สุนักขชาดก ชาดกว่าด้วยผู้ฉลาดย่อมช่วยตัวเองได้


[ 11 มี.ค. 2566 ] - [ 18286 ] LINE it!

ชาดก 500 ชาติ

สุนัขชาดก-ชาดกว่าด้วยผู้ฉลาดย่อมช่วยตัวเองได้

ณ หอฉันสถานที่กระทำภัตกิจของเหล่าภิกษุสงฆ์

ณ หอฉันสถานที่กระทำภัตกิจของเหล่าภิกษุสงฆ์
  
       นับแต่ยุคพุทธกาลผ่านมาการถวายทานแด่ภิกษุสงฆ์อันถือเป็นนิตยทานนั้นคือภัตตาหาร การฉันภัตตาหารในอาศรมใด ๆ จึงมักใช้หอฉัน
เป็นสถานกระทำภัตกิจของพระสงฆ์สืบมา พุทธสมัยครั้งหนึ่งพระพุทธศาสดาประทับยังพระเชตวันมหาวิหารพระนครสาวัตถี
 
ลูกสุนัขน้อยน่ารักไม่ได้ก่อเหตุรบกวนใด ๆ ต่อเหล่าภิกษุสงฆ์
 
ลูกสุนัขน้อยน่ารักไม่ได้ก่อเหตุรบกวนใด ๆ ต่อเหล่าภิกษุสงฆ์
 
        ทรงสดับเรื่องราวน่ารักน่าเอ็นดูของสุนัขในหอฉันของพระอาราม ครั้งนั้นคนดูแลโรงฉันของภิกษุได้นำลูกสุนัขมาเลี้ยงดูไว้ภายในหอฉัน
แต่ก็ไม่ได้ทำความรำคาญรบกวนภัตกิจของพระสงฆ์แต่อย่างใด “ เจ้าหมาน้อยอยู่ตรงอย่าซนล่ะ เดี๋ยวข้าตักน้ำไปประเคนก่อนแล้ว

ลูกสุนัขน้อยถูกเลี้ยงไว้โดยผู้ดูแลโรงฉัน
 
ลูกสุนัขน้อยถูกเลี้ยงไว้โดยผู้ดูแลโรงฉัน
 
        จะเอาอาหารมาให้เจ้ากินนะ ” “ ลาภปากอีกแล้วเรา ” นายภารโรงมีหน้าที่สำคัญอย่างหนึ่งคือตักน้ำมากรองใส่ภาชนะคอยประเคนถวายในเวลา
ฉันภัตตาหาร นอกเหนือจากหน้าที่อื่นเรียกได้ว่าทำงานตลอด 24 ชั่วโมง เพราะทำงานและอาศัยนอนอยู่ในโรงฉันนั้นแห่งนั้น

ผู้ดูแลโรงฉันคอยดูแลถวายน้ำฉันน้ำใช้แด่ภิกษุสงฆ์
 
ผู้ดูแลโรงฉันคอยดูแลถวายน้ำฉันน้ำใช้แด่ภิกษุสงฆ์
 
      ในแต่ละวันเขาจะได้รับรางวัลเป็นอาหารอย่างดีที่พระภิกษุฉันเหลือไว้ เมื่อเสร็จสิ้นภารกิจแต่ละวันก็จะอาหารมากินร่วมกันกับลูกสุนัขตัวนี้
“ เอ้า เจ้าหมาน้อยอาหารมาแล้ว วันนี้อาหารดี ๆ ทั้งนั้นเลยกินซะ ” “ อร่อย อยู่กับเจ้านายไม่มีวันอดตายแน่เรา”

ผู้ดูแลโรงฉันมักจะได้รับอาหารที่ดีเลิศจากภิกษุสงฆ์เสมอ
 
ผู้ดูแลโรงฉันมักจะได้รับอาหารที่ดีเลิศจากภิกษุสงฆ์เสมอ
 
        นานวันเข้าลูกสุนัขก็เริ่มเติบโตอ้วนพีเป็นที่เพลิดเพลินของผู้ดูแลหอฉัน ทั้งยังเป็นที่เอ็นดูของภิกษุอีกหลายรูป “ หมาตัวนี้โตเร็วจริง ๆ หน่วยก้าน
ก็ไม่เลวเลยนะเนี่ย ” “ นั่นสินะ แถมมันยังเชื่องดีอีกต่างหาก ” เพราะความแสนรู้และสงบเสงี่ยมสมกับเป็นสุนัขในวัด
 
