สัพพาทาฐิชาดก ชาดกว่าด้วยผู้มีบริวารมากเป็นใหญ่ได้


[ 4 มี.ค. 2565 ] - [ 18363 ] LINE it!

ชาดก 500 ชาติ

สัพพทาฐิชาดก-ชาดกว่าด้วยผู้มีบริวารมากเป็นใหญ่ได้

แผ่นดินมคธในพุทธสมัยใกล้ปัจฉิมกาลของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

แผ่นดินมคธในพุทธสมัยใกล้ปัจฉิมกาลของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
  
      ครั้งหนึ่งในพุทธสมัยใกล้ปัจฉิมกาลของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ครั้งที่แผ่นดินมคธร้อนด้วยเพลิงอักกตัญญูทั้งจากพระเจ้ามคธซึ่งถูกกระทำปิตุฆาต
และจากการทำพุทธประหารของพระเทวทัต ก่อนที่พระเทวทัตจะบรรลัยเพราะธรณีสูบ ได้เคยจัดให้คนไปกระทำบาปมหันต์
 
พระเทวทัตสั่งคนไปทำการพุทธประหารองค์พระศาสดา
 
พระเทวทัตสั่งคนไปทำการพุทธประหารองค์พระศาสดา
 
       คือ ประหารองค์พระพุทธศาสดามาก่อน “ เจ้าจงไปทำตามแผนที่เราบอก อย่าให้พลาดล่ะ ” “ ได้ขอรับ พระคุณเจ้ารอฟังข่าวดีเถิด
กระผมจะจัดการกับหนามยอกอกของท่านให้เอง ” มหาบาปอันอุกฤตนั้นคือการปล่อยช้างนาฬาคีรีซึ่งตกน้ำมันให้วิ่งเข้าหาขบวน
บิณฑบาต ซึ่งพระพุทธองค์ทรงเสด็จนำมาหวังกระทำพุทธประหาร
 
ควาญช้างได้ปล่อยช้างนาฬาคีรีที่ตกมันให้ไปทำร้ายองค์พระศาสดา
 
ควาญช้างได้ปล่อยช้างนาฬาคีรีที่ตกมันให้ไปทำร้ายองค์พระศาสดา
 
        “ อื้อหือกำลังคึกได้ที่เลยนะเจ้าช้างเอ๋ย เดี๋ยวเถอะข้าจะปล่อยให้เจ้าได้อาละวาดสมใจ ฮะ ฮ่าฮ่า ” ครั้งนั้นพระอานนท์เถระ
ออกหน้าเข้าขวางไว้ด้วยตั้งใจจะถวายชีวิต แต่ปรากฏว่าช้างนั้นไม่อาจฝ่าพุทธรังสีเข้ามาได้ ต้องจบงวงทำความเคารพ
แล้วหันหลังวิ่งหนีไป มคธรัฐในเวลานั้นจึงมีแต่เสียงสรรเสริญพระบารมีของพระพุทธเจ้า

พระอานนท์ได้เข้ามาขวางช้างนาฬาคีรีเพื่อไม่ให้ไปทำร้ายพระพุทธองค์
 
พระอานนท์ได้เข้ามาขวางช้างนาฬาคีรีเพื่อไม่ให้ไปทำร้ายพระพุทธองค์
 
       ต่อมาพระเจ้าอชาตศัตรูพระราชาราชบุตรแห่งพิมพิสารก็เริ่มลังเลในบารมีของเทวทัต ลาภสักการะที่เคยจัดถวายจึงพลอยถูกงดลงไป
“ นี่พระราชาคงคิดเอาใจออกห่างเราแล้ว ของที่เคยถวายก็บกพร่อง นี่เราจะทำยังไงดี ” พระเทวทัตในเวลานั้นเหมือนเทียนไส้ขาด
ไม่อาจส่องแสงได้อีกกลายเป็นบุคคลผู้ถูกนินทากล่าวถึงทั่วทั้งพระวิหารในอารามเวฬุวันที่พระเจ้าพิมพิสารถวายให้

พระเจ้าอชาตศัตรูเริ่มไม่ไว้วางพระเทวทัต
 
พระเจ้าอชาตศัตรูเริ่มไม่ไว้วางพระเทวทัต
        
       ข้อธรรมนั้นคือ เทวทัตผู้ไร้ศีลธรรมย่อมไม่อาจคงบารมีอยู่ได้นาน สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงมีพระกรุณาธิคุณให้ภิกษุทั้งหลาย
รู้แจ้งในข้อธรรมะ จึงทรงเจริญบุพเพนิวาสานุสติญาณ รำลึกอดีตชาติ ทรงตรัสเล่า สัพพาทาฐิชาดกขึ้นดังนี้
 
