พระพุทธศาสนาไร้พรมแดน ตอนที่ 6


[ 26 ก.ค. 2550 ] - [ 18266 ] LINE it!

ผลปฏิบัติธรรม

พระธรรมทายาทนานาชาติ รุ่นที่ 5

 
    ผมชื่อ แอนดรูว์ เจมส์ คอนดอน ฉายา วิมโล อายุ 21 ปี ชาวอเมริกัน ปัจจุบันเป็นนักศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยนิวยอร์ค สาขาจิตวิทยาภาษาศาสตร์ นับถือศาสนาคริสต์ครับ
 
    ที่ผ่านมา ผมไม่เคยได้ยิน ไม่เคยรู้จักวัดพระธรรมกายหรือศูนย์สาขาใดๆมาก่อน แต่เนื่องจากสมัยที่ผมเรียนอยู่มัธยมปลาย ผมได้มีโอกาสมาประเทศไทย และไปสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า พัทยา ผมชอบ และรู้สึกว่า ได้ทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ให้กับผู้อื่น
 
    ดังนั้น ช่วงที่เรียนมหาวิทยาลัย  ผมจึงหาเวลามาเป็นอาสาสมัครที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า พัทยาแห่งนี้อีกครั้ง และการกลับมาประเทศไทยครั้งที่สองนี้ ทำให้ผมได้พบกัลยาณมิตรคนแรก คือ คุณโรเบิร์ต บิชอป ซึ่งเล่าให้ฟังว่า เคยมาบวชธรรมทายาทนานาชาติ เมื่อปี พ.ศ.2548 จึงอยากให้ผมได้บวชตั้งแต่ตอนอายุยังน้อย ส่วนตัวผมเคยศึกษาพระพุทธศาสนาจากหนังสือมาบ้างแล้ว และอยากรู้ว่า จะเกิดอะไรขึ้น หากผมได้ลองฝึกสมาธิดู เพราะผมเคยทราบว่า มีผลการศึกษาในกรุงวอชิงตันดีซี ซึ่งเป็นเมืองที่มีอาชญากรรมมากพอสมควร ได้เคยลองนำคนมาทำสมาธิรวมกัน 500คน ปรากฏว่า สามารถลดอาชญากรรมลงได้ถึง 25%
 
    ความตั้งใจเริ่มแรกที่มาบวชในครั้งนี้ ผมอยากฝึกอบรมตัวเองให้มีวินัยมากขึ้น และอยากลองว่า ถ้าให้ตนเองอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคย ตัวเองจะเป็นอย่างไร ในการอบรม ผมได้ฟังประวัติความเป็นมาของวัด ของพระเดชพระคุณหลวงปู่ พระเดชพระคุณหลวงพ่อ และได้ฝึกสมาธิ ก็ทำให้ผมรู้สึกดีมาก พอได้ทัวร์ดูวัด ผมก็รู้สึกว่า “ต้องใช้งบประมาณเท่าไหร่ ถึงจะสามารถทำทุกอย่างในวัดได้ แต่ถ้าคนหนึ่งล้านคนได้มานั่งสมาธิด้วยกันที่นี่จริงๆ ก็คงจะเป็นเรื่องที่น่าทึ่งมาก”
 
    ผมชอบบรรยากาศ ที่สุขสันโดษ โดยเฉพาะม้านั่ง แถวๆอ่างเก็บน้ำ บรรยากาศที่นี่ดีมาก จนอยากให้บ้านผมเป็นอย่างนี้ แม้จะจบโครงการไปแล้ว ผมจะพยายามนั่งสมาธิทุกวัน ให้ได้ 
 