ลูกสุนัขมีอาหารการกินที่อุดมสมบูรณ์ในทุกมื้อ
 
ลูกสุนัขมีอาหารการกินที่อุดมสมบูรณ์ในทุกมื้อ
        
       อยู่มาอีกไม่นานก็มีเหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้นให้เป็นที่วิพากษ์ขึ้น วันหนึ่งได้มีพ่อค้านำภัตตาหารมาถวายพระที่หอฉัน สังเกตเห็นลูกสุนัขแสนรู้ก็ชอบใจ
จึงเกลี้ยกล่อมขอซื้อสุนัขตัวนั้นจากคนดูแลโรงฉัน “ ลูกสุนัขของท่านตั้วนี้ดูเชื่องดีแท้ เราจะขอแลกกับเงินนี่เอาไปกำนัลผู้ใหญ่เพื่อผูกไมตรีไว้ทำการค้า ”

พ่อค้าเกิดความสนใจและรักใคร่ในตัวลูกสุนัขเป็นอย่างมาก
 
พ่อค้าเกิดความสนใจและรักใคร่ในตัวลูกสุนัขเป็นอย่างมาก
 
       “ ลูกสุนัขตัวนี้ไม่ได้มีไว้ขาย ข้าคงขายให้ท่านไม่ได้หรอก ” “ ท่านคิดดูให้ดีก่อน ลูกสุนัขนี้อาจช่วยให้คนตกงานอีกหลายคนมีงานทำ เราจะดูแล
มันเป็นอย่างดี ท่านสบายใจได้ ” “ เอ้ ข้าควรตัดสินใจอย่างไรดีละนี่ เฮ้อ..หนักใจจริง ๆ ” ในที่สุดคนดูแลโรงฉันก็ตัดสินใจขายลูกสุนัขตัวนั้นให้แก่พ่อค้า
 
พ่อค้าได้ขอซื้อลูกสุนัขตัวน้อยจากผู้ดูแลโรงฉัน
 
พ่อค้าได้ขอซื้อลูกสุนัขตัวน้อยจากผู้ดูแลโรงฉัน
     
        “ ดีมาก ท่านตัดสินใจไม่ผิดหรอก อย่ากังวลเลย เราจะเลี้ยงดูลูกสุนัขตัวนี้เป็นอย่างดี ” “ อืม งั้นข้าฝากท่านดูแลด้วยแล้วกันนะ ” พ่อค้าผูกล่าม
ลูกสุนัขแล้วจูงออกไปจากหอฉันโดยลูกสุนัขนั้นก็ยอมเดินตามไปจนพ้นเขตพระวิหารเชตะวันแต่โดยดี “ ข้าคงต้องต้องลาเจ้าแล้วล่ะ
 
ผู้ดูแลโรงฉันตัดสินใจขายลูกสุนัขให้กับพ่อค้า
 
ผู้ดูแลโรงฉันตัดสินใจขายลูกสุนัขให้กับพ่อค้า
 
        เจ้าอย่าดื้อกับนายใหม่ของเจ้าน่ะ ” “ ข้าจะต้องกลับมาหาเจ้านายให้ได้เลย ” ลูกสุนัขยอมเดินตามพ่อค้าโดยไม่ได้ขัดขืนไปตลอดทาง
ด้วยความเชื่องของมันทำให้พ่อค้าไม่ได้ล่ามหรือกักขังมันไว้ “ เออ..ว่าง่ายดีจังเห็นทีคงไม่ต้องกักขังกันแล้วล่ะเจ้า ฮะฮ่า ฮ่า ฮ่า เอาละ ๆ
 
ลูกสุนัขยอมติดตามพ่อค้าไปอย่างง่ายดาย
 
ลูกสุนัขยอมติดตามพ่อค้าไปอย่างง่ายดาย
 
       นี่อาหารของเจ้ากินเสร็จก็พักผ่อนซะ ข้าจะหลับเอาแรงสักงีบ ” ในเช้าของวันต่อมาพระเณรออกบิณฑบาตก็พบเห็นลูกสุนัขตัวนี้วิ่งตะบึงเข้ามา
ในพระอารามอย่างดีอกดีใจ “ นี่เจ้ากลับมาได้ยังไงนี่ รู้หรือเปล่าว่าข้าคิดถึงเจ้ามากเจ้าหมาน้อย กลับมาได้น่ารักจริง ๆ เลย ” การกลับมาของลูกสุนัข

