อัศจรรย์....รอดตาย, หายป่วย เพราะสมาธิ


[ 16 ต.ค. 2551 ] - [ 18265 ] LINE it!

ผลการปฏิบัติธรรม

พระจิตตรง ธมฺมจิตฺโต
พระธรรมทายาทรุ่นเข้าพรรษา
 
กราบคาราวะพระเดชพระคุณหลวงพ่อ (คุณครูไม่ใหญ่) ที่เคารพสูงสุดครับ
 
    กระผม พระจิตตรง ธมฺมจิตฺโต พระธรรมทายาทรุ่นเข้าพรรษา ปัจจุบันอบรมอยู่ที่ธุดงคสถานเขาแก้วเสด็จ กระผมเข้าวัดพระธรรมกายเมื่อปี พ.ศ.2536 ขณะที่ป่วยเป็นโรคเกาต์อย่างรุนแรง กระผมป่วยมา 7-8ปีครับ มันทรมานมาก คุณหมอบอกผมว่า “ช่วยได้แค่ให้บรรเทาอาการเท่านั้น แต่คุณต้องกินยาตลอดชีวิตนะ”
 
    พอถึงวันบรรลุธรรมของพระเดชพระคุณหลวงปู่ฯ วันเพ็ญเดือน10 กันยายน พ.ศ.2536 ได้เกิดอัศจรรย์ขึ้นกับชีวิตของกระผมที่ยากจะลืมเลือน เพราะเป็นช่วงที่ทางวัดกำลังบอกบุญ หล่อรูปเหมือนทองคำ พระเดชพระคุณหลวงปู่ฯ หนัก 1ตันองค์แรก ที่อาคารสมปรารถนา ธุดงคสถานล้านนา จังหวัดเชียงใหม่
 
    ในคืนวันนั้นเอง กระผมได้ตัดสินใจนั่งสมาธิกับน้องชมรมพุทธฯแม่โจ้ ชื่อ สุมิต ซึ่งชวนกระผมนั่งสมาธิ อธิษฐานให้หายจากโรคเกาต์ ในวันบรรลุธรรมของพระเดชพระคุณหลวงปู่ฯ ปี พ.ศ.2536 กระผมตอบตกลงทันทีครับ ด้วยความอยากหาย แต่จะนั่งได้นานเท่าไหร่ก็ไม่รู้ เพราะเคยนั่งแค่ 20นาทีเท่านั้น เราทั้งสองคนเริ่มนั่งสมาธิตอน 3ทุ่มโดยมีข้อแม้ว่า ถ้าน้อง...เขาไม่ลุก กระผมก็ห้ามลุก ว่าแล้วเราก็ดื่มกาแฟกันคนละแก้วก่อนเข้าไปนั่ง ก็นั่งทั้งที่ปวดตามข้อไปหมดล่ะครับ
 
    พอกระผมเริ่มนั่งหลับตาภาวนา “สัมมา อะระหัง” แต่ใจไปอยู่ยังจุดปวดในตัว เริ่มจากเข่าแล้วก็ย้ายไปตามข้อต่างๆภายในตัว ไม่รู้เวลาผ่านไปนานแค่ไหน ใจเริ่มรับรู้ถึงความปวดระบม จนเหงื่อแตกโทรมกายไปทั้งตัว อีกใจหนึ่งก็บอกว่า “ต้องสู้ ไม่กระดิกกายเลยแม้แต่นิดเดียว ตายเป็นตาย” แต่แปลกครับ เพราะกระผมไม่ตายครับ
 
    หลังจากที่กระผม ผ่านช่วงเวลาที่เจ็บปวดแสนทรมานมาได้สักพัก ร่างกายก็เริ่มชา มีอาการเหมือนลมพุ่งเป็นเข็ม ออกจากร่างกายภายในสู่ภายนอกทุกรูขุมขน ความปวดเริ่มคลาย ใจก็เริ่มรวมนิ่งภายในกาย กายเริ่มเบา ตัวโล่งหายไป สักพัก ภายในกายเริ่มสว่างเหมือนอยู่กลางหมอกเมฆในยามเช้ามืด
 
    แปลกมากครับ ความชุ่มเย็นเกิดขึ้นพร้อมกับความสว่างภายใน เหมือนอยู่ตัวคนเดียว สุข สงบ สงัด สว่าง สุขใจ สบาย สดชื่น ชุ่มฉ่ำ อิ่มอกอิ่มใจ...สุข สุขอย่างนี้ กระผมก็เพิ่งเคยพบเคยเจอครั้งนี้เป็นครั้งแรกในชีวิตครับ ช่างสุขจริงหนอ...สุขจริงๆครับ
 
