ณ ท้องสนามหลวง
ผู้พิการขาจำนวนมากต่างมุ่งหน้าเดินทางมาด้วยความหวังที่จะได้รับ ขาเทียมแรกในชีวิต ในขณะที่หลายคนจะได้รับ ขาเทียมอันใหม่ ทดแทนขาเทียมเก่าที่ชำรุดมากแล้ว
ที่สำคัญขาเทียมเหล่านี้เป็น ขาเทียมพระราชทาน
งาน ขาเทียมพระราชทาน โดยความร่วมมือระหว่างมูลนิธิขาเทียมในสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี กับกรุงเทพมหานคร ณ ท้องสนามหลวงในวันที่ 16-26 ก.ค.49 ได้มีการจัดทำขาเทียมมอบให้ผู้พิการในจำนวนที่มากที่สุดในโลก จนกินเนส บุ๊ก ต้องบันทึกไว้ในหน้าประวัติศาสตร์ เพราะเปิดให้ผู้พิการทั่วประเทศโดยไม่เลือกเชื้อชาติ ศาสนา และชนชั้น เดินทางมารับขาเทียมได้ฟรี!!
รศ. นพ. เทอดชัย ชีวะเกตุ เลขาธิการมูลนิธิขาเทียมฯ กล่าวว่า จากการสำรวจล่าสุด พบว่ามีผู้พิการขาขาดในประเทศไทยกว่า 35,000 คน และยังต้องการขาเทียมอีกเป็นจำนวนมาก สำหรับขาเทียมที่มอบให้ผู้พิการผลิตได้เองในประเทศไทย มีประสิทธิภาพ และมีน้ำหนักเบา โดยอุปกรณ์สำคัญของขาเทียม คือ ข้อต่อซึ่งต้องทำจากอลูมิเนียม เพราะรับน้ำหนักได้มาก มีความทนทาน และมีน้ำหนักเบา ผลิตจากวัสดุเหลือใช้ที่เป็นอลูมิเนียมได้ เช่น จากห่วงของกาแฟ กระป๋อง น้ำอัดลม ซึ่งยังขาดแคลนอีกเป็นจำนวนมาก
และด้วยพระบารมีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ โรงพยาบาลต่างๆ ทั่วประเทศได้ร่วมกันส่ง ช่างกายอุปกรณ์ ฝีมือดีมาช่วยกันทำขาเทียมคุณภาพดีให้ผู้พิการที่สามารถเดินทางมารับขาเทียมกลับได้เลยโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย และไม่ต้องรอนาน 2-3 สัปดาห์เหมือนปกติ นับเป็นภารกิจครั้งยิ่งใหญ่ของช่างกายอุปกรณ์ที่ต้องทำขาเทียมให้เสร็จสมบูรณ์ภายใน 1 วัน
ม.ล.ศกุล มาลากุล ช่างกายอุปกรณ์จาก ร.พ.สมุทรปราการ ที่มาร่วมเป็นอาสาสมัครเปิดใจว่า การทำขาเทียมให้เสร็จสิ้นในหนึ่งวัน เรียกว่าทุกคนได้เอาความรู้ความสามารถเทคนิคที่มีทั้งหมดมาใช้อย่างเต็มที่ ได้ทำกุศล และเฉลิมพระเกียรติในหลวงเป็นสิริมงคลกับชีวิต พวกเราทุกคนจึงเต็มใจทำงานอย่างเต็มที่ เพราะข้าราชการน้อยคนที่มีโอกาสได้ทำงานอย่างเรา
งาน ขาเทียมพระราชทาน โดยความร่วมมือระหว่างมูลนิธิขาเทียมในสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี กับกรุงเทพมหานคร ณ ท้องสนามหลวงในวันที่ 16-26 ก.ค.49 ได้มีการจัดทำขาเทียมมอบให้ผู้พิการในจำนวนที่มากที่สุดในโลก จนกินเนส บุ๊ก ต้องบันทึกไว้ในหน้าประวัติศาสตร์ เพราะเปิดให้ผู้พิการทั่วประเทศโดยไม่เลือกเชื้อชาติ ศาสนา และชนชั้น เดินทางมารับขาเทียมได้ฟรี!!
