วิโรจนชาดก ชาดกว่าด้วยสุนัขจิ้งจอกไม่เจียมตัว


[ 11 ส.ค. 2565 ] - [ 18269 ] LINE it!

ชาดก 500 ชาติ

วิโรจนชาดก-ชาดกว่าด้วยสุนัขจิ้งจอกไม่เจียมตัว

เหล่าภิกษุต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์ถึงพฤติกรรมที่ไม่ดีของพระเทวทัต

เหล่าภิกษุต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์ถึงพฤติกรรมที่ไม่ดีของพระเทวทัต
  
       ครั้งนั้นเมื่อสมเด็จพระพุทธศาสดาประทับยังป่าไผ่ในพระวิหารชื่อว่าเวฬุวัน กาลเวลานั้นภิกษุสงฆ์ทั้งปวงต่างวิพากษ์วิจารณ์พฤติกรรมไม่ดีของพระเทวทัต
ข้อที่กระทำตนเลียนแบบพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอย่างไม่สมควร เหตุเพราะพระเทวทัตเถระมีญาณเสื่อมบังเกิดอิจฉาริษยาในบารมีของพระพุทธองค์

พระศาสดาทรงประทับอยู่ ณ ป่าไผ่ในวิหารเวฬุวัน
 
พระศาสดาทรงประทับอยู่ ณ ป่าไผ่ในวิหารเวฬุวัน
      
       และบังอาจตั้งกฎขึ้นปกครองสงฆ์ขึ้นแข่งขัน แต่พระพุทธองค์ไม่ทรงอนุญาตนำมาปฏิบัติ “ ดูก่อนท่านเทวทัต อันข้อปฏิบัติเราบัญญัติไว้ดีแล้ว
ไม่ควรเปลี่ยนเป็นเช่นอื่นอีก ” พระเทวทัตซึ่งถือตนว่าเป็นพระญาติและมีทุกสิ่งทัดเทียมเช่นกันกับพระพุทธเจ้าเมื่อถูกขัดใจก็ขุ่นเคือง
จึงวางแผนแยกคณะสงฆ์ออกจากพระศาสดา

พระเทวทัตได้วางแผนแยกคณะสงฆ์ออกจากพระศาสดา
 
พระเทวทัตได้วางแผนแยกคณะสงฆ์ออกจากพระศาสดา
 
       พระเทวทัตจึงทำการชักชวนภิกษุบวชใหม่ในสำนักของพระโมคคัลลาและสำนักพระสารีบุตรจำนวน ๕๐๐ รูปให้ติดตามไปตั้งคณะสงฆ์ใหม่ “ ตามเรา
ไปเถิดแล้วจะได้ดีทุกคน เราจะนำไปอยู่อารามใหม่ที่พระเจ้าอชาตศัตรูสร้างให้ ” “ นำไปเถิดพระเทวทัตถ้าท่านเห็นว่าดีเราก็จะเชื่อตามท่านไป ”

พระเทวทัตได้ชักชวนภิกษุบวชใหม่จำนวน 500 รูปให้ติดตามตนไปยังพระอารามใหม่
 
พระเทวทัตได้ชักชวนภิกษุบวชใหม่จำนวน 500 รูปให้ติดตามตนไปยังพระอารามใหม่
 
       “ นำไปยังคยาสีสะนั่นเถิด เราพร้อมจะไปกับท่าน ” ภิกษุเหล่านี้ติดตามพระโมคคัลลาพระสารีบุตรมาจากเมืองเวสาลีแคว้นวัชชียังไม่ฉลาด
ในพระธรรมวินัยเพราะเพิ่งอุปสมบทไม่นานนักจึงถูกชักจูงได้ง่าย ต่อเมื่อเวลาผ่านไประยะหนึ่งพระพุทธศาสดาทรงทราบเวลาที่ความรู้ของภิกษุ

