เนรุชาดก ชาดกว่าด้วยอานุภาพของเนรุบรรพต


[ 10 ต.ค. 2565 ] - [ 18266 ] LINE it!

ชาดก 500 ชาติ

เนรุชาดก-ชาดกว่าด้วยอานุภาพของเนรุบรรพต

ณ ดินแดนชมพูทวีปดินแดนแห่งพระพุทธศาสนา

ณ ดินแดนชมพูทวีปดินแดนแห่งพระพุทธศาสนา
  
       ครั้งเมื่อสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงปักธงชัยขึ้นในชมพูทวีป พระอริยสัตว์อันกระจ่างจริงพิสูจน์ได้มีผลชัด ก็กลายเป็นสิ่งยึดเหนี่ยว
ที่มหาชนพากันชื่นชมศรัทธาอย่างที่สุด ส่งสาวกทางพระพุทธศาสนาจาริกไปที่แห่งใดที่แห่งนั้นจะกลายเป็นสถานที่อันวิเศษ
 
สาวกแห่งองค์สมเด็จพระศาสดาได้พากันแยกย้ายพากันจาริกไปยังสถานที่ต่าง ๆ
 
สาวกแห่งองค์สมเด็จพระศาสดาได้พากันแยกย้ายพากันจาริกไปยังสถานที่ต่าง ๆ
 
        เป็นที่รวมเหล่าศรัทธาได้อย่างน่าอัศจรรย์ ภิกษุบวชใหม่รูปหนึ่งออกธุดงค์ไปยังหมู่บ้านแห่งหนึ่ง แล้วได้ทำรุขมูลปฏิบัติอยู่ใน
หมู่บ้านแห่งนั้น “ ที่นี่ช่างสงบเหมาะแก่การปฏิบัติธรรมยิ่งนัก เอาล่ะ เรานั่งวิปัสสนาใต้ต้นไม้ใหญ่นี่ดีกว่า ”

ภิกษุหนุ่มได้ออกธุดงค์ไปยังหมู่บ้านแห่งหนึ่ง
 
ภิกษุหนุ่มได้ออกธุดงค์ไปยังหมู่บ้านแห่งหนึ่ง
 
        ภิกษุหนุ่มปฏิบัติธรรมอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่อย่างเคร่งครัด ชาวบ้านที่ผ่านมาพบเห็นก็เกิดเลื่อมในอิริยาบทของภิกษุรูปนี้จึงคิดจะสร้างบรรณศาลา
ถวาย “ ดูสิ ภิกษุรูปนี้กิริยาท่าทางช่างน่าเลื่อมใสยิ่งนัก ” “ ข้าว่าเราสร้างบรรณศาลาในหมู่บ้านให้ท่านใช้ปฏิบัติธรรมดีกว่า ” 

ชาวบ้านได้ผ่านมาพบเห็นได้บังเกิดความเลื่อมใสในตัวของภิกษุหนุ่ม
 
ชาวบ้านได้ผ่านมาพบเห็นได้บังเกิดความเลื่อมใสในตัวของภิกษุหนุ่ม
 
      วันหนึ่งหลังจากที่ภิกษุบวชใหม่เดินจงกลมเสร็จ นายบ้านของหมู่บ้านแห่งนั้นก็เข้ามากราบนิมนต์ “ อาราธนาท่านผู้เจริญ ” “ เจริญพรโยม
มีอะไรรึ ” “ กระผมและชาวบ้านนิคมนี้เห็นวัตรปฏิบัติของท่านแล้วก็เกิดศรัทธายิ่งนัก จึงได้ช่วยกันสร้างบรรณศาลาถวาย

ชาวบ้านได้อาราธนาภิกษุหนุ่มไปพำนักยังหมู่บ้านของพวกตน
 
ชาวบ้านได้อาราธนาภิกษุหนุ่มไปพำนักยังหมู่บ้านของพวกตน
 
        ขอพระคุณเจ้าเก็บเครื่องบริขารไปใช้เป็นเสนาสนะจนพ้นฤดูพรรษาเถิด ” ภิกษุหนุ่มรับนิมนต์แล้วจึงย้ายไปปฏิบัติธรรมยังบรรณศาลา
ที่ชาวบ้านสร้างถวาย ยิ่งผ่านไปหลายวันชาวบ้านก็ยิ่งชื่นชมในอิริยาบทงดงามของภิกษุรูปนี้
 
