จดหมายจาก แอร่อน วอล์ดแมน

(สหรัฐอเมริกา)

วันพุธที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2551

กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อ พระราชภาวนาวิสุทธิ์ ประธานมูลนิธิธรรมกายที่เคารพอย่างสูงครับ

ผม แอร่อน วอล์ดแมน (Aaron Voldman) จากประเทศสหรัฐอเมริกา ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งครับ ที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อเห็นความเป็นไปได้ ที่ผมจะทำงานสำเร็จ อีกทั้งขอบคุณแทนเพื่อนๆทุกคนด้วย ที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อคิดว่าพวกเรา WSYC จะสามารถก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในสังคมโลกได้ มันน่าตื่นเต้นมาก ที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อเห็นความสำคัญกับเรื่องกระทรวงสันติภาพของพวกผม

ผมเองก็ตระหนักถึงความสำคัญของงานภายใน คือ การทำสมาธิว่า จะมีผลต่อความสำเร็จต่องานของผมเช่นกันครับ ผมจะรับนโยบายจากพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ในการติดตามความคืบหน้า ในการทำงานกระทรวงสันติภาพของเนปาล และหมู่เกาะโซโลมอนว่า เขาสามารถทำได้จริงหรือไม่นะครับ ซึ่งมันเป็นเรื่องที่น่าท้าทายมากครับ

ตอนนี้ผมรู้สึกเลยว่า สมาธิเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตผมไปแล้ว เพราะถ้าวันไหนผมไม่ได้นั่งสมาธิ ผมจะรู้สึกขาดอะไรไปบางอย่าง เพราะมันทำให้ประสิทธิภาพในการคิดเรื่องต่างๆของผมลดลง ความสามารถในการสื่อสารก็ลดลงด้วย และเวลาที่ผมไม่ได้นั่งสมาธิ ผมก็จะให้เกียรติคนอื่นน้อยลง ที่สำคัญผมจะรู้สึกรักและเมตตาคนอื่นน้อยลงด้วยครับ สมาธิมีความจำเป็นมากสำหรับผมจริงๆ สมาธิทรงคุณค่ามาก และสนับสนุนการดำเนินชีวิตของผมให้มีความสุข ตอนนี้มันมีความหมายสำหรับผมมากๆ

ผมว่าการที่ผมหมั่นเอาใจไว้ที่ศูนย์กลางกาย มันทำให้ผมมองอะไรได้

ชัดเจนมากขึ้นจริงๆ และการที่ผมแผ่เมตตา มันทำให้ผมยึดติดกับอะไรน้อยลงด้วยครับ เวลาผมแผ่เมตตา ผมก็จะเอาหน้าคนที่ทำให้ผมรู้สึกโกรธหรือไม่ชอบ มาไว้ที่กลางท้อง แปลกมากเลยครับที่มันทำให้ผมให้อภัยเขาได้มากขึ้น เหลือเชื่อจริงๆครับ ผมรู้สึกว่าประสบการณ์สมาธิ มันน่าทึ่งมากๆเลยครับ

ตอนนี้ผมยังทำการบ้าน 10ข้อของพระเดชพระคุณหลวงพ่ออยู่นะครับ คือ แม้ว่าผมจะไม่ได้เป็นพระ แต่สิ่งที่ผมทำได้ คือ ทุกหนึ่งชั่วโมงขอหนึ่งนาที ที่ผมจะหยุดใจไว้ที่ศูนย์กลางกายของผม โดยผมจะตั้งนาฬิกาเตือนไว้ทุกชั่วโมง พอมันเตือนปุ๊บ ผมก็จะนึกถึงดวงแก้วที่กลางท้องทันทีเลย มัน Work มากเลยครับพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ที่ผมชอบทำการบ้านข้อนี้ ก็เพราะว่า ผมต้องทำอะไรเยอะแยะมากมายเลย ทั้งเรื่องเรียนและทำงาน ล้วนท้าทายทั้งสิ้น ผมจึงอยากมีเวลาสงบอยู่กับตัวเองทุกชั่วโมง สักเล็กน้อยก็ยังดี ซึ่งผมก็พบว่าสมาธิทำให้ผมมีพลังมากยิ่งขึ้น สมาธิช่างสุดยอดจริงๆครับ

ช่วงเวลาแห่งสันติภาพในชีวิตของผมก็คือ เวลาของการทำสมาธินั่นเองครับ ตอนนี้ผมคิดว่า ผมอยากจะนำเสนอวิธีการแก้ปัญหาแนวใหม่ให้กับรัฐบาลอเมริกัน ด้วยการนำสมาธิเข้าไปใช้ในกระบวนการตัดสินใจระดับโลก เทคนิคนี้ใครๆก็ทำได้ เป็นหลักทางจิตวิญญาณที่ได้ผลดี ที่ผมพิสูจน์มาแล้ว

