โชคดีที่ได้มาบวช


[ 5 ก.ค. 2554 ] - [ 18262 ] LINE it!

ทบทวนฝันในฝัน วันที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ.2554
โชคดีที่ได้มาบวช

 
 
 
พลิกชีวิตด้วยบุญบวช
ตอน โชคดีที่ได้มาบวช
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา
 
กราบคารวะพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง
 
        กระผม พระโยธิน ทิตฺตสิทฺโธ อายุ 20 ปี บวชในโครงการแสนรูป รุ่นที่ 3 (รุ่นสามฤดู) ปัจจุบันกำลังรับบุญเป็นพระพี่เลี้ยงในโครงการเข้าพรรษา ณ ศูนย์อบรมวัดพระธรรมกาย ระเบียง 3 ครับ กระผมเรียนจบด้านการโรงแรม และชอบการทำอาหารเป็นชีวิตจิตใจ ทำงานการโรงแรมไม่นาน ก็ย้ายมาเป็นผู้ช่วยกุ๊กที่ร้านแบล็คแคนย่อน สาขาประตูน้ำ แล้วย้ายมาเป็นกุ๊กที่ร้านอาหารอิตาเลี่ยน รายได้ดีมากครับ แต่งานก็หนักมาก จนร่างกายเริ่มไม่ไหว กระผมจึงลาออก หลังจากนั้นก็ทำงานอีกหลายอย่าง ตั้งแต่ออกร้านจัดแสดงสินค้าที่ห้างบิ๊กซี-ดอนเมือง กลับไปช่วยกิจการขายอะไหล่รถยนต์ที่บ้านในกรุงเทพฯ แล้วย้ายไปทำงานที่บริษัทไวตามิ้ลค์ ย้ายไปทำงานที่บริษัทโฟร์โมสต์ ได้เงินเดือนเป็นหลักหมื่น ช่วงนั้นกระผมเที่ยวเก่งมาก ชอบแต่งตัวสไตล์เกาหลี ออกท่องราตรีแทบทุกคืน บางทีก็เที่ยว 5 - 6 คืนติดต่อกัน แต่ถึงกระผมจะเป็นนักเที่ยว แต่ก็ไม่ได้เหลวไหลถึงขั้นทำให้พ่อ-แม่เสียน้ำตานะครับ กระผมคิดว่า “เมื่อเราทำงานเต็มที่ ก็ต้องให้รางวัลกับชีวิต ด้วยการใช้เงินสร้างความสุขให้เต็มที่” กระผมจึงใช้ชีวิตไปวันๆโดยไม่เคยรู้เลยว่า “แท้ที่จริงแล้ว...ชีวิตต้องการอะไร”
 
พระโยธิน ทิตฺตสิทฺโธ
 
พระโยธิน ทิตฺตสิทฺโธ
 
        วันหนึ่ง กระผมเที่ยวจนหมดตัว พอกลับไปเห็นหน้าพ่อ-แม่ที่บ้านก็เกิดอาการสำนึกผิด อยู่ๆกระผมก็เดินไปบอกกับโยมแม่ว่า “หลังสงกรานต์นี้ผมจะบวชให้พ่อกับแม่นะ” กระผมไม่รู้ว่าโยมพ่อจะดีใจหรือเปล่านะครับ แต่ท่านถามทันทีว่า “จะบวชวัดไหน จะได้รีบไปติดต่อเจ้าอาวาส” พอดีโยมแม่กำลังอ่านหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ท่านเห็นโฆษณาโครงการบวชพระแสนรูปของวัดพระธรรมกาย โยมแม่พูดอย่างจริงจังว่า “บวชในโครงการนี้เลย” พอกระผมอ่านรายละเอียดเท่านั้น หัวใจวัยรุ่นแทบสลาย เพราะวันรุ่งขึ้นต้องเข้าโครงการแล้ว กระผมรู้สึกว่ามันเร็วเกินไป ทำใจไม่ได้ เพราะกระผมยังอยากเที่ยว อยากไปเล่นสงกรานต์กับเพื่อนให้หนำใจก่อน คืนนั้นเลยนอนไม่หลับทั้งคืน ตื่นเช้ามาก็ใส่เสื้อตัวโปรดและกางเกงยีนส์ตัวเก่ง เดินทางมาสมัครบวชที่วัดพระธรรมกายครับ พอมาเห็นวัดครั้งแรก บอกตามตรงว่าตกใจมาก คิดว่า “วัดอะไร...ทำไมใหญ่โตขนาดนี้ ตกลงเป็นวัดหรือโรงงาน ทำธุรกิจอะไรหรือเปล่า” กระผมเห็นอะไรก็สงสัยไปหมดเลยครับ
 