รศ. นพ. เทอดชัย ชีวะเกตุ เลขาธิการมูลนิธิขาเทียมฯ กล่าวว่า จากการสำรวจล่าสุด พบว่ามีผู้พิการขาขาดในประเทศไทยกว่า 35,000 คน และยังต้องการขาเทียมอีกเป็นจำนวนมาก สำหรับขาเทียมที่มอบให้ผู้พิการผลิตได้เองในประเทศไทย มีประสิทธิภาพ และมีน้ำหนักเบา โดยอุปกรณ์สำคัญของขาเทียม คือ ข้อต่อซึ่งต้องทำจากอลูมิเนียม เพราะรับน้ำหนักได้มาก มีความทนทาน และมีน้ำหนักเบา ผลิตจากวัสดุเหลือใช้ที่เป็นอลูมิเนียมได้ เช่น จากห่วงของกาแฟ กระป๋อง น้ำอัดลม ซึ่งยังขาดแคลนอีกเป็นจำนวนมาก
และด้วยพระบารมีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ โรงพยาบาลต่างๆ ทั่วประเทศได้ร่วมกันส่ง ช่างกายอุปกรณ์ ฝีมือดีมาช่วยกันทำขาเทียมคุณภาพดีให้ผู้พิการที่สามารถเดินทางมารับขาเทียมกลับได้เลยโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย และไม่ต้องรอนาน 2-3 สัปดาห์เหมือนปกติ นับเป็นภารกิจครั้งยิ่งใหญ่ของช่างกายอุปกรณ์ที่ต้องทำขาเทียมให้เสร็จสมบูรณ์ภายใน 1 วัน
ม.ล.ศกุล มาลากุล ช่างกายอุปกรณ์จาก ร.พ.สมุทรปราการ ที่มาร่วมเป็นอาสาสมัครเปิดใจว่า การทำขาเทียมให้เสร็จสิ้นในหนึ่งวัน เรียกว่าทุกคนได้เอาความรู้ความสามารถเทคนิคที่มีทั้งหมดมาใช้อย่างเต็มที่ ได้ทำกุศล และเฉลิมพระเกียรติในหลวงเป็นสิริมงคลกับชีวิต พวกเราทุกคนจึงเต็มใจทำงานอย่างเต็มที่ เพราะข้าราชการน้อยคนที่มีโอกาสได้ทำงานอย่างเรา
ญาติผู้พิการขาคนหนึ่งจากจังหวัดตรัง เลิศ เสียมไหม กล่าวว่า หลานผมเคยใช้ขาเทียมมาแล้ว แต่ขาเทียมอันเก่ามันแตกยาวมากเลย ลุงเลยเอาด้ายเย็บใช้อยู่ 4-5 ปีทำให้เป็นแผล เนื้อที่ขาก็หดลงไป
ส่วน พรทิพย์ อินต๊ะอุ่นวงศ์ หนึ่งในผู้พิการขาทั้ง 2 ข้างแต่กำเนิด กล่าวด้วยใบหน้ายิ้มแย้มว่า ขาเทียมช่วยให้เราสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ ทำให้รู้สึกว่าความพิการไม่ได้เป็นปมด้อย ต้องอดทน เข้มแข็ง ไม่ท้อถอย พิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่าเรามีความสามารถไม่แตกต่างจากคนทั่วไป
ทราบหรือยังว่าวัสดุเหลือใช้ที่เป็นอลูมิเนียมทั้งหลาย ยังมีคุณค่าสำหรับผู้พิการที่รอคอยความหวัง ฉะนั้น โปรดเก็บห่วง ฝา และกระป๋องที่ทำจากอลูมิเนียม เพื่อบริจาคให้เพื่อนร่วมโลกของเราอยู่ได้อย่างคนปกติสุขนั่นเอง