ฉันได้พบพลังสากลที่หัวใจต้องการ

ผลการปฏิบัติธรรม

กัลยาณมิตร อานา ยูริซา (กัวเตมาลา)

ดิฉันชื่อ อานา ยูริซา อายุ 62ปี เป็นชาวมายาเกิดมาในศูนย์กลางของ Maya World คืออินเดียนแดงเผ่ามายา ในอเมริกากลาง ประเทศกัวเตมาลา

ดิฉัน มีวิถีการปฏิบัติแบบมายามาโดยตลอด ดิฉันได้รับชื่อแบบมายาว่า อิค เชล (Ix Chel) ซึ่งมีความหมาย คือ เป็นชื่อเทพธิดาที่สอนให้เรารักษาโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ บำบัดโรค เยียวยารักษาได้ทุกโรค

แต่เทพธิดาอย่างดิฉันมิได้ คิดช่วยผู้คนทางร่างกายเท่านั้น แต่ต้องการช่วยบำบัดทางจิตใจด้วย ดิฉันจึงเลือกที่จะเป็นครู สอนในมหาวิทยาลัย ดิฉันเกิดมามีวิญญาณครูตั้งแต่เด็ก รู้อะไรก็อยากจะสอนไปหมด เนื่องจากยุคนั้น กัวเตมาลามีสงครามกลางเมือง ทำให้คุณครูไม่พอ ดิฉันจึงได้เป็นครูสอนเด็ก ตั้งแต่ดิฉันอายุเพียง 7ปี

อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญของดิฉัน คือ การสวดมนต์ และทำสมาธิ สมัยเด็ก ดิฉันไม่ทราบว่าเขาเรียกว่า "สมาธิ" เพราะศาสนาคริสต์ จะเป็นศาสนาเด่นเพียงศาสนาเดียวในประเทศ ถ้าอยากสวดมนต์ ทำสมาธิ ดิฉันจะต้องไปโบสถ์ และนั่งนึกถึงพระแม่มารีค่ะ

คุณแม่ของดิฉัน จะสอนความเชื่อของชาวมายาเสมอว่า "เทพเจ้าของเรา (Great Intelligence) นั้นยิ่งใหญ่ที่สุด เป็นศูนย์รวมของพลังที่มองไม่เห็น และสามารถให้สิ่งที่จำเป็นแก่ชีวิตมนุษย์ได้ เช่น อากาศ น้ำ พืชพันธุ์ธัญญาหารต่างๆ ใครก็ตามที่ทำความดี หรือแม้แต่ศาสดาต่างๆ ก็ถือเป็นส่วนหนึ่งของ Great Intelligence เท่านั้น"

ในคำสอนของบางศาสนาที่บอกว่า "ถ้าไม่เชื่อ ก็ต้องไปนรก" อย่างนั้น ดิฉันไม่เห็นด้วย และเวลาสวดมนต์ ทำสมาธิ ดิฉันนึกถึงแต่ Great Intelligence ดิฉันปฏิบัติวิถีชีวิตควบคู่กับจิตวิญญาณ และเชื่อว่า "ตัวของเรามาจากแหล่งที่ทำความดีให้แก่โลกใบนี้" ทำให้ดิฉันตั้งใจทำความดีทุกวัน

ชีวิตส่วนใหญ่ของดิฉัน อุทิศให้กับการเป็นผู้สอนภาษา ประวัติศาสตร์ และการศึกษาเรื่องราวของชีวิตของชาวมายา คือ จะทำอย่างไรให้ชีวิตดี โดยมีพื้นฐาน ไม่นินทาใคร ว่าร้ายใคร การที่ว่าร้ายคนอื่น หมายถึงการที่ตัวเองมีความรู้สึกทางลบ มองโลกในแง่ร้ายตลอดเวลา มายาเชื่อว่า "คนเราควรทำดีที่สุดเพื่อชีวิตที่ดีที่สุด และต้องอภัยให้ผู้อื่นเสมอ"

เมื่อจบปริญญาตรีที่กัวเตมาลาแล้ว ดิฉันเดินทางไปศึกษาต่อปริญญาโท ที่เยอรมัน และได้พบสามีชาวญี่ปุ่นที่นั่น แต่เนื่องจากญี่ปุ่น มีวัฒนธรรมว่า "สามีจะต้องเป็นใหญ่เหนือภรรยา" เวลาไปออกงานหรือที่ไหนๆ สามีจะไม่ให้ดิฉันเดินนำหน้าหรือเดินข้างๆเลย จะต้องตามหลังตลอด ดิฉันกลุ้มใจมาก เก็บความหงุดหงิดมาตลอด 25ปี ของการแต่งงาน แม้เราจะมาอยู่ที่อเมริกาแล้วก็ตาม

เมื่อถึงจุดๆหนึ่ง ดิฉันก็ทนไม่ไหว ดิฉันสามารถบำบัดทุกคนได้ แต่พอถึงเรื่องของตัวเอง ดิฉันกลับไม่สามารถเยียวยาความรู้สึกให้ตัวเองได้ ดิฉันเห็นป้ายศูนย์ฝึกสมาธิอยู่ใกล้ๆบ้าน จึงเข้าไปเพื่อขอคำแนะนำ เจ้าหน้าที่จึงแนะนำว่า "หลวงพ่อของเรา สอนผ่าน DMC ว่า เราไม่อาจแก้ไขคนอื่นได้ แต่สามารถแก้ไขตัวเองได้ ในฐานะภรรยา ต้องทำหน้าที่แต่ละห้อง เช่น ห้องครัว หรือห้องนั่งเล่น ให้สมบูรณ์"

