สกุณาชาดก ชาดกว่าด้วยที่พึ่งให้โทษ


[ 11 มิ.ย. 2565 ] - [ 18275 ] LINE it!

ชาดก 500 ชาติ

สกุณาชาดก-ชาดกว่าด้วยที่พึ่งให้โทษ

ภิกษุเมื่อบวชแล้วก็ปฏิบัติธรรมในพระอาราม

ภิกษุเมื่อบวชแล้วก็ปฏิบัติธรรมในพระอาราม
  
       ในกาลก่อนพระภิกษุเมื่อออกบวชแล้ว ต่างก็มีวิธีในการแสวงธรรมต่างกันออกไป บ้างก็ศึกษาพระธรรมในพระอาราม บ้างก็ออกไปปฏิบัติธรรมในป่า
ดังเช่นภิกษุบวชใหม่รูปนี้เช่นกัน 
เมื่อเข้าฤดูแล้งป่าที่เคยชุ่มชื่นก็แห้งแล้งร้อนระอุ

ภิกษุเมื่อบวชแล้วบางรูปก็เลือกที่จะไปปฏิบัติธรรมในป่า
 
ภิกษุเมื่อบวชแล้วบางรูปก็เลือกที่จะไปปฏิบัติธรรมในป่า
      
        เมื่อกิ่งไม้ใบไม้เสียดสีกันมากๆ ก็เกิดเป็นเปลวไฟลุกไหม้ลามมาถึงบรรณศาลาของภิกษุ “ แย่แล้วบรรณศาลาของเราถูกไฟไหม้ คราวนี้
จะทำอย่างไรดีล่ะ ”  เมื่อไฟมอดลงบรรณศาลาของภิกษุก็เหลือแต่ซากเถ้าถ่าน

ในฤดูแล้งกิ่งไม้มีการเสียดสีกันจนเกิดเป็นประกายไฟ
 
ในฤดูแล้งกิ่งไม้มีการเสียดสีกันจนเกิดเป็นประกายไฟ
 
       ภิกษุจนปัญญาที่จะสร้างศาลาใหม่ได้ จึงออกจากป่าไปขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน “ เราคนเดียวก็คงจะสร้างศาลาไม่ไหว
คงต้องให้ชาวบ้านมาช่วย ไม่มีศาลาไว้คอยให้ร่มเงาคงจะไม่สามารถเจริญกรรมฐานได้ ”

ไฟป่าได้ลุกลามและเผาไหม้ไปจนถึงบรรณศาลาของภิกษุรูปหนึ่ง
 
ไฟป่าได้ลุกลามและเผาไหม้ไปจนถึงบรรณศาลาของภิกษุรูปหนึ่ง
 
        ภิกษุเดินทางออกมาจากป่าใหญ่มาสู่หมู่บ้านเล็ก ๆ หวังจะให้ชาวบ้านช่วยกันสร้างบรรณศาลาขึ้นมาใหม่ให้ แต่แล้วก็ไม่เป็นดังที่คาดไว้
เพราะช่วงนี้เป็นช่วงที่ชาวบ้านต้องรีบเร่งทำงานเพื่อให้ทันหว่านพืชในไร่นาให้เสร็จทันฤดูกาล

ภิกษุไม่สามารถดับไฟป่าที่ได้แผดเผาบรรณศาลาของตนได้
 
ภิกษุไม่สามารถดับไฟป่าที่ได้แผดเผาบรรณศาลาของตนได้
        
        “ โยม ศาลาของอาตมาในป่าถูกไฟไหม้ รบกวนโยมทั้งหลายช่วยสร้างศาลาใหม่ให้อาตมาได้หรือเปล่า ”  “ พวกผมต้องขอโทษ
ท่านด้วย ช่วงนี้พวกผมต้องรีบระบายน้ำเข้านาช้าไปมันจะไม่ทัน ” 
 
ภิกษุได้รำพึงว่าลำพังตนคนเดียวคงไม่สามารถสร้างบรรณศาลาได้สำเร็จเป็นแน่
 
ภิกษุได้รำพึงว่าลำพังตนคนเดียวคงไม่สามารถสร้างบรรณศาลาได้สำเร็จเป็นแน่
 
       “ ใช่ ๆ พวกผมต้องรีบทำ คงไปช่วยสร้างศาลาให้ท่านไม่ได้หรอก ” เวลาล่วงเลยไปภิกษุนั้นต้องอยู่กลางแจ้งตลอดสามเดือน
จึงไม่อาจเจริญกรรมฐานได้ จึงไปเฝ้าองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
 
 ภิกษุได้เดินทางออกจากป่าเพื่อไปยังหมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง
 
