ทศชาติชาดก เรื่องเนมิราช ผู้ยิ่งด้วยอธิษฐานบารมี ตอนที่ 1


[ 5 เม.ย. 2550 ] - [ 18271 ] LINE it!
View this page in: 中文

 
ทศชาติชาดก
 
เรื่อง  เนมิราช   ผู้ยิ่งด้วยอธิษฐานบารมี  ตอนที่ 1
 
 
         เราได้ศึกษาประวัติการสร้างบารมีของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ในพระชาติที่สำคัญๆ มา 3 พระชาติแล้วคือ ชาติที่ทรงเกิดเป็นพระเตมียราช ยิ่งด้วยเนกขัมมบารมี ที่ท่านระลึกชาติได้ตั้งแต่ยังเยาว์วัย รู้ว่าทรงเคยตกอุสสุทนรกมายาวนาน จึงทรงแกล้งทำเป็นใบ้เพื่อให้ได้ออกบวช
 
 
        ชาติที่ทรงเกิดเป็นพระมหาชนกราช ผู้ยิ่งด้วยวิริยบารมี ที่ท่านขนสินค้าขึ้นเรือเพื่อไปค้าขายทางทะเล เมื่อเรือล่มท่านต้องว่ายน้ำอยู่ในทะเลถึง 7 วัน ในที่สุดก็ได้ครองราชย์ และได้ข้อคิดจากต้นมะม่วงสองต้นกระทั่งได้ทรงออกผนวชในตอนสุดท้าย
 
 
        และชาติที่เกิดเป็นสุวรรณสาม ผู้ยิ่งด้วยเมตตาบารมี ที่ท่านมีบิดามารดาเป็นฤษีและฤษิณี ในชาตินี้ท่านเจริญเมตตาต่อคนและสัตว์ทั้งหลาย แม้จะถูกพระเจ้าปิลยักขราชยิงด้วยลูกศรอาบยาพิษก็ไม่โกรธเคือง และได้ปฏิบัติบำรุงบิดามารดาผู้ตาบอดทั้งสองท่านอยู่ในป่าจนตลอดชีวิต
 

        วันนี้เรามาศึกษาประวัติการสร้างบารมี ในพระชาติที่สำคัญอีกชาติหนึ่ง ที่ท่านทรงสร้างบารมีอย่างเอาชีวิตเป็นเดิมพัน ในชาติที่ทรงเกิดเป็นพระเจ้าเนมิราช ผู้ยิ่งด้วยอธิษฐานบารมี

        อธิษฐานบารมีนั้น คือการตั้งใจมั่นอย่างแน่วแน่ในการทำความดี อันมีผลสุดท้ายคือการกำจัดทุกข์ของตนเองและผู้อื่น แม้เป้าหมายจะยิ่งใหญ่แค่ไหน เมื่อได้ตั้งใจเอาไว้แล้วว่าจะทำ ก็ต้องทำให้สำเร็จให้จงได้ จะไม่เลิกรา และไม่ลดเป้าหมายลงอย่างเด็ดขาด

        ถ้าจะเปรียบภาพของ อธิษฐานบารมี ให้เห็นชัดก็คือ เป็นการตั้งใจที่ไม่หวั่นไหว เหมือนภูเขาหินที่ตั้งมั่น ไม่หวั่นไหวด้วยแรงพายุ การสร้างอธิษฐานบารมีนี้จึงมีลักษณะว่า “ยอมตาย ไม่ยอมเปลี่ยนใจอย่างเด็ดขาด” ดังเรื่องของพระเจ้าเนมิราช ผู้ยิ่งด้วยอธิษฐานบารมีที่จะนำมาเล่าดังต่อไปนี้

        ครั้งหนึ่ง  ในสมัยพุทธกาล เวลาเย็นวันหนึ่ง  พระบรมศาสดาพร้อมด้วยพระอานนทเถระ และเหล่าภิกษุเป็นจำนวนมากประทับอยู่ ณ สวนมะม่วงแห่งหนึ่ง ซึ่งอดีตเคยเป็นพระราชอุทยานอัมพวัน  ของพระเจ้ามฆเทวราช กษัตริย์แห่งกรุงมิถิลา แคว้นวิเทหรัฐ

        พระองค์ทรงเห็นสถานที่อันน่ารื่นรมย์นั้นแล้ว จึงทรงระลึกถึงเรื่องราวในอดีตว่าสถานที่แห่งนี้มีความเป็นมาอย่างไร ด้วยพุทธญาณอันหาที่สุดมิได้ พระพุทธองค์ก็ทรงทราบเรื่องราวที่ผ่านมาเนิ่นนานโดยตลอด 