ดิฉันได้ฟังแล้ว ตาลุกวาวเลยค่ะ ไม่เคยได้ยินคำสอนดีๆอย่างนี้ จากที่ไหนมาก่อน รีบจดเอาไว้ทันที แล้วยังโทรศัพท์ไปบอกลูกสาว (ซึ่งอยู่ในวัยแต่งงาน) อีกด้วยว่า "หลวงพ่อ (พระ) สอนผ่าน DMC ให้ทำหน้าที่แต่ละห้องให้สมบูรณ์" ต่อมา ดิฉันก็เปลี่ยนแปลงตัวเองได้สำเร็จ เพราะคำสอนจากพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ซึ่งมายากี่เผ่าก็ไม่เคยมีใครมาสอนแบบนี้

ภายหลัง สามีเห็นดิฉันนั่งสมาธิอย่างสม่ำเสมอ จึงตามมาลองนั่งสมาธิที่ศูนย์ด้วย เนื่องจากสามีเป็นผู้บริหาร จะมีการประชุมสัมมนาตามที่ต่างๆอยู่เสมอ เขาได้ขอ CD นำนั่งสมาธิไปเปิดก่อนสัมมนา ซึ่งนักธุรกิจทุกคนก็ชื่นชอบมาก สามีจึงมาขออนุญาตเอา CD ไปเปิดทุกที่ก่อนสัมมนา หลังจากนั้น เราก็มานั่งสมาธิที่ศูนย์ปฏิบัติธรรมโดยตลอด และดิฉันก็ได้พบกับพลังสากล (Universal Power) ที่หัวใจของดิฉันต้องการ

เมื่อเริ่มปฏิบัติธรรม ดิฉันจะผ่อนคลายร่างกาย และวางใจไว้ที่ศูนย์กลางกาย ความคิดของดิฉันเริ่มเล็กลงๆ แล้วค่อยๆหมดไป จากนั้นก็เห็นแสงสีต่างๆระยะหนึ่ง กระทั่ง มีจุดใสสว่างเกิดขึ้น จุดนี้จะสว่างมากขึ้นเรื่อยๆ จนตัวดิฉันถูกห่อหุ้มเอิบอาบด้วยแสงสว่างนั้น ต่อมาตัวดิฉันก็หายไป ตอนนั้นดิฉันมีความสุขมาก ความเครียดและความกังวลต่างๆหายไปหมด เหลือแต่เพียงความสุข

ครั้งหนึ่ง ขณะที่ดิฉันอยู่ท่ามกลางแสงสีต่างๆ อยู่ดีๆแสงนั้นก็รวมตัวกันเป็นทรงกลมที่สว่างมาก ทำให้ดิฉันตกใจมาก นึกอุทานในใจว่า "โอ...นี่อะไรกัน" ภายหลังหลังออกจากสมาธิ ดิฉันจึงได้ทราบว่า สิ่งนั้นเป็นสิ่งที่ดี (เรียกว่า crystal ball หรือ ดวงแก้ว) ตอนนี้ดิฉันก็เฝ้ารอเลยค่ะว่า เมื่อไรจะเห็นอีก เมื่อใดที่ดิฉันนั่งแล้วอึดอัด ก็จะใช้คำภาวนา "สัมมา อะระหัง" เข้าช่วยเพื่อที่จะให้สงบลง หรือยามมีความทุกข์ มีการแข่งขันเกิดขึ้น หรืออยู่ในเหตุการณ์ที่ยากจะแก้ไข ดิฉันก็จะใช้ "สัมมา อะระหัง" มาช่วยเหมือนกัน สมาธิเป็นที่พึ่ง สำหรับดิฉันในทุกเรื่องจริงๆค่ะ

ดิฉัน ต้องเดินทางกลับกัวเตมาลาเสมอ ดิฉันมีความฝันอันยิ่งใหญ่ว่า อยากให้เด็กในกัวเตมาลา ได้เรียนสมาธิทุกคน รวมทั้งคนทั้งโลกนี้ซึ่งล้วนมีความทุกข์ทรมานมาเป็นเวลาหลายๆศตวรรษแล้ว

ดิฉันกราบขอบพระคุณจากหัวใจ ที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อได้อุทิศชีวิตในการสอนสมาธิ เพื่อให้ชีวิตทั้งหลาย และพวกเราได้ติดตามพระเดชพระคุณหลวงพ่อ เพื่อสร้างสันติสุขให้กับชาวโลก ดิฉันและเพื่อนๆ มีความซาบซึ้งใจมาก กราบขอบพระคุณพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ที่ทำให้ได้มีศูนย์ฝึกสมาธิ และมีเหล่าหญิง ชาย อุทิศชีวิตมาทำงานอันยิ่งใหญ่นี้ค่ะ