ข่าวน้ำท่วม 2560
ข่าวจากไทยรัฐบอกว่า ภาพรวมการเกิดอุทกภัยในภาคเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือ ระหว่างวันที่ 28-29 ก.ค.2560 เหตุการณ์อุทกภัยในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ขณะนี้ เกิด 11 จังหวัด รวม 43 อำเภอ
สรุปภาพรวมการเกิดอุทกภัยในภาคเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือ ระหว่างวันที่ 28-29 ก.ค.2560 เหตุการณ์อุทกภัยในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ขณะนี้ เกิด 11 จังหวัด ประกอบด้วย นครราชสีมา ขอนแก่น ร้อยเอ็ด ศรีสะเกษ เลย มหาสารคาม อุบลราชธานี สกลนคร ยโสธร มุกดาหาร กาฬสินธ์ุ รวมทั้งหมด 43 อำเภอ
พลโท วิชัย แชจอหอ แม่ทัพภาค 2 สั่งให้ ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองทัพภาค2 (ศบภ.ทภ.2) ส่งทหาร 5 กองร้อยชุดปฏิบัติการ รบม 765 นาย จาก พล.ร.6, พล.พัฒนา 2 และและ ร.3 พร้อม รถยนต์บรรทุกทางทหาร 36 คัน เรือ 31 ลำ เจ็ตสกี 2 ลำ สนับสนุน มทบ.29 ในการเข้าอพยพประชาชนพื้นที่ อ.เมือง, อ.เต่า งอย และ อ.พรรณานิคม อีกทั้งร่วมกับ จ.สกลนคร จัดตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราว ณ ศูนย์ราชการ ปัจจุบันระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันน้ำได้ไหลเข้าท่วม อ.เมือง และถือว่าเป็นสถานการณ์น้ำท่วมหนักที่สุดในรอบ 20 ปี
ขณะที่ หน.คสช. ได้สั่งการให้ ผบ.ทบ.ในฐานะเลขาฯ คสช. จัดกำลังพลเข้าช่วยเหลือประชาชน โดยได้มอบให้แม่ทัพภาคที่ 2 แม่ทัพภาคที่ 3 ส่งกำลังพล ลงพื้นที่พร้อมยานพาหนะ และเครื่องมือ ช่วยเหลือให้ประชาชน ออกจากพื้นที่ประสบภัยไปอยู่ในที่ปลอดภัย ช่วยจัดการจราจร ขนย้ายสัตว์เลี้ยงให้การช่วยเหลือด้านการบริการทางการแพทย์ อาหารน้ำดื่มและเวชภัณท์ ตลอดจนสิ่งอำนวยความสะดวกเบื้องต้น ทั้งนี้ได้ให้ประสานงาน ร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด และมูลนิธิ ตลอดจนอาสาสมัครและผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย เพื่อบูรณาการ ช่วยเหลือเป็นไปอย่างทันท่วงที ทั้งนี้ขอความร่วมมือให้สื่อมวลชนได้ช่วยเป็นสื่อกลางในการประชาสัมพันธ์ ข้อมูลอันเป็นประโยชน์ที่จะทำให้การช่วยเหลือเป็นไปอย่างรวดเร็ว
เกิดภาพที่ไม่มีให้เห็นบ่อยนักเมื่อ ห้างเทสโก้ โลตัส สาขา อ.เมือง สกลนคร กับร้าน เซเว่นอีเลฟเว่น สาขาศาลากลางจังหวัดสกลนคร โดนเหมาสินค้าไปเรียบเกลี้ยงชั้นวางของ เช่นเดียวกับ ร้านเซเว่นฯ สาขาบ้านธาตุ
18.24 น. สถานการณ์น้ำท่วมใน ต.ปากจั่น อ.กระบุรี จ.ระนอง โดยระดับน้ำบางจุดยังคงมีระดับสูง ตั้งแต่ 1-4 เมตร หนักสุดในพื้นที่หมู่ 5 และหมู่ 10 ชาวบ้านต้องขนของออกจากพื้นที่ บ้างก็ขนขึ้นชั้นสอง ต่อมา นายคงกฤษ ฉัตรมาลีรัตน์ นายก อบจ.ระนอง พร้อมด้วย นายอำเภอกระบุรี ปภ.จังหวัดระนอง กำลังทหาร อปพร. นำเรือท้องแบนออกแจกจ่ายอาหารและน้ำให้ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนแล้ว
18.38 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ชื่นชมเจ้าหน้าที่ทั้งพลเรือน ตำรวจ ทหาร ที่ร่วมกันให้ความช่วยเหลือประชาชนพื้นที่ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หลังประสบภัยน้ำท่วมจากฝนที่ตกหนักเพราะอิทธิพลของพายุเซินกา โดยขอให้มุ่งเน้นเข้าไปยังจุดที่ได้รับผลกระทบหนัก เส้นทางคมนาคมถูกตัดขาด ประชาชนได้รับความเดือดร้อนมาก เช่น ชุมชนบริเวณที่ลาดเชิงเขา ซึ่งเกิดน้ำป่าไหลหลากหรือดินถล่ม
18.43 น. หากเจ้าของรถยนต์ที่ประสบอุทกภัย ทำประกันรถยนต์ภาคสมัครใจ หรือที่เรียกว่า ประกันภัยรถยนต์ โดยเฉพาะชั้น 1 ส่วนใหญ่กรมธรรม์จะคุ้มครองในกรณีภัยพิบัติ หรือน้ำท่วมด้วย โดยผู้เอาประกัน หรือ เจ้าของรถยนต์ สามารถติดต่อไปยังบริษัทที่ทำประกันไว้ได้ทันที เพียงบอกทะเบียนรถและชื่อเจ้าของรถ สำหรับประกันรถยนต์ชั้นที่ 2 เป็นต้นไปนั้น ต้องดูเป็นบางกรณีไปว่าผู้เอากรมธรรม์ หรือเจ้าของรถยนต์ได้ซื้อประกันภัยน้ำท่วมเพิ่มเติมด้วยหรือไม่ ซึ่งการชดเชยต้องดูเป็นกรณีไป และต้องดูเงื่อนไขที่ระบุไว้ในกรมธรรม์อีกด้วย ส่วนกรณีที่รถยนต์หายไปกับน้ำ เจ้าของรถที่ทำประกันไว้สามารถไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันกับตำรวจ และส่งเรื่องไปยังบริษัทประกันเพื่อขอเคลมประกันในกรณีดังกล่าว
20.16 น. รายงานสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ โดยมวลน้ำจากอ่างเก็บน้ำห้วยสีทน ซึ่งอยู่ด้านทิศเหนือ ของอำเภอเมือง จ.กาฬสินธุ์ ได้เอ่อเข้าท่วมถนนทางหลวงหมายเลข 227 ทางไป อ.สหัสขันธ์ ซึ่งเป็นถนนสายหลักจนรถไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้ ต้องปิดเส้นทางให้ใช้ทางเลี่ยงเส้นทางอ่างเก็บน้ำห้วยสีทนแทน โดยแขวงการทางได้นำป้ายห้ามไม่ให้รถเล็กผ่าน เนื่องจากระดับน้ำบนถนนสูงเกือบ 1 เมตร และกระแสน้ำยังเชี่ยวกราก ทำให้ชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณอ่างเก็บน้ำห้วยสีทน วิตกกังวลกับปริมาณน้ำที่มีเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้เส้นทางระหว่าง อ.สมเด็จ-อ.กุฉินารายณ์ ต้องหลีกเลี่ยงการเดินทาง เนื่องจากน้ำท่วมระดับสูงไม่สามารถสัญจรได้แล้วเช่นกัน
21.00 น. นายชูศักดิ์ ตรีสาร ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อติดตามสถานการณ์ในพื้นที่ พร้อมหาแนวทางป้องกันเเละแก้ไขปัญหาอุทกภัยที่อาจจะเกิดขึ้น เนื่องจากขณะนี้ปริมาณน้ำสะสมเกินกว่าปกติถึง 30% จึงขอเตือนให้ประชาชนให้ระมัดระวังเตรียมรับสถานการณ์น้ำไว้ด้วย โดยเฉพาะริมเเม่น้ำชี ที่มีปริมาณน้ำค่อนข้างขึ้นเร็วมากและใกล้อ่างเก็บน้ำต่างๆ พร้อมติดตามข้อมูลข่าวสารด้านพยากรณ์อากาศอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เตรียมเครื่องมือเเละอุปกรณ์รวมทั้งเจ้าหน้าที่พร้อมเข้าช่วยเหลือ
21.15 น. กรณีที่มีข่าวลือเรื่องของอ่างเก็บน้ำห้วยทรายที่อยู่ใกล้กับพระตำหนักภูพานราชนิเวศน์แตกแล้ว นั้น กรมชลประทาน ขอชี้แจงข้อเท็จจริงว่า อ่างเก็บน้ำทุกแห่งในพื้นที่จังหวัดสกลนคร ที่มีเต็มอ่างฯ นั้น ยังไม่มีอ่างเก็บน้ำใดที่แตกร้าว ทุกอ่างฯ ยังมีความมั่นคงแข็งแรงดี โดยการแก้ปัญหาในเบื้องต้น กรมชลประทาน ได้ระดมเจ้าหน้าที่และประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าพื้นที่ เพื่อวางแผนแก้ไขปัญหาในแต่ละพื้นที่อย่างเร่งด่วนแล้ว "กรมชลประทาน ไม่ได้นิ่งนอนใจต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ได้สั่งการให้โครงการชลประทานในพื้นที่เสี่ยงภัยน้ำท่วม เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งระดมเครื่องจักร เครื่องมือ เครื่องสูบน้ำ และกำลังเจ้าหน้าที่ พร้อมกับประสานกับจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในครั้งนี้
00.40 น. สถานการณ์น้ำท่วมในเขตเทศบาลเมืองสุโขทัย ล่าสุด เข้าสู่สภาวะปกติหลังจากที่ จนท.อุดรอยรั่วที่น้ำลอดใต้พนังกั้นน้ำริมแม่น้ำยมได้แล้ว 5 จุด จากทั้งหมด 6 จุด เหลือเพียง 1 จุดบริเวณด้านหลังวัดไทยชุมพล จนท.จะนำกระสอบทรายวางเรียงเบี่ยงทางน้ำ และเสริมหินคลุก 500 คิว ทับบนถนนสูงประมาณ 1 เมตร ตลอดความยาว 100 เมตร ในลักษณะเขื่อนคู่ขนานพนังกั้นน้ำ เพื่อลดปริมาณน้ำที่เล็ดลอดเข้ามาเพื่อเป็นการบรรเทาสถานการณ์ในขณะนี้
ขอบคุณข่าวจากไทยรัฐ
-------------------------------------------------
ข่าวน้ำท่วมประจำวันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2559
ขณะที่เมื่อเวลา 09.00น. ที่คลองมิตรภาพ หลังฝนตกหนัก ส่งผลให้ ถ.มิตรภาพ ขาเข้า ช่วง ต.ลาดบัวขาว อ.สีคิ้ว น้ำท่วมสูงมาก เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง กำลังเปิดช่องทางพิเศษ เพื่อแก้ไขปัญหารถติดบนถนนมิตรภาพ หลังมีน้ำท่วมสูง ตั้งแต่ กม.97+500 - กม.92+500 ระยะทาง 5 กิโลเมตร จนท.ปัดรถเข้าไปใช้ ทล.201 ออกด่านขุนทด หรือเลี่ยงไปทางวังน้ำเขียว จะได้รับความสะดวกกว่า ขณะนี้ ในพื้นที่ฟ้ายังปิด หากมีฝนซ้ำ คาดมิตรภาพ อ่วมกว่าเดิมแน่
