การป้องกันน้ำท่วมในเขตอำเภอคลองหลวง
ระดับความสูงจากน้ำทะเลของสถานที่ต่างๆ
1. ถนนพหลโยธิน บริเวณบางขันธ์ +4.00
2. ถนนเลียบคลองสาม หน้าวัดพระธรรมกาย +3.00
3. ถนนเลียบคลองระพีพัฒน์ ฝั่งคลองหลวง +3.50
4. ระดับคันดินเสริมกระสอบทรายกั้นน้ำบนถนนเลียบคลองระพีพัฒน์ +4.70
5. ระดับในคลองระพีพัฒน์ ณ วันที่ 17 ต.ค. เวลา 14.00 น. +4.60
(หมายเหตุ : หมายถึง ณ เวลา 14.00 น. ระดับน้ำในคลองระพีพัฒน์ มีความสูง
เกือบเท่ากับแนวคันดินเสริมกระสอบทรายกั้นน้ำแล้ว)
แนวทางการป้องกันน้ำท่วม
1. พยายามรักษาคันดินกั้นน้ำเสริมกระสอบทรายเลียบคลองระพีพัฒน์เอาไว้ เนื่องจาก น้ำจากทางเหนือซึ่งอยู่บนพื้นที่สูงกว่าเรา ทยอยไหลลงมาเรื่อยๆ ถ้าไม่มีทางระบายน้ำออกจากคลองระพีพัฒน์ คันดินกั้นน้ำเสริมกระสอบทรายที่ทำไว้จะพังแน่นอน
2. จึงต้องระบายน้ำออกทางประตูน้ำคลอง 3,4,5,6,7,8 ทุกบานอย่างเต็มที่ และเร่งระบายออกทางคลองรังสิต
3. การเปิดประตูน้ำจะทำให้น้ำในคลองเอ่อขึ้นท่วมพื้นที่บ้าง แต่จะค่อยๆขึ้นอย่างควบคุมได้ ไม่สูงมากนัก
4. แต่ถ้าเปิดประตูน้ำน้อยไป แล้วคันดินกั้นน้ำเสริมกระสอบทรายที่ทำไว้ที่คลองระพีพัฒน์เกิดพัง น้ำซึ่งสูง 2 เมตร จะทะลักเข้าท่วมพื้นที่ทุกคลองอย่างรวดเร็ว โดยจะสูงจากพื้นท้องนาประมาณ 2 เมตร สูงกว่าถนนเลียบคลองสามประมาณ 1 เมตร ซึ่งจะทำความเสียหายเป็นอย่างมาก
5. ถ้าคันดินกั้นน้ำเสริมกระสอบทรายที่คลองระพีพัฒน์แตก มวลน้ำมหาศาลประมาณ 1 พันล้านลูกบาศก์เมตร จะทะลักท่วมทั้งอำเภอคลองหลวง และไหลไปท่วมคลองรังสิต ถนนรังสิต - นครนายก ซึ่งเป็นเส้นทางหลักไปภาคอีสานขณะนี้ และน้ำจะไหลไปท่วมเขตลำลูกกา สายไหม ดอนเมือง และ ท่วมกทม. ตอนเหนือ
6. การที่พระภิกษุ สามเณร อุบาสก อุบาสิกา พนักงาน สาธุชนวัดพระธรรมกาย ร่วมกับประชาชนทุกคลอง และส่วนราชการ ช่วยกันป้องกันคันดินกั้นน้ำเสริมกระสอบทรายที่คลองระพีพัฒน์อย่างเข้มแข็งทั้งกลางวันและกลางคืน จึงเป็นเสมือนปราการด่านหน้าปกป้อง กทม. และเส้นทางติดต่อภาคอีสานเอาไว้
รับชมวีดีโอ สถานการณ์น้ำท่วม คลองสาม (ตอนที่ 2)
รับชมคลิปวิดีโอสถานการณ์น้ำท่วมคลอง 3 ตอนที่ 2