู่บ้าน

 

 

 

 

        เมื่อเวลาผ่านไป คุณแม่ของลูกในภพชาตินั้นก็รู้สึกสำนึกผิดกับการกระทำที่ไม่ดีในเรื่องต่างๆของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องพฤติกรรมเจ้าชู้ และเรื่องเล่นการพนัน เป็นต้น ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้ท่านได้ปรับปรุงพฤติกรรมต่างๆของตนเองให้ดีขึ้น ถึงแม้ว่าในภายหลังท่านจะสำนึกผิดและปรับปรุงพฤติกรรมต่างๆของตนเองให้ดีขึ้นแล้วก็ตาม แต่บาปอกุศลกรรมที่ท่านได้เคยทำผิดทำพลาดเอาไว้ก็ได้ถูกตั้งเป็นผังที่รอคอยการส่งผลเอาไว้เรียบร้อยแล้ว

 

 

 

 

        ดังนั้น เมื่อวิบากกรรมกาเมฯที่คุณแม่ของลูกในภพชาตินั้นได้แอบไปมีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับหญิงรับใช้ที่มีสามีอยู่แล้ว กับวิบากกรรมปาณาติบาตที่ท่านและกลุ่มเพื่อนๆอันธพาลได้ร่วมกันรุมทำร้ายหัวหน้ากลุ่มนักเลงประจำหมู่บ้าน จนเป็นผลทำให้เขาเสียชีวิต ได้ช่องตามมาส่งผลร่วมกับวิบากกรรมปาณาติบาตในภพชาติปัจจุบันที่ท่านได้ฆ่าสัตว์เพื่อทำอาหารและเพื่อไหว้เจ้าอยู่เป็นประจำ จึงส่งผลทำให้คุณแม่ของลูกต้องมาป่วยเป็นโรคมะเร็งที่ทรวงอก และเสียชีวิตก่อนหมดอายุขัยด้วยอาการที่ทุกข์ทรมานเป็นอย่างมาก

 

คำถามข้อที่ 2. คุณพ่อเสียชีวิตเพราะอะไร ก่อนตายคตินิมิตของท่านเป็นอย่างไร หลังจากตายแล้ว คุณพ่อแวะมาที่บ้านบ้างหรือไม่ และตอนนี้ท่านอยู่ที่ไหนคะ 

 

        ก่อนที่คุณพ่อของลูกจะเสียชีวิต (ในช่วงที่ท่านกำลังอยู่ในห้องไอซียู) แม้ร่างกายภายนอกของท่านจะดูไม่ตอบรับหรือรับรู้อะไร แต่หูหรือระบบประสาทรับเสียงของท่านยังใช้งานได้ดีอยู่ ด้วยเหตุนี้ คุณพ่อของลูกจึงสามารถรับรู้และรับทราบถึงสิ่งต่างๆที่ท่านได้ยินได้ฟังได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของบุญต่างๆ หรือเรื่องราวของครอบครัวของท่าน เป็นต้น

 

 

 

 

        อีกทั้งในระหว่างที่คุณพ่อของลูกกำลังอยู่ในห้องไอซียูอยู่นั้น คราใดที่ท่านได้ยินเรื่องราวของบุญต่างๆแล้ว ท่านจะรู้สึกสบายใจ, ปีติใจ และทำให้ท่านสามารถนึกถึงบุญต่างๆได้ นอกจากคุณพ่อของลูกจะสามารถนึกถึงบุญต่างๆได้แล้ว ตัวท่านเองยังรู้สึกทำใจได้กับมรณภัยที่กำลังจะมาถึงอีกด้วย แต่ถ้าเมื่อใดที่หมู่ญาติและผู้ที่มาเยี่ยมท่าน พูดคุยกันถึงเรื่องครอบครัวของท่านหรือเรื่องจิปาถะต่างๆนานา คุณพ่อของลูกก็จะรู้สึกเป็นห่วงครอบครัว, เป็นห่วงบ้าน หรือห่วงโน่นห่วงนี่ขึ้นมาทันที จนเป็นผลทำให้ท่านรู้สึกหวาดกลัวต่อมรณภัยที่กำลังจะมาถึง เมื่อเป็นเช่นนี้ใจของท่านจึงผ่องใสไม่เต็มที่ กล่าวคือ ใจของท่านผ่องใสและเศร้าหมองสลับกันไปสลับกันมาตามเรื่องราวที่ท่านได้ยินได้ฟังจากผู้ที่มาเยี่ยมไข้