ขณะที่เมื่อเวลา 09.00น. ที่คลองมิตรภาพ หลังฝนตกหนัก ส่งผลให้ ถ.มิตรภาพ ขาเข้า ช่วง ต.ลาดบัวขาว อ.สีคิ้ว น้ำท่วมสูงมาก เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง กำลังเปิดช่องทางพิเศษ เพื่อแก้ไขปัญหารถติดบนถนนมิตรภาพ หลังมีน้ำท่วมสูง ตั้งแต่ กม.97+500 - กม.92+500 ระยะทาง 5 กิโลเมตร จนท.ปัดรถเข้าไปใช้ ทล.201 ออกด่านขุนทด หรือเลี่ยงไปทางวังน้ำเขียว จะได้รับความสะดวกกว่า ขณะนี้ ในพื้นที่ฟ้ายังปิด หากมีฝนซ้ำ คาดมิตรภาพ อ่วมกว่าเดิมแน่ / ขอบคุณภาพจาก : fb "อีน อ้อน" , :Alisa Chanama"
ข่าวน้ำท่วมประจำวันที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2559
กรมอุตุฯ เตือนวันที่ 4-9 ตุลาคมนี้ ทั่วทุกภาคมีฝนตกต่อเนื่องและตกหนักบางพื้นที่ ส่วนวันที่ 8-9 ตุลาคมนี้ หย่อมความกดอากาศต่ำจากฟิลิปปินส์มีแนวโน้มทวีความรุนแรงขึ้นจะเคลื่อนตัวมาปกคลุมบริเวณอ่าวตังเกี๋ย
ในช่วงวันที่ 4-7 ตุลาคม 2559 ร่องมรสุมได้เลื่อนลงมาพาดผ่านภาคกลาง, ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับบริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนแผ่ลงมา ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนเพิ่มขึ้นกับมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝั่งตะวันตกและภาคตะวันออก ยังคงมีฝนต่อเนื่องกับมีฝนตกหนักบางแห่ง
ส่วนช่วงวันที่ 8-9 ตุลาคมนี้ บริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีฝนเพิ่มขึ้นกับมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้บริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย คลื่นมีกำลังแรงขึ้นสูงประมาณ 2 เมตร พร้อมทั้งเตือนประชาชนให้ติดตามข่าวพยากรณ์อากาศอย่างใกล้ชิด เนื่องจากช่วงวันที่ 8-10 ตุลาคม 2559 จะมีหย่อมความกดอากาศต่ำจากประเทศฟิลิปปินส์แนวโน้มทวีกำลังแรงขึ้นและจะเคลื่อนตัวมาปกคลุมบริเวณอ่าวตังเกี๋ย รวมทั้งขอเตือนประชาชนทั่วทุกภาคระวังอันตรายจากฝนตกสะสมด้วย
สำหรับ กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70-80 ของพื้นที่ ตลอดช่วงกับมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส และอุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส
ด้านพล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รรท.ผบก.จร. แจ้งประชาสัมพันธ์ด้านการจราจร ถึงผู้ใช้รถใช้ถนน ว่า ในพื้นที่ กทม. มีฝนตกปริมาณมาก อาจทำให้เกิดน้ำท่วมขังหลายหลายพื้นที่ ส่งผลกระทบต่อการจราจร บก.จร. ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเฝ้าระวังสถานการณ์ฝนตกอย่างใกล้ชิด ทั้งได้จัดเตรียมกำลังพร้อมอุปกรณ์ในการเข้าแก้ไขปัญหาหากมีเหตุฝนตกในพื้นที่ กทม. จึงได้แจ้งให้พี่น้องประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนได้รับทราบ และเตรียมความพร้อม วางแผนการเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นการออกเดินทางเร็วกว่าปกติ หรือการสำรวจข้อมูลก่อนออกเดินทาง
โดยพล.ต.ต.จิรสันต์ กล่าวต่อว่า เหตุน้ำท่วมขังรอการระบาย แนะหลีกเลี่ยงในเส้นทางและ ชะลอการเดินทาง 1. ถนนพระราม 6 หน้าโรงเรียนสามเสน ระดับน้ำสูงเสมอฟุตบาท 4 ช่องทาง 2. ถนนกำแพงเพชร 2 ตรงข้ามขนส่งจตุจักร (หมอชิต) ระดับน้ำสูงเสมอฟุตบาท ยาว300เมตร 3. ถนนแจ้งวัฒนะ ก่อนถึงแยกหลักสี่ น้ำท่วมเสมอฟุตบาท ทั้งเข้า-ออก รถเล็กผ่านไม่ได้ 4. ถนนพหลโยธิน แยกเกษตร เข้าและออก น้ำท่วมเสมอฟุตบาท และงามวงศ์วาน ทั้งเข้า-ออก 5. ถนนกรุงเทพ-นนท์ แยกวงศ์สว่าง-ติวานนท์ น้ำท่วมเสมอฟุตบาท ทั้งเข้า-ออก 6.ถนนรัชดาภิเษก หน้าศาลอาญา ทั้งเข้า-ออก เสียการจราจรเลนซ้าย 7. ถนนงามวงศ์วาน หน้าตลาดพงษ์เพชร สูงกว่าฟุตบาท รถเล็กผ่านลำบาก ใช้สะพานข้ามแยกได้ 8. ถนนเทศบาลสงเคราะห์ น้ำท่วมตลอดสาย ทั้งเข้า-ออก ระดับน้ำสูง 50 ซม. 9. ทางด่วนแจ้งวัฒนะ จุดกลับรถศิริวัฒน์ – เมืองทอง 3 ทั้งเข้า-ออก รถเล็กผ่านไม่ได้ จึงขอให้พี่น้องประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนหลีกเลี่ยงการใช้เส้นทางดังกล่าว
เวลา 17.00 น.ผู้สื่อข่าวรายงาน จากบริเวณหน้าศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก หลังจากที่มีฝนตกมาอย่างหนักทำให้มีน้ำท่วมพื้นผิวการจราจรฝั่งซอยรัชดาภิเษก 32 ตรงหน้ากรมส่งเสริมการส่งออก ตรงข้ามกับศาลอาญา น้ำท่วมความสูงล้นเอ่อฟุตบาท แต่การจราจรยังไม่ติดขัดผิดกับการจราจรฝั่งถนนหน้าศาลอาญาซึ่งการจราจรติดขัดมาก
ต่อมาเวลา 18.50 น.ระดับน้ำฝั่งซอยรัชดา 32 ลดระดับลงจากฟุตบาทลงเหลือบริเวณริมขอบถนน ส่วนการจราจรยังสัญจรได้ ผิดกับฝั่งหน้าศาลอาญารัชดาซึ่งการจราจรยังติดขัดอยู่ต่อเนื่อง / ข่าวจากมติชนออนไลน์
ข่าวน้ำท่วมประจำวันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2559
หลายหน่วยงานในจังหวัดปทุมธานีเร่งกำจัดผักตบชวา และขยะที่ลอยมากับน้ำเหนือทุกสาย ทุกคลอง มุ่งหน้าสู่คลองรังสิตประยูรศักดิ์ เพื่อระบายลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา เตรียมพร้อมรับน้ำจากภาคกลาง และน้ำเหนือที่จะมาถึง
ขณะเดียวกันได้เพิ่มแนวกระสอบทรายตลอดแนวถนนเลียบคลอง 13 ฝั่งตะวันตก ป้องกันน้ำเอ่อล้นเข้าท่วมแปลงเกษตรกว่า 2,000 ไร่ จุดนี้เป็นน้ำที่ผันมาจากเขื่อนป่าสัก ซึ่งเริ่มเอ่อท่วมพื้นถนนในคลอง 13 ทำให้ถนนเริ่มทรุดตัว แนะประชาชนใช้ถนนเลียบคลอง 13 ฝั่งตะวันออกแทน. – สำนักข่าวไทย
ข่าวน้ำท่วมประจำวันที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2559
เขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท ปล่อยน้ำเพิ่มขึ้นอีก หลังน้ำเหนือไหลลงมามาก ส่งผลให้ระดับน้ำจังหวัดท้ายเขื่อนสูงขึ้นอีก 70 เซนติเมตร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประกาศให้ 6 อำเภอ เป็นเขตภัยพิบัติแล้ว โดยเฉพาะที่อำเภอเสนา และอำเภอบางบาล วิกฤติน้ำสูงถึง 2 เมตร
ขณะที่กรุมอุตุนิยมวิทยา ประกาศ กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล มีโอกาสเกิดฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 80 และมีฝนตกหนักในวันนี้ (29 ก.ย.) ถึงวันพรุ่งนี้ / ข่าวจาก news.voicetv.co.th
ข่าวน้ำท่วมประจำวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2559
หลังจากมีฝนตกหนักต่อเนื่องในภาคเหนือ ทำให้ขณะนี้ต้องมีการระบายน้ำลงสู่ภาคเหนือตอนล่าง และภาคกลาง ผลกระทบขณะนี้ที่เกิดขึ้นชัดเจนคือการท่วมพื้นที่ปลูกข้าว จนชาวนาต้องเร่งเกี่ยวข้าวก่อนที่จะเสียหาย
วันนี้กรมชลประทานได้ประกาศแผนระบาย้ำ เพื่อรับฝนที่จะตกช่วงวันที่ 28 ก.ย.-2 ต.ค. 59 ความ โดยที่สถานี C.2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์ จะมีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้น จะสูงสุดประมาณ 2,155 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เมื่อรวมกับปริมาณน้ำจากแม่น้ำสะแกกรัง ที่คาดว่าจะมีปริมาณน้ำสูงสุดประมาณ 400 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทำให้มีปริมาณน้ำไหลสู่เขื่อนเจ้าพระยารวมประมาณ 2,555 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีในวันที่ 6 ต.ค. 59 ในระหว่างนี้จึงจำเป็นต้องทยอยเพิ่มปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาในเกณฑ์ 2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีเป็นลำดับ ส่งผลให้ระดับน้ำด้านท้ายเขื่อนเจ้าพระยา มีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นจากเดิมอีกประมาณ 50-70 เซนติเมตร