ภิกษุจากสำนักพระสารีบุตรและพระโมคคัลลาได้ติดตามพระเทวทัตไปยังพระอารามใหม่
 
ภิกษุจากสำนักพระสารีบุตรและพระโมคคัลลาได้ติดตามพระเทวทัตไปยังพระอารามใหม่
        
        เหล่านั้นแก่กล้าขึ้นพอที่จะฟังอัตถกถาธรรมได้แล้วจึงทรงอนุเคราะห์ส่งพระอัครสาวกทั้งสองไปสู่อารามใหม่ของพระเทวทัต เมื่ออัครสาวก
ของพระพุทธองค์มาถึงพระเทวทัตก็ถือโอกาสอวดตนด้วยการประพฤติเลียนแบบให้ดูเหมือนพระศาสดาทั้งการนอนท่าสีหไสยาสน์
 
พระอัครสาวกได้ออกติดตามเหล่าภิกษุไปยังอารามใหม่ของพระเทวทัต
 
พระอัครสาวกได้ออกติดตามเหล่าภิกษุไปยังอารามใหม่ของพระเทวทัต
 
       และยังมอบพุทธกิจให้แสดงธรรมเทศนาแทนด้วยคำพูดเดียวกันพระพระพุทธองค์ “ สารีบุตรท่านจงแสดงธรรมกถาให้เหล่าภิกษุแจ่มกระจ่างเถิด
ได้เวลาเราเหยียดกายพักแล้ว ” (..อนิจจาพระเทวทัตมิได้เจียมตนเลยแม้แต่น้อยน่าเวทนาจริง ๆ ) อันพระสารีบุตรนั้นได้รับการยกย่องอันเลิศล้ำ
ทางปัญญา
  
 
พระเทวทัตนอนท่าสีหไสยาสน์เลียนแบบพระพุทธองค์
 
พระเทวทัตนอนท่าสีหไสยาสน์เลียนแบบพระพุทธองค์
 
        เมื่อพระเทวทัตหลงตัวเองสั่งให้แสดงธรรมกถาก็ใช้มรรคผลแห่งสัจธรรมยกขึ้นแสดงจนพระภิกษุทั้งสิ้นตื่นจากความหลงผิดพากันติดตาม
พระโมคคัลลาและพระสารีบุตรกลับมาหาพระพุทธองค์ที่อารามเวฬุวันจนหมด พระเทวทัตนั้นเมื่อรู้ว่าอารามในคยาสีสะของตนไม่มีภิกษุ

พระเทวทัตให้พระสารีบุตรได้แสดงธรรมแก่เหล่าภิกษุทั้ง 500 รูป
 
พระเทวทัตให้พระสารีบุตรได้แสดงธรรมแก่เหล่าภิกษุทั้ง 500 รูป
     
        เหลืออยู่เลยก็บังเกิดความแค้นแน่นอกกระอักลิ่มเลือดออกมาอย่างน่ากลัว จากนั้นก็ล้มพับไป “ พระสารีบุตรทำลายบริษัทของเราแล้ว ” เมื่อพระสารีบุตร
กราบทูลถึงความไม่เจียมตนกระทำเลียนแบบพุทธกิริยาของพระเทวทัต สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าสดับแล้วตรัสว่า “ ดูก่อนสารีบุตรมิใช่เพียงบัดนี้เท่านั้น
 
พระสารีบุตรได้แสดงธรรมกถาแก่เหล่าภิกษุสงฆ์ 500 รูป
 
พระสารีบุตรได้แสดงธรรมกถาแก่เหล่าภิกษุสงฆ์ 500 รูป
 
           ที่เทวทัตทำตามอย่างเรา เมื่ออดีตชาติหนึ่งก็เคยถึงแก่พินาศเพราะไม่เจียมตนมาแล้ว จากนั้นองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงระลึกชาติ
ด้วยบุพเพนิวาสนุสติญาณเป็นอรรถกถาวิโรจนชาดกดังนี้ 
อดีตชาตินั้นในป่าหิมพานต์ยังมีถ้ำทองบนเพิงผาเหนือทุ่งหญ้าอันไพศาลสุดสายตา
 