 
ภิกษุหนุ่มได้มาพำนักยังบรรณศาลาที่ชาวได้สร้างถวาย
 
ภิกษุหนุ่มได้มาพำนักยังบรรณศาลาที่ชาวได้สร้างถวาย 
        
       การถวายภัตตาหารคาวหวานทั้งเช้าและเพลก็มิได้ขัดสน คณะศรัทธาพากันเปลี่ยนเวียนกันนำมาถวายมิได้ขาด “ พรุ่งนี้ท่าน
อยากฉันอะไรก็บอกได้นะครับ ” “ อะไรก็ได้แล้วแต่โยมเถิด เมื่อเราครองเพศบรรพชิตแล้วย่อมไม่เลือกอาหาร ”

 
ชาวบ้านต่างพากันนำภัตตาหารหวานคาวมาถวายแด่ภิกษุหนุ่ม
 
ชาวบ้านต่างพากันนำภัตตาหารหวานคาวมาถวายแด่ภิกษุหนุ่ม
 
       “ งั้นพวกเรามาทำหลาย ๆ อย่างดีกว่า ท่านจะได้เลือกฉันได้ ” ย่ำสนธยาชาวบ้านต่างพากันมาฟังพระธรรมเทศนาเป็นประจำทุกคืน
ซึ่งภิกษุหนุ่มก็บรรยายตามคำสอนของพระพุทธองค์ได้ไม่ผิดเพี้ยน แต่ความไม่เพียรย่อมเกิดขึ้นได้ทุกขณะ
 
ชาวบ้านได้พากันมาฟังธรรมจากภิกษุหนุ่ม
 
ชาวบ้านได้พากันมาฟังธรรมจากภิกษุหนุ่ม
     
        การดำเนินพระธรรมเทศนาที่มีขึ้นทุกค่ำคืนนั้นก็เริ่มเสื่อมความนิยมลงไป “ วันนี้ข้าทำงานเหนื่อยทั้งวัน คืนนี้ว่าจะนอนแต่หัวค่ำ
คงไม่ได้ไปฟังธรรมแล้วล่ะ ” “ ข้าก็เหมือนกัน ฟังธรรมจนเริ่มเบื่อแล้วอยู่ฟังเมียบ่นบ้างดีกว่า ”
 
เมื่อเวลาผ่านไปเนิ่นนานชาวบ้านก็เริ่มมีความเบื่อหน่ายในการที่จะไปฟังธรรม
 
เมื่อเวลาผ่านไปเนิ่นนานชาวบ้านก็เริ่มมีความเบื่อหน่ายในการที่จะไปฟังธรรม
 
        ข่าวการอุปัฏฐากพระสงฆ์ของคนในหมู่บ้านครั้งนี้ได้แพร่ออกไปทั่วทำให้นักบวชคณะอื่น ๆ ถือโอกาสเดินทางเข้ามาในหมู่บ้าน
เพื่อกอบโกยผลประโยชน์จากชาวบ้าน เริ่มจากพวกสัสตวาสที่ชุมนุมกันอยู่ทั่วไปนอกนครสาวัตถีและชายแดนโกศลรัฐ
 
พวกนักบวชลัทธิสัสตวาทได้เดินทางมายังหมู่บ้านเพียงหวังในลาภสักการะ
 
พวกนักบวชลัทธิสัสตวาทได้เดินทางมายังหมู่บ้านเพียงหวังในลาภสักการะ
 
       “ เชิญท่านนักบวชมาพำนักในบรรณศาลาก่อน ” “ ฮิ ฮิ สบายจริง ๆ มีที่พักแล้วยังมีอาหารดีดีให้กินอีกด้วย ” “ อย่าตะกละให้ชัดเจน
นักสหายเดี๋ยวชาวบ้านจะสงสัยในความเป็นนักบวชของเรา ” ชาวบ้านได้ต้อนรับสัสตวาสไว้ที่เดียวกันกับภิกษุเถรวาท