ส่วนของเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ กรมชลประทาน ได้คาดการณ์ว่าจะมีปริมาณน้ำไหลลงเขื่อน ในช่วงวันที่ 27 ก.ย.-11 ต.ค. 59 รวมประมาณ 600 ล้านลูกบาศก์เมตร มีโอกาสที่น้ำจะเต็มเขื่อนป่าสักฯได้ในวันที่ 8 ต.ค. 59 จึงต้องระบายน้ำเพิ่มเป็น 40 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน จากเดิม 20.75 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน
ปริมาณน้ำนี้จะไหลมารวมกับปริมาณน้ำที่มาจากคลองชัยนาท-ป่าสัก กรมชลประทานจะควบคุมปริมาณน้ำให้ไหลผ่านเขื่อนพระรามหกในเกณฑ์ 600 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จะส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำป่าสัก ตั้งแต่ด้านท้ายเขื่อนพระรามหกลงมาไปจนถึงจุดบรรจบกับแม่น้ำเจ้าพระยา อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา มีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นประมาณ 1-1.50 เมตร
กรมชลประทานได้ทำหนังสือแจ้งไปยังจังหวัดอุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี และสุพรรณบุรี ที่อยู่นอกคันกั้นน้ำให้เตรียมพร้อมรับสถานการณ์น้ำเอ่อล้นตลิ่งและเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด
ชาวนาบางบาลเร่งเกี่ยวข้าวหนีน้ำ
น้ำที่ไหลมาแล้วนี้ ทำให้ชาวนาในพื้นที่ ต.บางบาล อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา ได้เร่งเก็บเกี่ยวข้าวที่ส่วนใหญ่ยังเขียวอยู่
นายวิชัย กลิ่นดี อายุ 52 ปี สูบน้ำออกจากนาข้าวเนื่องจากมีน้ำท่วมขังจากฝนตกในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาและมีน้ำเมาจากแม่น้ำน้อย ซึ่งข้าวเพิ่งตั้งท้องได้เกือบ 900 วันอยู่ระหว่างตัดสินใจว่าจะเกี่ยวหรือไม่ เนื่องจากเกรงว่าน้ำจะเข้ามาก่อน
ขณะที่นายนภดล แก้วทอง อายุ 35 ปี ทำนาอยู่ 80 ไร่ ซึ่งอยู่ติดกันข้าวยังคงมีความเขียวแต่ก็ต้องเกี่ยวเลย เนื่องจากเห็นว่าหากสูบน้ำออกอย่างเดียวจะไม่ทัน หากน้ำมาอีก จึงตัดสินใจเกี่ยว อาจจะทำให้ราคาถูกเหลือเพียง 6 พันกว่าบาทต่อตัน แต่ดีกว่าจะเสียหายทั้งหมด และครั้งนี้ปลูกข้าวช้า เพราะรัฐบาลให้ชะลอการปลูกช่วงภัยแล้ง พอเริ่มปลูก น้ำก็มาอีก ซึ่งกรมชลประทาน บอกว่า จะป้องกันให้แต่ไม่ไว้ใจกลัวจะปล่อยน้ำเข้าทุ่ง จึงต้องเกี่ยวข้าวเลย แต่ก็เห็นใจกรมชลประทานเหมือนกัน แต่ตอนนี้ก็เห็นใจตัวเองเหมือนกัน
บางระกำเกิดน้ำสองสีจุดบรรจบน้ำนาข้าวเน่า
สถานการณ์น้ำท่วมผืนนา ก็เกิดขึ้น ในเขตอ.พหรมพิราม ต.บ้านกร่าง อ.เมืองพิษณุโลก และขณะนี้มวลน้ำก็ไหลมาสู่แม่น้ำยม ที่อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก ซึ่งสถานการณ์ ณ เวลานี้ เป็นระดับน้ำที่อยู่ในเกณฑ์ปานกลาง มีความสูง 8.14 เมตร จากระดับตลิ่ง 7 เมตร ถือว่าปริมาณน้ำยังไม่มาก เมื่อเทียบกับปีที่น้ำท่วมใหญ่ ปี 2554 ที่อ.บางระกำเวลานั้นระดับน้ำจะขึ้นไปถึง 11 เมตร
สภาพแม่น้ำยมสายเก่า หรือคลองบางแก้ว ได้ไหลมาบรรจบกับแม่น้ำยมสายหลัก บริเวณ อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก ขณะนี้ลำน้ำทั้งสองสายมีสีต่างกันมาก กลายเป็นแม่น้ำสองสี น้ำที่ไหลมาจากแม่น้ำยมสายเก่ามีสีดำ เพราะนาข้าวเน่าบางส่วนที่ถูกน้ำท่วมขัง ส่วนน้ำที่ไหลมาจากแม่น้ำยมสายหลักมีสีน้ำตาล เมื่อมองลงมาจากภาพถ่ายทางอากาศ ที่จุดบรรจบของลำน้ำทั้งสองสายจึงมีสีแตกต่างกันชัดเจน
ชาวต.โผงเผงเจอน้ำท่วมกว่า 1 เมตร
น้ำที่ระบายออกมานี้ ส่งผลให้บ้านเรือนประชาชนบางส่วนในจังหวัดอ่างทอง น้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตรแล้ว โดยเฉพาะชาวบ้านใน ต.โผงเผง อ.ป่าโมก ที่น้ำท่วมมาแล้วเกือบ 1 อาทิตย์ รวมถึงนาข้าว ที่ขณะนี้ชาวนาต้องระดมนำเครื่องสูบน้ำกว่า 30 เครื่องมาช่วยกันสูบน้ำออกจากแปลงนาลงสู่คลองชลประทาน
นางฐิติลักษณ์ แสงงาม นายอำเภอแสวงหา จ.อ่างทอง เปิดเผยว่าน้ำได้ท่วมพื้นที่การเกษตรในอำเภอแสวงหาแล้ว 2 พันกว่าไร่ โดยเฉพาะตำบลศรีพราน 200 กว่าไร่บ้านเรือนประชาชนได้รับความเดือดร้อนแล้วรวม 3 อำเภอ 12 ตำบล 602 ครัวเรือน
ปทุมธานีเดินเครื่องสูบน้ำสกัดท่วมกทม.
ขยับมาในพื้นที่ใกล้ กทม. ที่จังหวัดปทุมธานี เจ้าหน้าที่ได้เร่งป้องกันน้ำท่วม โดยเตรียมเครื่องสูบน้ำที่ประตูระบายน้ำจุฬาลงกรณ์ ใน ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี โดยในขณะนี้มีเครื่องสูบทำงาน 7 เครื่อง อัตราสูบ 42 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพื่อไม่ให้น้ำในคลองเปรมประชากร ไหลไปทางกรุงเทพมหานคร / ข่าวจาก http://www.now26.tv
ส่วนเส้นทางน้ำไหล พบว่า ในส่วนของเจ้าพระยา ได้ไหลมารวมกับแม่น้ำป่าสักอีก 401 ลบ.ม./วินาที ตรงเกาะเมืองกรุงเก่า และมวลน้ำทั้งหมดไหลไปท่วมพื้นที่ 10 ตำบลของ อ.บางปะอิน ที่ติดแม่น้ำเจ้าพระยาครบแล้ว ส่วนที่อำเภอบางไทรติดแม่น้ำน้อย ท่วมแล้ว 21 ตำบล โดยน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำน้อยไหลมารวมกันที่เขตตำบลช้างใหญ่ สนามไชย และ ต.โพแตง ของอำเภอบางไทรซึ่งถูกน้ำท่วมตามชุมชนริมน้ำแล้วเช่นกัน โดยมวลน้ำทั้งหมด จะไหลต่อไปยัง อ.สามโคก จ.ปทุมธานี
เวลา 08.00 น. วันเดียวกัน นายอุดมศักดิ์ เปิดเผยอีก ว่า ล่าสุด เขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท มีการระบายน้ำเพิ่มไปที่ 1,901 ลบ.ม/วินาที และยังมีประกาศแจ้งเตือนจะมีการปล่อยน้ำเพิ่มสูงถึง 2,000 ลบ.ม./วินาที ในระยะนี้ ซึ่งทางจังหวัดได้ออกประกาศแจ้งเตือนแล้ว เพราะว่าการปล่อยน้ำเพิ่มขึ้น จะทำให้ระดับน้ำท่วมสูงขึ้นไปอีก 50-70 เซนติเมตร จากระดับที่เคยท่วมสูงอยู่แล้ว
ขณะที่นางมนัสนันท์ ฐิติรัตพรธรรม ประธานกลุ่มเพาะเห็ดตำบลบางหัก อำเภอบางบาล เปิดเผยว่า ชาวบ้านได้นำเงินกองทุนตำบลละ 5 ล้าน บางส่วนมาลงทุนทำวิสาหกิจชุมชนเพาะเห็ด โดยเลือกทั้งโรงเรือนซึ่งเป็นที่สูงของชุมชนและมีคันล้อม แต่ปรากฏว่าน้ำขึ้นรวดเร็วมากและไหลทะลักเข้าท่วมโรงเพาะเห็ด จนต้องรีบเคลื่อนย้ายก้อนเห็ด โชคดีมีกำลังทหาร จากกองทัพบกในพื้นที่ เข้ามาช่วยเหลือ ความเสียหายจึงลดน้อยลง / ข่าวจากมติชนออนไลน์
ข่าวน้ำท่วมประจำวันที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2559
ภาคเหนือตอนล่าง และอีสานตอนล่าง ฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคกลาง และตะวันออก มีฝนทั่วไป แต่หลังจากวันที่ 29 ก.ย.-2 ต.ค. ร่องมรสุมเลื่อนพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และอีสาน ทำให้มีฝนเพิ่มขึ้น บางแห่งตกหนักถึงหนักมาก ส่วนวันนี้ กทม.- มีโอกาสเกิดฝน 70% ช่วงบ่ายถึงค่ำ
วันที่ 27 กันยายน จากการตรวจสอบสภาพอากาศกับระบบพยากรณ์อากาศไทยรัฐทีวี เดอะเวตเตอร์ คอมพานี วันนี้หลายพื้นที่ยังคงมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง สถานการณ์น้ำท่วมน้ำป่าไหลหลาก ก็ยังคงเกิดขึ้นในหลายพื้นที่เช่นเดียวกัน
ข่าวน้ำท่วมประจำวันที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2559
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 26 กันยายน นายอุดมศักดิ์ ขาวหนูนา ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยหลังจากประชุมร่วมกับอธิบดีกรมชลประทาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องผ่านระบบ Web Conference หรือจากกรมชลประทานมายังศาลากลางจังหวัดในลุ่มเจ้าพระยา
ซึ่งได้ข้อสรุปโดยกรมชลประทานแจ้งว่า จะมีฝนตกหนักอีกในช่วงวันที่ 30 กันยายน ถึง 2 ตุลาคม และจำเป็นต้องมีการเร่งระบายน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่ม เพื่อรับมวลน้ำจากภาคเหนือและภาคกลางตอนบน โดยเขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท มีแนวโน้มจะปล่อยน้ำถึง 2,000 ลบ.ม./วินาที และเขื่อนพระรามหก เขตอำเภอท่าเรือ ปล่อยลงสู่แม่น้ำป่าสักที่ 600 ลบ.ม./วินาที ในช่วงกลางสัปดาห์ หรือในอีก 2-3 วันนี้ โดยจะทำให้น้ำท่วมสูงในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่อำเภอบางบาล เสนา ผักไห่ และพระนครศรีอยุธยา เพิ่มสูงจากเดิมที่ท่วมอยู่แล้วอีก 50-75 เซนติเมตร และในลุ่มแม่น้ำป่าสัก ที่อำเภอท่าเรือ และอำเภอนครหลวง น้ำจะสูงขึ้น 1-1.5 เมตร ซึ่งอาจทำให้น้ำเริ่มล้นตลิ่งได้ในบางจุดที่ลุ่มต่ำ