เหล่าภิกษุสงฆ์ได้ติดตามพระอัครสาวกกลับมายังอารามเวฬุวัน
 
เหล่าภิกษุสงฆ์ได้ติดตามพระอัครสาวกกลับมายังอารามเวฬุวัน
 
          และอุดมไปด้วยฝูงสัตว์น้อยใหญ่มากมาย ถ้ำทองเหนือชะง่อนผานั้นเป็นที่อาศัยของพญาราชสีห์ผู้ทรงบารมีน่าเกรงขาม พญาราชสีห์ปกครอง
ดินแดนหิมพานต์แถบนี้มานาน มีเอกลักษณ์อันงามสง่าสมชาติสิงห์ผู้ยิ่งใหญ่ มีแท่นหินฉาบทองวาววามเป็นที่นอนพักกายในขณะอิ่มเอมจากอาหาร

พระเทวทัตได้กระอักออกมาเป็นเลือดหลังจากที่รู้ว่าพระอารามของตนไม่มีภิกษุเหลืออยู่เลย
 
พระเทวทัตได้กระอักออกมาเป็นเลือดหลังจากที่รู้ว่าพระอารามของตนไม่มีภิกษุเหลืออยู่เลย
  
          ซึ่งพญาราชสีห์จะไม่ออกจากถ้ำทองเลยหากไม่ต้องการล่าสัตว์อื่นดำรงชีพ “ อืม วันนี้ช่างสงบเงียบดีจริง ๆ ขอพักอยู่อย่างนี้ดีกว่า ” แต่เมื่อถึง
เวลาแสดงสีหบารมีพญาราชสีห์ก็จะสะบัดกายเยื้องย่างมายังชะง่อนหินหน้าถ้ำจ้องมองสัตว์น้อยใหญ่เบื้องล่าง เลือกตัวซึ่งถึงที่ตายได้แล้ว
 
พระพุทธองค์ทรงระลึกชาติด้วยบุพเพนิวาสานุสติญาณ    

พระพุทธองค์ทรงระลึกชาติด้วยบุพเพนิวาสานุสติญาณ
 
          ก็แสดงบันลือสีหนาทคำรามก้องภูผาดุจฟ้าร้อง และยามสิงห์คำรามนั้นปวงสัตว์ในทุ่งหญ้าต่างก็พากันอ่อนแรงด้วยตบะบารมีกันถ้วนหน้า แล้วเมื่อ
พญาราชสีห์กระโจนลงจากภูผาด้านหน้าถ้ำทองสัตว์ใหญ่ปานใดก็ไม่อาจต้านทานกำลังต้องตกเป็นอาหารแก่พญาราชสีห์ทุกครั้ง “ เจ้าถึงคราวตายแล้ว
 
เหนือชะง่อนผามีถ้ำทองซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของพญาราชสีห์
 
เหนือชะง่อนผามีถ้ำทองซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของพญาราชสีห์
 
      มาเป็นอาหารของเราเสียเถอะ ” วันหนึ่งพญาราชสีห์ฆ่ากระบือใหญ่กินเป็นอาหารแล้วก็ลงสู่สระน้ำใสสะอาดดื่มกิน ทำความสะอาดดีแล้ว
ก็กระทำสีหลีลาเดินขึ้นสู่ถ้ำทองดั่งเคย ครั้งนั้นมีสุนัขจิ้งจอกตัวหนึ่งเที่ยวพเนจรหากินแล้วเกิดพลัดหลงมาเผชิญหน้าเข้ากับพญาราชสีห์
เข้าอย่างสุดจะหลีกเลี่ยงได้