        จึงทรงแย้มพระโอษฐ์  แสงดวงตะวันในยามเย็นได้ส่องกระทบพระเขี้ยวแก้วของพระพุทธองค์ ทำให้เกิดแสงสว่างวาบขึ้น

        แสงนั้นคือเกลียวรัศมีสี่สายที่เกิดขึ้นจากพระเขี้ยวแก้วทั้ง ๔ เมื่อต้องแสงตะวันก็ทอประกายแปลบปลาบประดุจสายฟ้าพวยพุ่งออกมาจากพระโอษฐ์    แสงนั้นได้เวียนขวารอบพระเศียรของพระพุทธองค์  ๓  รอบ  แล้วจึงอันตรธานไป  

        พระอานนทเถระผู้เป็นปัจฉาสมณะ ตามเสด็จมาเบื้องหลังได้รู้ว่า พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแย้มพระโอษฐ์  ด้วยสัญญาณแห่งแสงสว่างนั้น จึงกราบทูลถามถึงเหตุแห่งการทรงแย้มพระโอษฐ์     

        พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงทรงมีพระพุทธดำรัสว่า  “ดูก่อนอานนท์  เราเคยอาศัยอยู่ในสถานที่นี้  เพื่อเจริญฌานในสมัยที่เราเกิดเป็นพระเจ้ามฆเทวราช” 

        ภิกษุทั้งหลายจึงกราบทูลอาราธนาว่า “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ในกาลก่อนที่พระองค์ทรงเสวยพระชาติเป็นท้าวมฆเทวาราช ได้เคยเจริญฌานในที่นี้นั้นมีเรื่องราวเป็นมาอย่างไรหรือพระเจ้าข้า”  

        ด้วยพระมหากรุณาที่จะทรงทำบุพจริยาของพระองค์ให้แจ่มแจ้งแก่ภิกษุเหล่านั้น จึงทรงนำพระชาติในอดีตมาตรัสเล่า ซึ่งมีเรื่องราวดังต่อไปนี้

        ในอดีตกาลไกลโพ้น  มนุษย์มีอายุยืนมาก  เนื่องเพราะความประมาทในความที่ตนมีอายุยืนนี่เอง จึงเป็นเหตุให้ผู้คนเป็นจำนวนหนึ่งเกิดความประมาทมัวเมา  ใช้ชีวิตให้สิ้นไปวันๆ ด้วยการกิน ดื่ม เที่ยว ประดุจว่าเขาจะไม่แก่ ไม่เจ็บ และไม่ตาย

        แต่ถึงกระนั้น ก็มีคนบางเหล่าที่เป็นบัณฑิตมีความเป็นอยู่ด้วยความไม่ประมาท ใช้ลมหายใจและไออุ่นแห่งชีวิตให้เป็นไปเพื่อการสั่งสมบุญบารมี  โดยมิได้คำนึงว่าเวลาแห่งชีวิตของตนจะมากหรือน้อย  เพราะมีปัญญามองเห็นความเป็นจริงแห่งชีวิตว่า แม้จะมีอายุยืนยาวเพียงไร แต่ในความเป็นจริงนั้นเราแก่ลงไปทุกวัน และจะตายลงวันไหนก็ไม่รู้ มองเห็นว่ายังมีภัยร้ายแรงที่คุกคามชีวิตอยู่ตลอดเวลา
 
        ดังเช่นท้าวมฆเทวราช   มหากษัตริย์แห่งกรุงมิถิลา  แคว้นวิเทหรัฐ  พระองค์ทรงถือกำเนิดในยุคที่มนุษย์มีอายุขัยเฉลี่ย ๔ แสนปี ทรงเล่นอย่างสนุกสนานในความเป็นพระราชกุมารอยู่ถึง  ๘๔,๐๐๐ ปี   ทรงครองราชย์สมบัติอยู่ ๘๔,๐๐๐ ปี และเป็นพระมหาราชาผู้ยิ่งใหญ่อยู่ต่อมาอีก ๘๔,๐๐๐ ปี ตลอดระยะกาลที่ผ่านมานี้ พระองค์ได้ทรงอธิษฐานจิตมั่นว่า “หากเส้นผมของเราแม้เพียงเส้นเดียวเกิดหงอกขึ้นคราวใด คราวนั้นเราจะออกบวชดาบสในทันที”

        ความที่พระองค์ทรงมั่นอยู่ในคำอธิษฐานนี้ ได้แสดงให้ปรากฏด้วยการทรงมีรับสั่งกับนายภูษามาลาว่า “ เมื่อเจ้าเห็นผมหงอกบนศีรษะของเราเมื่อไร  ก็จงรีบบอกเราให้ทราบในทันที ”