    ขณะที่จิตใจกำลังสุขนิ่งสักพักเดียว อาการปวดเบาเริ่มขึ้น แต่ยังไม่ลุก เพราะน้องสุมิตก็ยังไม่ลุก ใจเริ่มถอนจากสมาธิ แต่ยังมีอารมณ์เป็นสุขอยู่ สักพักหนึ่งน้อง...เขาลุก กระผมก็ลุกมั่ง รีบไปเข้าห้องน้ำ พอออกจากห้องน้ำมาซิครับเป็นเรื่อง น้องสุมิตถามว่า...
 
“คุณลุงเป็นอย่างไรบ้างเดินตัวปลิวเลย”
กระผมก็ยังงงๆอยู่ ก็ตอบว่า “ไม่ตัวปลิวได้ไง ปวดเบาจะแย่แล้ว”
น้องสุมิตก็หัวเราะแล้วก็ว่า “ผมหมายถึงปวดข้อปวดเข่าน่ะครับ เห็นเดินตัวปลิวเลย”
 
    เออ...จริงซิ ก่อนเข้าอาคารไปนั่งสมาธิยังปวดระบมอยู่เลย แล้วความป่วย ความปวดหายไปไหนหมดนะ ปวดมาตั้ง 7-8ปี เอ๊ะ..หายได้อย่างไรนี่ น้องสุมิตพูดอีกว่า “คุณลุงลองดูนาฬิกาซิครับ กี่โมงแล้ว” กระผมดูนาฬิกาที่ข้อมือ พระเดชพระคุณหลวงพ่อครับ กระผมตกใจมาก อัศจรรย์...งงงัน...เกิดอะไรขึ้นกับร่างกายของกระผมนี่ เวลาที่เห็นคือตีสามครับ นี่กระผมนั่งไปได้อย่างไรถึง 6ชั่วโมง แถมหายปวดอีก
 
    ณ บัดนั้นจนถึงบัดนี้ กระผมไม่ได้แตะยาโรคเกาต์อีกเลยครับ ด้วยความปลื้มปีติใจกับเหตุอัศจรรย์ที่เกิดขึ้นกับชีวิต กระผมและครอบครัวได้ร่วมบุญหล่อรูปเหมือนทองคำ พระเดชพระคุณหลวงปู่ฯองค์แรก คิดเป็นทองคำหนัก 1กิโลกรัม และทำหน้าที่บอกบุญได้อีก 3กิโลกรัม รวมเป็น 4กิโลกรัมครับ
 
    จนถึงปี พ.ศ.2543 ปี “พรรษาแห่งการภาวนา สัมมา อะระหัง” กระผมเริ่มภาวนาต่อเนื่องนับตั้งแต่ที่ลืมตาตื่น แม้บางครั้งอาจจะมีหลุดไปบ้าง ด้วยงานที่รับผิดชอบ แต่ว่างเมื่อไหร่ก็ภาวนาต่อ ที่สำคัญใจจรดกลางได้ทุกครั้งที่ภาวนาครับ ก็เลยคุ้นกับกลางเป็นปกติ จนคำภาวนา “สัมมา อะระหัง” เป็นเหมือนลมหายใจที่เข้าและออก ที่ไม่ต้องมาคอยกังวลคอยเตือน...นี่แหละครับทำให้กระผมรอดตาย
 
    เหตุเกิดเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ.2551 ปีนี้เอง หลังวันบรรจุพระธาตุบนเศียรพระประธาน 222องค์ เพียงหนึ่งวัน โยมแม่บ้านไปช่วยงานตักบาตรพระ 10,000รูปที่จังหวัดลำพูน กระผม (ตอนนั้นยังไม่ได้บวช) อยู่บ้านคนเดียว เพื่อตรวจดูน้ำที่รั่วลงมาจากชั้นบนซึ่งหยดลงบนแผ่นเหล็กหลังตู้ แต่แผ่นเหล็กเบียดกับคานที่รองรับพื้น และมีสายไฟเบียดอยู่หลังตู้ในแนวพอดีกับขอบแผ่นเหล็ก
 