พญาราชสีห์มีแท่นหินฉาบทองภายในถ้ำซึ่งเป็นที่สำหรับนอนพักผ่อน
 
พญาราชสีห์มีแท่นหินฉาบทองภายในถ้ำซึ่งเป็นที่สำหรับนอนพักผ่อน
       
        “ โอ้ย ตาย ตาย ตาย หนีไม่ทันแน่ ๆ เรา ต้องทำใจดีสู่สิงห์เข้าไว้ ไหนไหน ก็ไหน ๆ ว่ะ เอาว่ะ เออ คือว่าสวัสดีจ้าท่านราชสีห์ ” “ เจ้ามีธุระ
อะไรกับเรารึเจ้าจิ้งจอก ” “ เออ คือว่าข้ามีเรื่องจะกราบทูลท่าน ” “ หึ เจ้ามีเรื่องใดจะบอกเรา ” “ ข้าแต่นายท่านอันตัวข้าน้อยมาที่นี่หมายจะ
รับใช่ท่าน ” “ อือ รับใช้ข้างั้นรึ ได้สิ ในเมื่อเจ้าตั้งใจมาข้าก็จะเลี้ยงไว้ ”
พญาราชสีห์จะแผดเสียงบันลือสีหนาทก่อนที่จะออกล่าเหยื่อมาเป็นอาหารของตน
 
พญาราชสีห์จะแผดเสียงบันลือสีหนาทก่อนที่จะออกล่าเหยื่อมาเป็นอาหารของตน
      
       “ โอ้ ขอบพระคุณนายท่านข้าน้อยจะตั้งใจรับใช้ไม่ดื้อรั้นอวดดีเลย ” พญาราชสีห์นั้นรู้นิสัยจิ้งจอกเป็นอย่างดี แต่เมื่อมันเป็นผู้น้อยมาพึ่งพา
ก็ยินดีต้อนรับตามวิสัยผู้ยิ่งใหญ่ “ งั้นเจ้าก็ตามมาเถิด เราจะให้เจ้ากินเนื้ออย่างดี นอนในถ้ำทองอันแสนสบาย ” (...สบายละตูกัดก้อนเกลือ
กินมานานแล้ว จู่ ๆ ก็จะได้ใช้ชีวิตอย่างราชสีห์หรูสุด ๆ )
 
พญาราชสีห์จะออกมายื่นที่ชะง่อนผามองหาเหยื่อที่จะมาเป็นอาหารของตน
 
พญาราชสีห์จะออกมายื่นที่ชะง่อนผามองหาเหยื่อที่จะมาเป็นอาหารของตน

       ตั้งแต่บัดนั้นมาจิ้งจอกก็รอกินเดนของราชสีห์ทุกมื้อ กินอิ่มก็ลงไปชำระล้างร่างกายและดื่มน้ำในสระตามอย่างราชสีห์ทุกประการ “ ข้าอิ่มละ
ที่เหลือเป็นของเจ้านะ ไปล่ะ ” “ หือ อร่อยมาก หือสุขใจจริง ๆ ” ไม่นานเท่าไหร่ร่างกายของสุนัขจิ้งจอกก็อ้วนพี อยู่มาวันหนึ่งมันจึงคิดได้ว่า

พญาราชสีห์กระโจนจากชะง่อนผาขย้ำฆ่าควายป่าเพื่อเป็นอาหารของตน
 
พญาราชสีห์กระโจนจากชะง่อนผาขย้ำฆ่าควายป่าเพื่อเป็นอาหารของตน

       มันก็มีสองตามีหัวคิดเหมือนราชสีห์มันควรจะได้เลือกกินสัตว์ที่มันชอบบ้างจึงบอกแก่พญาราชสีห์ว่า “ นายท่านหากข้าน้อยต้องการกินเนื้อ
ตัวใดบ้างต้องทำอย่างไรขอรับ ” “ อือ ไม่ยากหรอกเจ้าก็ขึ้นไปบนชะง่อนผาหน้าถ้ำแล้วมองลงไปเลือกปวงสัตว์ข้างล่างนั้น อยากกินช้าง ม้า