และนอกจากจะมีการเร่งระบายน้ำลงทะเลแล้ว จะมีการตัดยอดน้ำบางส่วน ผันเข้าทุ่งนาในแก้มลิงตามธรรมชาติของสองฝั่งแม่น้ำ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมนี้ ตามความเหมาะสมของสภาพพื้นที่ในแต่ละทุ่งนา โดยจะต้องไม่ส่งผลกระทบใดๆ ทั้งนี้ เพื่อเก็บน้ำไว้ใช้ในยามที่ขาดแคลน
ข่าวน้ำท่วม อ.สองพี่น้อง
ฝนที่ตกหนักติดต่อกัน 2 วัน ทำให้เกิดน้ำท่วมขังภายในโรงเรียนวัดดงตาล ครูต้องเร่งช่วยกันขนย้ายของไปไว้บนที่สูง ด้านนายกเทศบาลเมืองสองพี่น้อง เร่งกำจัดผักตบชาวและวัชพืช
เมื่อวันที่ 26 ก.ย. ว่าที่ ร.ต.สมเดช เรืองขจร ผอ.รร.อนุบาลวัดดงตาล (วโรสุธาประชาสรรค์) หมู่ 1 ต.บางพลับ อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ที่เกิดพายุฝนตกกระหน่ำลงมาติดต่อกัน 2 วัน เป็นผลจากร่องมรสุมที่พาดผ่าน ทำให้ทำให้เกิดฝนหนักน้ำท่วมฉับพลัน โดยน้ำฝนได้ไหลเข้าท่วมภายในโรงเรียน จนมีระดับน้ำสูงตั้งแต่ 20-40 เซนติเมตร และยังเข้าท่วมสนามเด็กเล่น และโรงอาหารของโรงเรียนได้รับความเสียหาย คณะครู และเจ้าหน้าที่ต้องช่วยกันขนสิ่งของขึ้นไปไว้ในที่สูง เกรงว่าหากมีฝนตกลงมาก็จะทำให้น้ำที่ท่วมมีระดับสูงขึ้นอีก เบื้องต้นได้ประสานไปยัง พระสมุห์นิพนธ์ จรณธัมโม เจ้าอาวาสวัดดงตาล เจ้าคณะตำบลบางพลับ นำเครื่องสูบน้ำมาติดตั้ง เพื่อสูบน้ำออกอย่างเร่งด่วน โดยหวั่นเกรงว่าเด็กจะได้รับอันตรายในวันเปิดทำการเรียนการสอน
ข่าวน้ำท่วมสิงห์บุรี
นายอดิศักดิ์ ไพบูลย์ศิริ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสิงห์บุรี เปิดเผยกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า สถานการณ์ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำ 2 ตำบล ใน อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี คือ ต.ชีน้ำร้าย และ ท่างาม ล่าสุดยังอยู่ในภาวะทรงตัว วัดระดับสูงสุดอยู่ที่ 50 เซนติเมตร ส่งผลให้มีบ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 65 หลัง เบื้องต้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้าช่วยเหลือแล้ว นอกจากนี้ ในส่วนของ อ.เมือง ปัจจุบันเริ่มมีน้ำเอ่อล้นเข้าท่วม ต.บางกระบือ สูงประมาณ 20 เซนติเมตร ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถสำรวจความเสียหายได้ สำหรับสาเหตุที่ 2 อำเภอ ต้องประสบปัญหาน้ำท่วมมาจากปัจจัย 4 ข้อ ประกอบด้วย 1.การที่เขื่อนเจ้าพระยา ปล่อยน้ำในอัตรา 1,800 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที 2.มวลน้ำจากลุ่มน้ำสะแกกรัง 3.มวลน้ำจากลุ่มน้ำป่าสัก และ 4.ปริมาณฝนที่ตกในจังหวัด
ทั้งนี้ แม้ว่าจะเริ่มมีน้ำปริ่มตลิ่งในบางจุด แต่ยังอยู่ในภาวะที่สามารถรับได้ เนื่องจากภายใน อ.เมือง จะเข้าสู่วิกฤติจริง ๆ ในช่วงที่เขื่อนเจ้าพระยา ปล่อยน้ำในอัตรา 2,200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
อย่างไรก็ตาม คงต้องรอดูท่าทีจากสถานีวัดน้ำจุด C2 นครสวรรค์ ว่าจะมีการระบายน้ำออกมาเพิ่มเติมอีกหรือไม่ โดยหากลดระดับการปล่อยลงก็จะช่วยให้น้ำลดจนกลับเข้าสู่ภาวะปกติได้เร็ว แต่หากเพิ่มปริมาณขึ้นจะทำให้มีน้ำท่วมต่อไป / ข่าวจาก INN
ข่าวน้ำท่วมอยุธยา
ข่าวน้ำท่วม 2559
ข่าวน้ำท่วมอยุธยา
สถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดอ่างทองน้ำยังท่วมอย่างต่อเนื่องและขยายวงกว้างไปเรื่อย ๆ เนื่องจากระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยายังคงเพิ่มสูง โดยล่าสุดเขื่อนเจ้าพระยาระบายน้ำอยู่ที่ 1,790 ลบ. เมตร/วินาที ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่ไหลผ่าน หน้าศาลากลางจังหวัดอ่างทอง อยู่ที่ 1,860 ลบ.เมตร/วินาที ระดับน้ำสูง 7.21 เมตร สูงขึ้นจากเมื่อวาน 43 ซ.ม. ทำให้ในพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วมขยายวงกว้างและท่วมมากขึ้น โดยเฉพาะในต.โผงเผง ที่ได้รับผลกระทบอย่างหนัก โดยเฉพาะในหมู่ที่ 4 ต.โผงเผง ที่มีเขตติดต่อกับ ต.บางหัก อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา น้ำได้ไหลข้ามถนนปูนในหมู่บ้านข้ามไปอีกฝังอย่างรวดเร็ว ชาวบ้านต้องเร่งยาเรือ เพื่อใช้ในการเข้าออกจากบ้าน ซึ่งตอนนี้พื้นที่ในจังหวัดอ่างทองประสบอุทกภัยแล้วแล้ว จำนวน 3 อำเภอ 4 ตำบล 17 หมู่บ้าน 299ครัวเรือน โดยแยกเป็นอำเภอป่าโมก 1 ตำบล 7 หมู่บ้าน 108 ครัวเรือน อำเภอเมืองอ่างทอง 2 ตำบล 2 หมู่บ้าน 7 ครัวเรือน อำเภอวิเศษชัยชาญ 1 ตำบล 8 หมู่บ้าน 184 ครัวเรือน / ขอบคุณข่าวจาก www.fb.com/แจ้งข่าวสารอ่างทอง
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เตือน 20 จังหวัด เตรียมรับมือกับอุทกภัย วาตภัย และดินถล่มในวันที่ 8-9 ตุลาคมนี้
วันนี้ (9 ตุลาคม 2557) รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ทางช่อง 3 รายงานว่า กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ออกมาเตือนภัย 20 จังหวัด ให้เตรียมรับมือกับอุทกภัย วาตภัย และดินถล่มที่อาจจะเกิดขึ้นในช่วงวันที่ 8-9 ตุลาคมนี้ โดยจังหวัดดังกล่าวมีดังนี้
เพชรบุรี
ประจวบคีรีขันธ์
ชลบุรี
ระยอง
จันทบุรี
ตราด
ระนอง
พังงา
ภูเก็ต
กระบี่
ตรัง
ชุมพร
สุราษฎร์ธานี
นครศรีธรรมราช
พัทลุง
สงขลา
ยะลา
ปัตตานี
นราธิวาส
สตูล
กทม. เตรียมพร้อมรับมืออิทธิพลพายุ คัลแมกี กระทบไทยมีฝนมากขึ้น ช่วงวันที่ 16-18 ก.ย.
ข่าวน้ำท่วม อัพเดต 17 กันยายน พ.ศ. 2557
เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 17 ก.ย. ผู้สื่อข่าว ข่าวสด รายงานว่า ฝนที่ตกหนักต่อเนื่องในเขตเทศบาลเมืองระนอง ส่งผลให้น้ำป่า ที่รับน้ำจากแนวภูเขาในเขตตำบลบางริ้น และตำบลหาดส้มแป้น ไหลหลากลงเต็มคลองเจ็ดท่อ อ.เมืองระนอง โดยน้ำป่าได้ทะลักออกจากคลอง ที่สะพานระหัดบน ไหลบ่าเข้ามาบนถนนชลละอุ ,ถนนดับคดี,และถนนเรืองราษฎร์ กำลังเข้าท่วมตลาดเช้าชุมชนสะพานยูง ,ชุมชนโรงกลวง ,และชุมชนระนองแลนด์ เป็นระยะทาง กว่า 2 กิโลเมตร โดยระดับน้ำสูงกว่า 30 เซนติเมตร
ส่วนเส้นทางหลัก ถนนเรืองราษฎร์ ต.เขานิเวศน์ อ.เมืองระนอง ซึ่งเป็นถนนสายหลัก เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งระบายการจราจรที่ติดขัดนับกว่า 1 กิโลเมตร เพราะถนนหลายสาย เช่น ถนนกำลังทรัพย์ ตั้งแต่จวนผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง ถึงสี่แยกสี่แยกโรงพยาบาลระนอง น้ำสูงประมาณ 40 เซนติเมตร ทำให้รถจักรยานยนต์ และรถยนต์ ไม่สามารถสัญจรไปมาได้
ซึ่งขณะนี้ สถานการณ์ในพื้นที่ ยังมีฝนตกลงมาต่อเนื่อง หลายหน่วยงาน ระดมกำลังพล จากหน่วยงานต่างๆ ทั้งทหาร ตำรวจ อาสาสมัครกู้ภัย ต่างระดมกำลังเข้าช่วยชาวบ้าน ขนย้ายข้าวของ ขึ้นที่สูง และ เร่งนำกระสอบทราย เข้าปิดทางน้ำ เพื่อป้องกันเหตุน้ำเข้าท่วมภายในบ้าน
ข่าวน้ำท่วม อัพเดต 11 กันยายน พ.ศ. 2557
วันที่ 10 กันยายน 2557 รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ทางช่อง 3 รายงานว่า วันนี้ฝนจะกระหน่ำในภาคตะวันออก ภาคใต้ฝั่งตะวันออก กรุงเทพฯ และปริมณฑล ประมาณ 60% ของพื้นที่ ส่วนภาคใต้ฝั่งตะวันตกจะมีฝนตกหนักที่สุดประมาณ 80% ของพื้นที่ เช่น ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและปริมาณฝนที่ตกสะสมต่อเนื่องไว้ด้วย
ทางด้าน นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า ขณะนี้ได้มีการประสาน 15 จังหวัด แยกเป็นภาคตะวันออก 7 จังหวัด ได้แก่ นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด และภาคใต้ 8 จังหวัด ได้แก่ ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ให้ระวังภัยพิบัติจากน้ำป่า ดินโคลนถล่ม หรือน้ำท่วมฉับพลัน