พระเทวทัตเริ่มรู้สึกได้ว่าลาภสักการะของตนที่ได้จากพระเจ้าอชาตศัตรูลดน้อยลง
 
พระเทวทัตเริ่มรู้สึกได้ว่าลาภสักการะของตนที่ได้จากพระเจ้าอชาตศัตรูลดน้อยลง
 
     ย้อนหลังไปในโลกอดีตหลายภพชาติ ยังมีปุโรหิตผู้หนึ่งของพระเจ้าพรหมทัต เขาผู้นี้เจนจบไตรเพทและศิลปศาสตร์ทั้ง ๑๘ ประการ
แล้วยังรอบรู้ปฐวีวิชัยมนต์อันบันลือฤทธิ์ มหามนต์ชื่อนี้เมื่อสาธยายแล้ว จะสามารถสะกดใครก็ได้ให้หลงไหลเชื่อฟังในทันที
 
ภิกษุทั้งหลายต่างพูดถึงการกระทำที่ไม่เหมาะสมของพระเทวทัต
 
ภิกษุทั้งหลายต่างพูดถึงการกระทำที่ไม่เหมาะสมของพระเทวทัต
 
       วันหนึ่งปุโรหิตได้ฝึกซ้อมสาธยายมนต์วิเศษนี้ ยังที่สงัดห่างผู้คน “ โอม ด้วยอำนาจแห่งมนต์วิเศษนี้ ขอจงดลบันดาลฝนด้วยเถิด ”
แต่ด้วยอำนาจกรรมปรากฎว่ามีสุนัขจิ้งจอกตัวหนึ่งอาศัยอยู่ในโพรงหินใกล้ๆ มันเกิดจดจำมนต์วิเศษนั้นได้อย่างขึ้นใจ

พระศาสดาทรงตรัสเล่า สัพพาทาฐิชาดก ให้แก่เหล่าภิกษุสงฆ์
 
พระศาสดาทรงตรัสเล่า สัพพาทาฐิชาดก ให้แก่เหล่าภิกษุสงฆ์
     
        “ หึ หึ หึ พลาดไปแล้วล่ะ ท่านปุโรหิตเอ๋ย เราจดจำมนต์ของท่านได้อย่างขึ้นใจแล้ว คราวนี้เราก็เป็นผู้วิเศษแล้วสิ ” และรู้ด้วยอำนาจ
มนต์ตรานี้ว่าจะสามารถสะกดผู้อื่นให้ตกอยู่ในอำนาจได้ง่ายดาย “ ฮ่ะ ฮ่า ฮ่า ใช้มนต์เพียงแค่นี้เราก็จะเป็นใหญ่ในแผ่นดิน ไม่ว่าใคร
ก็จะเชื่อฟังเรา ฮ่ะ ฮ่า ” ด้วยอำนาจมนต์ภาษาจิ้งจอกไม่กี่คำนั้น ก็ยังสมารถทำให้ปุโรหิตได้ยินและฟังรู้ความไม่ปกติ
 
ปุโรหิตได้ฝึกสาธยายมนต์วิเศษ
 
ปุโรหิตได้ฝึกสาธยายมนต์วิเศษ
 
        “ แย่แล้วสุนัขจิ้งจอกตัวนั้นแอบจำมนต์เราหรือนี้ ความวิบัติต้องเกิดขึ้นแน่ ๆ ” ปุโรหิตไม่อาจตามสุนัขจิ้งจอกนั้นได้ทัน จึงเดินทาง
กลับพระนครด้วยความวิตก “ เจ้าจิ้งจอกอย่าหนีนะ เจ้าอย่าได้เอามนต์วิเศษนี้ไปใช้ในทางที่ผิดเป็นอันขาดมันบาปนัก โอ๊ะ แย่แล้ว
เราตามจับตัวมันไม่ทันจะทำอย่างไรดี ”
 