พญาราชสีห์ได้ชำระร่างกายที่สระน้ำหลังจากกินอาหารอิ่มแล้ว
 
พญาราชสีห์ได้ชำระร่างกายที่สระน้ำหลังจากกินอาหารอิ่มแล้ว

       กวางตัวใดก็เข้ามาบอกตัวเราว่าข้าน้อยอยากกินเนื้อชนิดนั้น นายท่านจงคำรามแล้วฆ่าสัตว์นั้นเถิด แล้วแบ่งข้าน้อยบ้าง แค่นี้เจ้าก็จะได้กิน
เนื้อสัตว์ที่เจ้าปรารถนา ” ( อืม..ช่างง่ายดายจริง ๆ รู้ว่าง่ายขนาดนี้ทำตั้งนานแล้วนะนี่ ทนกินเนื้อแพะมาตั้งนาน เอ๊ะ แต่ว่าจะกินตัวไหนดีนะ

สุนัขจิ้งจอกตัวหนึ่งได้เดินหลงทางมายังบริเวณที่พักอาศัยของพญาราชสีห์

สุนัขจิ้งจอกตัวหนึ่งได้เดินหลงทางมายังบริเวณที่พักอาศัยของพญาราชสีห์
 
        กวางตัวนั้นก็น่ากินเนื้อมันคงจะหวานอยู่ โอ๊ะ เก้งตัวนั้นก็ใช้ได้ ห๊ะควายป่าอยากกินมานานแล้ว คราวนี้แหละเราจะได้กินเนื้อความป่าตัวใหญ่ ๆ บ้าง
เฮ้ย มีความสุขจริง ๆ ) เมื่อสุนัขจิ้งจอกเลือกสัตว์ที่อยากกินได้ก็หมอบกราบราชสีห์ “ นายท่าน ข้าน้อยอยากกินควายป่าเชิญท่านแผดเสียงคำราม
ออกมาล่ามันเถิด ” “ ได้ เจ้ารอสักครู่ ”

สุนัขจิ้งจอกได้ขันอาสาขอเป็นข้ารับใช้ต่อพญาราชสีห์
 
สุนัขจิ้งจอกได้ขันอาสาขอเป็นข้ารับใช้ต่อพญาราชสีห์
 
      ราชสีห์วิ่งสู่ชะง่อนผาแผดเสียงคำรามอย่างน่าเกรงขามแล้วกระโจนลงไปจัดการกับเหยื่อด้วยอำนาจราชสีห์อย่างง่ายดาย จิ้งจอกเห็นวิธีล่าเนื้อ
ของราชสีห์บ่อย ๆ ก็เข้าใจว่าเป็นเรื่องง่าย จนวันหนึ่งเกิดกำเริบทรนงตนขึ้น “ ตัวเราเองก็มีสี่ขา มีเขี้ยวมีเล็บเหมือนราชสีห์ มีทุกอย่าง แค่คำราม
ข้าก็ทำเป็น แค่เปลี่ยนหน้าที่กันมันจะไปยากอะไร ”
 
พญาราชสีห์ได้ตัดสินใจรับเลี้ยงสุนัขจิ้งจอกเอาไว้ยังที่พักอาศัยของตน
 
พญาราชสีห์ได้ตัดสินใจรับเลี้ยงสุนัขจิ้งจอกเอาไว้ยังที่พักอาศัยของตน
 
        คราวหนึ่งเมื่อถึงเวลาอาหารจิ้งจอกจึงไปบอกแก่พญาราชสีห์ว่าอยากกินช้างพลายสักตัวหนึ่ง “ หากแต่ครั้งนี้ข้าน้อยขอนอนบนแท่นทอง
ขอให้นายน้อยไปเลือกดูสัตว์แล้วมากล่าวว่า จิ้งจอกเอ๋ยจงแผดเสียงคำรามเถิด ข้าน้อยก็จะกระโจนไปฆ่าช้างได้ดังท่านทำ ” “ เจ้านะเหรอ
จะทำอย่างเรา ไม่ได้หรอกมันไม่ง่ายดายอย่างที่เจ้าคิด ข้าไม่อนุญาต ”
 