 

 

 

 

        ภายหลังจากที่คุณพ่อของลูกได้เสียชีวิตไปแล้ว กายละเอียดของท่านได้หลุดออกจากร่างมายืนอยู่ข้างๆกายหยาบของท่านที่กำลังนอนอยู่บนเตียง ด้วยอาการที่มึนๆงงๆ และยังไม่รู้สึกตัวว่า “ตนเองได้เสียชีวิตไปแล้ว” จากนั้นกายละเอียดของคุณพ่อของลูกได้เดินวนไปวนมาอย่างงงๆอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งนั้น หลังจากที่เดินไปเดินมาอยู่ในโรงพยาบาลแห่งนั้นได้สักพักหนึ่ง กายละเอียดของคุณพ่อของลูกก็เริ่มคิดถึงบ้าน เมื่อคิดถึงบ้าน...ท่านก็แวบกลับมาที่บ้านของท่านในทันที ซึ่งได้สร้างความประหลาดใจให้กับกายละเอียดของคุณพ่อของลูกเป็นอย่างยิ่งว่า ทำไม...จู่ๆท่านถึงสามารถแวบกลับมาที่บ้านได้ จากนั้นท่านก็เดินวนไปวนมาอยู่ในภายในบ้านด้วยความรู้สึกว่า “เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด คงจะเป็นเพราะตัวเองกำลังอยู่ในความฝัน”

 

 

 

 

        เมื่อเวลาผ่านไปได้สักระยะหนึ่ง บุญต่างๆที่พี่ชายคนโตของลูก, ตัวลูก และพี่น้องของลูกทุกๆคน ได้ทำแล้วอุทิศส่งไปให้กับคุณพ่อของลูกในช่วงที่ท่านเพิ่งเสียชีวิตใหม่ๆ ได้ช่องไปจรดเชื่อมที่ศูนย์กลางกายของกายละเอียดของคุณพ่อของลูก ในที่สุดท่านก็เริ่มได้สติและรู้สึกตัวมากขึ้น หลังจากเริ่มมีสติและรู้สึกตัวมากขึ้นแล้ว กายละเอียดของคุณพ่อของลูกจึงพบว่าทุกคนในบ้านต่างตกอยู่ในความเศร้าโศกเสียใจ และกำลังยุ่งอยู่กับการเตรียมข้าวของที่เกี่ยวกับงานศพ เมื่อท่านได้เห็นเหตุการณ์ทุกอย่างเป็นเช่นนี้ ท่านจึงรีบเข้าไปถามลูกๆว่า “เกิดอะไรขึ้น ทำไมต้องร้องไห้กันด้วย” ทันทีที่กายละเอียดของคุณพ่อของลูกได้เข้าไปถามหรือพูดคุยกับลูกๆ ท่านก็ต้องพบกับความว่างเปล่า เพราะไม่ว่าท่านจะพูดคุยหรือสื่อสารอะไรกับใคร ก็ไม่มีลูกของท่านคนไหนที่จะตอบสนองหรือรับรู้รับทราบในสิ่งที่ท่านพูดคุยกับพวกเขาเลยแม้แต่เพียงคนเดียว ด้วยเหตุนี้เอง ท่านจึงรู้สึกตัวในทันทีว่า “ในตอนนี้ตนเองได้เสียชีวิตไปแล้ว”

 

 

 

 

        หลังจากที่กายละเอียดของคุณพ่อของลูกรู้สึกตัวแล้วว่า “ตนเองได้เสียชีวิตไปแล้ว” ด้วยความที่ท่านยังไม่เข้าใจในเรื่องราวของชีวิตหลังความตาย ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้ท่านยังไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรต่อไป เมื่อเป็นเช่นนี้ ท่านจึงได้วนเวียนอยู่แต่ในบ้าน นอกจากจะวนเวียนอยู่ในบ้านแล้ว กายละเอียดของคุณพ่อของลูกยังได้แวะเวียนไปเยี่ยมลูกๆของท่านตามที่ต่างๆด้วยความรักและความห่วงใยอีกด้วย (ซึ่งท่านก็ได้มาหาตัวลูกด้วยเช่นกัน)

 

 

 

 