มีสุนัขจิ้งจอกบังเอิญได้ยินการฝึกสาธยายปฐวีวิชัยมนต์ของท่านปุโรหิต
 
มีสุนัขจิ้งจอกบังเอิญได้ยินการฝึกสาธยายปฐวีวิชัยมนต์ของท่านปุโรหิต
 
       “ ฮ่ะ ฮ่า ฮ่า ใครจะปล่อยให้จับตัวได้ง่าย ๆ ล่ะ ไม่เอาไปใช้ก็โง่แล้วมนต์วิเศษอย่างนี้ ” สุนัขจิ้งจอกเมื่อกลับเข้าป่าก็ทดลองใช้ปฐวีวิชัยมนต์
กับนางจิ้งจอกสาว เมื่อได้ผลอย่างง่ายดาย จึงย่ามใจคิดการใหญ่ขึ้นในสมอง “ ฮ่าฮ่า เป็นไงล่ะ แม่สาวน้อย เมื่อก่อนตามจีบ ตามเอาใจไม่เคย
จะเหลียวตามอง
 
ปุโรหิตรู้ตัวว่าตนนั้นพลาดไปแล้วที่เผลอท่องมนต์เสียงดังจนสุนัขจิ้งจอกนั้นจดจำได้
 
ปุโรหิตรู้ตัวว่าตนนั้นพลาดไปแล้วที่เผลอท่องมนต์เสียงดังจนสุนัขจิ้งจอกนั้นจดจำได้
  
        คราวนี้เจอมนต์วิเศษเข้าไปตามเราไม่ห่างเลยน่ะ มนต์นี้ช่างดีจริง ๆ ถ้าเราใช้มนต์นี้ก็คงกลายเป็นเจ้าแห่งอนุทวีปนี้แน่ ๆ ฮะ ฮ่า ” ต่อมาจิ้งจอกเจ้าเล่ห์
จึงสาธยายมนต์เอาจิ้งจอกทั้งป่ามาเป็นบริวาร “ ท่านหัวหน้าจากนี้ไป พวกเราจะถวายการรับใช้ท่าน ” “ สิ่งใดที่ท่านต้องการบอกมาเถิด

สุนัขจิ้งจอกรีบหนีเข้าป่าเมื่อถูกปุโรหิตจับได้ว่าตนนั้นได้แอบฟังการท่องมนต์    

สุนัขจิ้งจอกรีบหนีเข้าป่าเมื่อถูกปุโรหิตจับได้ว่าตนนั้นได้แอบฟังการท่องมนต์
 
        พวกข้าจะเป็นธุระจัดการให้ ” “ จากนี้ไปชีวิตของพวกเราจะขอมอบให้ท่าน ” “ ฮ่า ฮ่า ดีมาก จากนี้พวกเจ้าต้องเชื่อฟังคำสั่งของเรา ใครที่คิดจะ
เป็นศัตรูกับเรา พวกเจ้าจงฆ่าให้หมด ” ต่อมาอีกไม่นานเหล่าจตุบท 4 เท้า เขาใหญ่น่าเกรงขามทั้งหมดก็ออกมาสยบเป็นบริวารตามคำสั่งในอำนาจ
มหามนต์ของจิ้งจอกไม่ขาดสาย
 
สุนักจิ้งจอกได้ใช้มนต์กับนางจิ้งจอกสาวให้มาหลงรักตน
 
สุนักจิ้งจอกได้ใช้มนต์กับนางจิ้งจอกสาวให้มาหลงรักตน

       “ ข้าจะรับใช้ท่านเท่าชีวิตจะหาไม่ ต่อไปนี้เราจะยกให้ท่านจิ้งจอกเป็นผู้นำของเหล่าฝูงสัตว์ในป่านี้ทั้งหมด ” สุดท้ายแม้พญาคชสารใหญ่แห่งป่า
พญาเสือโคร่ง และราชสีห์ผู้สยบสรรพสัตว์ด้วยเสียงคำรนดุจฟ้าก้องก็ยังมาศิโรราบต่อจิ้งจอกได้ “ จากนี้ไปเราทั้งสองจะขอรับใช้ท่านจนวันตายเลย ”

สุนัขจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ได้ใช้มนต์ทำให้ฝูงสุนัขจิ้งจอกทั้งหมดเชื่อฟังตน
 
สุนัขจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ได้ใช้มนต์ทำให้ฝูงสุนัขจิ้งจอกทั้งหมดเชื่อฟังตน
 
       “ ดีมาก จากนี้พวกเจ้าทั้งสองจงฟังคำสั่งจากข้า อิอิ ตัวโต ดุกว่าเราตั้งเยอะยังยอมเชื่อฟังเราเลย มนต์นี้มันวิเศษจริง ๆ ” ครั้นถึงฤดูแล้ง
แผ่นดินแห้งเดินทางสะดวก จิ้งจอกผู้มักใหญ่ใฝ่สูงก็ดำเนินแผนการร้ายของมัน มันขึ้นนั่งด้วยท่าทางสง่างาม ข่มสัตว์มีเขี้ยวงาทั้งหลาย
สาธยายมนต์สำทับให้ขลังขึ้น เรียกให้สรรพสัตว์จัดเป็นกองทัพขึ้นมา


สุนัขจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ได้ใช้มนต์บังคับสัตว์ทุกประเภทให้เชื่อฟังตน
 
สุนัขจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ได้ใช้มนต์บังคับสัตว์ทุกประเภทให้เชื่อฟังตน
       
       “ คราวนี้ล่ะ เราจะเป็นใหญ่ ทุกตัวจงฟังข้า ด้วยอำนาจของเราตอนนี้จะสามารถยึดเมืองปราบดาภิเษกตัวข้าขึ้นเป็นพระเจ้าแผ่นดินโดยง่าย
ขอเพียงพวกเจ้าพากันมาเยอะ ๆ ร่วมแรงร่วมใจกันทำงานเพื่อข้าแล้วกัน
ทัพเดรัจฉานของจิ้งจอกออกจากป่าสู่นครหลวงอย่างรวดเร็ว แม่ทัพ
ผู้ขโมยมนต์วิเศษยืนบัญชาการอยู่บนหัวราชสีห์ซึ่งกษัตริย์ยกย่องให้เป็นหนึ่ง มันส่งราชสารไปก่อนรบดุจชาวกษัตริย์ทำทุกอย่าง
สุนัขจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ได้ออกคำสั่งให้สัตว์ทุกตัวเชื่อฟังตน
 
สุนัขจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ได้ออกคำสั่งให้สัตว์ทุกตัวเชื่อฟังตน
 
      “ ไปกันเถิด เจ้าสัตว์บริวารของข้าทั้งหลาย ไปรบกับพวกมนุษย์ อย่างไรเสีย ข้าก็ต้องยิ่งใหญ่ในแผ่นดินนี้ให้ได้ ” ราชสารฉบับนั้นถูกเขียนโดยมนต์
ปุโรหิตผู้รู้มนต์ก็แปลความถวายพระเจ้าพาราณสี “ สัตว์เดรัจฉานพวกนั้น ส่งราชสาส์นมาว่าให้ยกพระนครให้ ถ้าไม่อย่างนั้นก็จงรอความพินาศพระเจ้าค่ะ ”
 
สุนัขจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ได้วางแผนที่จะแย่งชิงเมืองจากพระราชา
 
สุนัขจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ได้วางแผนที่จะแย่งชิงเมืองจากพระราชา
 
       “ บังอาจมาก มันเป็นแค่สัตว์ จะเอาอะไรมาขู่ให้เรากลัว ” “ มันจะสั่งให้ราชสีห์คำรนดุจฟ้าผ่า ให้ชาวนครอกแตกตาย แล้วให้ฝูงสัตว์อื่น ๆ
เข้าขบกัดย่ำยีพระเจ้าค่ะ แต่พระองค์ทรงวางพระทัยเถิด หม่อมฉันมีวิธีจัดการกับศึกนี้ เพียงแค่ให้ทุกคนในเมืองใช้แป้งถั่วราชมาส ปิดช่องหู
ให้สนิทยามมีเสียงคำรนก็จะรังแต่ทำร้ายฝูงสัตว์พวกมันด้วยกันเองพระเจ้าค่ะ ”
 
สุนัขจิ้งจอกได้นำกองทัพสัตว์น้อยใหญ่เข้าประชิดกำแพงพระนคร
 
สุนัขจิ้งจอกได้นำกองทัพสัตว์น้อยใหญ่เข้าประชิดกำแพงพระนคร
 
      ครั้นได้เวลาทุกคนในพาราณสีก็อุดหูด้วยแป้งถั่วราชมาส จึงไม่ได้ยินสรรพเสียงใด ๆ เมื่อกองทัพสัตว์ร้ายเข้ามาประชิดกำแพงพระนครจึงมิได้เกรงกลัว
“ เข้ามาเลยเจ้าสัตว์ร้าย แผนของเจ้า ทำอะไรพวกเราไม่ได้หรอก ฮ่ะ ฮ่า ฮ่า สัตว์เดรัจฉานรึ จะสู้มนุษย์อย่างพวกเราได้ ”
 