ภิกษุได้เดินทางออกจากป่าเพื่อไปยังหมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง
 
        เมื่อพระพุทธเจ้าทรงทราบเรื่องดังกล่าวแล้วจึงตรัสว่า “ ดูก่อนภิกษุแม้สัตว์เดรัจฉานยังรู้ที่สมควรอันอยู่สบายหรืออยู่ไม่สบาย
ไฉนเธอจึงไม่รู้เล่า ” แล้วพระองค์ก็ทรงตรัสเล่าเรื่องสกุณาชาดกให้เหล่าภิกษุได้ฟังกัน


ชาวบ้านกลุ่มหนึ่งกำลังระบายน้ำเข้านากันอย่างเร่งรีบ
 
ชาวบ้านกลุ่มหนึ่งกำลังระบายน้ำเข้านากันอย่างเร่งรีบ
     
        อดีตกาลนานมาแล้วในป่าใหญ่มีพญานกอาศัยอยู่ในต้นไม่ใหญ่ต้นหนึ่งพญานกคอยเฝ้าดูแลนกตัวอื่นให้ปลอดภัยจากอันตราย
ทั้งปวง เมื่อเข้าฤดูแล้งกิ่งไม้ใบไม้ก็ร่วงโรยลงสู่พื้นบ้าง
 
ภิกษุได้ออกปากร้องขอให้ชาวนาไปช่วนตนสร้างบรรณศาลาหลังใหม่
 
ภิกษุได้ออกปากร้องขอให้ชาวนาไปช่วนตนสร้างบรรณศาลาหลังใหม่
 
           ส่วนกิ่งไม้ที่ยังอยู่บนต้นเมื่อถูกลมพัดเสียดสีไปมาก็เกิดเป็นควันไฟขึ้นพญานกเห็นดังนั้นก็คาดการณ์ว่าคงเกิด
อัคคีภัยขึ้นได้สักวัน ฝูงนกที่อาศัยอยู่ในต้นไม้ใหญ่นี้คงไม่ปลอดภัย
 
ชาวนาได้พากันปฏิเสธภิกษุเหตุเพราะพวกตนต้องเร่งรีบผันน้ำเข้านาเพื่อให้ทันในฤดูกาลเพาะปลูก
 
ชาวนาได้พากันปฏิเสธภิกษุเหตุเพราะพวกตนต้องเร่งรีบผันน้ำเข้านาเพื่อให้ทันในฤดูกาลเพาะปลูก
 
          “ เฮ้ย กิ่งไม้เสียดสีกันอยู่อย่างนี้คงต้องเกิดไฟขึ้นแน่ ๆ แล้วถ้าไฟนั้นลุกลามไปติดใบไม้แห้งไฟก็คงจะลุกไหม้ต้นไม้ใหญ่
อันเป็นที่อยู่ของเราและบริวารแน่ ๆ เลย เฮ้อ ” เมื่อเห็นว่าจะเกิดอันตรายขึ้น

ภิกษุต้องอยู่กลางแจ้งตลอดสามเดือนจนไม่อาจปฏิบัติธรรมได้
 
ภิกษุต้องอยู่กลางแจ้งตลอดสามเดือนจนไม่อาจปฏิบัติธรรมได้
  
          พญานกจึงบอกกับฝูงนกให้อพยพหนีไปอยู่ที่อื่น “ นกทั้งหลายบัดนี้ภัยอันตรายจะเกิดแก่พวกเราแล้วป่าไม่เริ่มแห้งแล้ง
กิ่งไม้เริ่มเสียดกันจนเกิดเป็นควัน สักวันคงต้องเกิดไฟไหม้ขึ้นแน่ ๆ


ภิกษุได้มาเข้าเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า    

ภิกษุได้มาเข้าเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า
 
          ฝูงนกทั้งหลายจงพากันอพยพหนีไปอยู่ในที่ต่าง ๆ เถิด ” ฝูงนกบริวารเมื่อได้ยินพญานกตักเตือนก็มีความคิดออกเป็น
สองฝ่าย
ฝ่ายหนึ่งมีปัญญาก็เชื่อตามคำเตือนของนกใหญ่
 
พระพุทธองค์ได้ตรัสเล่าสกุณาชาดกให้แก่เหล่าภิกษุทั้งหลายได้รับฟัง
 
พระพุทธองค์ได้ตรัสเล่าสกุณาชาดกให้แก่เหล่าภิกษุทั้งหลายได้รับฟัง
 
      อีกฝ่ายหนึ่งไม่มีปัญญาก็มัวห่วงอาลัยในที่เดิม “ น่ากลัวจังเลย เรารีบไปหาที่อยู่ใหม่กันเถอะพี่ ” “ ได้จ้า พี่ต้องหาที่ไกล
จากต้นไม้นี่สักหน่อยนะ เอาที่ชุ่มชื้นหน่อยไหมจ๊ะ
น้องกับลูก ๆ จะได้อยู่เย็นสบาย ”