นักบวชลัทธิสัสตวาทได้พำนักร่วมกับภิกษุหนุ่มยังบรรณศาลาหลังเดียวกัน
 
นักบวชลัทธิสัสตวาทได้พำนักร่วมกับภิกษุหนุ่มยังบรรณศาลาหลังเดียวกัน
  
        และทำการนับถือกราบไหว้แทนเถรวาท “ คำสอนของเราคือ ยึดอัตตาเป็นสรณะเอาตัวตนเป็นหลักทั้งโลกนี้และโลกหน้า ”
“ หือ น่าเลื่อมใส ต่อไปพวกเราทั้งหลายจะหันถวายสักการะพวกท่านกันทั้งหมด ” 
ต่อมาเมื่อคณะอุจเฉทวาทผ่านมา

ชาวบ้านต่างพากันมาฟังคำสอนจากนักบวชลัทธิสัสตวาท    

ชาวบ้านต่างพากันมาฟังคำสอนจากนักบวชลัทธิสัสตวาท
 
        ชาวบ้านก็เชิญชวนให้มาอาศัยยังบรรณศาลาและพากันนับถือแทนลัทธิสัสตวาสอีก “ เชิญท่านนักบวชพักผ่อนดื่มกินกันให้เต็มที่เลย ”
“ หลักปฏิบัติของลัทธิเราคือยึดอัตตาตัวเองแค่ชาตินี้เท่านั้น ” “ ยึดอัตตาตัวเองแค่ชาตินี้เท่านั้น ดีกว่าหวังชาติหน้าที่มองไม่เห็น
 
ชาวบ้านต่างพากันเปลี่ยนมานับถือเชื่อมั่นในคำสอนของลัทธิสัสตวาทแทนคำสอนในพระพุทธศาสนา
 
ชาวบ้านต่างพากันเปลี่ยนมานับถือเชื่อมั่นในคำสอนของลัทธิสัสตวาทแทนคำสอนในพระพุทธศาสนา
  
       พวกข้านับถือท่านนักบวชยิ่งนัก ”  แม้แต่พวกอเจลกวาทชีเปลือยศิษย์พระมหาวีระต่างก็ได้รับการต้อนรับดูแลเป็นอย่างดีจากชาวบ้าน
“ ฮ่า ฮ่า ฮ่า ชาวบ้านพวกนี้ช่างโง่เขลานัก ดูสิกราบไหว้พวกเราราวกับเป็นเทพเจ้าแน่ะ ” “ นั่นสิ นักบวชอย่างเราได้รับการยกย่อง


พวกชาวบ้านได้เปลี่ยนมานับถือและฟังคำสอนของพวกอเจลกวาทชีเปลือยศิษย์พระมหาวีระ
 
พวกชาวบ้านได้เปลี่ยนมานับถือและฟังคำสอนของพวกอเจลกวาทชีเปลือยศิษย์พระมหาวีระ
 
        และได้อาศัยร่วมสำนักกับศิษย์พระศากยโคดมเชียว ฮะ ฮ่า ฮ่า ” ในขณะที่นักบวชอื่น ๆ ต่างพึงพอใจที่ได้อาศัยใต้ชายคาเดียวกับ
สาวกของพระศาสดา ภิกษุหนุ่มกลับต้องจำยอมอยู่อย่างไม่สงบใจในสำนักร่วมกับนักบวชเหล่านี้


ภิกษุหนุ่มจำยอมต้องพักอาศัยร่วมกับนักบวชลิทธิต่าง ๆ ภายในบรรณศาลาเดียวกัน
 
ภิกษุหนุ่มจำยอมต้องพักอาศัยร่วมกับนักบวชลิทธิต่าง ๆ ภายในบรรณศาลาเดียวกัน
 
       “ หลวงพี่ไม่สนใจมานั่งร่วมวงฉันข้าวกับพวกข้ารึ ” “ เป็นบุญของพวกข้าจริง ๆ ที่ได้อยู่ร่วมชายคากับศิษย์พระศากยโคดม ” ครั้นออกพรรษา
ปวารนาแล้วภิกษุหนุ่มจึงได้ออกจากเสนาสนะนั้นกลับไปเฝ้าสมเด็จพระพุทธศาสดา ณ พระเชตวันมหาวิหาร
 
