นายอนุทิน กล่าวว่า กรมอนามัยได้สำรวจเมื่อปี 2548 พบว่า อัตราการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียว 6 เดือน มีเพียงร้อยละ 14.5 เลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียว ร้อยละ 20.7 เนื่องจากแม่ต้องทำงานนอกบ้านมากนั้น ดังนั้น ต้องเร่งรณรงค์ให้พ่อแม่ทราบถึงประโยชน์ของน้ำนมแม่ สามารถบีบน้ำนมแช่ตู้เย็นนำกลับมาเลี้ยงลูกได้ อีกทั้งขอความร่วมมือจากสถานประกอบการ จัดหามุมให้นมลูก สถานที่บีบน้ำนม สถานที่รับเลี้ยงเด็กตอนกลางวันให้แม่ที่ทำงานให้นมลูกได้ ซึ่งจะลดความเครียดของแม่ สร้างผลผลิตให้กับองค์กรได้มากขึ้นที่สำคัญเวลาที่ลูกดูดนม ร่างกายจะสร้างฮอร์โมนออกซี่โตซินกระตุ้นให้เกิดสายใยความผูกพันระหว่างแม่ ลูกเพิ่มขึ้นพร้อมที่จะปกป้องลูก
นพ.สมยศ เจริญศักดิ์ อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า กรมอนามัยได้ส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ตามรอยกิจกรรมของชมรมสายใยรัก แห่งครอบครัวในพระอุปถัมภ์ของพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ สยามมกุฎราชกุมาร ใน 3 จังหวัดนำร่องคือ เชียงใหม่ นครราชสีมา และนครศรีธรรมราช จัดคาราวานสายใยรักแห่งครอบครัวรณรงค์การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ในจังหวัดใหญ่ ๆ 15 จังหวัด จากนั้นขยายผลให้ครอบคลุม 76 จังหวัดทั่วประเทศ เพื่อสร้างความมั่นใจในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียว 6 เดือนเป็นทุนสมองของลูกน้อย.