ขณะที่กรมอุตุนิยมวิทยา กล่าวว่า ช่วงนี้เป็นช่วงเว้นระยะของฝน ทำให้ภาคเหนือ อีสาน และกลาง มีฝนลดลง และจะกลับมาตกอีกครั้งในวันที่ 11-13 กันยายน จึงขอให้ประชาชนในพื้นที่ใกล้แม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำชี แม่น้ำมูล เฝ้าระวังปริมาณน้ำที่อาจเพิ่มสูงขึ้นและอาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน ทั้งนี้สำหรับฤดูฝนปีนี้คาดว่าจะสิ้นสุดในช่วงสิ้นเดือนกันยายนนี้ ก่อนจะเข้าสู่ฤดูหนาว แต่โดยภาพรวมพบว่าฝนน้อยกว่าทุกปีทำให้อากาศในปีนี้ไม่หนาวเท่าปีที่ผ่านมา
ข่าวน้ำท่วม อัพเดต 9 กันยายน พ.ศ. 2557
วันที่ 6 กันยายน 2557 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากฝนที่ตกติดต่อนานหลายชั่วโมง ได้ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากท่วมบ้านเรือนราษฎร ตั้งแต่ด้านหน้าสถานีขนส่ง อ.แม่สาย จ.เชียงราย ไปจนถึงหัวสะพานน้ำสาย ระยะทางรวมกว่า 5 กม. โดยเฉพาะที่หมู่บ้านสายลมจอย ย่านเศรษฐกิจ ได้รับผลกระทบหนักที่สุด มีน้ำท่วมสูงกว่า 2 เมตร ประชาชนต้องเร่งขนข้าวของอพยพหนีน้ำท่วม
ด้าน พ.ต.อ. ณัฏฐวุฒิ ยุววรรณ ผกก.สภ.แม่สาย ได้ร่วมกับทหาร และนายสมชัย รุ่งสาคร นายอำเภอแม่สาย ออกช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับความเดือดร้อนแล้ว และยังได้รับแจ้งว่าที่ตลาดท่าล้อ จ.ท่าขี้เหล็ก ของพม่า ก็เกิดน้ำท่วมสูงกว่า 2 เมตร ซึ่งทางพม่าได้ประสานขอให้ฝ่ายไทยเข้าไปช่วยเหลือด้วย เพราะเป็นย่านเศรษฐกิจที่มีร้านค้าของคนไทยเปิดขายของอยู่จำนวนมาก แต่เหตุการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นได้ทำให้เกิดความเสียหายไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก สปริงนิวส์, ข่าวสด
เมื่อวันที่ 6 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังมีฝนตกหนักติดต่อกันหลายชั่วโมงทั่วทุกพื้นที่ของ จ.เชียงราย ทำให้น้ำป่าจากเทือกเขาดอยนางแลและเทือกเขาดอยนางนอน ทะลักลงมาเข้าท่วมบ้านเรือนในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะชุมชนที่อยู่ลุ่มแม่น้ำและติดถนนพหลโยธินสายเชียงราย-แม่สาย ซึ่งกลายเป็นแนวกั้นน้ำที่ทำให้เกิดการเอ่อล้นอยู่เป็นประจำ โดยน้ำได้เข้าเอ่อถนนพื้นที่บ้านขัวแคร่ ต.บ้านดู่ อ.เมือง และบริเวณบ้านนางแล ต.นางแล อ.เมือง โดยน้ำเข้าท่วมผิวจราจรฝั่งตะวันตกเกือบทั้งหมดระดับน้ำลึกตั้งแต่ 30-50 ซ.ม.ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องจัดให้ใช้การจราจรทางฝั่งตะวันออกให้รถแล่นสวนทางกัน เป็นการชั่วคราวในบางจุด ทำให้การจราจรติดขัดอย่างหนัก ขณะที่หลายหมู่บ้านในตำบลต่างๆ ดังกล่าว ต่างถูกน้ำป่าเข้าท่วมตามรายทาง โดยเฉพาะลุ่มแม่น้ำโดยถ้วนหน้า
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ด้านชายแดนไทย-เมียนมาร์ ด้าน ต.เวียงพางคำ และ ต.แม่สาย อ.แม่สาย พบว่าลำน้ำสายได้เอ่อเข้าท่วมเพิ่มเติมอีก เพราะมีฝนตกหนักในฝั่งประเทศเมียนมาร์ซึ่งเป็นต้นแม่น้ำ โดยน้ำเข้าท่วมตลาดสายลมจอย และชุมชนริมฝั่งซึ่งเป็นร้านค้า ขณะที่ในฝั่งตลาดของ จ.ท่าขี้เหล็ก พบว่านอกจากร้านค้าจะถูกน้ำท่วม จนต้องปิดตลาดแล้ว ยังมีรถยนต์ รถจักรยานยนต์ จำนวนมากที่หนีน้ำไม่ทัน และจมอยู่ใต้น้ำด้วย อย่างไรก็ตาม ระดับน้ำทุกแห่งเริ่มทรงตัวและลดลงหลายจุด / khaosod.co.th
ข่าวน้ำท่วม อัพเดต 6 กันยายน พ.ศ. 2557
โดย ทีมข่าวภูมิภาค 6 ก.ย. 2557 00:25 / thairath.co.th
เทศบาลสวรรคโลก จ.สุโขทัย เร่งเสริมกระสอบทราย ทำคันกั้นน้ำ หลังปริมาณน้ำในแม่น้ำยมสูงขึ้นต่อเนื่อง หวั่นกระทบพื้นที่ศก. ขณะที่อ.ศรีสำโรง คันดินกั้นน้ำทรุดตัวลง น้ำเอ่อล้นข้ามสะพานในต.วัดเกาะ เกือบครึ่งเมตร จ่อเข้าท่วมตลาด...
เมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 5 ก.ย. นายสมชาติ ลิมปะพันธุ์ นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองสวรรคโลก อ.สวรรคโลก จ.สุโขทัย ได้นำเจ้าหน้าที่นำกระสอบทราย มาวางเป็นแนวกั้นน้ำตลอดสายริมแม่น้ำยม ช่วงตลาดสดอ.สวรรคโลก ตั้งงแต่หน้าสถานีดับเพลิงสวรรคโลก ไปจนถึงหน้าวัดสว่างอารมณ์วรวิหาร ถนนหน้าเมือง เนื่องจากบริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่เศรษฐกิจ จึงต้องวางกระสอบทรายจากพื้นถนนที่สูง 1 เมตรเพิ่มอีก 50 เซ็นติเมตร ตามจุดต่างๆตามทางลงแม่น้ำ ซึ่งถือว่าอันตรายที่สุด เนื่องจากมีความกว้าง จึงต้องทำแนวกระสอบทรายกั้นอีก 2 ชั้น พร้อมติดตั้งไฟส่องสว่าง และเครื่องสูบน้ำเพิ่มเติม เพื่อเตรียมรับมือปริมาณน้ำที่กำลังเพิ่มขึ้นสูง โดยล่าสุดวัดได้ที่ 10 เมตร และเหลืออีกเพียง 1 เมตร น้ำจะเสมอกับขอบปูนแนวกั้นน้ำ
อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า บริเวณบ้านนา หมู่ 5 ต.บ้านนา อ.ศรีสำโรง คันดินกั้นน้ำได้เกิดทรุดตัวลงความกว้าง 1 เมตร ซึ่งเจ้าหน้าที่ไม่สามารถซ่อมแซมได้ เนื่องจากกระแสน้ำแรงมาก แต่ไม่กระทบต่อประชาชนเนื่องจากเป็นพื้นที่ทุ่งนา ล่าสุดเมื่อเวลา 22.30 น. ระดับน้ำในแม่น้ำยม ได้เอ่อล้นข้ามสะพานพัฒนาภาค 6 หมู่ 5 ต.วัดเกาะ อ.ศรีสำโรง จ.สุโขทัย โดยระดับน้ำสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์เกือบครึ่งเมตร ทางเทศบาลตำบลศรีสำโรง ต้องระดมเจ้าหน้าที่นำกระสอบทรายมาปิดกั้น 2 ชั้นบนสะพาน เพื่อไม่ให้น้ำทะลักเข้าท่วมตลาดเทศบาล ซึ่งต้องติดตามเฝ้าระวังตลอดทั้งคืน.
ถนนเลียบตลิ่งริมแม่น้ำยม ตำบลปากแคว อำเภอเมืองสุโขทัย ถูกน้ำกัดเซาะขาดเป็นทางยาว 15 เมตร ทำให้น้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรและบ้านเรือนบางจุดท่วมสูงถึง 1.50 เมตร ชาวบ้านเร่งขนย้ายสิ่งของและเครื่องมือการเกษตรไปเก็บไว้ที่ปลอดภัย นอกจากนั้น น้ำยังไหลหลากเข้าท่วมถนนสายสุโขทัย-วังไม้ขอน
ส่วนที่อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมไร่ข้าวโพด และกัดเซาะคอสะพานคอนกรีต พังเสียหาย สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านเป็นอย่างมาก เนื่องจากต้องขนพืชผลทางการเกษตรไปจำหน่ายไม่ได้ หรือต้องอ้อมไปเส้นทางอื่น ซึ่งมีระยะทางไกลกว่า - สำนักข่าวไทย
ข่าวน้ำท่วม อัพเดต 3 กันยายน พ.ศ. 2557
อธิบดี ปภ. เตือนชาวบ้านในภาคเหนือ อีสาน ตะวันออก ภาคใต้ฝั่งตะวันตก พบพื้นที่เสี่ยง 36 จังหวัด เฝ้าระวัง น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินถล่มในพื้นที่เสี่ยงภัย ที่ลาดเชิงเขา
เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2557 นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า จากการตรวจสอบข้อมูลสภาพอากาศ จากกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า ประเทศไทยจะมีฝนตกชุกหนาแน่นและฝนตกหนักบางพื้นที่ โดยเฉพาะภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก อาจส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำล้นตลิ่ง น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่มในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณที่ลาดเชิงเขา พื้นที่ราบลุ่มและริมฝั่งแม่น้ำ ปภ.จึงได้ประสาน 36 จังหวัด แยกเป็น
ภาคเหนือ 9 จังหวัด ได้แก่ อุตรดิตถ์ เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ลำปาง ลำพูน เชียงราย พะเยา แพร่ และน่าน
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 13 จังหวัด ได้แก่ นครราชสีมา ขอนแก่น มหาสารคาม กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด นครพนม มุกดาหาร สกลนคร หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี เลย และหนองบัวลำภู
ภาคกลาง 4 จังหวัด ได้แก่ นครนายก สุโขทัย พิษณุโลก และเพชรบูรณ์
ภาคตะวันออก 6 จังหวัด ได้แก่ ปราจีนบุรี สระแก้ว ชลบุรี จันทบุรี ตราด และระยอง
ภาคตะวันตก 1 จังหวัด ได้แก่ ตาก