พระศาสดาทรงตรัสเล่าอดีตนิทานชาดกให้กับเหล่าภิกษุทั้งหลายได้รับฟัง
 
พระศาสดาทรงตรัสเล่าอดีตนิทานชาดกให้กับเหล่าภิกษุทั้งหลายได้รับฟัง
 
        และกราบทูลสิ่งที่เกิดขึ้นให้ทรงวินิจฉัย สมเด็จพระพุทธศาสดาสดับเหตุดังกล่าวแล้วทรงตรัสว่า “ ดูก่อนภิกษุทั้งหลายบัณฑิต
ในอดีตกาลก่อนแม้กำเนิดในสกุลต่ำทรามยังไม่ยอมอยู่ร่วมกับผู้ไร้คุณธรรมแม้สักวันเดียว ”
 
นครพาราณสี ณ ภูเขาจิตกูฏ
 
นครพาราณสี ณ ภูเขาจิตกูฏ
 
       เมื่อเหล่าสาวกทรงทูลประทานขอให้ทรงเล่านั้น ก็ทรงสาทกเนรุชาดกดังนี้ ในอดีตชาติเมื่อพระเจ้าพรหมทัตครองราชสมบัติ
อยู่ในนครพาราณสี ณ ภูเขาจิตกูฏปลายทุ่งข้าวสาลีริมป่าหิมพานต์ยังมีหงส์ทองครอบครัวหนึ่งอาศัยอยู่
 
หงส์สองพี่น้องได้บินท่องเที่ยวไปในป่าหิมพานต์
 
หงส์สองพี่น้องได้บินท่องเที่ยวไปในป่าหิมพานต์
 
       วันหนึ่งขณะหงส์สองพี่น้องกำลังบินท่องเที่ยวอยู่หิมพานต์ได้เห็นสีสันสวยงามทอประกายมาจากภูเขาลูกหนึ่งไกลๆ “ ท่านพี่ดูนั่นสิ
ภูเขาลูกนั้นสีทองเหลืองอร่ามสวยงามจริง ๆ ” “ ภูเขาที่มีสีทองประกายสวยงามลูกนั้นนะรึ อือ ต้องมีอะไรแน่ ๆ ลองบินไปดูกันดีกว่า ”
 
หงส์สองพี่น้องได้บินผ่านมายังภูเขาเนรุบรรพต
 
หงส์สองพี่น้องได้บินผ่านมายังภูเขาเนรุบรรพต

        ด้วยความสงสัยพญาหงส์และหงส์ผู้น้องจึงบินไปยังภูเขาลูกนั้น เมื่อเข้าไปใกล้พญาหงส์ผู้พี่รำลึกได้ว่าภูเขาลูกนี้คือเนรุบรรณพตนั้นเอง
“ ท่านพี่ดูสิ สัตว์ที่นี่ต่างมีสีสันดังทองงดงามนัก ” “ เนรุบรรพตแห่งนี้เป็นภูเขาวิเศษสัตว์ใด ๆ ก็ตาม

สัตว์ต่างๆ ที่อาศัยในภูเขาเนรุบรรพตจะมีสีสันดั่งทองคำทุกตัว
 
สัตว์ต่างๆ ที่อาศัยในภูเขาเนรุบรรพตจะมีสีสันดั่งทองคำทุกตัว

       เมื่อเข้ามาอยู่ที่นี่จะมีสีสันสวยงามดั่งทองทุกตัว ” เหล่านกแร้ง นกกา หมาใน หมาจิ้งจอก แมวป่า ตะกวด อีกทั้งเสือสางต่าง ๆ
พากันมาชุมนุมกันมากมายเพราะชื่อเสียงของเนรุบรรพตแห่งนี้ สัตว์ทุกตัวเมื่อเข้ามาอยู่ในอาณาเขตเนรุบรรพตแห่งนี้