        แต่พอวันเวลาได้ล่วงเข้าสู่วันที่สามนับจากวันที่คุณพ่อของลูกเสียชีวิต บุญทุกๆบุญที่ตัวลูก, พี่ชายคนโต และพี่น้องของลูกทุกๆคน ได้ทำแล้วอุทิศส่งไปให้กับคุณพ่อของลูก ไม่ว่าจะเป็นบุญถวายสังฆทาน, บุญถวายภัตตาหารแด่พระภิกษุสามเณร เป็นต้น เริ่มมีปริมาณที่มากขึ้น ซึ่งบุญต่างๆเหล่านี้ได้ส่งผลทำให้กายและใจของกายละเอียดของคุณพ่อของลูกมีความผ่องใสและสว่างไสวมากขึ้นไปตามลำดับ อีกทั้งยังทำให้ใจของท่านคลายจากความห่วงความกังวลในเรื่องราวของครอบครัวได้อีกด้วย นอกจากบุญทุกๆบุญที่ตัวลูก, พี่ชายคนโต และพี่น้องของลูกทุกๆคน ได้ทำแล้วอุทิศส่งไปให้คุณพ่อของลูก จะทำให้กายละเอียดของท่านมีความผ่องใสสว่างไสวมากขึ้นไปกว่าเดิมแล้ว ผลแห่งบุญดังกล่าว ยังไปดึงดูดบุญต่างๆที่ท่านได้เคยสั่งสมเอาไว้เองในสมัยที่ยังมีชีวิตอยู่ ให้มาได้ช่องจรดเชื่อมที่ศูนย์กลางกายของท่านอีกด้วย

 

 

 

 

        ซึ่งเป็นผลทำให้กายละเอียดของคุณพ่อของลูกสามารถนึกถึงบุญต่างๆที่ท่านได้เคยสั่งสมเอาไว้ในสมัยที่มีชีวิตอยู่ได้อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นบุญตักบาตร, บุญที่ตัวลูกและพี่ชายคนโตของลูกได้ชักชวนให้ท่านได้ทำ เช่น บุญสร้างองค์พระธรรมกายประจำตัว, บุญสร้างสภาธรรมกายสากล, บุญสร้างมหาวิหารพระเดชพระคุณหลวงปู่ฯ, บุญหล่อรูปเหมือนทองคำพระเดชพระคุณหลวงปู่ฯ พระผู้ปราบมาร เป็นต้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บุญที่ลูกชายคนโตของท่านได้บวชระยะสั้นทดแทนพระคุณท่าน กับบุญที่ตัวลูกได้เข้ามาสร้างบารมีอย่างเอาชีวิตเป็นเดิมพันเป็นอุบาสิกาอยู่เขตใน ซึ่งบุญทั้งสองนี้ถือว่าเป็นบุญหลักที่มาทำให้ใจของกายละเอียดของคุณพ่อของลูกมีความผ่องใสสว่างไสวมากเป็นพิเศษ เมื่อกายละเอียดของคุณพ่อของลูกสามารถนึกถึงบุญต่างๆได้เช่นนี้ กายและใจของท่านก็ยิ่งมีความผ่องใสและสว่างไสวมากยิ่งขึ้นไปกว่าเดิม

 

 

 

        เมื่อวันเวลาได้ล่วงเลยมาจนถึงวันที่เจ็ด นับจากวันที่คุณพ่อของลูกได้เสียชีวิตไปแล้ว บุญทุกบุญที่ตัวลูก, พี่ชายคนโต และพี่น้องของลูกทุกๆคน ได้ทำแล้วอุทิศส่งไปให้ท่านก็เริ่มมีปริมาณที่มากขึ้น มากขึ้น   และมากขึ้น แล้วในที่สุด เมื่อบุญทุกๆบุญได้ช่องส่งผลอย่างเต็มที่ ทันใดนั้นเอง กายละเอียดของคุณพ่อของลูกก็พลันสว่างวาบ แล้วได้แปรเปลี่ยนไปเป็นกายของเทพบุตรภุมมเทวา ระดับสูง พร้อมกับแวบไปบังเกิดในวิมานไม้ทรงจีนขนาดใหญ่ 2 ชั้น ซึ่งอยู่ติดกับวิมานของคุณแม่ของลูกในทันที ซึ่งวิมานไม้ของคุณพ่อของลูกจะมีขนาดที่ใหญ่โตกว่าวิมานของคุณแม่ของลูกประมาณเท่าครึ่ง