พญานกและฝูงได้อาศัยอยู่บนต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง
 
พญานกและฝูงได้อาศัยอยู่บนต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง
       
        “ เชอะ นกพวกนี้ทำเป็นกระต่ายตื่นตูมไปได้ จะไปหาที่อยู่ใหม่ให้เหนื่อยทำไม ต้นไม้ใหญ่นี่ดีจะตายร่มเงาก็เยอะ หนอนก็แยะ ”
“ ใช่ ๆ ข้าก็ว่าอย่างนั้นแหละแค่มีควันนิด ๆ หน่อย ๆ 
ไม่เห็นต้องรีบย้ายบ้านเลย

 

พญานกสังเกตุเห็นกิ่งไม้เสียดสีกันจนเกิดเป็นควันไฟ
 
พญานกสังเกตุเห็นกิ่งไม้เสียดสีกันจนเกิดเป็นควันไฟ
 
        รอเกิดไฟขึ้นมาก่อนค่อยบินหนีก็ไม่สาย ” พญานกเห็นว่ามีนกที่ไม่อยากย้ายรังจึงออกปากเตือนด้วยความเป็นห่วง
“ ฝูงนกทั้งหลายบัดนี้ต้นไม้นั้นจะเกิดเป็นไฟขึ้นแล้ว
 
พญานกได้เตือนบริวารของตนว่าอีกไม่นานต้นไม้ใหญ่ที่พวกตนอาศัยจะต้องเกิดไปไหม้ขึ้นอย่างแน่นอน
 
พญานกได้เตือนบริวารของตนว่าอีกไม่นานต้นไม้ใหญ่ที่พวกตนอาศัยจะต้องเกิดไปไหม้ขึ้นอย่างแน่นอน
 
           ภัยเกิดแก่ที่พึ่งที่อาศัยของเราแล้ว ” “ เชอะ พญานกนี่ก็กระไรพอเห็นน้ำเพียงหยดเดียวก็เพ้อไปว่าจะมีจระเข้เสียแล้ว
ควันนิด ๆ หน่อย ๆ จะเกิดเป็นไฟได้อย่างไร ไร้สาระ
 
ฝูงนกได้ปรึกษากันในเรื่องการหาต้นไม้ใหม่สำหรับที่พักอาศัยของพวกตน
 
ฝูงนกได้ปรึกษากันในเรื่องการหาต้นไม้ใหม่สำหรับที่พักอาศัยของพวกตน

         ใครอยากย้ายก็ย้าย เราจะอยู่ที่นี่ ” ฝูงนกที่มีปัญญากระทำตามคำเตือนของพญานกพากันบินตามพญานกเพื่อไปหา
ที่อยู่ใหม่ ส่วนฝูงนกที่ไม่มีปัญญา ไม่เชื่อฟังคำแนะนำของพญานก

นกน้อยครอบครัวหนึ่งก็คุยกันถึงเรื่องการหาต้นไม้ใหม่เพื่อเป็นที่พักอาศัยของครอบครัว
 
นกน้อยครอบครัวหนึ่งก็คุยกันถึงเรื่องการหาต้นไม้ใหม่เพื่อเป็นที่พักอาศัยของครอบครัว

        ก็ยังพากันอาศัยอยู่ในต้นไม้นั้นดังเดิม“ นี่แน่ะพวกเรา เวลาไฟติดลุกไหม้มาถึงพวกเราก็ค่อยบินหนีเอาก็ได้ ตอนนี้พวกเรา
อยู่ที่นี่กันต่อเถอะ ” “ ดีจัง ไม่ต้องย้ายกันให้เมื่อยตุ้ม

นกบางกลุ่มก็ไม่มีความกังวลและไม่ได้เชื่อฟังคำเตือนของพญานก

นกบางกลุ่มก็ไม่มีความกังวลและไม่ได้เชื่อฟังคำเตือนของพญานก
 
        หาหนอนกินกันก่อนดีกว่าพวกเรา ” ต่อมาไม่นานต้นไม้ใหญ่นั้นก็เกิดไฟไหม้ขึ้นจริง ๆ พายุอัคคีโหมกระหน่ำดังคำ
แนะนำของพญานก
ทุกประการ ควันและเปลวไฟ