อีกาตัวดำก็มีสีทองเมื่อมาอาศัยยังภูเขาเนรุบรรพต

อีกาตัวดำก็มีสีทองเมื่อมาอาศัยยังภูเขาเนรุบรรพต
 
       ต่างมีสีกายเป็นสีทองงดงามทุกตัว “ กา กา ไม่ได้มีแค่หงส์ทอง กาอย่างข้าก็ยังสีทองได้ ” “ ราชสีห์ก็ราชสีห์เหอะ หมาจิ้งจอกสีทอง
อย่างข้าก็ดูสง่าไม่แพ้กันละน่า ” “ โอ้โหแม้แต่หนูสกปรกเมื่ออยู่ที่นี่ยังดูสวยงามปานนั้น ” “ น้องเอ๋ย  สัตว์สกุลใด
 
หนูที่ตัวสกปรกมอมแมมก็มีสีดั่งทองคำเมื่อมาอยู่ในภูเขาเนรุบรรพต
 
หนูที่ตัวสกปรกมอมแมมก็มีสีดั่งทองคำเมื่อมาอยู่ในภูเขาเนรุบรรพต
 
       จิตและพฤติกรรมก็ย่อมเป็นไปตามสัญชาติญาณตนไม่อาจเปลี่ยนสีได้อย่างภายนอกหรอก ” “ เจ้ากา เจ้าขโมยแก้ว
จากรังของข้ารึ เจ้านี่มันขี้ขโมยจริงๆ ” “ ใครจะขโมยของเจ้า เจ้าหนูสกปรก ใครจะขโมยของเจ้ากัน ”
 
หงส์ผู้พี่ได้กล่าวสอนน้องหงส์ของตน
 
หงส์ผู้พี่ได้กล่าวสอนน้องหงส์ของตน
 
       “ อีกาแม้ขนสวยดุจหงส์ทองแต่มิอาจเลิกนิสัยขโมย และหนูผู้สะสมของสกปรกก็มิอาจเปลี่ยนพฤติกรรมตามสีของมันเช่นกัน ”
“ จริงของท่านพี่ หมาไนและจิ้งจอกแม้ในรัศมีวิเศษของเนรุบรรพตก็มิอาจเลิกวิสัยสุนัขได้ ”
 
อีกากับหนูได้ทะเลาะกันเรื่องขโมยของ
 
อีกากับหนูได้ทะเลาะกันเรื่องขโมยของ
 
      “ เนรุบรรพตแห่งนี้แม้จะมีความวิเศษ แต่ก็ไม่สามารถทำให้สัตว์ดีเหมือนกันได้ สัตบุรุษนั้นไม่บังควรคบหาผู้ทุศีลเลย ”
และแล้วพญาหงส์ทั้งสองก็ชวนกันกลับไปยังเขาจิตกูฏอยู่กับหมู่หงส์ของตนต่อไป
 
สุนัขจิ้งจอกแม้อยู่ในรัศมีภูเขาเนรุบรรพตก็ไม่อาจเลิกนิสัยสุนัขได้
 
สุนัขจิ้งจอกแม้อยู่ในรัศมีภูเขาเนรุบรรพตก็ไม่อาจเลิกนิสัยสุนัขได้
 
       พระพุทธองค์ทรงจบพระธรรมเทศนานี้แล้ว ทรงประกาศสัจจธรรมให้ภิกษุนั้นดำรงโสดาปัตติผล 
 
หงส์สองพี่น้องได้บินกลับไปยังภูเขาจิตกูฏซึ่งเป็นที่พักอาศัยของตน
 
หงส์สองพี่น้องได้บินกลับไปยังภูเขาจิตกูฏซึ่งเป็นที่พักอาศัยของตน
 
ในพุทธกาลสมัย หงส์ผู้น้องกำเนิดเป็น พระอานนท์
พญาหงส์ผู้พี่เสวยพระชาติเป็น พระพุทธเจ้า

 
 




Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
อภิณหชาดก ชาดกว่าด้วยการเห็นกันบ่อยๆอภิณหชาดก ชาดกว่าด้วยการเห็นกันบ่อยๆ

สัมโมทมานชาดก ชาดกว่าด้วยพินาศเพราะทะเลาะกันสัมโมทมานชาดก ชาดกว่าด้วยพินาศเพราะทะเลาะกัน

สัจจังกิรชาดก ชาดกว่าด้วยไม้ลอยน้ำดีกว่าคนอกตัญญูสัจจังกิรชาดก ชาดกว่าด้วยไม้ลอยน้ำดีกว่าคนอกตัญญู



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

นิทานชาดก 500 ชาติ