เมื่อกินอิ่มแล้วพญาราชสีห์ก็ได้ยกอาหารของตนให้กับสุนัขจิ้งจอก
 
เมื่อกินอิ่มแล้วพญาราชสีห์ก็ได้ยกอาหารของตนให้กับสุนัขจิ้งจอก
 
       จิ้งจอกเพียรอ้อนวอนเช่นนี้อยู่หลายครั้งแต่พญาราชสีห์ก็ไม่อนุญาตให้ดังขอ “ เจ้าสุนักเอ้ยจิ้งจอกสามารถฆ่าช้างได้ในโลกนี้ไม่มีหรอกนะ
อยากกินเนื้อช้างก็คอยกินที่เราฆ่าได้อย่างเดิมเถิด ” แต่จิ้งจอกหาฟังไม่กลับกล่าวหาว่าราชสีห์หวงแหนบารมี “ หึ ท่านหวงบารมีสิท่า
 
สุนัขจิ้งจอกได้กินอาหารที่เหลือจากพญาราชสีห์อย่างมีความสุข
 
สุนัขจิ้งจอกได้กินอาหารที่เหลือจากพญาราชสีห์อย่างมีความสุข
 
       คงกลัวว่าข้าทำได้แล้วบารมีท่านจะหายไปละสิ ” “ เฮ้อ ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็เร่งทำเถอะ มานอนบนแท่งทองของเราได้แล้ว ” ครานั้นสุนัขผู้ไม่เจียมตน
ก็กระทำการเลียนแบบพญาราชสีห์ทั้งยังบังอาจขอให้ท่านอัญเชิญตนออกไปกระทำสีหนาดนอกถ้ำหวังให้กึกก้องขุนเขาดุจกันกับที่พญาราชสีห์คำราม
 
ฝูงกระต่ายทั้งหลายก็ตอบราชสีห์ไม่ได้ว่าแผ่นดินถล่มตรงที่ใด
 
สุนัขจิ้งจอกเริ่มมีร่างกายที่อวบอ้วนเพราะได้กินอิ่มและอยู่อย่างมีความสุข
 
      “ จิ้งจอกเอ๋ย เจ้าจงแผดเสียงคำรามเถิด ” “ โอ้ ได้เลยราชสีห์เจ้ารอที่นี่เถิด เราจะไปคร่าชีวิตสัตว์นั้นมาให้ท่านได้กินเอง ” เมื่อได้ยินสัญญาณจาก
ราชสีห์จิ้งจอกก็วิ่งไป ณ ชะง่อนผาแผดเสียงเลียนกิริยาสีหนาทของผู้มีพระคุณทันที เมื่อเจ้าจิ้งจอกคำรามได้สักพักมันก็ตะกุยเท้ากระโจนลงเบื้องล่าง

ราชสีห์ได้สอบถามเจ้ากระต่ายตัวแรกว่าแผ่นดินถล่มเกิดขึ้น ณ ที่ใด
 
สุนัขจิ้งจอกมีความคิดอยากกินเนื้อสัตว์ที่มันชื่นชอบบ้า
 
       อย่างสุดแรงเกิด เจ้าจิ้งจอกกระโจนไปหาช้างพลายตัวหนึ่งอย่างรวดเร็ว “ นี่แน่ะถอดแบบมาจากราชสีห์เป๊ะ ๆ เสร็จข้าแน่เจ้าช้างพลาย ”
“ โอ้ย หนวกหูจริง ๆ เจ้าหมาบ้าตัวนี้มันอะไรของมันนี่ ” แล้วจิ้งจอกก็แทบเป็นบ้าไปจริง ๆ เพราะมันกระโดดไปไม่ถึงตัวช้างแต่กลับตกลงบนพื้น
 