        ตั้งแต่วินาทีแรกที่เข้าอบรม ต้องอยู่ร่วมกับลูกผู้ชายแมนแมนที่มาจากคนละพ่อละแม่ กระผมก็เกิดอาการอึดอัดอย่างแรง ยิ่งต้องอยู่ในกฎระเบียบที่เข้มข้น ก็แทบจะทนไม่ไหว แต่กระผมคิดว่า “ไหนๆเราก็มาถึงที่นี่แล้ว เราจะไม่ทำให้พ่อ-แม่ผิดหวัง แล้วถ้าคนอื่นทำได้ เราเป็นคนเหมือนกัน เราก็ต้องทำได้” พอได้ฟังธรรมะมากขึ้น ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นจากเพื่อนๆธรรมทายาทมากขึ้น ก็ทำให้กระผมเริ่มเปิดใจซึมซับสิ่งดีๆที่มีอยู่รอบตัว กระผมคิดว่า “สังคมของธรรมทายาทเป็นสังคมที่ดีมาก ไม่เหมือนสังคมนักเที่ยวที่ตอนแรกเหมือนจะสนุก แต่สุดท้ายก็มีแต่เรื่องเดือดร้อนทำให้ทุกข์ใจ”
 
พระโยธิน ทิตฺตสิทฺโธ
 
พระโยธิน ทิตฺตสิทฺโธ
 
        สิ่งที่ทำให้กระผมมีกำลังใจสู้ เห็นคุณค่าของการฝึกตัว คือ การได้นั่งสมาธิ แต่ตอนแรกก็ยังนั่งไม่ค่อยได้ สมองมันคิดโน่นคิดนี่ตลอดเวลา คิดจนปวดหัวต้องเลิกนั่งไปหลายรอบ แต่กระผมก็พยายามฝึกนะครับ แล้วความมหัศจรรย์ก็เกิดขึ้น วันหนึ่ง กระผมนั่งสมาธิตามเสียงของหลวงพ่อ รู้สึกว่าจิตใจปลอดโปร่งมาก กระผมสามารถทำตามที่หลวงพ่อบอกได้ทุกขั้นตอน ตั้งแต่ปล่อยตัวตามสบาย ไม่กดเปลือกตา และนึกถึงบุญที่ได้มาบวช ไม่นานตัวก็เบามาก ใจมันนิ่งๆอยู่ที่ศูนย์กลางกายฐานที่เจ็ด นั่งไปเรื่อยๆทุกอย่างก็เงียบไปหมด ไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย ในหัวสมองก็เหมือนจะหยุดคิดไปเอง อยู่ๆก็มีดวงแก้วดวงน้อยๆลอยขึ้นมาจากฐานที่เจ็ด เป็นดวงเล็กๆเท่าเหรียญบาท พอมองเฉยๆก็เห็นมีดวงใหญ่เท่าเหรียญสิบลอยขึ้นมาอีก พอมองไปก็มีดวงเล็กๆ ดวงใหญ่ๆ ลอยตามกันขึ้นมาเรื่อยๆไม่หยุด กระผมพยายามนึกให้ดวงแก้วรวมกันเป็นดวงเดียว ก็ทำไม่สำเร็จ กระผมจึงได้แต่ดูเฉยๆ ดวงแก้วที่กระผมเห็นเป็นดวงกลมๆมีสีขาวคล้ายๆผ้าขาวบาง ตอนนั้นใจมันนิ่งมาก รู้สึกดีมาก สบายใจอย่างที่สุด และไม่อยากออกจากสมาธิเลย แม้ขณะนี้จะรับบุญเป็นพระพี่เลี้ยง กระผมก็ยังหมั่นตรึกนึกถึงดวงแก้วและหาเวลานั่งสมาธิ ถ้าใจนิ่งดี ก็จะเห็นดวงแก้วได้เสมอครับ
 