ข่าวน้ำท่วม อัพเดต 2 กันยายน พ.ศ. 2557
น้ำท่วมชัยภูมิ ฝนถล่มหนัก กระแสน้ำซัดฝายดินขาดเป็นทางยาวกว่า 20 เมตร เฝ้าระวังเข้ม หวั่นน้ำป่าทะลักซ้ำอีกระลอก ติดตามระดับน้ำชีตลอด 24 ชั่วโมง
วันที่ 2 กันยายน 2557 ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ฝนที่จังหวัดชัยภูมิ ยังตกหนักต่อเนื่องในเขต อ.หนองบัวระเหว ล่าสุด เจ้าหน้าที่ ต.โคกสะอาด เร่งสำรวจพื้นที่การเกษตรที่ถูกน้ำท่วมขยายวงกว้างกว่า 3 หมู่บ้าน มากกว่า 2,000 ไร่ ระดับน้ำสูงกว่า 1-2 เมตร ซึ่งสถานการณ์ยังไม่ปกติ เนื่องจากยังมีฝนตกหนักบนเทือกเขาพังเหยอยู่อีก และคาดว่า 1-2 วันนี้ หากฝนยังตกหนักอีกจะมีน้ำป่าทะลักลงมาเพิ่มเติมอีกระลอกแน่ จนล่าสุดทางด้านฝายดินขนาดใหญ่ที่อยู่ในพื้นที่ อ.หนองบัวระเหว ที่สร้างไว้เพื่อเก็บกักน้ำจากเทือกเขาพังเหย ก่อนไหลผ่านลงลำน้ำชี เกิดรอยแตกร้าวขาดเสียหายแล้วบางช่วงยาว กว่า 20 เมตร
จากนี้ไปหากฝายแห่งนี้รับน้ำไม่ไหวเกิดขาดเสียหายทั้งหมด คาดว่า ปริมาณน้ำป่าที่ทะลักลงมาระลอกที่ 2 จะลงสู่ลำน้ำชีอย่างรวดเร็ว และเกิดหลากท่วมชาวบ้านในพื้นที่ใกล้ลำชีทั้งหมดของ 3 อำเภอใกล้เคียงที่ อ.บ้านเขว้า จัตุรัส และเขต อ.เมืองชัยภูมิ จึงควรติดตามสถานการณ์การแจ้งเตือนจากผู้นำชุมชน และติดตามระดับน้ำชีที่อาจสูงขึ้นรวดเร็วอย่างใกล้ชิดทุกระยะตลอด 24 ชั่วโมง เป็นการด่วนด้วย
ข่าวน้ำท่วม อัพเดต 29 สิงหาคม พ.ศ. 2557
วันที่ 29 สิงหาคม ที่จังหวัดพะเยา ฝนที่ตกมาอย่างหนักตลอดคืนที่ผ่านมาทำให้แม่น้ำหลายสายน้ำมีระดับสูงขึ้นและเกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่อำเภอปง
เวลา 9.00 น.วันที่ 29 สิงหาคม น้ำป่าไหลจากดอยภูลังกาไหลมาสมทบกับน้ำคะและน้ำงิม เข้าท่วมพื้นที่ตำบลงิม 5 หมู่บ้านบ้านประกอบด้วย หมู่ที่ 2,3,9,11 และ 15 บางจุดระดับน้ำสูงกว่า 2 เมตรเชี่ยวกราก มีประชาชนติดอยู่ในหมู่บ้านหนองบัว หมู่ที่ 11 กว่า 200
ทางเทศบาลตำบลงิมต้องประสานงานขอสนับสนุนเรือท้องแบนจากฝ่ายปกครอง อ.ปงและเทศบาลตำบลงิม และฝ่ายทหารจากจังหวัดทหารบก(จทบ.)พะเยา เข้าไปให้การช่วยเหลือเพื่อนำผู้ที่ติดอยู่ในหมู่บ้าน / matichon.co.th
ข่าวน้ำท่วม อัพเดต 28 สิงหาคม พ.ศ. 2557
วันที่ 28 สิงหาคม 2557 รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ทางช่อง 3 รายงานว่า จากกรณีที่เกิดฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องในช่วงบ่ายถึงเย็นวานนี้ (27 สิงหาคม 2557) ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันบริเวณย่านถนนแจ้งวัฒนะ โดยเฉพาะภายในโครงการเมืองทองธานี อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ซึ่งมีน้ำท่วมหนัก ช่วงบริเวณหน้าธนาคารกสิกรไทย มีน้ำท่วมสูงประมาณ 50 เซนติเมตร ทำให้รถยนต์ที่จอดอยู่ริมทางน้ำท่วมสูงถึงประตูรถ และรถยนต์ที่จะใช้สัญจรบริเวณดังกล่าว บางคันต้องหลีกเลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่น
นอกจากนี้การจราจรด้านถนนแจ้งวัฒนะ ช่วงหน้าห้างเซ็นทรัล สาขาแจ้งวัฒนะ ติดขัดเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีน้ำท่วมขังสูงกว่า 30 เซนติเมตร รวมถึงบริเวณก่อนขึ้นทางด่วนแจ้งวัฒนะเช่นกันซึ่งจุดดังกล่าวเป็นที่ต่ำทำให้น้ำท่วมขังมีระดับสูง อย่างไรก็ตาม ความคืบหน้าล่าสุดในช่วงเช้าวันนี้ (28 สิงหาคม) พบว่าสถานการณ์ได้คลี่คลาย น้ำท่วมเมืองทองธานีถูกระบายหมดแล้ว
ข่าวน้ำท่วม อัพเดต 26 สิงหาคม พ.ศ. 2557
ฝนตกหนักที่ภูเก็ต ทำให้เกิดน้ำท่วมขังอีกบริเวณเทศบาลเมืองป่าตอง อำเภอกระทู้ ที่ลุ่มบางจุดระดับน้ำสูงประมาณ 50-80 เซนติเมตร
ฝนตกหนักตั้งแต่เวลา 14.00 น. และผ่านไป 1 ชั่วโมง ได้น้ำป่าจากเทือกเขานาคเกิดไหลลงมาสมทบ ประกอบกับช่วงนี้น้ำทะเลหนุนด้วย น้ำระบายไม่ทัน และท่วมอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะพื้นที่สถานีตำรวจภูธรกระทู้ ถนนสาย ก. ถนนราษฎร์อุทิศ 200 ปี และ ชุมชนนาใน เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำทำให้น้ำท่วมขังได้ง่าย จนรถเล็กไม่สามารถผ่านไปได้ ทางเทศบาลต้องเร่งส่งรถสูบน้ำเข้ามาช่วยเหลือในการระบายน้ำออกสู่ทะเล ขณะเดียวกันมูลนิธิกุศลทางภูเก็ตได้ส่งเรือท้องแบนจำนวน 2 ลำ มาช่วยในการลำเลียงนักท่องเที่ยวที่มีกำหนดเดินทางกลับประเทศออกจากพื้นที่น้ำท่วม เพื่อให้สามารถเดินทางไปยังท่าอากาศยานภูเก็ตได้ทันตามกำหนด
กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งว่า ช่วงวันที่ 26-28 สิงหาคมนี้ ร่องมรสุมจะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้นกับมีฝนตกหนักในหลายพื้นที่ ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนัก และฝนที่ตกสะสมไว้ด้วย
วันที่ 25 สิงหาคม 2557 เวลา 17:26:25 น.
ข่าวน้ำท่วม 2557
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 8 ก.ค. 57 ที่ จ.เชียงราย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากภาวะฝนตกหนักทั่วพื้นที่มาตลอด 2 วัน ทำให้ปริมาณน้ำฝนจากยอดดอยสูง ไหลสู่แม่น้ำสายต่างๆ เกิดล้นตลิ่ง จนไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนชาวบ้าน หมู่ 1, 2, 3, 11, 15, 20, 21 และหมู่ 22 ต.งิ้ว อ.เทิง และอีก 4 หมู่บ้านในพื้นที่ ต.หงาว
ที่ อ.แม่จัน ปริมาณน้ำในแม่น้ำจันได้ไหลล้นฝั่งท่วมถนน ขังบนถนนสายแม่จัน-แม่อาย และที่ ต.แม่ไร่ ต.ท่าข้าวเปลือก ต.ป่าตึง ทำให้ประชาชนสัญจรไปมาลำบาก นอกจากนั้น ยังเกิดดินภูเขาสูงสไลด์ตัวลงมาทับบ้านเรือนราษฎร บนยอดดอยสูง บ้านร่มฟ้าทอง ต.ปอ อ.เวียงแก่น บ้านเรือนเสียหาย 1 หลัง เช่นเดียวกับที่บ้านห้วยหาญ มีดินสไลด์ลงมาทับบ้านเรือนราษฎรอีก 1 หลังเช่นกัน แต่ไม่มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต
ส่วนที่บ้านเทอดไทย ม.13 ต.เทอดไทย ต.เทอดไทย อ.แม่ฟ้าหลวง ดินภูเขาอุ้มน้ำไม่ไหว ได้สไลด์ตัวลงมาปิดทับถนน 1 ช่องจราจร
นอกจากนี้ ถนนสายเทิง-ขุนตาล-เชียงของ บริเวณบ้านใหม่พัฒนา อ.เชียงของ มีเสาไฟฟ้าข้างทางที่กำลังก่อสร้างได้ล้มลง และดึงให้สายไฟฟ้าอีกกว่า 30 ต้น ล้มขวางถนน เจ้าหน้าที่การไฟฟ้า ได้เข้าแก้ไข เพื่อเปิดช่องทางจราจรอย่างเร่งด่วน
นายสว่าง ม่อมดี ปภ.เชียงราย กล่าวว่า จากภาวะฝนตกหนัก ทำให้ปริมาณน้ำฝนจำนวนมากไหลไม่ทัน เอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือน ไร่นาพืชสวนทางการเกษตร ในพื้นที่ อ.เชียงของ และ อ.เชียงแสน หลายหมู่บ้าน ตั้งแต่เมื่อวันที่ 7 ก.ค.ที่ผ่านมา แต่ขณะนี้ได้เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว โดยได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ท้องถิ่น เดินทางเข้าพื้นที่สำรวจความเสียหาย เพื่อดำเนินการให้ความช่วยเหลือต่อไป
ขณะเดียวกัน ที่บ้านไร่ หมู่ 7 ต.แม่เงิน อ.เชียงแสน ท่อประปาหมู่บ้านได้ขาดชำรุดเสียหาย ซึ่งกำลังส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบและให้ความช่วยเหลือแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น้ำจากเทือกเขาดอยแป๋ที่ไหลลงอ่างเก็บน้ำห้วยงิ้วเป็นจำนวนมากจนน้ำล้นอ่างไหลทะลักเข้าท่วมหมู่บ้าน ซึ่งพบบ้านเรือนราษฎร ถนนในหมู่บ้านสักใต้ ม.3 บ้านสันเชียงใหม่ ม.5 บ้านสักเหนือ ม.11 บ้านสักสันติราษฎร์ ม.15 บ้านสักสันเจริญ ม.20 บ้านสักกลางพัฒนา ม.21 บ้านใหม่สวนดอก ม.25 กว่า 500 หลัง ถูกน้ำท่วม บางหลังถูกน้ำท่วมสูง 50-70 เซนติเมตร และที่ราบลุ่มบางจุดลึกกว่า 1 เมตร และยังมีพื้นที่ทางการเกษตรถูกน้ำท่วมเป็นวงกว้างด้วย
หลังเกิดเหตุ นายสุทธิรักษ์ รักเจริญ นายอำเภอเทิง และคณะ เข้าตรวจสอบเหตุน้ำป่าไหลทะลัก และกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งออกสำรวจความเสียหาย พร้อมจัดกำลังเตรียมพร้อมช่วยเหลือชาวบ้านอย่างใกล้ชิด และเฝ้าระวังเหตุน้ำท่วมฉับพลันจากน้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง และดินโคลนถล่มตลอด 24 ชั่วโมง