สุนัขจิ้งจอกร้องขอให้พญาราชสีห์ล่าสัตว์ที่ตนอยากกินบ้าง
 
สุนัขจิ้งจอกร้องขอให้พญาราชสีห์ล่าสัตว์ที่ตนอยากกินบ้าง
 
     เคราะห์ร้ายของมันที่ตกลงมาใกล้กับเท้าช้างพอดิบพอดี “ โอ้ย เจ็บ กระดูกครากหมดแล้ว หา เท้าช้าง ” และวาระสุดท้ายของผู้เลียนแบบราชสีห์ก็มาถึง
“ เฮ้ย ๆ เฮ้ย เจ้าช้างอย่าเข้ามา เฮ้ย อย่ากระทืบข้าอย่า ”

สุนัขจิ้งจอกได้อ้อนวอนราชสีห์ขอให้ตนเป็นผู้ล่าสัตว์แทนพญาราชสีห์บ้าง
 
สุนัขจิ้งจอกได้อ้อนวอนราชสีห์ขอให้ตนเป็นผู้ล่าสัตว์แทนพญาราชสีห์บ้าง
 
       พริบตาต่อมาสุนักจิ้งจอกก็ถูกช้างพลายเหยียบจนกะโหลกแตกร่างกายแบนติดพื้นแถมยังถูกช้างถ่ายรดไว้บนตัวก่อนจะจากไปอย่างเหยียดหยาม
พญาราชสีห์โพธิสัตว์เหนเช่นนี้ก็กล่าวว่า “ จิ้งจอกเอ๋ย
 
สุนัขจิ้งจอกได้ขึ้นไปนอนบนแท่นทองของพญาราชสีห์
 
สุนัขจิ้งจอกได้ขึ้นไปนอนบนแท่นทองของพญาราชสีห์
 
       คราวนี้เชิญเจ้าแผดเสียงไปเถอะ มันสมองของเจ้าไหลออกแล้ว กระหม่อมของเจ้าก็ถูกทำลายแล้ว ซี่โครงของเจ้าหักพังไปหมดแล้ว วันนี้เจ้าช่างรุ่งเรืองแท้ ”
 
สุนัขจิ้งจอกได้กระโจนลงจากชะง่อนผาเลียนแบบพญาราชสีห์
 
สุนัขจิ้งจอกได้กระโจนลงจากชะง่อนผาเลียนแบบพญาราชสีห์
 
       ณ พุทธกาลต่อมา สุนัขจิ้งจอก กำเนิดเป็น พระเทวทัต พญาราชสีห์ เสวยพระชาติเป็น พระพุทธเจ้า
 
สุนัขจิ้งจอกหมายจะกระโจนจากชะง่อนผาเพื่อต้องการขย้ำช้างพลายตัวหนึ่ง
       
สุนัขจิ้งจอกหมายจะกระโจนจากชะง่อนผาเพื่อต้องการขย้ำช้างพลายตัวหนึ่ง

     
 
 
 
ช้างพลายได้เหยียบสุนัขจิ้งจอกจนตายลงในที่สุด
 
 ลสิ นิปฺผลิตา มันสมองของเจ้าไหลออกแล้ว
กระหม่อมของเจ้าก็ถูกทำลายแล้ว ซี่โครงของเจ้าหักพังไปหมดแล้ว
วันนี้เจ้าช่างรุ่งเรืองแท้

 
 


 

 


Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
ตัณฑุลนาฬิชาดก ชาดกว่าด้วยการตีราคาสินค้าตัณฑุลนาฬิชาดก ชาดกว่าด้วยการตีราคาสินค้า

เนรุชาดก ชาดกว่าด้วยอานุภาพของเนรุบรรพตเนรุชาดก ชาดกว่าด้วยอานุภาพของเนรุบรรพต

อภิณหชาดก ชาดกว่าด้วยการเห็นกันบ่อยๆอภิณหชาดก ชาดกว่าด้วยการเห็นกันบ่อยๆ



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

นิทานชาดก 500 ชาติ