    ขณะที่เป็นพระ ผมก็ได้ออกไปบิณฑบาต เห็นผู้คนให้ความเคารพเลื่อมใสพระ ผมก็อยากประคองใจให้ใส สว่าง ให้สมกับความเคารพที่ได้รับ ผมชอบผ้าสังฆาฏิมากเลยครับ ที่สามารถนำมาใช้ได้หลายแบบ เป็นได้ทั้งผ้าห่ม ผ้าคลุม ผ้าพาด และที่สำคัญที่สุด คือ ชุดของพระทำให้ผมประคองใจไว้กับตัวได้มาก เพราะต้องคอยระวังอิริยาบถต่างๆ
 
ผลปฏิบัติธรรม
 
    ผมไม่ได้นึกนิมิตอะไรเลย แค่นำความรู้สึก มาไว้ที่กลางท้องภาวนา “สัมมา อะระหัง” แล้วจินตนาการให้ร่างกายตัวเองค่อยๆละลายหายไปรวมเป็นหนึ่งเดียวกับบรรยากาศ หลังจากนั้นผมก็จะรู้สึกว่า ตัวเองค่อยๆ ขยายใหญ่ขึ้น และเบามากๆ ท่านั่งก็เหมือนจะถูกจัดให้เข้าที่เข้าทางโดยอัตโนมัติ แล้วผมก็จะเห็นแสงสว่างออกมาจากภายในตัวและออกไปรอบๆ เหมือนกับนั่งอยู่กลางแสงแดดสีทอง รู้สึกสบาย ปลอดโปร่ง ผ่อนคลาย ความกังวลต่างๆ หายไป
 
    บางครั้ง ผมเห็นดวงแก้วกลมๆ วิ่งผ่านหน้าจากด้านซ้ายไปขวา บางทีก็หมุนตามเข็มนาฬิกา วิ่งเข้ามาหาบ้าง ขยับออกไปบ้าง และเกือบทุกครั้งที่ ผมก็อดไม่ได้ที่จะตื่นเต้นและจ้องดู จนทำให้ภาพนั้นหายไป แล้วก็มาใหม่ สลับไปสลับมาอยู่อย่างนี้ ผมนั่งสมาธิแล้วรู้สึกสงบและมีความสุขมากๆครับ ผมเคยนั่งนานที่สุดได้ประมาณ 3 ชั่วโมงครึ่ง
 
    พระเดชพระคุณหลวงพ่อครับ...ไม่ใช่เรื่องง่าย ที่สันติภาพโลกจะเกิดขึ้นได้ แต่ลึกๆแล้วผมก็หวังให้มีสิ่งที่ดีๆ เกิดขึ้นกับโลกใบนี้ ผมว่า การสร้างวิหารคดของพระเดชพระคุณหลวงพ่อ เพื่อจะให้คนหนึ่งล้านคนมานั่งสมาธิด้วยกัน เมื่อทำสำเร็จจะเป็นสิ่งที่น่ายกย่องมากครับ
 
    ผมชื่อ พระเจียงไฮ่ซง ฉายา สุวุฑฺโฒ อายุ 24ปี ชาวจีน มณฑลหูหนาน ปัจจุบันเป็นอาจารย์สอนวิชากฎหมาย คณะนิติศาสตร์  มหาวิทยาลัย ฉงชิ่งจี้หนานเจิ้งจื้อต้าเสวีย และกำลังเรียนปริญญาเอก ทางด้านกฎหมายที่มหาวิทยาลัยเดียวกันนี้ด้วยครับ ผมเป็นคนไม่มีศาสนา เพราะผมสนใจและทุ่มเทให้กับการเรียนเท่านั้น
 
    แล้วชีวิตของผม ก็มาถึงจุดเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่  เมื่อผมได้รู้จัก พระธรรมาจารย์ เต้าเจี้ยน ซึ่งทำให้ผมได้เรียนรู้คำสอนทางพระพุทธศาสนา เป็นเรื่องของเหตุและผล ทำให้ผมประทับใจมาก จึงได้เป็นอาสาสมัครของ วัดฮวาเหยียน ทำหน้าที่เขียนบทความลงวารสาร หนังสือพิมพ์ของวัด เวปไซต์ เพื่อชวนคนมาร่วมกิจกรรม
 