        จำเนียรกาลผ่านไปอีกหลายร้อยปี  วันหนึ่ง ขณะที่นายภูษามาลาถวายงานแต่งพระเกศาอยู่นั้น เขาได้เห็นเส้นพระเกศาของพระเจ้ามฆเทวราช เส้นหนึ่งเกิดหงอกขาว จึงได้กราบทูลพระองค์ให้ทรงทราบ   
 
        พระเจ้ามฆเทวราชจึงทรงมีรับสั่งให้ถอนพระเกศาเส้นนั้นด้วยแหนบทองคำ แล้วให้วางไว้ในพระหัตถ์ของพระองค์ ทรงพิจารณาผมนั้นเหมือนเห็นความตายที่มาปรากฏตัวยืนอยู่เบื้องหน้า   ก็ทรงเบื่อระอาในความไม่เที่ยงของสังขาร หมดความยินดีที่จะเสวยพระราชสมบัติอีกต่อไป ด้วยทรงเห็นว่า “ความร่าเริงยินดีตามแบบของชาวโลก เราก็ได้รับมาพอแล้ว บัดนี้ร่างกายของเราได้ย่างเข้าสู่วัยชรา สมควรที่เราจะได้ออกบวชตามคำที่เราได้อธิษฐานเอาไว้ เพื่อชำระหนทางแห่งสวรรค์ให้บริสุทธิ์”

        จึงทรงพระราชทานบ้านส่วยหนึ่งตำบล ซึ่งมีเงินภาษีเกิดขึ้นให้ได้ใช้เลี้ยงชีพไปตลอดชีวิตแก่นายภูษามาลา   และได้ตรัสบอกเหตุแก่พระโอรสว่า “ผมหงอกบนศีรษะของพ่อนี้ บอกให้พ่อทราบว่า ความเป็นหนุ่มของพ่อได้สิ้นไปแล้ว เทวทูตแห่งความตายปรากฏแล้ว คราวนี้เป็นคราวที่พ่อจะออกบวช”

        จากนั้นจึงทรงอภิเษกพระราชโอรสพระองค์โตไว้ในราชสมบัติ  พร้อมทั้งพระราชทานพระโอวาทว่า  “ถึงตัวลูกเองก็จงครองราชย์สมบัติโดยธรรม จงดำรงชีวิตอยู่ด้วยความไม่ประมาท และเมื่อผมหงอกปรากฏบนศีรษะของลูกเมื่อไร   ลูกก็จงบวชเหมือนกับพ่อนี้ ”

        การที่พระเจ้ามฆเทวราชทรงสอนพระองค์เองได้ เพราะทรงเป็นผู้มีปัญญาที่ได้สั่งสมไว้ดีแล้ว  ลำพังคนธรรมดาทั่วไป  แม้จะมีอายุขัยเพียงแค่ไม่ถึง ๑๐๐ ปี อย่างกับมนุษย์ในยุคนี้  ก็มิได้สอนตนเองได้เหมือนพระเจ้ามฆเทวราช 

        เพราะความสั้นหรือยาวของอายุมิได้เป็นเครื่องชี้ชัดเสมอไปว่า เมื่อคนมีอายุน้อยลง แล้วจะสามารถสอนตนเองได้ แต่อยู่ที่การได้คบบัณฑิต ได้ฟังธรรมของบัณฑิต และได้ประพฤติธรรมของบัณฑิต ดังนั้น บุคคลเมื่อได้คบกับบัณฑิต ชีวิตก็ย่อมจะเจริญสูงขึ้นไป ส่วนวงศ์กษัตริย์ของพระเจ้ามฆเทวราชจะดำเนินไปอย่างไรนั้น โปรดติดตามตอนต่อไป
 
โดย : พระราชภาวนาวิสุทธิ์  (ไชยบูลย์ ธมฺมชโย)
 


Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
ทศชาติชาดก เรื่องเนมิราช ผู้ยิ่งด้วยอธิษฐานบารมี ตอนที่ 2ทศชาติชาดก เรื่องเนมิราช ผู้ยิ่งด้วยอธิษฐานบารมี ตอนที่ 2

ทศชาติชาดก เรื่องเนมิราช ผู้ยิ่งด้วยอธิษฐานบารมี ตอนที่ 3ทศชาติชาดก เรื่องเนมิราช ผู้ยิ่งด้วยอธิษฐานบารมี ตอนที่ 3

ทศชาติชาดก เรื่องเนมิราช ผู้ยิ่งด้วยอธิษฐานบารมี ตอนที่ 4ทศชาติชาดก เรื่องเนมิราช ผู้ยิ่งด้วยอธิษฐานบารมี ตอนที่ 4



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

ทศชาติชาดก