การสังคายนาพระธรรมวินัยครั้งที่ 1


[ 10 พ.ย. 2556 ] - [ 18339 ] LINE it!

การสังคายนาครั้งที่ 1 และผลพวงของการสังคายนาครั้งที่ 1


 

สาเหตุของการสังคายนาที่ปรากฎในปัญจกสติกขันธกะ สังคีตินิทาน (วิ.จู. 7/437/375)  ว่า พระมหากัสสปะได้ปรารภที่ประชุมสงฆ์ว่ามีพระเฒ่ารูปหนึ่งชื่อสุภัททะ กล่าวถ้อยคำจาบจ้วงพระธรรมวินัยทำนองว่า พระพุทธเจ้าปรินิพพานไปแล้วก็ดี พวกเราจะได้พ้นจากการปกครอง ไม่ต้องมีผู้ใดมาคอยตักเตือนบัญญัตินั่นนี่ว่า ข้อนี้ไม่ควรทำข้อนี้ควรทำ

 

ส่วนสาเหตุอื่นๆ คือ เพราะพระมหากัสสปะได้ปรารภพุทธดำรัสที่รับสั่งแก่พระอานนท์ว่าพระธรรมวินัยจักเป็นศาสดาแทนพระองค์ในกาลที่พระองค์ล่วงไป(เสถียร  โพธินันทะ, 2543 : 56) เพื่อต้องการเรียบเรียงพระธรรมวินัยให้สมบูรณ์ 

 

และอีกสาเหตุหนึ่งคือ พระมหากัสสปะมีเหตุผลส่วนตัวที่ท่านต้องพิทักษ์ศาสนธรรม ท่านได้รับยกย่องว่ามีคุณธรรมเครื่องอยู่เสมอด้วยพระองค์ และทรงเปลี่ยนผ้าสังฆาฏิของพระพุทธองค์กับท่าน(ระแบบ ฐิตญาโณ, 2542 : 124)  ในฐานที่ทรงยกย่องพระมหากัสสปะนี้จึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ท่านทำสังคายนาครั้งนี้ด้วย 

 

โดยการสังคายนาครั้งนี้ มีรายละเอียดดังนี้ ทำเมื่อพระศาสดาปรินิพพานแล้ว 3 เดือน สถานที่ ถ้ำสัตบรรณคูหา ระยะเวลา 7 เดือนจึงสำเร็จ มีพระอรหันต์ขีณาสพ 500 รูปเป็นผู้ทำสังคายนา ประธานสงฆ์คือพระมหากัสสปะ ผู้ตอบแก้พระวินัยคือพระอุบาลี ผู้ตอบแก้พระธรรมคือพระอานนท์ ผู้อุปถัมภ์คือพระเจ้าอชาตศัตรูแห่งกรุงราชคฤห์ 

 

ผลจากการทำสังคายนาคือ มีการเรียบเรียงพระวินัยและพระธรรมเป็นหมวดหมู่ มีการปรับอาบัติพระอานนท์ มีการลงพรหมทัณฑ์พระฉันนะ มีการยอมรับมติของพระมหากัสสปะให้คงสิกขาบทเดิมไว้ทั้งหมด และเพราะความเห็นไม่สอดคล้องกันในเรื่องสิกขาบทเล็กน้อย พระเถระบางพวกว่าเว้นจากปาราชิก 4 เสียนอกนั้นเล็กน้อย เป็นต้น สงฆ์จึงมีมติเห็นชอบกับพระมหากัสสปะว่า จะไม่เพิกถอนสิกขาบท และไม่บัญญัติในสิ่งที่ไม่ได้ทรงบัญญัติ

 

 

ในภายหลังจากทำสังคายนา พระปุราณะมาพร้อมกับพระภิกษุบริวาร 500 รูปจากทักขิณาคีรีชนบท พวกภิกษุที่ประชุมพระธรรมวินัยได้บอกพระปุราณะว่า "พระธรรมวินัยอันภิกษุเถระสังคายนาเสร็จแล้ว ท่านจงเข้าถึงพระธรรมวินัยที่สังคายนานั้น" พระปุราณะตอบว่า "พระเถระทั้งหลาย สังคายนาพระธรรมและพระวินัยเรียบร้อยแล้วหรือ แต่ว่า ข้าพเจ้าได้ฟัง  ได้รับมาเฉพาะพระพักตร์พระผู้มีพระภาคด้วยประการใด จักทรงไว้ด้วยประการนั้น" (วิ.จู. 7 / 444 / 385-386) พระปุราณะมีความเห็นส่วนใหญ่ตรงกับการสังคายนาครั้งนี้ แต่มีเพียงเรื่องกถาวัตถุ 8 ที่เป็นพุทธานุญาตพิเศษเมื่อคราวเกิดทุพพภิขภัย (แต่ในภายหลังทุพพภิกขภัยสงบลงพระพุทธองค์ทรงตรัสห้ามกถาวัตถุ 8) และจะยังคงถือปฏิบัติตามที่ได้สดับมาจากพระพุทธองค์ นั่นคือ มีฝ่ายพระปุราณะรวมทั้งบริวารอีกอย่างน้อย 500 ที่ไม่ยอมรับในการสังคายนาครั้งนี้ และมีฝ่ายพระมหากัสสปะที่เห็นว่าให้คงพระวินัยไว้ทุกข้อโดยไม่มีการเพิกถอน 

 

การสังคายนาครั้งนี้เกิดขึ้นจากพระภิกษุเพียงกลุ่มเดียวเท่านั้น และมีพระภิกษุอีกจำนวนมากไม่ได้เข้าในการสังคายนาด้วย ทำให้สงฆ์มีความเห็นเป็นสองฝ่ายคือ บางพวกเห็นด้วยกับพระปุราณ บางพวกเห็นด้วยกับพระมหากัสสปะ

 

การสังคายนาครั้งที่ 2 และเหตุการณ์ที่นำไปสู่สังคายนาครั้งที่ 2 >>> 



Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
การสังคายนาพระธรรมวินัยครั้งที่ 3การสังคายนาพระธรรมวินัยครั้งที่ 3

พระครูปลัดสุวัฒนโพธิคุณ (สมชาย ฐานวุฑโฒ)พระครูปลัดสุวัฒนโพธิคุณ (สมชาย ฐานวุฑโฒ)

พระบรมธาตุพระบรมธาตุ



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

พระพุทธศาสนา