สุนัขจิ้งจอกได้ส่งราชสาส์นท้ารบมายังพระราชา
 
สุนัขจิ้งจอกได้ส่งราชสาส์นท้ารบมายังพระราชา

        จิ้งจอกเจ้าเล่ห์ ยืนท้าทายอวดศักดาอยู่นาน จนมันแน่ใจว่าถึงเวลาต้องใช้กำลังราชสีห์ตีเมือง ก็ออกคำสั่ง “ เฮ้ย เจ้าราชสีห์ เจ้าจงคำราม
อย่างที่ใคร ๆ เขาก็กลัวกันสิ เปล่งเสียงให้ดังสุดชีวิตของเจ้าเลยนะ เอาให้พวกมนุษย์มันหูแตกกันไปเลย ฮ่ะ ฮ่า ฮ่า ”

ปุโรหิตบอกแผนการให้ทุกคนเอาแป้งถั่วราชมาสมาอุดหูเพื่อป้องกันเสียงคำรามจากราชสีห์
 
ปุโรหิตบอกแผนการให้ทุกคนเอาแป้งถั่วราชมาสมาอุดหูเพื่อป้องกันเสียงคำรามจากราชสีห์

       ราชสีห์รวมพลังเต็มที่แล้วก็เปล่งเสียงฝ่าผ่าออกมาเป็นระลอก ดังสะท้านไปทั่วบริเวณ สุนัขจิ้งจอกผู้มีกรรม อวดศักดาของมันด้วยการยืน
บนหลังราชสีห์ แล้วราชสีห์ยืนอยู่บนหลังช้างอีกทีนั้นเป็นความคิดที่โง่เขลาที่สุด เมื่อราชสีห์ร้องคำรามกึกก้อง

สุนัขจิ้งจอกออกคำสั่งให้ราชสีห์ส่งเสียงคำรามให้ดังก้องไปทั่วพระนคร

สุนัขจิ้งจอกออกคำสั่งให้ราชสีห์ส่งเสียงคำรามให้ดังก้องไปทั่วพระนคร
 
       สัตว์ทุกตัวแม้แต่ช้างก็ไม่สามารถต้านทานเสียงนั้นได้ พวกมันดิ้นทุรนทุราย แม้แต่ช้างที่แบกราชสีห์กับสุนัขจิ้งจอกนั้นด้วยเหมือนกัน มันตกในจนลืมตัว
สะบัดทั้งราชสีห์และสุนัขจิ้งจอกลงสู่พื้นดินอย่างแรง “ เจ้าช้างบ้าสะบัดข้าลงมาทำไมนี่ ข้าเป็นนายเจ้านะ โอ้ย โอ้ย เจ็บ ๆ ”
 
สัตว์ทั้งหลายพากันแตกตื่นและหวาดกลัวในเสียงคำรามของราชสีห์
 
สัตว์ทั้งหลายพากันแตกตื่นและหวาดกลัวในเสียงคำรามของราชสีห์
 
     กองทัพเดรัจฉานแตกตื่นโกลาหลกลับไปอย่างไม่เป็นขบวน เมื่อฝุ่นควันจางลง เจ้าจิ้งจอกผู้บังเอิญมีอำนาจเพราะโชคดีก็กลับสู่พื้นดินตามฐานะเดิม
ในสภาพถูกช้างเหยียบบี้แบนไร้ราคา “ หือ เหยียบสะแบนเลย โอ้ย เจ็บ เจ็บ เจ็บ ไม่น่าเลยตู อยู่เฉย ๆ ก็ดีแล้ว ไม่น่าคิดเป็นใหญ่ โอ้ย เจ็บ เจ็บ ๆ ”
 
สุนัขจิ้งจอกได้ตกลงจากหลังราชสีห์และได้ถูกช้างเหยียบจนบี้แบน
 
สุนัขจิ้งจอกได้ตกลงจากหลังราชสีห์และได้ถูกช้างเหยียบจนบี้แบน
 
 
ในพุทธกาลครั้งนั้น สุนัขจิ้งจอกกำเนิดเป็น พระเทวทัต
พระราชาพรหมทัต กำเนิดเป็น พระสารีบุตร
ปุโรหิต เสวยพระชาติเป็น พระพุทธเจ้า

 
 


Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
สีหจัมมชาดก ชาดกว่าด้วยลาห่มหนังสิงโตสีหจัมมชาดก ชาดกว่าด้วยลาห่มหนังสิงโต

กาลัณฑุกชาดก ชาดกว่าด้วยมารยาทส่อสกุลกาลัณฑุกชาดก ชาดกว่าด้วยมารยาทส่อสกุล

รุหกชาดก ชาดกว่าด้วยรุหกะปุโรหิตรุหกชาดก ชาดกว่าด้วยรุหกะปุโรหิต



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

นิทานชาดก 500 ชาติ