นอกจากนี้หินขนาดใหญ่กลิ้งลงมาจากหน้าผา บริเวณท้ายหมู่บ้านห้วยหาญ ม.9 ต.ปอ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย ทับบ้านนายมณฑล มวลสุชัย บ้านเลขที่ 89 จากการตรวจวัดขนาดมีความยาว 1 เมตร กว้าง 50 เซนติเมตร เบื้องต้นที่เจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงรายเข้าตรวจสอบพบว่ามีรถจักรยานยนต์เสียหาย 2 คัน และหลังคาบ้านเสียหาย ทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งเตือนประชาชนในจุดดังกล่าวให้ระวังหินกลิ้งหรือหินสไลด์ เพราะยังคงมีฝนตกหนัก จนทำให้ดินอ่อนตัวและไม่สามารถอุ้มหินขนาดใหญ่เอาไว้ได้.-สำนักข่าวไทย
กรมทางหลวง แนะนำ 9 เส้นทางที่รถผ่านไม่ได้ พร้อมทางเลี่ยง เพื่อให้ผู้ที่สัญจรไปมา ไม่ต้องพบกับความลำบาก
จังหวัดฉะเชิงเทรา : ทางหลวงหมายเลข 3304 บ้านโพธิ์ - แปลงยาว ช่วงกม.ที่ 9 - 14 ระดับน้ำสูง 15 เซนติเมตร น้ำไหลเชี่ยวและผิวทางเป็นหลุมบ่อ ให้ใช้เส้นทางทางหลวงหมายเลข 304 - ทางหลวงหมายเลข 3121 - ทางหลวงหมายเลข 331 - แปลงยาว
จังหวัดนครราชสีมา : ทางหลวงหมายเลข 205 โคกสวาย - แขวงการทางนครราชสีมาที่ 1 ช่วงกม.ที่ 229 - 230 ระดับน้ำสูง 40 - 60 เซนติเมตร ให้ใช้ทาง อบต.บ้านเก่า – วัดสระบัวเกื่อน – บ้านเกาะ
จังหวัดบุรีรัมย์ : ทางหลวงหมายเลข 2120 ส้มป่อย - ละหานทราย ช่วงกม.ที่ 1 - 2 ระดับน้ำสูง 35 เซนติเมตร ให้ใช้เส้นทาง ทางหลวงหมายเลข 348 - แยกบ้านสุขสำราญ – ทางหลวงมายเลข 224 – อำเภอละหานทราย
จังหวัดปราจีนบุรี : - ทางหลวงหมายเลข 33 ปากพลี - ประจันตคาม ช่วงกม.ที่ 170 – 171 ระดับน้ำสูง 15 – 40 เซนติเมตร ให้ใช้ทาง อบต. บ้านโง้ง - ทางหลวงหมายเลข 33 วัดมะกอกแก้ว
ทางหลวงหมายเลข 33 ประจันตคาม - พระปรง ท้องที่อำเภอประจันตคาม ช่วงกม.ที่ 171 - 172 ระดับน้ำสูง 10 - 25 เซนติเมตร ให้ใช้เส้นทาง ทางหลวงหมายเลข 33 ขาออก - เข้าวัดมะกอกแก้ว มีป้ายแนะนำ
ทางหลวงหมายเลข 3076 บางหอย - วังขอน ช่วงกม.ที่ 26 - 43 มีน้ำท่วมเป็นแห่ง ๆ ระดับน้ำสูง 30 - 60 เซนติเมตร ให้ใช้เส้นทาง ดังนี้ ทางหลวงหมายเลข 3076 บ้านสร้าง – นครนายก - ทางหลวงหมายเลข 33 นครนายก – ปราจีนบุรี
ทางหลวงหมายเลข 3076 บางหอย - วังขอน ท้องที่อำเภอบ้านสร้าง ช่วงกม.ที่ 26 - 43 มีน้ำท่วมเป็นแห่ง ๆ ระดับน้ำสูง 30 - 60 เซนติเมตร ให้ใช้เส้นทาง ทางหลวงหมายเลข 3076 บ้านสร้าง – นครนายก - ทางหลวงหมายเลข 33 นครนายก – ปราจีนบุรี
ทางหลวงหมายเลข 3078 ระเบาะไผ่ - ประจันตคาม ท้องที่อำเภอประจันตคาม ช่วงกม.ที่ 23 – 24 ระดับน้ำสูง 35 เซนติเมตร ให้ใช้ทางหลวงหมายเลข 33 ดงบัง – บ้านหอย
ทางหลวงหมายเลข 3293 บางพลวง - บ้านสร้าง ท้องที่อำเภอเมืองปราจีนบุรี ช่วง กม.ที่ 0 - 1 ระดับน้ำสูง 50 เซนติเมตร ให้ใช้เส้นทาง ทางหลวงหมายเลข 3076 บ้านสร้าง – นครนายก – ทางหลวงหมายเลข 33 นครนายก – ปราจีนบุรี – ทางหลวงหมายเลข 319 หนองชะอม – ปราจีนบุรี
ทางหลวงหมายเลข 3481 บางขนาก - ปราจีนบุรี ท้องที่อำเภอบ้านสร้าง ช่วงกม.ที่ 26 - 63 มีน้ำท่วมเป็นแห่ง ๆ ระดับน้ำสูง 35 – 45 เซนติเมตร ให้ใช้เส้นทาง ทางหลวงหมายเลข 3076 บ้านสร้าง – นครนายก - ทางหลวงหมายเลข 305 - ทางหลวงหมายเลข 33 แยกหนองชะอม - ทางหลวงหมายเลข 319 ไปปราจีนบุรี
นอกจากนี้ ยังมีบริเวณอื่น ๆ ที่น้ำท่วม 15 – 40 เซนติเมตร จำนวน 11 สายทาง 6 จังหวัด ที่การจราจรโดยรถจักรยานยนต์ไม่สะดวก ดังนี้
1. ทางหลวงหมายเลข 3076 วังขอน - พนมสารคาม ท้องที่อำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา ช่วงกม.ที่ 43 - 53 ระดับน้ำสูง 10 - 27 เซนติเมตร ผ่านได้ไม่สะดวก
2. ทางหลวงหมายเลข 315 หัวไผ่-ชลบุรี ท้องที่อำเภอพนัสนิคม, อำเภอพานทอง จังหวัดชลบุรี ช่วงกม.ที่ 13 - 30 เป็นแห่งๆ ระดับน้ำสูง 10 – 30 เซนติเมตร
3. ทางหลวงหมายเลข 3127 มาบโป่ง-หัวไผ่ ท้องที่อำเภอพานทอง จังหวัดชลบุรี ช่วงกม.ที่ 1 - 9 เป็นแห่งๆ ระดับน้ำสูง 15 – 30 เซนติเมตร ผ่านได้แต่ไม่สะดวก
4. ทางหลวงหมายเลข 24 ซับประดู่ - สี่แยกปักธงชัย ท้องที่อำเภอสูงเนิน จังหวัดนครราชสีมา ช่วงกม.ที่ 3 - 5 ระดับน้ำสูง 25 เซนติเมตร
5. ทางหลวงหมายเลข 224 หัวทะเล - โชคชัย ท้องที่อำเภอเมือง, อำเภอโชคชัย จังหวัดนครราชสีมา ช่วงกม.ที่ 9 - 32 มีน้ำท่วมเป็นแห่ง ๆ ระดับน้ำสูง10 - 25 เซนติเมตร
6. ทางหลวงหมายเลข 226 หัวทะเล-หนองกระทิง ท้องที่อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา ช่วงกม.ที่ 1 - 4 มีน้ำท่วมเป็นแห่ง ๆ ระดับน้ำสูง 10 - 25 เซนติเมตร
7. ทางหลวงหมายเลข 226 หนองกระทิง - ลำปลายมาศ ท้องที่อำเภอลำปลายมาศ จังหวัดบุรีรัมย์ ช่วงกม.ที่ 87 - 88 ระดับน้ำสูง 20 เซนติเมตร
8. ทางหลวงหมายเลข 319 หนองชะอม - ปราจีนบุรี ท้องที่อำเภอเมืองปราจีนบุรี จังหวัดปราจีนบุรี ช่วงกม.ที่ 11 - 13 เป็น ระดับน้ำสูง 20 - 30 เซนติเมตร ผ่านได้ไม่สะดวก
9. ทางหลวงหมายเลข 3076 บางหอย - วังขอน ท้องที่อำเภอบ้านสร้าง จังหวัดปราจีนบุรี ช่วงกม.ที่ 22 - 25 มีน้ำท่วมเป็นแห่ง ๆ ระดับน้ำสูง 15 - 25 เซนติเมตร
10. ทางหลวงหมายเลข 3452 ดงพระราม - ห้วยขื่อ ท้องที่อำเภอเมืองปราจีนบุรี จังหวัดปราจีนบุรี ช่วงกม.ที่ 2 -15 มีน้ำท่วมเป็นแห่ง ๆ ระดับน้ำสูง 20 เซนติเมตร
11. ทางหลวงหมายเลข 2077 สังขะ-บัวเชด ท้องที่อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ ช่วงกม.ที่ 49 - 50 ระดับน้ำสูง 20 เซนติเมตร
ข่าวน้ำท่วม 18 ตุลาคม 2556 - สภาพน้ำท่วมในตลาด เขตเทศบาลเมืองบางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี หลังเกิดฝนตกหนักติดต่อกันหลายชั่วโมง ทำให้น้ำระบายไม่ทัน / ข่าวจากไทยรัฐออน์ไลน์
ศูนย์ประมวลและวิเคราะห์สถานการณ์น้ำกรมชลประทาน เปิดเผยว่า อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่มีความจุเกินร้อยละ 80 ของความจุอ่าง มีดังนี้
ข่าวน้ำท่วม จากศูนย์ประมวลวิเคาระห์สถานการณ์น้ำ กรมชลประทาน
ข่าวน้ำท่วมประจำวันที่ 30 กันยายน 2556
ข่าวน้ำท่วมประจำวันที่ 29 กันยายน 2556
อุตุเตือนพายุหวู่ติ๊บ กระทบภาคอีสาน ภาคกลางของไทยฝนตกหนัก
กรมอุตุนิยมวิทยา เตือน ไต้ฝุ่นหวู่ติ๊บขึ้นฝั่งเวียดนาม 1 ตุลาคมนี้ ทำให้ภาคอีสานของไทย มีฝนเพิ่ม และตกหนักบางแห่ง ขณะที่ วันนี้ กทม. มีฝน 70%
กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานลักษณะอากาศทั่วไป เมื่อเวลา 04.00 น. วันนี้ (29 กันยายน 2556) พายุไต้ฝุ่นหวู่ติ๊บ (WUTIP) บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง มีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 550 กิโลเมตรทางตะวันออกของเมืองเว้ (HUE) ประเทศเวียดนาม หรือที่ละติจูด 16.7 องศาเหนือ ลองจิจูด 112.9 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกค่อนทางเหนือเล็กน้อย ด้วยความเร็วประมาณ 10 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะขึ้นฝั่งที่ประเทศเวียดนามตอนบน ในวันที่ 1 ตุลาคม 2556 ซึ่งจะส่งผลกระทบทำให้ ด้านตะวันออกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย มีฝนเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง
อนึ่ง ร่องมรสุมยังคงพาดผ่านภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนตกชุก และมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณ จังหวัดอุทัยธานี ลพบุรี สระบุรี นครราชสีมา บุรีรัมย์ และศรีสะเกษ จึงขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักที่เกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย
ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีเมฆมาก โอกาสมีฝนตก ร้อยละ 70 อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ช.ม.