    ต่อมา พระธรรมาจารย์แจ้งข่าวการบวชนานาชาติที่ วัดพระธรรมกาย  ผมสนใจมาก จึงได้เริ่มหัดนั่งสมาธิ เพราะทราบว่าการอบรมเน้นเรื่องสมาธิ ผมเอาคำขานนาคมาหัดท่อง พร้อมกับศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา เถรวาท ทางอินเตอร์เน็ต เพื่อจะได้ทราบข้อมูลต่างๆก่อนบวช ผมพบว่าวัดพระธรรมกาย เป็นวัดที่มีระบบระเบียบสวยงาม มีการปฏิบัติสมาธิที่โดดเด่นและมีครูบาอาจารย์ที่ดีเยี่ยม และยิ่งพระธรรมาจารย์ได้พูดเกี่ยวกับความดีงามของวัดพระธรรมกาย ผมจึงไม่ลังเลที่จะมาบวชที่นี่
 
    สำหรับผมแล้ว การบวช เหมือนกับเป็นการข้ามฟากจากดินแดนแห่งความวุ่นวายของฆราวาส มาสู่ดินแดนอันสุขสงบของเพศบรรพชิต ผมจึงมีความตั้งใจบำเพ็ญสมณธรรม และปฏิบัติธรรมอย่างทุ่มเท รวมทั้งอยากจะทำความปรารถนาของพระธรรมาจารย์ที่ท่านตั้งใจจะนำวิธีการปฏิบัติธรรมเพื่อเข้าถึงพระธรรมกายไปเผยแผ่ที่เมืองจีนให้สำเร็จ
 
    ช่วงแรกๆที่ขึ้นมาสุขสันโดษ เมื่อเริ่มนั่งไปไม่นานนัก ผมรู้สึกว่าปวดเมื่อยมาก แต่ผมก็ทนนั่ง  จนเมื่อเวลาผ่านไป ผมก็เริ่มปรับท่านั่งให้อยู่ในอิริยาบถที่สบาย แล้วผมก็เริ่มหันมาปรับใจให้สบายๆ ในช่วงแรกที่ยังฟุ้งซ่านอยู่ ผมก็กังวลว่า “ทำไมใจเราถึงคิดนู่นคิดนี่ ไม่สงบเลย”  แต่เมื่อได้รับคำแนะนำว่า ไม่ต้องสนใจ  ผมก็ไม่สนใจ ฟุ้งได้ฟุ้งไป ช่างมัน ผมหันมาเผชิญหน้ากับความคิดที่มีมากมาย ด้วยการไม่ใส่ใจ น่าแปลกจริงๆ ครับ พอไม่ใส่ใจความฟุ้ง ความฟุ้งก็กลับหายไป ผมจึงเริ่มภาวนา “สัมมา อะระหัง” พร้อมๆกับประคองรักษาความสงบของใจเอาไว้ จนใจเริ่มสบายสามารถสัมผัสได้ถึงความสุขที่เกิดจากความสงบนิ่ง
 
    เมื่อเลิกนั่งผมมาไตร่ตรองสาเหตุแห่งความฟุ้ง ผมจึงรู้ว่าที่เป็นเช่นนี้เพราะผมสั่งสมการคิดมายาวนาน ผมเป็นนักคิดนักวิเคราะห์ และการศึกษาทางโลกบอกผมว่า การเป็นนักคิดจะช่วยให้ปัญญาแตกฉาน ผมจึงชอบคิดมาก  แต่เมื่อปฏิบัติธรรม ผมกลับพบว่า ความคิดทั้งหลายที่คุ้นเคยคือ ส่วนเกินของการปฏิบัติธรรม เจ้าความคิดนี่ล่ะ คือ อุปสรรคอันใหญ่หลวงของการหยุดใจ
 