เมื่อผมได้ดู DMC ผมทึ่งพระเดชพระคุณหลวงพ่อมากๆ ที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อช่างเป็นผู้มีพรสวรรค์อันเหลือเชื่อ ในการให้กำลังใจและให้แรงบันดาลใจกับผู้คน พระเดชพระคุณหลวงพ่อทำให้ผู้คนคิดว่า สิ่งที่เขากำลังทำอยู่ มันสามารถไปถึงจุดหมายได้ และยังให้แนวทางปฏิบัติในการเดินไปสู่จุดหมายอีกด้วย มันยิ่งใหญ่ น่ามหัศจรรย์จริงๆครับ

ตอนนี้ ผมเองได้นำสมาธิไปใช้กับเพื่อนร่วมงานของผม คือ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ผมนัดประชุมทางโทรศัพท์กับเพื่อนๆ 12คน โดยผมได้เชิญชวนให้ทุกคนทำสมาธิก่อนพูดคุยประมาณ 10นาที โดยที่แต่ละคนไม่เคยทำสมาธิกันมาก่อนเลย ผมก็แนะนำวิธีการเหมือนที่พระอาจารย์สอนผมว่า ให้วางใจสบายๆ ที่ศูนย์กลางกาย เหนือสะดือ 2นิ้วมือ พวกเขาก็ทำกันได้นะครับ

ในเดือนกันยายน พวกเราจะมีการประชุมประจำปีของเครือข่ายกระทรวงสันติภาพ ในระดับโลกที่ออสเตรเลีย และในเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้ ผมและเพื่อนๆเครือข่ายเยาวชนของผม กำลังจะจัดให้มีการประชุมประจำปี สำหรับเครือข่ายที่ขับเคลื่อนงานเรื่องกระทรวงสันติภาพขึ้น ที่รัฐโคโรราโด จะมีเยาวชนจากทั่วอเมริกามาประมาณ 600คนมาร่วมงาน โดยในงานผมตั้งใจจะนำเสนอให้มีการนำเรื่องสมาธิเข้าไปด้วย เช่น การอธิบายเรื่องความสำคัญของสมาธิ และการนำไปใช้

ผมอยากให้ปีนี้ เรานำเรื่องนี้เข้าไปด้วย ซึ่งที่ผ่านมาก็เคยมีการทำข่าวของพวกเราผ่านโทรทัศน์ท้องถิ่น และระดับชาติบ้างเหมือนกันครับ แต่พวกเราจะดีใจมากๆเลยครับ ถ้าพระเดชพระคุณหลวงพ่อ จะเมตตาให้ทางมูลนิธิธรรมกายให้ความช่วยเหลือพวกเรา ในเรื่องของการผลิตสื่อ หรือนำเสนอเรื่องราวของพวกเราออกอากาศทาง DMC และถ่ายทอดไปทั่วโลก

อีกประการหนึ่ง ผมกราบเรียนปรึกษาพระเดชพระคุณหลวงพ่อครับ ในการประชุมงานของเครือข่ายเยาวชนที่ผม และเพื่อนๆช่วยกันทำอยู่ที่นี้ ไม่ทราบว่า ในการประชุมบางครั้ง ถ้าผมจะไปขอใช้ศูนย์สาขาของวัดพระธรรมกายในประเทศอเมริกา ได้หรือไม่ครับ หรือขอนิมนต์พระอาจารย์มาสอนสมาธิให้กับกลุ่มทีมงานของผมบ้าง ได้หรือไม่ครับ

ผมกราบขอบพระคุณ และอนุโมทนาบุญกับพระเดชพระคุณหลวงพ่อด้วยนะครับ ที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อให้แรงบันดาลใจ และยังทำให้ผมกับเพื่อนๆ WSYC อยากทำงานเรื่องสันติภาพต่อไปอย่างมุ่งมั่น มันช่างยิ่งใหญ่จริงๆครับ กับประสบการณ์ที่ผมได้รับจากการมาเมืองไทยในครั้งนี้ และผมคิดว่าผมจะกลับมาที่วัดพระธรรมกายอีกครั้ง มากราบพระเดชพระคุณหลวงพ่อ และเพื่อมาเรียนรู้เรื่องราวของสมาธิให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้นครับ

แอร่อน วอล์ดแมน (Aaron Voldman)

จากประเทศสหรัฐอเมริกา