น้ำตามากกว่ามหาสมุทร
น้ำตาแห่งความผิดหวังและความเศร้าเสียใจ
น้ำตา คงไม่มีใครในโลกที่เกิดมาแล้วไม่เคยเสียน้ำตา เราเสียน้ำตากันตั้งแต่แรกเกิด หลังจากนั้นก็ต้องเสียน้ำตามาโดยตลอด มีเหตุการณ์ที่ทำให้เราต้องเสียน้ำตามาเป็นระยะๆ คนส่วนใหญ่เสียน้ำตาให้กับความทุกข์มากกว่าความสุข น้ำตาแห่งความปลื้มปิติ มีน้อยกว่าน้ำตาแห่งความผิดหวังและความเศร้าเสียใจมากมายนัก แต่ความจริงเราสามารถเลือกที่จะไม่เสียน้ำตาได้ เลือกที่จะไม่ทุกข์ได้ พระพุทธองค์ทรงชี้แนะแนวทางให้เราพ้นทุกข์ไว้แล้ว ถ้าเราเลือกที่จะเดินตามทางที่พระพุทธองค์สอน เราก็คงไม่ต้องเสียเวลาเวียนว่ายตายเกิดอยู่ในวัฏสงสาร ให้น้ำตามากกว่ามหาสมุทร เหมือนดังที่พระพุทธองค์ตรัสไว้ใน อัสสุสูตร ดังมีใจความโดยสรุปว่า
“ภิกษุทั้งหลาย สังสารวัฏของสัตว์นี้กำหนดเบื้องต้น และเบื้องปลายไม่ได้ ด้วยเหตุที่สรรพสัตว์ทั้งหลายต้องเกิดๆ ตายๆ ชาติแล้วชาติเล่าจนนับไม่ได้
ภิกษุทั้งหลาย พวกเธอเข้าใจอย่างไร น้ำตาของสรรพสัตว์ที่หลั่งไหลเพราะความเศร้าโศกเสียใจ แต่ละชาติที่เกิดมานั้น เมื่อเปรียบเทียบกับน้ำในมหาสมุทรทั้ง ๔ อย่างไหนจะมีมากกว่านั้น?”
น้ำในมหาสมุทร
“น้ำตาของสรรพสัตว์ที่ต้องเสียไป เพราะประสบกับสิ่งที่ไม่เป็นที่รักที่พอใจในแต่ละชาติและแต่ละภพที่ต้องเกิดมานั้น มีมากกว่าน้ำในมหาสมุทรทั้ง ๔ พระเจ้าข้า”
“ถูกต้องแล้วภิกษุทั้งหลาย พวกเธอเข้าใจถูกแล้ว เพียงแค่สัตว์ทั้งหลายต้องร้องไห้เสียน้ำตาเพราะแม่ตาย...ในแต่ละชาติรวมกันแล้ว ยังมีมากกว่าน้ำในมหาสมุทรทั้ง ๔ ยังไม่กล่าวถึงน้ำตาที่สัตว์ทั้งหลายต้องเสียไปเพราะพ่อตาย ปู่ ย่า ตา ยาย ลุงป้า น้า อาตาย พี่สาว หลานสาวตาย รวมทั้งผัวตาย เมียตาย เมื่อรวมน้ำตาที่เสียไปในแต่ละชาติ ซึ่งนับจำนวนไม่ได้จะมากกว่าน้ำในมหาสมุทรทั้ง ๔ สักเพียงใด?”
พรัดพรากจากสิ่งอันเป็นที่รัก
“นอกจากนี้ยังมีน้ำตาที่มาจากความทุกข์โศก เพราะเหตุแห่งความเสื่อมลาภ, โรคภัยเบียดเบียน, พลัดพรากจากของรักและความผิดหวังอื่นๆ อีกสารพัด เมื่อรวมกันแล้ว ย่อมมีมากกว่าน้ำในมหาสมุทรทั้ง ๔ อย่างเทียบกันไม่ได้เลย
ด้วยเหตุนี้ สัตว์ทั้งหลายควรที่จะเบื่อหน่ายการเวียนว่ายตายเกิด แล้วหันมาบำเพ็ญตนให้พ้นจากทุกข์โศกที่ต้องได้รับเพราะการเกิดและตายนี้เสียโดยเร็วเถิด”
จิตสงบพบความสุขที่เยือกเย็น
ในชีวิตของตนเรานั้น ต้องเสียน้ำตามามากพอแล้วเพราะความยึดมั่นถือมั่นในสิ่งต่างๆ ถึงเวลาแล้วที่เราต้องมีสติรู้เท่าทันในสภาวการณ์ที่เกิดขึ้น มองให้ออกว่าทุกสิ่งล้วนเกิดขึ้นตั้งอยู่ และเสื่อมสลายไปเป็นธรรมดา และเสื่อมสลายไปเป็นธรรมดา แล้วหันมาปฏิบัติธรรมเพื่อเข้าถึงพระธรรมกายภายใน จะได้หลุดพ้นจากวัฏสงสาร และ ไม่ต้องเสียน้ำตาอีกต่อไป
แรงบันดาลใจจากพระไตรปิฎก
โดยพระมหาเถระ รุ่นปี พ.ศ. 2534 หน้า 101 - 103