    วันหนึ่ง ขณะปล่อยใจตามเสียงพระอาจารย์ที่นำนั่ง ผมก็หยุดนิ่งเฉยๆ แต่มีความสดชื่นเบิกบาน พอนิ่งไปเรื่อยๆก็รู้สึกว่า ลมหายใจของผมหายไปเหมือนกับไม่หายใจ กายเบาสบาย มีความสว่างเรืองๆเกิดขึ้น  
 
    ผลจากการปฏิบัติธรรม ทำให้จิตใจผมสงบลงสู่สมาธิ  เรื่องที่ผมเคยคิดไม่ออกในตอนก่อนบวช กลับเป็นคำตอบผุดขึ้นหลังจากที่ผมนั่งสมาธิแล้ว จึงทำให้ผมยิ่งมั่นใจว่า สมาธิจากการหยุดคิดนี่ล่ะ ทำให้เกิดปัญญา ผมตั้งใจว่า นับจากนี้ไปจะฝึกสมาธิให้กลายเป็นส่วนหนึ่งในกิจวัตรประจำวัน และผมเชื่อว่า จะเป็นประโยชน์มากต่อการเรียนระดับปริญญาเอก และการเป็นอาจารย์ของผมด้วย
 
    สิ่งที่ผมได้เรียนรู้จากการใช้ชีวิตบวชในครั้งนี้คือ “ประหยัด มัธยัสถ์ เคร่งครัดพระธรรมวินัย ชีวิตเรียบง่าย จิตใจสูงส่ง” และผมปรารถนาว่า เมื่อกลับไปเมืองจีน ผมจะทำหน้าที่ของครูผู้ให้แสงสว่างเหมือนกับที่คุณครูไม่ใหญ่กำลังทำอยู่ โดยผมจะไม่สอนให้ลูกศิษย์ที่มหาวิทยาลัยรู้แค่กฎหมายเท่านั้น  แต่จะสอนความรู้ด้านจิตใจแก่พวกเขาด้วย ผมจะสอนให้รู้เรื่องกฎแห่งกรรมความจริงของชีวิต และแนะนำให้เขาฝึกสมาธิ ผมจะชวนนักศึกษาให้มาบวชที่วัดพระธรรมกาย เพื่อเขาจะได้เรียนรู้วิชาที่จำเป็นสำหรับการดำเนินชีวิตอย่างมีความสุขในโลกแห่งวัตถุนิยมใบนี้
 
    ท้ายที่สุดนี้ ผมขอขอบพระคุณต่อพระธรรมาจารย์ พระอาจารย์และพระพี่เลี้ยงทุกรูปที่แนะนำการใช้ชีวิตพระที่สมบูรณ์ให้กับผม  และที่สำคัญที่สุดคือ กราบขอบพระคุณ พระเดชพระคุณหลวงพ่อ ที่มีความตั้งใจจะทำงานพระพุทธศาสนา นำพาวิชชาธรรมกายให้แผ่ขยายไปทั่วโลก สำหรับผมแล้ว พระเดชพระคุณหลวงพ่อเป็นครูผู้เป็นต้นแบบที่สั่งสอนศิษย์ให้รู้ความจริงของชีวิต  ผมจะนำคำสอนของพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ไปสอนลูกศิษย์ของผม เพื่อเขาจะได้เป็นคนดี  รู้เท่าทันเล่ห์กลของกิเลส และดำเนินชีวิตให้สมกับที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ต่อไปครับ


Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
พระพุทธศาสนาไร้พรมแดน ตอนที่ 7พระพุทธศาสนาไร้พรมแดน ตอนที่ 7

เหล่ากอสมณะที่นิวเจอร์ซี่เหล่ากอสมณะที่นิวเจอร์ซี่

เหล่ากอสมณะที่นิวเจอร์ซี่ ตอนที่2เหล่ากอสมณะที่นิวเจอร์ซี่ ตอนที่2



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

ผลการปฏิบัติธรรมนานาชาติ