ภาพวาดประสบการณ์ภายในของพระโยธิน ทิตฺตสิทฺโธ
 
ภาพวาดประสบการณ์ภายในของพระโยธิน ทิตฺตสิทฺโธ
 
        พอนึกย้อนกลับไปตอนเป็นฆราวาส กระผมรู้สึกเสียดายเวลาในชีวิต เสียดายเงินทองที่เอาไปเที่ยวเล่น ไม่อย่างนั้นคงเอามาทำบุญสร้างพระธรรมกายประจำตัวได้หลายองค์ แต่หลวงพ่อครับ กระผมก็ยังโชคดีที่ได้มาบวช กระผมรู้แล้วว่า “เราเกิดมาทำไม” ตอนนี้อยากทำแต่บุญ ไม่กล้าทำบาปอีกเลยครับ แม้กระผมจะไม่มีเงินเดือนเป็นหลักหมื่นแล้ว แต่กระผมจะขอใช้แรงกายแรงใจ ช่วยหลวงพ่อขยายงานพระพุทธศาสนา ซึ่งโยมแม่ก็ปลื้มใจที่กระผมบวช ท่านยังเชียร์ให้กระผมบวชไปนานๆ เอาให้ได้ 4 - 5 พรรษาไปเลย ซึ่งกระผมก็อยากบวชเป็นพระแท้ไปวันต่อวันครับ กระผมขอฝากไปถึงธรรมทายาททุกท่าน กระผมอยากบอกว่า “ทุกท่านมีบุญมาก โชคดีมากที่ได้มาบวชในโครงการนี้ แม้เริ่มต้นอาจจะยังไม่ชินกับระบบการอบรม แต่ขอให้ทุกท่านสู้ด้วยหัวใจของลูกผู้ชาย ถ้าเราสู้ เราก็จะชนะ มาลองทำความดีให้สุดๆไปเลย แล้วอย่าลืมตั้งใจนั่งสมาธิให้ได้ทุกวัน นั่งกันให้เห็นดวงแก้วและองค์พระไปเลย เมื่อถึงวันบรรพชาเราจะได้นุ่งห่มผ้าเหลืองได้อย่างสง่างาม ซึ่งจะทำให้เราภาคภูมิใจที่สุดในชีวิต และจะทำให้โยมพ่อโยมแม่ภาคภูมิใจด้วย กระผมเชื่อว่าการตั้งใจบวชของพระลูกชาย จะเป็นของขวัญอันล้ำค่าที่โยมพ่อ-โยมแม่ต้องการมากที่สุดครับ”
 
กราบนมัสการด้วยความเคารพอย่างสูง
 
พระโยธิน ทิตฺตสิทฺโธ
 
อ่านรายละเอียด...
ขยายวันรับสมัครบวช ถึงวันที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ.2554
 
รับชมวีดีโอ เพชฌฆาตกลับใจ


Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
ความตายไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดความตายไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด

หมดโรคหมดภัย เพราะมาบวชหมดโรคหมดภัย เพราะมาบวช

ความตายไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด ตอนที่ 2ความตายไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด ตอนที่ 2



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

ช่วงเด่นฝันในฝัน