น้ำเข้าย่านนิคมฯ 304 แล้ว จ่อ 20 โรงงาน
น้ำท่วมเอ่อทะลักเข้าย่านนิคมอุตสาหกรรม 304 แล้ว จ่อ 20 โรงงาน ขณะ ประจันตคาม จมใต้น้ำเพิ่มอีก 1 อำเภอ
สถานการณ์น้ำท่วม เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (วันที่ 28 กันยายน 2556) ที่ถนนสาย 3079 (บ้านโคกขวาง-ศรีมหาโพธิ) ต.ท่าตูม อ.ศรีมหาโพธิ เส้นทางผ่านนิคมอุตสาหกรรม 304 ที่น้ำท่วมเป็นทางยาวกว่า 2 กิโลเมตร สูงกว่า 20 เซนติเมตร ชาวบ้านจาก ต.ท่าตูม และ ต.ศรีมหาโพธิ รวมกว่า 200 คน
โดยแกนนำเป็นผู้ใหญ่บ้าน ได้ตั้งเต็นท์และนำรถไถมาปิดถนนประท้วง ไม่ให้รถวิ่งผ่าน โดยเรียกร้องให้เปิดบานประตูระบายน้ำหาดยาง โดยยังคงเรียกร้องต่อเนื่องวันนี้เป็นวันที่ 2 ไม่ยอมเปิดเส้นทาง รอจนกว่าจะมีการเปิดประตูน้ำหาดยางให้น้ำลดลง และจากที่ฝนตกหนักตลอดคืน ทางเข้านิคมอุตสาหกรรม 304 ต.ท่าตูม อ.ศรีมหาโพธิ มีน้ำเอ่อท่วมขึ้นสูงกว่า 20 เซนติเมตร เป็นทางยาวกว่า 2 กิโลเมตร โดยเฉพาะด้านหน้าบริษัทอักฟ่า ระดับน้ำมีปริมาณสูงสุดเป็นทางเข้าสู่โรงงานอื่น กว่า 20 แห่ง
และจากที่คันดินกั้นน้ำชลประทานพังทลาย ส่งผลให้น้ำจาก อ.กบินทร์บุรี ไหลหลากเข้าพื้นที่รองรับน้ำทุ่งโคกมะกอก ริมถนนประจันตคาม 3452 รอยต่อระหว่าง อ.ประจันตคาม กับ อ.เมืองปราจีนบุรี บนเนื้อที่กว่า 1,000 ไร่ น้ำลึกกว่า 2 เมตร มองเห็นเหมือนเป็นทะเลสาบ ระดับน้ำปริ่มถนนทั้งสาย
อย่างไรก็ตาม มีการคาดการณ์ว่าอาจมีพายุลูกใหม่ พัดเข้าสู่ประเทศไทยอีกระลอกในอีก 2-3 วันข้างหน้า ซึ่งอาจต้องเตรียมรับมือกับพายุลูกใหม่กันอีกครั้ง
สุรินทร์-น้ำจากอ่างเก็บน้ำห้วยเสนง ท่วมบ้านเรือนราษฏร
จากที่ฝนยังตกไม่หยุด ทำให้ประชาชนในพื้นที่ 4 อำเภอ จ.ศรีสะเกษ ประกอบด้วย อ.ไพรบึง อ.ขุนหาญ อ.ขุขันธ์ และ อ.ภูสิงห์ ต้องประสบความเดือดร้อนอย่างหนัก เนื่องจากน้ำจากเทือกเขาพนมดงรักชายแดนไทย – กัมพูชา ไหลทะลักลงมาจำนวนมาก ทำให้น้ำท่วมบ้านเรือนไร่นาของชาวบ้านเป็นบริเวณกว้าง ชาวบ้านต้องพากันอพยพขนย้ายทรัพย์สินและสัตว์เลี้ยงออกจากพื้นที่ ที่ถูกน้ำท่วม และเสี่ยงต่อการถูกน้ำท่วมไปอาศัยอยู่บนที่สูงเพื่อหนีน้ำท่วม
ขณะที่ บริเวณสี่แยกหัวช้าง ต.สำโรงพลัน อ.ไพรบึง จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นถนนสายหลักในการมุ่งหน้าขึ้นสู่จังหวัดอุบลราชธานี จังหวัดสุรินทร์ และกรุงเทพฯ ถูกน้ำท่วมระดับน้ำสูงมาก ทำให้รถขนาดเล็กไม่สามารถสัญจรเดินทางผ่านไปได้ เจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ภัย ในพื้นที่ต้องช่วยกันเร่งให้การช่วยเหลือประชาชน อย่างเต็มที่ โดยรถเล็กต้องเลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่นเพื่อเดินทางไปสู่จุดหมายปลายทางของตนต่อไป
น้ำท่วมสุรินทร์หนักสุดในรอบ 40 ปี
เมื่อวันที่ 20 ก.ย. ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สุรินทร์ รายงานถึงสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.สุรินทร์ หลังจากเกิดฝนหนักตลอดทั้งวันทั้งคืนที่ผ่านมา จากพิษ "พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ " ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมพื้นที่ทางการเกษตรทั้ง 17 อำเภอของจังหวัดสุรินทร์ และหมู่บ้านในพื้นที่ลุ่มต่ำแล้วบางส่วน
ทั้งนี้น้ำท่วมตั้งแต่ 4 แยกเลี่ยงเมืองเทพธานี ไปจนถึงถนนในเขตเทศบาลเมืองสุรินทร์ โดยเฉพาะบริเวณวิทยาลัยอาชีวะศึกษาสุรินทร์ โรงเรียนสิรินธร โรงพยาบาลสุรินทร์ ซึ่งอยู่ในตัวเมืองและถนนรวมถึงชุมชนหลายชุมชนก็ถูกน้ำเข้าท่วมหนักอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในรอบ 40 ปี
อย่างไรก็ตามได้มีการประกาศปิดโรงเรียนที่ถูกน้ำท่วมขังในเขตเทศบาลเมืองสุรินทร์จนกว่าสถานการณ์จะกลับคืนสู่ภาวะปกติ นอกจากนี้มีรายงานว่าหมู่บ้านในเขต ต.ตั้งใจ อ.เมือง ก็ถูกน้ำท่วม รวมถึงถนนและเส้นทางต่างๆในพื้นที่ ต.เมืองที อ.เมือง จ.สุรินทร์ ก็ถูกน้ำท่วมตัดขาดอีกด้วย
ขณะที่เมื่อเวลา เวลา 21.05 น.ของคืนที่ผ่านมา (19 ก.ย.) มีรายงานว่าน้ำจากเทือกเขาพนมดงรักชายแดนไทย-กัมพูชา กำลังไหลบ่าทะลักเข้ามาสมทบในพื้นที่ อ.สังขะ ทำให้ถนนหลายสายมีน้ำท่วมสูง 30 -50 ซ.ม.ขึ้นไป โดยเฉพาะที่บริเวณ 4 แยกป้อมตำรวจทางหลวง อ.สังขะ-4 แยกต้นตาลเขตเทศบาลตำบลสังขะ ที่มีน้ำท่วมถนนสูงกว่า 50 ซ.ม. ส่วนถนนสาย 24 โชคชัย-เดชอุดม ก่อนขึ้นเนิน ตชด.214 เป็นเส้นทางที่น้ำจากเทือกเขาพนมดงรักตัดผ่านมีความแรง ประชาชนผู้สัญจรต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษหวั่นเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้
สำหรับ อ.ที่กำลังประสบอุทุกภัยในขณะนี้ ประกอบด้วย อ.เมือง อ.สังขะ ศรีณรงค์ ศีขรภูมิ สำโรงทาบ รัตนบุรี และอ.จอมพระ ส่วน อ.ท่าตูม และอ.ชุมพลบุรี ปริมาณน้ำในแม่น้ำมูลเริ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง คาดว่าภายใน 2-3 วันนี้ จะมีน้ำจาก จ.นครราชสีมา ไหลมาสมทบอีกระลอก อาจส่งผลกระทบให้นาข้าวและหมู่บ้านที่อยู่ติดแม่น้ำมูลถูกน้ำท่วมได้ ทั้งนี้หากฝนยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดคาดว่าเมืองช้างจะประสบอุทกภัยอ่วมในหลายพื้นที่ ซึ่งถือว่าหนักสุดในรอบ 40 ปี
จุดเสี่ยงน้ำท่วม ทั่วกรุง 37 จุด
จากกรณีกรมอุตุนิยมวิทยา คาดการณ์ว่า พายุดีเปรสชั่นที่จะเคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย ช่วงวันที่ 19 - 20 ก.ย.นี้ และจะทำให้เกิดฝนตกหนักในเทุกเขตของกรุงเทพมหานคร
นายสัญญา ชีนิมิตร รองปลัดกรุงเทพมหานคร ได้เปิดเผยพื้นที่เฝ้าระวังน้ำท่วม รวม 37 จุด เขตดุสิต 4 แห่งคือ 1.ลานพระบรมรูปทรงม้า ฝั่งสวนอัมพร 2.ถนนราชวิถี ช่วงหน้ามหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิตและเชิงสะพานกรุงธนบุรี 3.ถนนสามเสน ช่วงหน้าโรงเรียนโยธินบูรณะ 4.ถนนนครไชยศรี ช่วงหน้ากรมสรรพสมิต
เขตราชเทวี มี 3 จุด คือ 1.ถนนนิคมมักกะสัน ช่วงทางรถไฟถึงถนนราชปรารภ 2.ถนนพญาไทช่วงหน้ากรมปศุสัตว์ 3.ถนนศรีอยุธยาช่วง สน.พญาไท และวังสวนผักกาด
เขตพญาไท 1 จุด ที่ถนนประดิพัทธ์ จากแยกสะพานควายถึงคลองเปรมประชากร
เขตจตุจักรมี 2 จุด คือ 1.ถนนรัชดาภิเษก หน้าธนาคารกรุงเทพ 2.ถนนงามวงศ์วานแยกเกษตร ช่วงหน้าตลาดอมรพันธ์
เขตบางซื่อมี 1 จุด ที่ถนนประชาราษฎร์สาย 2 ช่วงแยกเตาปูน
เขตหลักสี่มี 2 จุด คือ 1.ถนนแจ้งวัฒนะจากคลองประปาถึงซอยแจ้งวัฒนะ14 2.ถนนงามวงศ์วาน ช่วงหน้าตลาดพงษ์เพชร
เขตสายไหม มี 1 จุด ที่ถนนพหลโยธิน จากปากซอยพหลฯ 58 ถึงสุดเขตกรุงเทพฯ
เขตดินแดง มี 4 จุด คือ 1.ถนนดินแดง ช่วงปากซอยสุทธิพร2 2.ถนนประชาสงเคราะห์ช่วงหน้าตลาดห้วยขวาง 3.ถนนรัชดาภิเษก ช่วงหน้าห้างโรบินสัน 4.ถนนประชาสุข ช่วงหน้าไปรษณีย์
เขตสวนหลวงมี 1 จุด ที่ถนนพัฒนาการ ช่วงจากคลองลาวถึงถนนศรีนครินทร์
เขตประเวศมี 1 จุด ที่ถนนศรีนครินทร์ บริเวณโรงแรมโนโวเทล
เขตพระโขนงมี 1 จุดที่ถนนสุขุมวิท ฝั่งขาออกช่วงหน้าตลาดบางจาก
เขตวังทองหลาง มี 1 จุด ที่ถนนลาดพร้าว ช่วงตัดกับถนนประดิษฐ์มนูธรรม
เขตบึงกุ่ม มี 1 จุดที่ถนนนวมินทร์ ซอยนวมินทร์36 ถึงซอยโพธิ์แก้ว
เขตบางกะปิ 1 จุด จากถนนศรีนครินทร์ ช่วงคลองกะจะถึงแยกลำสาลี
เขตพระนคร 1 จุดที่ถนนสนามไชย จากซอยเศรษฐการถึงถนนท้ายวัง
เขตสัมพันธวงศ์ มี 2 จุดคือ 1.ถนนเจริญกรุง (แยกหมอมี) จากถนนแปลงนามถึงแยกหมอมี 2.ที่ถนนเยาวราชฝั่งเหนือ จากถนนทรงวาดถึงถนนราชวงศ์
เขตบางรัก 1 จุด ที่ถนนสุรวงศ์จากใต้ทางด่วนถึงแยกสุรวงศ์
เขตสาทรมี 2 จุด คือ 1.ถนนจันทร์จากซอยบำเพ็ญกุศลถึงไปรษณีย์ยานนาวา 2. ถนนสวนพลูจากถนนสาทรใต้ถึงถนนนางลิ้นจี่
พร้อมกันนี้ กรุงเทพมหานคร ได้เปิดสาย คอลเซ็นเตอร์ 1555 รวมทั้ง สายด่วนศูนย์ป้องกันน้ำท่วม 02-248-5115 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้ประชาชน ที่ได้รับความเดือดร้อน สามารถติดต่อขอรับความช่วยเหลือได้ตลอดเวลา
เตือนชาวชัยนาทท้ายเขื่อนเจ้าพระยา ระดับน้ำเพิ่ม เตรียมเก็บของขึ้นที่สูง
ในส่วนของเขื่อนเจ้าพระยา ต.บางหลวง อ.สรรพยา จ.ชัยนาท นายฏรงค์กร สมตน ผู้อำนวยการสำนักชลประทานที่ 12 ได้ออกประกาศเตือนประชาชนว่า ขณะนี้มีฝนตกชุกกระจายในพื้นที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้มีน้ำจากตอนบนของลุ่มน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยา ส่งผลให้น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยามีระดับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ จากการคาดการณ์ภาวะดังกล่าว จะทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณท้ายเขื่อนเพิ่มขึ้นสูงประมาณ 1 เมตร จึงขอให้ผู้ประกอบกิจการในแม่น้ำเจ้าพระยา และประชาชนที่อาศัยอยู่ริม 2 ฝั่งแม่น้ำตั้งแต่ท้ายเขื่อนเจ้าพระยาลงมา ขนย้ายสิ่งของมีค่าขึ้นสู่ที่สูง และให้ติดตามประกาศแจ้งเตือน เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด
นายกเทศมนตรี หล่มสัก เผยผนังกั้นแนวตลิ่งน้ำป่าสักสร้างไม่เสร็จ ทำน้ำเอ่อท่วม