พ่อค้าชอบใจในความเชื่องและน่ารักของลูกสุนัขเป็นอย่างมาก
 
พ่อค้าชอบใจในความเชื่องและน่ารักของลูกสุนัขเป็นอย่างมาก
  
        สร้างความดีใจให้แก่คนดูแลหอฉันเป็นยิ่งนัก และมันก็ยังทำให้คนอื่น ๆ พลอยดีใจไปด้วย “ ฉลาด เจ้าปัญญาจริงๆ นะแก อุตส่าห์กัดเชือกจนขาดหนีมาได้ ”
“ นั้นสิ ไม่มีเจ้าแล้วหอฉันดูเงียบเหงาชอบกล ” เรื่องลูกสุนัขในหอฉันกัดเชือกจนขาดหนีกลับมาหาเจ้าของกลายเป็นข้อสนทนาของภิกษุในวันนั้น พระบรมศาสดา
       
พ่อค้าได้ให้อาหารลูกสุนัขน้อยในระหว่างทาง
 
พ่อค้าได้ให้อาหารลูกสุนัขน้อยในระหว่างทาง
  
       ทรงสั่งสอนเวไนยสัตว์ให้ปฏิบัติธรรมสั่งสมความดีไม่ทำความชั่วและอบรมจิตใจตนให้สดใส การน้อมรับพระพุทธธรรม อันเป็นเครื่องผูกมัด
สัตว์ไว้ในโลกมนุษย์ให้ขาดดุจสุนัขกัดเชือกหนังในอดีตกาลครั้งหนึ่ง พระภิกษุทั้งหลายกราบทูลอาราธนาให้ทรงเล่าอดีตชาติ


ลูกสุนัขน้อยได้กัดเชือกที่ผูกล่ามตนเองแล้วหนีพ่อค้ากลับมาหาคนดูแลโรงฉัน
 
ลูกสุนัขน้อยได้กัดเชือกที่ผูกล่ามตนเองแล้วหนีพ่อค้ากลับมาหาคนดูแลโรงฉัน
 
        ครั้งนั้น สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงตรัสเล่า สุนัขชาดกขึ้น อดีตกาลนานมาแล้วยังมีนายช่างถังไม้ผู้หนึ่ง อาศัยฝีมือการทำถังไม้ออกขายยังชีพ
อยู่ในนิคมชนบทชานเมืองพาราณสี นายช่างถังไม้ผู้นี้เลี้ยงลูกสุนัขสีน้ำตาลทองไว้ตัวหนึ่งตั้งแต่แรกเกิด “ รอก่อนนะ เดี๋ยวพอข้าทำถังใบนี้เสร็จ

เหล่าภิกษุสงฆ์ต่างถูกอกถูกใจในความฉลาดที่ลูกสุนัขสามารถหนีกลับมายังโรงฉันได้
 
เหล่าภิกษุสงฆ์ต่างถูกอกถูกใจในความฉลาดที่ลูกสุนัขสามารถหนีกลับมายังโรงฉันได้
 
       แล้วข้าจะเอาอาหารมาให้ ” เมื่อใดได้ถังไม้จำนวนมากพอนายช่างถังไม้ก็จะนำไปวางขายในที่ชุมชนซึ่งทุกครั้งลูกสุนัขตัวนี้ก็จะติดตามไปด้วย
และทำหน้าที่เรียกผู้คนให้มามุงดูกันได้ครั้งละมาก ๆ  “ อ้าว ๆ เร่เข้ามา ๆ มาเลือกซื้อถังไม้กันก่อน มีทั้งถังน้ำ ถังซักผ้า ถังใส่ของมาเลือกซื้อกันก่อนจ้า ”
 
เหล่าภิกษุสงฆ์ได้เล่าเรื่องราวของลูกสุนัขตัวน้อยแด่องค์พระศาสดา
 
เหล่าภิกษุสงฆ์ได้เล่าเรื่องราวของลูกสุนัขตัวน้อยแด่องค์พระศาสดา
 
        “ เอ้ พวกเขามุงดูอะไรกันนะ ต้องไปดูซะหน่อยเรื่องชาวบ้านนี่ ข้าชอบนัก ” “ โอ้โห้ ดูเจ้าหมาตัวนั้นสิมันเดินสองขาได้ด้วย ท่าทางมันฉลาดน่าดูเลย
นะเนี่ย ถ้าเป็นหมาของข้าละก็ข้ารักตายเลยล่ะ ” เมื่อฝูงชนมามุงดูการแสดงของลูกสุนัขมากเข้า นายช่างทำถังไม้ก็ร้องขายสินค้า
 