นกบางกลุ่มคิดว่าพวกตนจะพักที่ต้นไม้ใหญ่ต้นเดิมต่อไป
 
นกบางกลุ่มคิดว่าพวกตนจะพักที่ต้นไม้ใหญ่ต้นเดิมต่อไป
 
      พวยพุ่งลุกโพรงอย่างรุนแรง “ ไฟไหม้ ๆ ๆ ไฟไหม้แล้วหนีเร็วพวกเรา โอ้ย ร้อน ๆ ๆ ” “ โอ้ย ร้อนจังบินไม่ไหวแล้ว ช่วยด้วย
 
ชาวบ้านต่างพากันแอบขำที่ท่านปุโรหิตรุหกะได้สวมเครื่องประดับของม้า
 
นกบางกลุ่มกำลังมองพญานกและเพื่อพ้องที่กำลังบินออกไปหาที่อยู่ใหม่
 
        ไฟมันลามมาถึงปีกข้าแล้ว โอ้ย โอ้ย ” “ โอ้ย โอ้ย ข้าก็โดนเหมือนกัน โอ้ย ร้อน ” บรรดาฝูงนกผู้ประมาทไม่อาจบินหนีเพลิงไหม้
 
ฝูงนกที่เหลือก็อาศัยอยู่บนต้นไม้ใหญ่ต้นเดิมโดยไม่เกรงกลัวภัยใด ๆ
 
ฝูงนกที่เหลือก็อาศัยอยู่บนต้นไม้ใหญ่ต้นเดิมโดยไม่เกรงกลัวภัยใด ๆ
 
       ออกไปได้ถูกไฟครอกร่วงหล่นสู่เปลวไฟ ถึงซึ่งความตายเป็นอันมากส่วนนกอื่น ๆ ที่ย้ายตามพญานกมาก็เจอที่อยู่แห่งใหม่
 
ในที่สุดไฟป่าก็ได้ลุกโหมเผาไหม้ต้นไม้ใหญ่อย่างรวดเร็ว
 
ในที่สุดไฟป่าก็ได้ลุกโหมเผาไหม้ต้นไม้ใหญ่อย่างรวดเร็ว
 
       เป็นป่าอุดมสมบูรณ์มีต้นไม้ใหญ่ให้พักพิงเหมือนเดิม พญานกคอยดูแลความปลอดภัยให้ฝูงนกได้ใช้ชีวิตอย่างปกติสุขจนสิ้นอายุขัย
 
ฝูงนกที่เหลือไม้สามารถบินหนีได้ทันเพราะไฟป่าได้ลุกไหม้อย่างรวดเร็ว
 
ฝูงนกที่เหลือไม้สามารถบินหนีได้ทันเพราะไฟป่าได้ลุกไหม้อย่างรวดเร็ว
 
      เมื่อฟังชาดกจนจบแล้วภิกษุก็เห็นทางธรรมเปลี่ยนสถานที่ปฏิบัติธรรมจนบรรลุธรรมได้สำเร็จ
 
ฝูงนกต่างร่วงหล่นตกลงมาตายเกลื่อนเพราะถูกไฟป่าเผาไหม้
 
ฝูงนกต่างร่วงหล่นตกลงมาตายเกลื่อนเพราะถูกไฟป่าเผาไหม้

พญานกได้พาฝูงของต้นมาอาศัยยังต้นไม้ใหญ่ที่ร่มรื่นเขียวขจี
 
พญานกได้พาฝูงของต้นมาอาศัยยังต้นไม้ใหญ่ที่ร่มรื่นเขียวขจี

ภิกกษุได้เปลี่ยนสถานที่ปฏิบัติธรรมและบรรลุธรรมได้ในที่สุด
 
ภิกกษุได้เปลี่ยนสถานที่ปฏิบัติธรรมและบรรลุธรรมได้ในที่สุด
 
 
นกไม่มีปัญญาในครั้งนั้น ได้กำเนิดเป็นพระภิกษุบวชใหม่
ส่วนพญานกเสวยพระชาติเป็นพระพุทธเจ้า

 
 


Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
ทุททุภายชาดก ชาดกว่าด้วยกระต่ายตื่นตูมทุททุภายชาดก ชาดกว่าด้วยกระต่ายตื่นตูม

วิโรจนชาดก ชาดกว่าด้วยสุนัขจิ้งจอกไม่เจียมตัววิโรจนชาดก ชาดกว่าด้วยสุนัขจิ้งจอกไม่เจียมตัว

ตัณฑุลนาฬิชาดก ชาดกว่าด้วยการตีราคาสินค้าตัณฑุลนาฬิชาดก ชาดกว่าด้วยการตีราคาสินค้า



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

นิทานชาดก 500 ชาติ