    กระผมต้องออกแรงดัน เพื่อให้แผ่นเหล็กเลื่อนออกจากหลังตู้ ดันอยู่ 2ครั้ง ไม่ออก พอครั้งที่3 กระผมเลยดันสุดแรง เท่านั้นแหละครับ แผ่นเหล็กไปเกี่ยวกับสายไฟ ทำให้กระแสไฟ 220โวลต์วิ่งเข้าสู่ร่างกาย มือของกระผมยึดติดแผ่นเหล็กแน่น ความเจ็บปวดชาหนึบไปถึงปลายเท้า รู้ทันทีว่าความตายมาถึงแล้ว กระผมหลับตาลง ยอมรับความตายอย่างมีสติ พร้อมกับใจคลายความห่วงกังวลทั้งหมด มุ่งกลับฐานที่เจ็ดทันที
 
    อัศจรรย์อีกแล้วครับ ภาพในขณะที่กระผมหลับตา กระผมเห็นร่างกายเป็นเหมือนสระน้ำรูปคนที่มีแสงส่องสว่าง เห็นดวงเหมือนฟองน้ำกลมๆลอยอยู่กลางกาย ใจของกระผมดิ่งลงกลางด้วยความคุ้นทันที ทันทีใจเข้ากลางดวงได้ ตัวของกระผมเด้งหลุดออกจากแผ่นเหล็กลงไปนั่งกับพื้น เหมือนถูกผลักให้ออกไป ความรู้สึกตอนนั้น คือ “งง...นี่กระผมรอดตายได้อย่างไรกัน”
 
    เมื่อกระผมได้ชีวิตใหม่กลับมาแล้ว โยมแม่บ้านที่เป็น ผู้ด้อยโอกาส ก็ได้กลายเป็น ผู้ให้โอกาส แก่กระผม ให้กระผมได้โอกาส มาบวชครั้งประวัติศาสตร์ รุ่นเข้าพรรษาครั้งนี้ และนับตั้งแต่วันเข้าโครงการ กระผมก็นำใจจรดกลางได้ต่อเนื่อง จนเช้าวันบวชขณะที่เวียนประทักษิณรอบมหาธรรมกายเจดีย์ องค์พระผุดขึ้นเป็นสายตลอดเวลา ลืมโลกไปเลยครับ
 
    พอเข้าโบสถ์ องค์พระก็ซ้อนกายเนื้อนิ่ง...มีความสุขมากครับ จากวันบวชจนถึงคืนวันที่ 8 สิงหาคม พ.ศ.2551 กระผมได้มีโอกาสเข้าโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยากับคุณครูไม่ใหญ่ ขณะที่คุณครูไม่ใหญ่ถามลูกๆว่า “นึกพระเดชพระคุณหลวงปู่ฯ ให้ขยาย ย่อ ซ้อนกาย และกลั่นจนเป็นเพชร...ได้ไหม” กระผมก็ทำตามได้จนถึงเวลาจำวัด เช้าไปบิณฑบาตที่เยาวราชพร้อมพระเดชพระคุณหลวงปู่ฯเลยครับ
 
    ตั้งแต่วันบวชจนถึงวันนี้ กระผมได้ตัดโลกภายนอกหมด ฝึกใจจรดศูนย์ได้นิ่งแน่นขึ้น ตัวกระผมเป็นองค์พระ องค์พระเป็นกระผม กลางกายมีพระเดชพระคุณหลวงปู่ฯใสเป็นเพชร
 
    ด้วยบุญที่กระผมตั้งใจ บวชปฏิบัติธรรมร่วมกับหมู่คณะพระภิกษุที่จำพรรษา ณ ธุดงคสถานเขาแก้วเสด็จร่วม 500รูปนี้ กระผมและพระลูกชายรุ่นเข้าพรรษาทุกรูปที่เขาแก้วเสด็จ ขอกราบถวายบุญนี้เพื่อบูชาธรรมพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ผู้เป็นพ่อผู้ให้กำเนิดชีวิตใหม่ในทางธรรมกับลูกๆทุกรูปครับ
 
กราบคาราวะคุณครูไม่ใหญ่ด้วยความเคารพอย่างสูงสุดครับ
                                                      
 
พระจิตตรง ธมฺมจิตฺโต


Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
กล้าตะวันต้นน้อยๆกล้าตะวันต้นน้อยๆ

อยากบอกคนที่นั่งสมาธิแล้วยังไม่เห็นอยากบอกคนที่นั่งสมาธิแล้วยังไม่เห็น

รักษาใจอย่างไร ไม่ให้ ลุ้น-เร่ง-เพ่ง-จ้องรักษาใจอย่างไร ไม่ให้ ลุ้น-เร่ง-เพ่ง-จ้อง



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

ผลการปฏิบัติธรรมนานาชาติ