องค์พระศาสดาทรงตรัสเล่าสุนักขชาดกแด่เหล่าภิกษุสงฆ์
 
องค์พระศาสดาทรงตรัสเล่าสุนักขชาดกแด่เหล่าภิกษุสงฆ์
 
       ได้มากขึ้น ทุกครั้งที่มีการขายถังไม้ นายช่างและลูกสุนัขก็ช่วยกันเช่นนี้ทำให้มีเงินเลี้ยงชีพสืบมา “ อ้าว ดูการแสดงแล้วก็ช่วยอุดหนุนถังของข้าด้วยนะ ”
“ งั้น ข้าอุดหนุนถังน้ำท่าน 2 ใบแล้วกันนะ ” “ ข้าก็เอาด้วย ส่วนนี่ข้าให้เป็นค่าอาหารเจ้าหมานี่นะ ” ยิ่งการแสดงของลูกสุนัขได้รับความสนใจจาก
 
ช่างทำถังไม้เลี้ยงลูกสุนัขตัวน้อยไว้ที่บ้านของตน
 
ช่างทำถังไม้เลี้ยงลูกสุนัขตัวน้อยไว้ที่บ้านของตน
 
       ชาวบ้านมาก ช่างทำถังไม้ก็ขายถังไม้ได้มากขึ้นตามไปด้วย จนกระทั่งวันหนึ่งได้มีชายจากต่างเมืองเดินทางผ่านมาเห็นการแสดงของลูกสุนัขเข้า
ชายผู้นี้รู้สึกพอใจลูกสุนัขตัวนี้เป็นอย่างมาก “ เอ่ นั้นชาวบ้านเขามุงดูอะไรกันน่ะ ” “ อ้าว ๆ เร่เข้ามาเลือกซื้อถังไม้กันจ้า ” “ อืม ลูกหมาตัวนี้
 
ช่างทำถังไม้ได้นำถังหลากหลายรูปแบบมาขายที่ตลาด
 
ช่างทำถังไม้ได้นำถังหลากหลายรูปแบบมาขายที่ตลาด

        ช่างน่าสนใจยิ่งนัก ถ้าเอาไปแสดงละครสัตว์น่าจะหาเงินได้ไม่น้อยเลยนะเนี่ย ” ในเย็นวันนั้นชายต่างเมืองผู้นี้ก็ได้เดินตามนายช่างทำถังไม้
กับลูกสุนัขไปจนถึงที่พัก “ สหายเอ๋ย หมาน้อยตัวนี้เป็นของท่านรึ ช่างเป็นหมาที่แสนรู้ยิ่งนัก ” “ ท่านคงเป็นนายวาณิชย์ มีอะไรให้ข้าช่วยหรือ ”

ผู้คนต่างมามุงดูความน่ารักของลูกสุนัขที่ร้านขายถังไม้
 
ผู้คนต่างมามุงดูความน่ารักของลูกสุนัขที่ร้านขายถังไม้

       “ ข้ารู้สึกพอใจหมาน้อยตัวนี้ของท่านยิ่งนักจึงได้ตามท่านมาถึงที่นี่ ” “ หมาตัวนี้ ข้าเลี้ยงดูมันมาตั้งแต่เล็กกินอยู่กับข้าเหมือนเป็นลูกของข้าเลยทีเดียว ”
“ ท่านทำถังไม้ขายจะได้เงินสักเท่าไหร่กัน ถ้าท่านมอบหมาน้อยตัวนี้ให้ข้า ข้าจะให้เงินถุงนี้แก่ท่าน ” นายวาณิชย์พูดคุยกับช่างทำถังไม้อยู่นาน

พ่อค้าวาณิชย์ได้ติดตามนายช่างไม้มาจนถึงบ้าน

พ่อค้าวาณิชย์ได้ติดตามนายช่างไม้มาจนถึงบ้าน
 
      จนในที่สุดด้วยความจำเป็นที่จะต้องใช้เงินช่างทำถังไม้จึงตกลงขายลูกสุนัขให้ “ ตัวแลตัวเองให้ดีนะลูก ใช้ปัญญาแก้ปัญหาแล้วอย่าดื้อรั้นกับเจ้านาย ”
“ ลาก่อนนะเจ้านาย ข้าจะดูแลตัวเองเป็นอย่างดีเพื่อกลับมาหาท่านให้ได้ ” ลูกสุนัขแสนรู้ยอมให้นายวาณิชย์ผูกคอ
 
พ่อค้าวาณิชย์ได้ขอซื้อลูกสุนัขจากนายช่างไม้
 
พ่อค้าวาณิชย์ได้ขอซื้อลูกสุนัขจากนายช่างไม้
 
       ด้วยเชือกจูงไปตามใจชอบโดยไม่ขัดขืน ไม่มีใครรู้ความคิดหรืออ่านสายตามันออกในเวลานั้น นายวาณิชย์จูงลูกสุนัขเดินทางไปจนเหนื่อยก็หยุดพัก
ลูกสุนัขนั้นก็มิได้มีกิริยาหวาดกลัวหรือคิดหลบนี้เลยแม้แต่น้อย “ เป็นเด็กดีจริง ๆ ดูสิ ไม่ดื้อไม่หนีเลย เอ้า เอารางวัลของเจ้าไป ” บางเวลา
 
ลูกสุนัขตัวน้อยยอมติดตามพ่อค้าวาณิชย์ไปโดยดี
 
ลูกสุนัขตัวน้อยยอมติดตามพ่อค้าวาณิชย์ไปโดยดี
 
      แม้นายวาณิชย์จะแกล้งลองถอดบ่วงคล้องคอออกลูกสุนัขแสนรู้ก็ไม่มีทีท่าจะหนีไปไหน “ ฮ่า ฮ่า เจ้านี่ฉลาดไม่เบา ดีล่ะ ข้าจะปั้นให้เจ้าเป็นดารา
ประจำคณะละครสัตว์ของข้าเลย ” เมื่อถึงเวลาหลับนอนนายวาณิชย์ก็ผูกคอล่ามลูกสุนัขไว้ด้วยเชือกหนังดังเดิม
 
พ่อค้าวาณิชย์ได้มอบอาหารให้ลูกสุนัขในระหว่างการเดินทาง
 
พ่อค้าวาณิชย์ได้มอบอาหารให้ลูกสุนัขในระหว่างการเดินทาง
 
       เจ้าลูกสุนัขแสนรู้ก็นอนซุกนิ่งอยู่ข้างกายจนนายวาณิชย์หลับไป “ อ้าว นอนหลับแล้วเหรอ เออ ข้าเองก็ง่วงเหมือนกัน แล้วพรุ่งนี้เราเคยเดินทางต่อ
เจ้าหมาน้อย ” เมื่อสบโอกาสเจ้าลูกสุนัขก็ลงมือกัดแทะเชือกหนังที่ล่ามคอของมันอย่างรวดเร็วไม่นานพันธนาการ 
 
พ่อค้าวาณิชย์ได้ถอดบ่วงให้ลูกสุนัขในช่วงพักการเดินทาง
 
พ่อค้าวาณิชย์ได้ถอดบ่วงให้ลูกสุนัขในช่วงพักการเดินทาง
 
      ที่ถูกล่ามอยู่ก็ขาดลงอย่างรวดเร็ว “ หลุดซะที กัดซะเมื่อยเขี้ยวเลยเรา ” แล้วคืนนั้นทั้งคืนเจ้าสุนัขน้อยผู้แสวงหาอิสระภาพในการตัดขาดเครื่อง
ยึดตัวมันออกได้ก็วิ่งกลับไปหาเจ้านายคนเดิมโดยไม่หันหลัง
 
พ่อค้าวาณิชย์ได้นอนพักระหว่างการเดินทาง
 
พ่อค้าวาณิชย์ได้นอนพักระหว่างการเดินทาง
 
ลูกสุนัขได้กัดเชือกหนังที่ผูกล่ามตัวของมันเพื่อให้หลุดออกจากพันธนาการ
 
ลูกสุนัขได้กัดเชือกหนังที่ผูกล่ามตัวของมันเพื่อให้หลุดออกจากพันธนาการ
 
ลูกสุนัขได้วิ่งกลับไปหาช่างทำถังไม้หลังหลุดจากพันธนาการ
 
ลูกสุนัขได้วิ่งกลับไปหาช่างทำถังไม้หลังหลุดจากพันธนาการ
 
 
ในพุทธกาลครั้งนั้น
นายช่างทำถังไม้ กำเนิดเป็น คนดูแลหอฉัน
ลูกสุนัขของช่างทำช่างไม้ กำเนิดเป็น ลูกสุนัขในหอฉัน

 
 








Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
ฌานโสธนชาดก ชาดกว่าด้วยสุขเกิดจากสมาบัติฌานโสธนชาดก ชาดกว่าด้วยสุขเกิดจากสมาบัติ

มหาสุวราชชาดก ชาดกว่าด้วยความพอเพียงมหาสุวราชชาดก ชาดกว่าด้วยความพอเพียง

ฆตาสนชาดก ชาดกว่าด้วยภัยที่เกิดจากที่พึ่งฆตาสนชาดก ชาดกว่าด้วยภัยที่เกิดจากที่พึ่ง



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

นิทานชาดก 500 ชาติ